Razer Phone เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกๆที่ทำออกมาสำหรับสายเกมส์แบบจริงจัง เรียกตัวเองว่าเป็น Gaming Smartphone อย่างเต็มตัว และเป็นจุดเริ่มต้นให้หลายๆแบรนด์นั้นเริ่มทำออกมาหลากหลายมากมายเลยแหละ ในรุ่นแรกนั้นเราก็ไม่พลาดที่จะทำรีวิวไปแล้ว แน่นอนว่าใครที่ตามเว็บเราคงคุ้นเคยกันดีครับในตอนนั้นยังคงต้องหิ้วกันยังคงไม่มีศูนย์ในไทยแต่ในตอนนี้ทาง Razer นั้นรุกตลาดเข้ามาขายในไทยแล้วผ่านทาง AIS ทำให้หลายๆคนนั้นจับต้องได้ง่ายขึ่น และ สาวกงูเขียว นั้นต้องดีใจกันอย่างแน่นอนเรามาดูกันเลยว่ารุ่นที่ 2 นี้จะน่าโดนแค่ไหนกันครับ
สำหรับทาง Razer Phone 2 ตัวนี้หลักๆจะเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบข้างหลัง วัสดุ และ สเปคภายในเป็นหลักรูปทรงอะไรยังคงคล้ายเดิมมากๆรวมถึงตำแหน่งปุ่มต่างๆและขนาด หรือจะเป็นการออกแบบที่คงความเหลี่ยมครับผม จุดเด่นๆที่น่าสนใจในรุ่นนี้มีทั้งหน้าจอที่ยังคงเด่นที่สุดด้วยจอ IGZO LCD ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QuadHD 120Hz แท้ๆ ความสว่างแบบ 580 Nits มาพร้อมกับ Snapdragon 845 พร้อมระบบระบายความร้อน vapor chamber cooling system RAM 8GB และ แบต 4000 mAh รองรับ QC 4.0 และ ยังมี ชาร์จไร้สายที่ใส่เข้ามารวมถึงการกันน้ำ IP67 อีกด้วยครับ รวมถึง ไฟบนโลโก้ด้านหลัง Razer Chroma ก็ใส่เข้ามาแล้ว และลำโพงคู่หน้า ดังกว่าเดิม ดีกว่าเดิม พร้อมกับขอบหน้าจอที่คงเอกลักษณ์การจับถือไว้อย่างดีครับ !
สำหรับราคาในรุ่นนี้นั้นเข้ามาขายในไทยผ่านทาง AIS เท่านั้นนะครับ RAM 8GB Storage 64GB โดยมีมาในเรทราคา 27,990 บาท ใครสนใจลองเข้าไปส่องกันได้เลยครับ
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมีขนาดเล็กลง ซึ่งในรุ่นแแรกถ้าใครจำกันได้นั้นแอดมินได้ชื่นชอบตัวกล่องมันมาก การออกแบบ ความใส่ใจในแพ็คเกจตัวสินค้าทำได้ดีมาก จริงๆแอบชอบแบบรุ่นแรกมากกว่านิดหน่อย แต่รุ่นนี้ก็ยังมาในโทนดำ การออกแบบก็ยังดูดีมีราคาเช่นเดิมครับ ของที่ให้มาครบเหมือนตัวแรกไม่มีผิด และเพียงพอต่อการใช้งานเลยแหละ
- ตัวเครื่อง Razer Phone 2
- Adaptor Type-C ชาร์จไฟรองรับ QC 4.0
- สาย Type-C TO Type-C
- สายแปลงหูฟัง Type-C ไปรู 3.5 มม. 24-bit DAC dongle
- คู่มือ และ สติกเกอร์ Razer
- ที่จิ้มซิมลาย RAZER
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้ยังไม่ค่อยเจอความแตกต่างเท่าไรจากรุ่นแรกในด้านของรูปทรงความเหลี่ยมหรือแม้กระทั่งการวางปุ่มตำแหน่งอะไรต่างๆครับ ในการใช้งานหรือสัมผัสแรกนั้นจะค่อนข้างคล้ายๆทางรุ่นแรกเลยนั้นเองมีความเหลี่ยมสันอย่างมากการออกแบบยังคงแอบคล้ายทาง Nextbit อยู่เหมือนเดิมแต่เป็นการเปลี่ยนวัสดุ ทั้งหมดครับ วัสดุด้านหลังเป็นกระจกแทนแล้ว จริงๆการออกแบบเหลี่ยมๆแบบนี้แอบจับถือค่อนข้างยากครับ และอาจจะไม่ถนัดสำหรับบางท่าน
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด หน้าจอ 5.72 นิ้ว IGZO Display ความละเอียด 2K Ultramotion 120Hz ยังคงเป็นอัตราส่วนแบบ 16:9 เช่นเดิมครับพร้อมกับการวางลำโพงคู่หน้าใหญ่ๆไว้บนหน้าจอครับผม
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นเป็น กล้องหน้า เซนเซอร์ต่างๆ รวมถึงลำโพงหลักตระแกรงที่มีขนาดใหญ่สะใจอยู่ด้วยครับ
ทางด้านล่างนั้นเป็น ลำโพงทั้งหมด ปุ่มควบคุมอยู่บนหน้าจอครับ พื้นที่นั้นเป็นที่วางมือสำหรับเกมเมอร์ได้สบายๆ
ขอบด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรครับ เป็นที่อยู่ของ รูไมค์ อีก 1 ตัวสำหรับขอบด้านบนเป็นวัสดุ สีดำด้านนะครับ
ขอบด้านล่างนั้นเป็นการออกแบบเหลี่ยมๆจะเห็นได้เลยว่าเหลี่ยมสะใจจริงๆ ตรงกลางมีแค่พอร์ทชาร์จเท่านั้นครับ
ทางด้านขวาของตัวเครื่องรุ่นนี้ มีการใช้งานแสกนนิ้วในขอบข้างที่เป็นปุ่ม Power ในตัวนั้นเองครับคล้ายของทาง Sony และ ในรุ่นแรกของทาง Razer Phone เช่นกันเป็นวัสดุเงาๆสีดำ สำหรับวางแสดนนิ้วพอดีกับตอนเปิดเครื่อง
ทางด้านซ้ายนั้นยังคงมีการออกแบบอะไรเหมือนเดิมครับทั้งปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง และ ถาดใส่ซิมในด้านนี้
ด้านหลังเป็นการเปลี่ยนการออกแบบที่มากที่สุดแล้วสำหรับรุ่นนี้ มีการใช้วัสดุกระจกด้านหลังสีดำเงา ไม่มีการเล่นเลเยอร์อะไรทั้งนั้นเงาดำๆล้วนๆเลยครับ การออกแบบกล้องมาไว้ตรงกลาง วางแนวนอน พร้อมไฟแฟลชตรงกลางครับ ไฟแฟลชสว่างมากก และ รวมถึงโลโก้ Razer ที่ใส่มาตรงกลางและสามารถเป็นส่วนที่ไฟออกมาแบบChromaด้วย
SPEC
- หน้าจอ 5.72 นิ้ว IGZO Display ความละเอียด 2K Ultramotion 120Hz
- Snapdragon 845 2.80 Ghz Adreno 630
- ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling
- RAM 8GB LPDDR4X
- ROM 64GB UFS 2.1 + micro SD 1TB
- กล้องหลังคู่ 12MP f/1.75 OIS + กล้องตัวที่ 2 12MP Telephoto f/2.6
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- ลำโพงคู่หน้า สเตอริโอ Dolby Atmos รองรับ 24bit DAC
