รถดิฉันเกิดอุบัติเหตุชนด้านหน้าหนัก แถมประกันหมดด้วย เลยต้องรับผิดชอบค่าซ่อมเอง ดิฉันเลยนำรถไปซ่อมที่อู่คนรู้จักเป็นเพื่อนพ่อ พอวันรับรถ อาที่เป็นเจ้าของอู่ รับปากอย่างดี 3 เดือนเสร็จ สุดท้ายไม่เสร็จ ยื้อเยื้อเวลาจาก ต.ค. ปี 2016 จน มาถึง 24 ก.พ. 2018 ตลอดเวลาที่ซ่อมก็เรียกเก็บค่าซ่อม ค่าช่าง ค่าอะไหล่ ค่ารถลากดิฉันเรื่อยๆ พอดิฉันทวงถามความคืบหน้าก็ให้แต่รอๆ ด้วยความเป็นคนรู้จัก ดิฉันก็ทนรอด้วยความเกรงใจ ด้วยหวังว่า เค้าจะซ่อมรถให้ชั้นออกมาสภาพดี (แจ้งก่อนนะคะ รถชนไม่มีปัญหาเรื่องเครื่อง มีแต่ปัญหาเรื่องระบบน้ำ ระบบแอร์ และ Assessorie ตรงกระโปรงหน้าที่ต้องประกอบใหม่) จนมาถึงวันที่ 24 กพ. ปี 2018 อู่ได้นัดดิฉันไปรับรถ โดยคิดค่าใช้จ่ายเบ็ตเสร็จ รวม 3 แสนกว่าบาท ไม่รวมค่าอะไหล่ที่ให้ซื้อต่างหาก เบ็ตเสร็จทั้งหมดของการซ่อมรถรอบแรก 4 แสนกว่าได้ ในวันรับรถ ดิฉันพบกุญแจสำรองหาย ที่ปัดน้ำฝน ไม่ได้ติดข้างหนึ่ง เบาะเอนไม่ได้ ก็มีแจ้งอาที่เป็นเจ้าของอู่ไป เค้าบอกเดวจัดการให้ อารับประกันทุกอย่าง ด้วยความที่ดิฉันต้องใช้รถกลับต่างจังหวัด เลย ตอบตกลงรอ เพราะคิดว่าเป็นอารู้จักกันคงไม่ผิดคำพูด และสภาพรถเบื้องต้น ยอมรับเลยว่าไม่เป็นเครื่องยนต์ และเชือใจ หลังจากนั้น ดิฉันก็เอารถยนต์กลับไปจอดพักที่บ้าน เตรียมขับกลับ ตจว. อีกอาทิตย์ต่อมา พอวันแรกที่ขับกลับตจว. ปัญหาค่อยๆทยอยโผล่ เบรคสะดุด/กระจกฝั่งคนนั่งหน้าเปิดไม่ได้/แอร์มีแต่ลมไม่ทำความเย็น ดิฉันก็แจ้งอาการให้อาเจ้าของอู่รับทราบตลอด เค้าก็บอกให้หลังกลับเอารถเข้ามาได้เลย อาจัดการให้ เราคิดในใจ เสียเงินไป 4 แสนกว่า รถมันจะมีปัญหาง่ายเกินไปมั้ย พอถึงวันกลับ อาการรถยนต์เริ่มหนัก แอร์ไม่ทำงาน ดิฉันได้กลิ่นไหม้ๆเลยจอดรถดับเครื่องที่ปั๊ม ทิ้งไว้ประมาณ เกือบ 5 นาที เลยเปิดฝากระโปรง ควันออกจากห้องเครื่องฟุ้งไปหมด ดิฉันเลยปล่อยทิ้งไว้สักพักและได้มีการส่งไลน์หาอาเจ้าของอู่ แต่เมื่อทิ้งไว้เกือบ ชม. รถก็สตารท์ไม่ติด จึงต้องเรียกรถลากมายกไปที่ศูนย์ในตัวเมือง ในระหว่างเกิดเรื่อง อาเจ้าของอู่รับทราบตลอด พอถึงศูนย์ตรวจเช็คเบื้องต้น ช่างแจ้งว่า น้ำเข้าเครื่อง ฝ่าสูบโก่ง น้ำดันในห้องเครื่อง ดิฉันจึงประสานอาเจ้าของอู่ให้จัดการหารถมายกกลับไปจัดการ เพรียงอาทิตย์เดียวหลังจากรับรถ รถดิฉันน๊อค เมื่อนำรถกลับกรุงเทพ อาเจ้าของอู่ให้นำรถไปไว้ที่ศูนย์มาสด้า พระราม 3 ให้ช่างตรวจสอบใช้ระยะเวลา 1 เดือน ดิฉันและอู่ได้เข้าไปรับฟังปัญหาร่วมกัน พบว่า ศูนย์ทั้ง2ศูนย์ แจ้งเป็นทิศทางเดียวกันว่าระบบน้ำมีปัญหา ทำให้มันเข้าไปในเครื่อง ซึ่งวิธีแก้คือ ต้องยกเครื่องใหม่ ดิฉันอึ้งอย่างมาก เพราะตอนนำรถไปซ่อมเครื่องยนต์ดิฉันไม่มีปัญหา เลยคุยกับอาเจ้าของอู่จะจัดการยังไง เค้าให้ดิฉันหา อู่สำหรับแก้อาการช่วย โดยที่ระหว่างที่ดิฉันหา เค้ารับรู้ทุกอย่าง ตกลงกันยกรถไปไว้ที่อู่แห่งหนึ่ง ซึ่งทำเกี่ยวกับมาสด้าโดยเฉพาะ เมื่อนำรถไปให้ที่อู่ใหม่ เค้าได้ส่งรายละเอียดของอะไหล่ที่มีผลทำให้เครื่องดิฉันพัง และแนบรูปถ่ายมาให้ทั้งหมด พบว่า เป็นอะไหล่ที่อู่เก่าเป็นคนซื้อ บางตัว ราคาเป็นของมือ 1 แต่สภาพ ตอนรื้อมาตรวจเช็ค คล้ายของมือ 2 ท่อน้ำภายในรั่ว หม้อลมเบรครั่ว โครงที่อู่เก่าดัดดึง ก็มีการเอาแหวนมารอง คือรถซ่อมราคาเกือบ 5 แสน ดิฉันแจ้งอู่ใหม่ว่า ดิฉันจ่ายค่าซ่อมราคานี้ไป ทั้งเจ้าของอู่และช่าง ยังบอกไม่น่าเชื่อ อาการแบบนี้ 2 แสนกว่าก็จบสวยแล้ว หลังจากนั้นจึงแจ้งไปยังอู่เก่าถึงปัญหา ซึ่งวันรับทราบปัญหา อาเจ้าของอู่ก็มารับรู้พร้อมดิฉัน และหลังจากนั้น อาเจ้าของอู่แสร้งทำเหมือนจะรับผิดชอบแต่สุดท้ายก็นิ่งเฉยจนมาถึง ช่วงเดือน พ.ค.ปี 2018 ที่ดิฉันต้องหาทนายมาช่วยร้องเรียนความเป็นธรรม ดิฉันได้ใช้ระยะเวลาจาก มิย.-ธ.ค. ปี 2018 เพื่อร้องเรียนไปยัง สคบ. แต่ด้วยความโชคร้าย อายุของอนุกรรการชุดที่สอบสวนข้อร้องเรียนดันหมดในจังหวะนี้ และทางสคบ.ได้แจ้งหนังสือให้อู่เก่าชดใช้ ภายใน 7 วัน หากเลยหลังจากนี้ให้ผู้ร้องเรียนนำหนังสือส่งฟ้องศาลต่อไป ซึ่ง ในช่วง 7 วันทางอู่เก่ามีติดต่อเข้ามาเพื่อจะเจรจา พอถึงวันดิฉันไป เค้าได้ให้เหตุผลว่าเค้าไม่เกี่ยว เค้าไม่ได้มีส่วนกับความเสียหาย คือที่มาโพสดิฉันอยากขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ ว่าควรจัดการยังไงดี ซ่อมรถหมดไป 4 แสนกว่า ผ่อนกุญแจเปล่ามาเกือบ 2 ปี ทั้งๆที่เป็นอารู้จักกัน ดิฉันสามารถร้องเรียนหน่วยงานไหนได้บ้าง ขอความกรุณาด้วยนะคะ หากท่าใดพอมีทางช่วยได้ รบกวนทิ้ง เบอติดต่อ/ไอดีไลน์ไว้ทีคะ
โดนอู่ซ่อมรถโกง ยื่นเรื่อง สคบ. ก็เจอกรรมการหมดวาระ ส่งเรื่องต่อให้ศาลอีก ทำไงดีคะ