. . . . . . . ตอนนี้พ่อแม่เครียดมากคับ ..
. . . .อยากได้คำแนะนำจากท่านผู้รู้เพื่อไปบอกเขาให้ทำใจและสบายใจขึ้นคับ และไม่ต้องเสียรู้ กู้หนี้ ยืมสิน ให้หมดไปมากกว่านี้ครับ ท่านทำสวนเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้วครับ... T T
ผมขอเริ่มเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเลยนะคับ
เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ร้านเหล้าแถวมหาลัยแห่งหนึ่ง น้องผมได้ออกไปร้านเหล้ากับรุ่นพี่คนหนึ่ง ระหว่างร้านปิดรุ่นพี่ของน้องชายได้มีปากเสียงเล็กน้อยกับโต๊ะข้างๆด้วยว่าเรื่องมองหน้ากัน แต่ก้อจบด้วยการแยกย้ายกลับหอพัก แต่..พอน้องชายถึงห้องสักพักก้อมาตามพื่อให้ไปขับรถวนหาคู่กรณี
แล้วก้อดันเจอ พอรุ่นพี่เห็นก็ยิงปืน(ที่ใส่ได้นัดเดียว)ขู่ ไปข้างหน้า
คู่กรณีจึงหนีเข้าคอนโด และได้พูดท้า"แน่จิงเข้ามา"
ด้วยความเมา น้องผมจึงวิ่งบุกเข้าคอนโด และเข้าไปต่อยด้วยมือเปล่า
.. แต่รุ่นพี่มันเข้าเอาปืนไปจ่อหัวเขาบอกให้ขอโทดเเล้วให้"กราบตีนมัน"
สักพักก้อเอาปืนตบเขาจนหัวแตก(เย็บ 7 เข็ม) แต่ช่วงจังหวะนั้น
น้องผมมันพอได้สติจึงพยายามห้าม เพราะเห็นเลือดออก
น้องผมพยายามแยกและบอกให้เพื่อน(3-4 คน)ของคู่กรณีที่อยู่ห้องข้างๆพาแยกไป........... และได้พารุ่นพี่หนีกลับห้อง และแยกย้ายกัน
........เหตุการณ์ของเรื่องประมานนี้คับ ......
ต่อไปเป็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุคับ.สรุปสั้นๆเลยนะคับ...
- น้องผมเข้าไปมอบตัวให้ปากคำกับตำรวจหลังจากคู่กรณีไปลงบึนทึกประจำวันที่สน.แถวมหาลัย - แต่รุ่นพี่น้องชายหนีคับ
- ทางร้อยเวรที่รับเรื่อง ให้ทางผู้ปกครองของคนที่โดนทำร้าย ให้นัดคุยกับญาติทางผมไปคุย ว่าจะเอายังไง (ทางตร.บอกกับผู้เสียหายแล้วว่าคดีนี้ห้ามยอมความเด็ดขาดเพราะเป็นอาญา และเอาผิดแค่คนยิงไม่ได้เพราะเป็นคดีร่วม)
/ระหว่างก่อนถึงวันนัดทางฝั่งผู้เสียหายบอกให้เวลา 2 วันไปตามรุ่นพี่มาให้ได้ ไม่งั้นจะแจ้งความทันที ถ้าเอามาได้จะไม่แจ้งจับน้องผม จะเอาคนยิงคนเดียว (มันทิ้งน้องผมหายเข้ากรีบเมฆไปแล้วคับ)
/'ก่อนถึงวันนัด พ่อแม่ผมก้อดิ้นรน ทำทุกวิถีเพื่อไม่อยากให้ลูกชายติดคุก โทหาทุกคนที่คิดว่าช่วยได้ สุดท้ายมีคนรู้จัก เเนะนำบอกเขารู้จักกับผู้กองสน.ข้างๆ ให้เขาเข้าไปเครียเดินหน้าเสื่อวันนัดคุย