- สายแปลง รูหูฟังรองรับ 24bit DAC
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh + รองรับ Quick Charge 4.0
- กันน้ำกันฝุ่น IP67
- 802.11 a/b/g/n/ac – Bluetooth 5.0
- Nano SIM 1 ซิม
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้คงไม่ต้องอะไรมากตอนเปิดตัวก็ถือว่าแรงมากๆเลยก่อนที่ 855 จะเปิดตัวนะ ซึงเป็นสเปคที่ค่อนข้างสูงและแรงสุดๆแล้ว ทำคะแนนไปได้ คะแนน และมาพร้อมกับ RAM 8GB รวมถึงหน่วยความจำความเร็วสูงแบบ UFS 2.1 ครับทำคะแนนได้ดีเลย ส่วนคะแนนในพวก 3DMARK Antutu ทำได้สูงตามคาด โดยความแรงนี้จะมีผลในการใช้งานมากน้อยเพียงใดต้องไปรอดูกันครับ
SYSTEM UI
ระบบมาพร้อมกับ Android 8.1 และ ครอบทับด้วย Nova Launcher ที่คุ้นเคยจากตัวแรกและหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีครับ ยังคงไม่มีระบบของตัวเองจริงๆแอบรู้สึกว่ามันจะค่อนข้างเสียเปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ล้วนทำออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้ดีกว่าเดิมในด้าน UI ต่างๆครับอันนี้เสียดายมากๆ ส่วนหน้าตาการใช้งานก็คุ้นเคย เรียบๆ เร็วแรง ลื่นครับ การแจ้งเตือนเด้งได้ดีเป็นปกติ และ มี Appdrawer อะไรมาให้ครับคล้ายๆไปทาง Pure Android
หน้าตาการแจ้งเตือน แถบการตั้งค่าอะไรนั้นก็ยังคงโทนสีเข้ม ดำเขียวไว้ได้อย่างดีครับ และสามารถแบ่งหน้าจอได้
เข้าหน้าตั้งค่าจะเป็นโทนสีสว่างครับขาวๆ ในส่วนของความจำตัวเครื่องนั้นมาให้ 64GB เหลือใช้งาน 48GB ครับ ส่วนของ RAM 8GB นั้นใช้งานไปครึ่งๆ 4.3GB ครับเหลือ 3.7GB และแป้นพิมพ์เป็นของทาง Google เลยครับ
ฟีเจอร์อื่นๆก็มีมาบ้างครับทั้ง ปรับอัตรา รีเฟรชเรทของจอ ปรับความละเอียด ปรับแต่งเสียงจากทาง Atmos หรือจะเป็น Gesture ที่มี แตะหน้าจอเพื่อเปิดจอ กดPowerค้างเข้ากล้อง หรือ ยกเครื่องและจอจะติดเช็คการแจ้งเตือน
THEME
สำหรับ Theme นั้นก็ถือว่ามีมาให้ด้วยแม้ตัว ROM NOVA จะปรับได้เยอะแล้วแต่ที่มีมาให้เป็น Theme นั้นก็ถือว่ามีมาให้เลือกเล็กน้อย จะเน้นสายเกมซะมากกว่า และ เปลี่ยนสีไอคอน หน้าตาการโทรออก จะเปลี่ยนเป็นแค่โทนสี และ Wallpaper มากกว่าครับไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากซึ่งในตัว ธีมนั้น มีหลากหลายเกมที่เข้ามาครับทั้ง TEKKEN – FORNITE -VAINGLORY-ROV- หรือจะเป็น ธีม RAZER เอง และ ธีมตามเทศกาลต่างๆครับผม
CHROMA LOGO
