กรุ่นกุหลาบกำซาบซ่าน @ Qamsar , Iran

ปลายเดือนพฤษภาคม ปีก่อนโน้นนนนน

เกลียดเที่ยวบินดึก เที่ยวบินตาแดง( Red-eye flight) ทำเราตาแดงเพราะอดนอนและงัวเงียจนต้องขยี้ตา และหน้าก็สะโหลสะเหล ฮี๊ย ดูไม่ได้
ไอ้เรามันคนEconomy class ที่ฟ้ากำหนดมาให้หลับยาก ก็ต้องทนหิ้วซากลากกระเป๋าตุปัดตุเป๋ไปเม่าตกอับ

ไหน ไหน(ฟะ)ใครที่จะมารับ โทรศัพท์ใช้ไม่ได้ sim cardต้องรอไปกว่ามันจะใช้ได้ก็โน่นละ อีกกี่ชั่วโมงก็ไม่รู้
ตัดสินใจยิ้มหวานๆให้หนุ่มคนขายsim " น้อง น้อง พี่ขอใช้โทรศัพท์หน่อยสิคะ "

ได้เจอคนขับที่จะมารับเราไป Kashan แล้ว ดีใจไม่รอช้ารีบตะกายขึ้นรถมุ่งหน้าสู่ Kashan
เพื่อนอิหร่านของเราจองที่พักในเขตเมืองเก่าเอาไว้ให้ กว่าเราจะได้สำรวจชื่นชมบ้านโบราณ ก็เช้าวันใหม่นั่นล่ะ หลังจากนอนแล้วตื่นเต็มตาแล้วนั่นล่ะค่ะ







Kashanเป็นเมืองโบราณ มีบ้านมีตึกเก่าๆให้ชมอยู่หลายแห่ง เมืองนี้มีชื่อเสียงดีที่การทอพรมแบบโบราณ
และอีกประการนั้นก็คือ "น้ำกุหลาบ" ( Rose water )

และเพราะน้ำกุหลาบอันเลื่องชื่อนี้เอง ที่ทำให้เราฉวยโอกาสมาเยือนเมืองนี้  เป็นการแอบหนีเที่ยวก่อนไปพบปะคู่ค้าตามคำเชิญที่อิสฟาฮาน

ก็  แหม  มาเชิญเอาในช่วงที่มีเทศกาลน้ำกุหลาบพอดี  มันก็ช่วยไม่ได้นะคะ แถมจากเตหะรานจะไปอิสฟาฮาน มันแวะได้สะด้วกสะดวก อิอิ

ระหว่างที่เดินเที่ยวเล่นเพ่นพ่านชมเมือง หนอนฯได้ชิมน้ำกุหลาบพร้อมดื่ม และซื้อแบบขวดที่ไม่ผสมอย่างอื่นเอากลับบ้านด้วย ก็ได้เอามาชุบสำลีเช็ดหน้า และบางทีก็เอามาหยดใส่ถ้วยชาร้อน ให้กลิ่นกุหลาบกรุ่นกระจาย ได้อารมณ์ ฟิน




หนอนฯชอบดอกกุหลาบมาก  ชอบมากกว่าดอกไม้อื่นๆเลย เมื่อมีโอกาสมาอิหร่านหนอนฯก็ถูกใจมาก ก็ในตำราว่าไว้ว่ากุหลาบในเมืองไทยก็มาจากเปอร์เซียเนี่ยล่ะค่ะ  
พอหนอนฯออกเสียง "กุหลาบ" แบบไทยๆ  เพื่อนอิหร่านก็แทบจะตบเข่าฉาด บอก แหม เฮ้ย คุณหนอนฯ ทำไมไทยกับอิหร่านออกเสียงเหมือนกันเลยล่ะ
ที่นี่เขาก็เรียกว่า Golab" ค่ะ


มีบันทึกเป็นหลักฐานตั้งแต่สมัยอยุธยาว่าเรารู้จักน้ำกุหลาบกันแล้ว  แต่สมัยนั้นเราเรียกกันว่า "น้ำดอกไม้เทศ"

ต้นน้ำดอกไม้เทศ กลิ่นวิเศษนึกเหมือนน้ำ
ดอกไม้ย้อมดอกคำ รำชมภูดูห่มงาม

น้ำดอกไม้เทศแท้ เปรียบปาน
น้ำกลิ่นเมืองเทศปาน กลิ่นเกล้า
สมรอดดอกคำจาน ขันคู่
รื่นร่ำชมภูผ้า ห่มเจ้าหอมงาม



กาพย์ ห่อโคลงนิราศธารโศก พระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์




คนไทยเรานำน้ำดอกไม้เทศมาใช้ทำอะไรมากมายหลายอย่าง
ทั้งทำขนม ตัวอย่างเช่น

๑ – ทองเอก – ๕๑

เครื่องปรุง – น้ำตาลทราย  หนัก ๒๕ บาท  เม็ดอัลมอนต์หรือแขกเรียกว่าอาด่ำ  หนัก ๑๒ บาท  ไข่เป็ด ๗ ฟอง  ถ้าไข่ไก่ ๑๔ ฟอง  น้ำหญ้าฝรั่นหนัก ๒ บาท  น้ำดอกไม้เทศหนัก ๑ บาท  ทองคำเปลว

ตำราแม่ครัวหัวป่าก์
https://cklanpratoom.wordpress.com/2015/07/12/แม่ครัวหัวป่าก์-6/




ทำยา โดยมักใช้เป็นน้ำกระสายยา


- ยาจิตรารมณ์     ตรีผลา  สิ่งละ  ๒  สลึง  เปลือกผลส้ม  ๘  ประการ สิ่งละ  ๑  สลึง  ขอนดอก ๑  บาท  กฤษณา  ๑  บาท  กระลำพัก  ๑  บาท ชะลูด  ๓ สลึง  อบเชย ๑  บาท  ชะเอมทั้ง ๓  สิ่งละ  ๖ สลึง  ดอกพิกุล ๓  สลึง  ดอกบุนนาค ๒  สลึง  สารภี ๑  บาท  ผลจันทน์ ๑  เฟื้อง  ดอกจันทน์ ๑ เฟื้อง  เทียนทั้ง ๕ สิ่งละ ๑ เฟื้อง  โกศสอ ๑  บาท  โกศพุงปลา ๒  สลึง  เปราะหอม ๖ สลึง  พริกไทยล่อน ๑  บาท  จันทน์ ๒  สิ่งละ ๓  สลึงเฟื้อง  ชะมดเชียง๑  บาท  การบูร ๑  บาท พิมเสน ๗ สลึง  ผลสะเดาอ่อน ๑  ตำลึง  กระแจะตะนาว ๑  บาท  ดอกมะลิสดเท่ายาทั้งหลาย   น้ำดอกไม้เทศเป็นกระสายยา บดทำแท่งไว้เท่าผลมะแว้ง  ละลายน้ำร้อน  น้ำผึ้ง  น้ำส้มซ่า  น้ำสุรา  กระสายยาต่าง ๆ  แทรกน้ำตาลกรวดกิน  แก้ลมสวิงสวาย  และดวงจิตระส่ำระสาย และให้วิงเวียน  ลมตรีโทษเกิดในหทัย  และดวงจิตขุ่นมัว  และร้อนในอก ร้อนในสันหลัง  กินหายแล

http://www.prueksaveda.com/_m/article/content/content.php?aid=539554179



และทำเครื่องหอมน้ำปรุง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บันทึกนักเดินทาง ของหวาน กุหลาบ ประเทศอิหร่าน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่