-ถึงวันนัด ด้วยความรักของพ่อแม่ยอมเอาเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บไว้รักษาตัวเผื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ทั้งๆหนี้สินรวมๆจะครึ่งล้านละ) รวมทั้งหมดมีเงินสดไป แค่ 10,000 บาท พอถึงโรงพัก ยังไม่ทันเจอฝั่งผุ้เสียหาย ผู้กองที่ว่าจะมาช่วยคุยกับร้อยเวร ให้ ดึงมาคุยขอ ก่อนเลย " 40,000 " เพื่อเอาไปเดินเรื่องให้ บอกทางตร. จัดการให้ " ก้อเหลือแต่คุยกับผุ้เสียหายจะเอาไง สุดท้ายพ่อผมก้อหาให้ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง (ยืมยอมเป็นหนี้เพิ่ม)
สรุปการคุยกับฝั่งผู้เสีย
- เขาบอกไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับน้องผมเขาบอก บอกถ้าไม่มีน้องผมห้ามรุ่นพี่มันในวันนั้น คงไม่รอด แต่ที่เขาไม่ยอมคือ ไอ้รุ่นพี่ของน้องยังไงก้อต้องแจ้งจับ
-เขาขอค่าทำขวัญ 20,000 ค่าโทสับที่เสียหาย ค่าซ่อมมอไซประมาณอีก30,000 บอกให้น้องผมตอนบวชให้ไปขอขมาก่อนบวชด้วย
-แต่...เขาบอกยังไงๆไม่ยอมความไอ้รุ่นพี่ที่ยิงยังไงก้อจะแจ้งจับ
..แยกย้าย...เหมือนจบด้วยดี..แต่ทุกอย่างคือการคุยด้วยปากเปล่าคับ
และแล้วสองวันถัดมา ผุ้กองที่ช่วยดำเนินเรื่อง จากสน.ข้างๆ โทรมาบอก ร้อยเวรที่รับเรื่องเปลี่ยนเป็นรองผู้กำกับแล้ว ต้องซื้อกระเช้าไปให้ เพื่อรีบเข้าไปคุยเเละเคลียในราคา 3000 บาท ให้รีบโอนให้ด่วน แล้วขอค่าน้ำมันอีก 2500 -2600 ก้อได้ และบอกอาจต้องเตรียมมาในวันนัดคุยเพื่อให้ ร้อยเวรที่เป็นรองผุ้กำกับที่มารับเรื่องแทนร้อยเวรคนเก่า อีกประมาน 100,000-200,000บาท
...พ่อกับแม่ไม่รุ้จะขายอะไรแล้วคับ เหลือแค่ ร่างกายที่ทรุดโทรม กับลมหายใจที่แผ่วเบา ลงเรื่อยๆ ไม่รุ้จะมีราคาพอเพื่อให้ลูกรอดและเรียนจบในอีกแค่ 2 เดือน...
คำถามของผม ที่อยากให้ท่านผุ้กฏหมายแนะนำ นะคับ
- ให้น้องผมยอมสู้คดีไปเลยดีไหมคับ ยังไงก้อต้องโดนใช่ไหมคับ
- ถึงฝั่งผุ้เสียหายไม่เอาความเรา แต่ก้อทำอะไรไม่ได้ใช่ไหมคับเพราะยังไงเขาก้อจะแจ้งจับรุ่นพี่ของน้องผม เพราะมันเป็นคดีร่วมกันยังไงก้อต้องโดนใช่ไหมคับ
-เงินที่เสียให้กับตำรวจบอกจะเดินคดีให้ ถ้าเขาจะเอาอีกแล้วไม่ให้จะโดนยัดคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่พนักงานไหมคับ
-เราควรจ่ายค่าทำขวัญกับค่าเสียหายเลยไหมคับ ( ให้ค่าโทสับไปแล้ว 12000) ปล. ตอนนี้น้องค่อนข้างสนิทกับฝั่งผุ้เสียแล้วคับ เพระอยุ่มหาลัยเดียวกัน เจอก้อคุยกันบ่อย
-คดีนี้มีโอกาสจบก่อนถึงศาลไหมคับ
ขอบคุณ..ล่วงหน้า..นะคับ พิมตกหล่นเล่าไม่รุ้เรื่องต้องขออภัยด้วยนะ คับ
เบลอจริงๆคับ