ตัวไฟโลโก้หลังจากที่รุ่นแรกนั้นหลายๆคนเรียกร้องกันว่าทำไมไม่มีไฟ ในรุ่นนี้เค้าจัดให้แล้วครับมาพร้อมกับไฟที่ปรับได้หลากหลายมากๆตามแบบฉบับ Razer Chroma เลยมี Effect ให้เลือกนิดหน่อย 3 แบบหลักๆครับ โดยมี Breathing-Static-Spectrum ครับ และสามารถปรับความสว่างและโทนสีได้ตามใจเราเลยครับ ถือว่าจัดเต็มเลย
ซึ่งไฟข้างหลังนอกจากจะปรับได้เองแล้วยังสามารถตั้งให้มันแจ้งเตือนเวลาแอปไหนมีการแจ้งเตือนก็จะเป็นสีของแอปนั้นๆครับ เช่น Facebook ไฟจะกระพริบสีฟ้า / Line สีเขียว/ IG สีม่วงเป็นต้นครับ และสามารถ ตั้งค่าประหยัดพลังงานได้ 3 ระดับคือ ปิด / ปานกลาง ติดเฉพาะตอนจอติด และ / สูงสุดคือติดตลอดทุกเวลานั้นเองครับ
SCREEN
ทางด้านของหน้าจอจุดเด่นมันเลยเป็นเจ้าเดียวในตอนนี้ที่มาพร้อมกับ 120 Hz ของแท้ทั้งการสัมผัส และ การแสดงผลครับ ซึ่งในรุ่นแรกนั้นบอกตรงๆว่าจอนั้นค่อนข้างซีด และ ไม่สู้แสงครับ ในรุ่นนี้นั้นเป็นการพัฒนาออกมาตอบโจทย์แก้ไขปัญหารุ่นแรกได้อย่างดีครับ หน้าจอ 5.72″ IGZO LCD (True 120Hz, UltraMotion ® Technology) ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5 ความสว่างจัดเต็มกว่าเดิม สูงสุด 580NITS รุ่นเดิมแค่ 380 NITS ครับ
ถือว่าพัฒนาแบบชัดเจน ส่วนทางด้านการแสดงผลนั้นรอบรับ HDR 10 ได้ปกติครับตัวจอทั้งในการใช้งาน กลางแจ้ง ทำได้ดีครับ สู้แสงได้ดีมองเห็นถือว่าผ่าน และ สีสดใสคมดีขึ้นมากและสวยอันดับต้นๆได้เลยครับ ความลื่นไหลในการเลื่อนใช้งานติดนิ้วและ 120 FPS ลื่นมากๆจริงถ้าใช้และไปสลับใช้รุ่นอื่นจะเห็นความต่างมากๆ แต่ในเกมยังอาจจะไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากนัก ต้องเล่นเกมที่รองรับ 120 FPS ถึงจะแตกต่างแบบชัดๆครับผม
SOUND
เสียงผ่านหูฟัง รุ่นนี้ก็ยังคงจัดรู 3.5 มม.ออกไปแล้วซึ่งได้ตัดออกไปในรุ่นแรกและแน่นอนว่าตัดออกไปแต่แถม DAC เทพมาให้ ที่รองรับเสียง DAC 24Bit ได้อย่างดีคุณภาพเสียงจัดเต็มแน่นอนครับ แต่อาจจะลำบากในการใช้งานสายเกมที่จำเป็นต้องชาร์จไปเล่นไปอย่างมากเลย แอบเสียดายจริงๆ ส่วนหูฟังไม่มีแถมให้ แต่มีขายแยกครับ เราจึงเทียบกับหูฟังประจำของแอดมินกันผ่านตัวแปลงครับ คุณภาพเสียงหลังจากที่ลองนั้นแรงขับมาเต็มสะใจดีเลยครับ เสียงทำได้ดีเลยแหละ ขับหูฟังออกมาได้สบายและเสียงมิติ เวทีมาดีครับ เบสเสียงแน่นสะใจพอสมควรเลยในด้านของตัวแปลง เสียงจะเน้นไปทางดูหนัง เล่นเกม มิติเสียงทิศทางมาดีจริงๆ กังวาลและเสียงใสคมชัดเจนมากครับ
[SR] รีวิว Razer Phone 2 ต่อยอดรุ่นแรก จอ 120Hz บอดี้สวย + ไฟ Chroma !
Razer Phone เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกๆที่ทำออกมาสำหรับสายเกมส์แบบจริงจัง เรียกตัวเองว่าเป็น Gaming Smartphone อย่างเต็มตัว และเป็นจุดเริ่มต้นให้หลายๆแบรนด์นั้นเริ่มทำออกมาหลากหลายมากมายเลยแหละ ในรุ่นแรกนั้นเราก็ไม่พลาดที่จะทำรีวิวไปแล้ว แน่นอนว่าใครที่ตามเว็บเราคงคุ้นเคยกันดีครับในตอนนั้นยังคงต้องหิ้วกันยังคงไม่มีศูนย์ในไทยแต่ในตอนนี้ทาง Razer นั้นรุกตลาดเข้ามาขายในไทยแล้วผ่านทาง AIS ทำให้หลายๆคนนั้นจับต้องได้ง่ายขึ่น และ สาวกงูเขียว นั้นต้องดีใจกันอย่างแน่นอนเรามาดูกันเลยว่ารุ่นที่ 2 นี้จะน่าโดนแค่ไหนกันครับ
สำหรับทาง Razer Phone 2 ตัวนี้หลักๆจะเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบข้างหลัง วัสดุ และ สเปคภายในเป็นหลักรูปทรงอะไรยังคงคล้ายเดิมมากๆรวมถึงตำแหน่งปุ่มต่างๆและขนาด หรือจะเป็นการออกแบบที่คงความเหลี่ยมครับผม จุดเด่นๆที่น่าสนใจในรุ่นนี้มีทั้งหน้าจอที่ยังคงเด่นที่สุดด้วยจอ IGZO LCD ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QuadHD 120Hz แท้ๆ ความสว่างแบบ 580 Nits มาพร้อมกับ Snapdragon 845 พร้อมระบบระบายความร้อน vapor chamber cooling system RAM 8GB และ แบต 4000 mAh รองรับ QC 4.0 และ ยังมี ชาร์จไร้สายที่ใส่เข้ามารวมถึงการกันน้ำ IP67 อีกด้วยครับ รวมถึง ไฟบนโลโก้ด้านหลัง Razer Chroma ก็ใส่เข้ามาแล้ว และลำโพงคู่หน้า ดังกว่าเดิม ดีกว่าเดิม พร้อมกับขอบหน้าจอที่คงเอกลักษณ์การจับถือไว้อย่างดีครับ !
สำหรับราคาในรุ่นนี้นั้นเข้ามาขายในไทยผ่านทาง AIS เท่านั้นนะครับ RAM 8GB Storage 64GB โดยมีมาในเรทราคา 27,990 บาท ใครสนใจลองเข้าไปส่องกันได้เลยครับ
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมีขนาดเล็กลง ซึ่งในรุ่นแแรกถ้าใครจำกันได้นั้นแอดมินได้ชื่นชอบตัวกล่องมันมาก การออกแบบ ความใส่ใจในแพ็คเกจตัวสินค้าทำได้ดีมาก จริงๆแอบชอบแบบรุ่นแรกมากกว่านิดหน่อย แต่รุ่นนี้ก็ยังมาในโทนดำ การออกแบบก็ยังดูดีมีราคาเช่นเดิมครับ ของที่ให้มาครบเหมือนตัวแรกไม่มีผิด และเพียงพอต่อการใช้งานเลยแหละ
- ตัวเครื่อง Razer Phone 2
- Adaptor Type-C ชาร์จไฟรองรับ QC 4.0
- สาย Type-C TO Type-C
- สายแปลงหูฟัง Type-C ไปรู 3.5 มม. 24-bit DAC dongle
- คู่มือ และ สติกเกอร์ Razer
- ที่จิ้มซิมลาย RAZER