ขอคำปรึกษา ท่านผู้รุ้กฎหมาย เรื่อง คดีร่วมกันพยายามฆ่า หน่อยคับ ปล.เป็นของน้องชายที่กำลังจะจบปี 4 คับ
. . . .อยากได้คำแนะนำจากท่านผู้รู้เพื่อไปบอกเขาให้ทำใจและสบายใจขึ้นคับ และไม่ต้องเสียรู้ กู้หนี้ ยืมสิน ให้หมดไปมากกว่านี้ครับ ท่านทำสวนเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้วครับ... T T
ผมขอเริ่มเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเลยนะคับ
เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ร้านเหล้าแถวมหาลัยแห่งหนึ่ง น้องผมได้ออกไปร้านเหล้ากับรุ่นพี่คนหนึ่ง ระหว่างร้านปิดรุ่นพี่ของน้องชายได้มีปากเสียงเล็กน้อยกับโต๊ะข้างๆด้วยว่าเรื่องมองหน้ากัน แต่ก้อจบด้วยการแยกย้ายกลับหอพัก แต่..พอน้องชายถึงห้องสักพักก้อมาตามพื่อให้ไปขับรถวนหาคู่กรณี
แล้วก้อดันเจอ พอรุ่นพี่เห็นก็ยิงปืน(ที่ใส่ได้นัดเดียว)ขู่ ไปข้างหน้า
คู่กรณีจึงหนีเข้าคอนโด และได้พูดท้า"แน่จิงเข้ามา"
ด้วยความเมา น้องผมจึงวิ่งบุกเข้าคอนโด และเข้าไปต่อยด้วยมือเปล่า
.. แต่รุ่นพี่มันเข้าเอาปืนไปจ่อหัวเขาบอกให้ขอโทดเเล้วให้"กราบตีนมัน"
สักพักก้อเอาปืนตบเขาจนหัวแตก(เย็บ 7 เข็ม) แต่ช่วงจังหวะนั้น
น้องผมมันพอได้สติจึงพยายามห้าม เพราะเห็นเลือดออก
น้องผมพยายามแยกและบอกให้เพื่อน(3-4 คน)ของคู่กรณีที่อยู่ห้องข้างๆพาแยกไป........... และได้พารุ่นพี่หนีกลับห้อง และแยกย้ายกัน
........เหตุการณ์ของเรื่องประมานนี้คับ ......
ต่อไปเป็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุคับ.สรุปสั้นๆเลยนะคับ...
- น้องผมเข้าไปมอบตัวให้ปากคำกับตำรวจหลังจากคู่กรณีไปลงบึนทึกประจำวันที่สน.แถวมหาลัย - แต่รุ่นพี่น้องชายหนีคับ
- ทางร้อยเวรที่รับเรื่อง ให้ทางผู้ปกครองของคนที่โดนทำร้าย ให้นัดคุยกับญาติทางผมไปคุย ว่าจะเอายังไง (ทางตร.บอกกับผู้เสียหายแล้วว่าคดีนี้ห้ามยอมความเด็ดขาดเพราะเป็นอาญา และเอาผิดแค่คนยิงไม่ได้เพราะเป็นคดีร่วม)
/ระหว่างก่อนถึงวันนัดทางฝั่งผู้เสียหายบอกให้เวลา 2 วันไปตามรุ่นพี่มาให้ได้ ไม่งั้นจะแจ้งความทันที ถ้าเอามาได้จะไม่แจ้งจับน้องผม จะเอาคนยิงคนเดียว (มันทิ้งน้องผมหายเข้ากรีบเมฆไปแล้วคับ)
/'ก่อนถึงวันนัด พ่อแม่ผมก้อดิ้นรน ทำทุกวิถีเพื่อไม่อยากให้ลูกชายติดคุก โทหาทุกคนที่คิดว่าช่วยได้ สุดท้ายมีคนรู้จัก เเนะนำบอกเขารู้จักกับผู้กองสน.ข้างๆ ให้เขาเข้าไปเครียเดินหน้าเสื่อวันนัดคุย