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้ยังไม่ค่อยเจอความแตกต่างเท่าไรจากรุ่นแรกในด้านของรูปทรงความเหลี่ยมหรือแม้กระทั่งการวางปุ่มตำแหน่งอะไรต่างๆครับ ในการใช้งานหรือสัมผัสแรกนั้นจะค่อนข้างคล้ายๆทางรุ่นแรกเลยนั้นเองมีความเหลี่ยมสันอย่างมากการออกแบบยังคงแอบคล้ายทาง Nextbit อยู่เหมือนเดิมแต่เป็นการเปลี่ยนวัสดุ ทั้งหมดครับ วัสดุด้านหลังเป็นกระจกแทนแล้ว จริงๆการออกแบบเหลี่ยมๆแบบนี้แอบจับถือค่อนข้างยากครับ และอาจจะไม่ถนัดสำหรับบางท่าน
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด หน้าจอ 5.72 นิ้ว IGZO Display ความละเอียด 2K Ultramotion 120Hz ยังคงเป็นอัตราส่วนแบบ 16:9 เช่นเดิมครับพร้อมกับการวางลำโพงคู่หน้าใหญ่ๆไว้บนหน้าจอครับผม
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นเป็น กล้องหน้า เซนเซอร์ต่างๆ รวมถึงลำโพงหลักตระแกรงที่มีขนาดใหญ่สะใจอยู่ด้วยครับ
ทางด้านล่างนั้นเป็น ลำโพงทั้งหมด ปุ่มควบคุมอยู่บนหน้าจอครับ พื้นที่นั้นเป็นที่วางมือสำหรับเกมเมอร์ได้สบายๆ
ขอบด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรครับ เป็นที่อยู่ของ รูไมค์ อีก 1 ตัวสำหรับขอบด้านบนเป็นวัสดุ สีดำด้านนะครับ
ขอบด้านล่างนั้นเป็นการออกแบบเหลี่ยมๆจะเห็นได้เลยว่าเหลี่ยมสะใจจริงๆ ตรงกลางมีแค่พอร์ทชาร์จเท่านั้นครับ
ทางด้านขวาของตัวเครื่องรุ่นนี้ มีการใช้งานแสกนนิ้วในขอบข้างที่เป็นปุ่ม Power ในตัวนั้นเองครับคล้ายของทาง Sony และ ในรุ่นแรกของทาง Razer Phone เช่นกันเป็นวัสดุเงาๆสีดำ สำหรับวางแสดนนิ้วพอดีกับตอนเปิดเครื่อง
ทางด้านซ้ายนั้นยังคงมีการออกแบบอะไรเหมือนเดิมครับทั้งปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง และ ถาดใส่ซิมในด้านนี้
ด้านหลังเป็นการเปลี่ยนการออกแบบที่มากที่สุดแล้วสำหรับรุ่นนี้ มีการใช้วัสดุกระจกด้านหลังสีดำเงา ไม่มีการเล่นเลเยอร์อะไรทั้งนั้นเงาดำๆล้วนๆเลยครับ การออกแบบกล้องมาไว้ตรงกลาง วางแนวนอน พร้อมไฟแฟลชตรงกลางครับ ไฟแฟลชสว่างมากก และ รวมถึงโลโก้ Razer ที่ใส่มาตรงกลางและสามารถเป็นส่วนที่ไฟออกมาแบบChromaด้วย
SPEC
- หน้าจอ 5.72 นิ้ว IGZO Display ความละเอียด 2K Ultramotion 120Hz
- Snapdragon 845 2.80 Ghz Adreno 630
- ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling
- RAM 8GB LPDDR4X
- ROM 64GB UFS 2.1 + micro SD 1TB
- กล้องหลังคู่ 12MP f/1.75 OIS + กล้องตัวที่ 2 12MP Telephoto f/2.6
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- ลำโพงคู่หน้า สเตอริโอ Dolby Atmos รองรับ 24bit DAC
- สายแปลง รูหูฟังรองรับ 24bit DAC
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh + รองรับ Quick Charge 4.0
- กันน้ำกันฝุ่น IP67
- 802.11 a/b/g/n/ac – Bluetooth 5.0
- Nano SIM 1 ซิม