-ถึงวันนัด ด้วยความรักของพ่อแม่ยอมเอาเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บไว้รักษาตัวเผื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ทั้งๆหนี้สินรวมๆจะครึ่งล้านละ) รวมทั้งหมดมีเงินสดไป แค่ 10,000 บาท พอถึงโรงพัก ยังไม่ทันเจอฝั่งผุ้เสียหาย ผู้กองที่ว่าจะมาช่วยคุยกับร้อยเวร ให้ ดึงมาคุยขอ ก่อนเลย " 40,000 " เพื่อเอาไปเดินเรื่องให้ บอกทางตร. จัดการให้ " ก้อเหลือแต่คุยกับผุ้เสียหายจะเอาไง สุดท้ายพ่อผมก้อหาให้ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง (ยืมยอมเป็นหนี้เพิ่ม)
สรุปการคุยกับฝั่งผู้เสีย
- เขาบอกไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับน้องผมเขาบอก บอกถ้าไม่มีน้องผมห้ามรุ่นพี่มันในวันนั้น คงไม่รอด แต่ที่เขาไม่ยอมคือ ไอ้รุ่นพี่ของน้องยังไงก้อต้องแจ้งจับ
-เขาขอค่าทำขวัญ 20,000 ค่าโทสับที่เสียหาย ค่าซ่อมมอไซประมาณอีก30,000 บอกให้น้องผมตอนบวชให้ไปขอขมาก่อนบวชด้วย
-แต่...เขาบอกยังไงๆไม่ยอมความไอ้รุ่นพี่ที่ยิงยังไงก้อจะแจ้งจับ
..แยกย้าย...เหมือนจบด้วยดี..แต่ทุกอย่างคือการคุยด้วยปากเปล่าคับ
และแล้วสองวันถัดมา ผุ้กองที่ช่วยดำเนินเรื่อง จากสน.ข้างๆ โทรมาบอก ร้อยเวรที่รับเรื่องเปลี่ยนเป็นรองผู้กำกับแล้ว ต้องซื้อกระเช้าไปให้ เพื่อรีบเข้าไปคุยเเละเคลียในราคา 3000 บาท ให้รีบโอนให้ด่วน แล้วขอค่าน้ำมันอีก 2500 -2600 ก้อได้ และบอกอาจต้องเตรียมมาในวันนัดคุยเพื่อให้ ร้อยเวรที่เป็นรองผุ้กำกับที่มารับเรื่องแทนร้อยเวรคนเก่า อีกประมาน 100,000-200,000บาท
...พ่อกับแม่ไม่รุ้จะขายอะไรแล้วคับ เหลือแค่ ร่างกายที่ทรุดโทรม กับลมหายใจที่แผ่วเบา ลงเรื่อยๆ ไม่รุ้จะมีราคาพอเพื่อให้ลูกรอดและเรียนจบในอีกแค่ 2 เดือน...
คำถามของผม ที่อยากให้ท่านผุ้กฏหมายแนะนำ นะคับ
- ให้น้องผมยอมสู้คดีไปเลยดีไหมคับ ยังไงก้อต้องโดนใช่ไหมคับ
- ถึงฝั่งผุ้เสียหายไม่เอาความเรา แต่ก้อทำอะไรไม่ได้ใช่ไหมคับเพราะยังไงเขาก้อจะแจ้งจับรุ่นพี่ของน้องผม เพราะมันเป็นคดีร่วมกันยังไงก้อต้องโดนใช่ไหมคับ
-เงินที่เสียให้กับตำรวจบอกจะเดินคดีให้ ถ้าเขาจะเอาอีกแล้วไม่ให้จะโดนยัดคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่พนักงานไหมคับ
-เราควรจ่ายค่าทำขวัญกับค่าเสียหายเลยไหมคับ ( ให้ค่าโทสับไปแล้ว 12000) ปล. ตอนนี้น้องค่อนข้างสนิทกับฝั่งผุ้เสียแล้วคับ เพระอยุ่มหาลัยเดียวกัน เจอก้อคุยกันบ่อย
-คดีนี้มีโอกาสจบก่อนถึงศาลไหมคับ
ขอบคุณ..ล่วงหน้า..นะคับ พิมตกหล่นเล่าไม่รุ้เรื่องต้องขออภัยด้วยนะ คับ
เบลอจริงๆคับ