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้คงไม่ต้องอะไรมากตอนเปิดตัวก็ถือว่าแรงมากๆเลยก่อนที่ 855 จะเปิดตัวนะ ซึงเป็นสเปคที่ค่อนข้างสูงและแรงสุดๆแล้ว ทำคะแนนไปได้ คะแนน และมาพร้อมกับ RAM 8GB รวมถึงหน่วยความจำความเร็วสูงแบบ UFS 2.1 ครับทำคะแนนได้ดีเลย ส่วนคะแนนในพวก 3DMARK Antutu ทำได้สูงตามคาด โดยความแรงนี้จะมีผลในการใช้งานมากน้อยเพียงใดต้องไปรอดูกันครับ
SYSTEM UI
ระบบมาพร้อมกับ Android 8.1 และ ครอบทับด้วย Nova Launcher ที่คุ้นเคยจากตัวแรกและหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีครับ ยังคงไม่มีระบบของตัวเองจริงๆแอบรู้สึกว่ามันจะค่อนข้างเสียเปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ล้วนทำออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้ดีกว่าเดิมในด้าน UI ต่างๆครับอันนี้เสียดายมากๆ ส่วนหน้าตาการใช้งานก็คุ้นเคย เรียบๆ เร็วแรง ลื่นครับ การแจ้งเตือนเด้งได้ดีเป็นปกติ และ มี Appdrawer อะไรมาให้ครับคล้ายๆไปทาง Pure Android
หน้าตาการแจ้งเตือน แถบการตั้งค่าอะไรนั้นก็ยังคงโทนสีเข้ม ดำเขียวไว้ได้อย่างดีครับ และสามารถแบ่งหน้าจอได้
เข้าหน้าตั้งค่าจะเป็นโทนสีสว่างครับขาวๆ ในส่วนของความจำตัวเครื่องนั้นมาให้ 64GB เหลือใช้งาน 48GB ครับ ส่วนของ RAM 8GB นั้นใช้งานไปครึ่งๆ 4.3GB ครับเหลือ 3.7GB และแป้นพิมพ์เป็นของทาง Google เลยครับ
ฟีเจอร์อื่นๆก็มีมาบ้างครับทั้ง ปรับอัตรา รีเฟรชเรทของจอ ปรับความละเอียด ปรับแต่งเสียงจากทาง Atmos หรือจะเป็น Gesture ที่มี แตะหน้าจอเพื่อเปิดจอ กดPowerค้างเข้ากล้อง หรือ ยกเครื่องและจอจะติดเช็คการแจ้งเตือน
THEME
สำหรับ Theme นั้นก็ถือว่ามีมาให้ด้วยแม้ตัว ROM NOVA จะปรับได้เยอะแล้วแต่ที่มีมาให้เป็น Theme นั้นก็ถือว่ามีมาให้เลือกเล็กน้อย จะเน้นสายเกมซะมากกว่า และ เปลี่ยนสีไอคอน หน้าตาการโทรออก จะเปลี่ยนเป็นแค่โทนสี และ Wallpaper มากกว่าครับไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากซึ่งในตัว ธีมนั้น มีหลากหลายเกมที่เข้ามาครับทั้ง TEKKEN – FORNITE -VAINGLORY-ROV- หรือจะเป็น ธีม RAZER เอง และ ธีมตามเทศกาลต่างๆครับผม
CHROMA LOGO
ตัวไฟโลโก้หลังจากที่รุ่นแรกนั้นหลายๆคนเรียกร้องกันว่าทำไมไม่มีไฟ ในรุ่นนี้เค้าจัดให้แล้วครับมาพร้อมกับไฟที่ปรับได้หลากหลายมากๆตามแบบฉบับ Razer Chroma เลยมี Effect ให้เลือกนิดหน่อย 3 แบบหลักๆครับ โดยมี Breathing-Static-Spectrum ครับ และสามารถปรับความสว่างและโทนสีได้ตามใจเราเลยครับ ถือว่าจัดเต็มเลย
ซึ่งไฟข้างหลังนอกจากจะปรับได้เองแล้วยังสามารถตั้งให้มันแจ้งเตือนเวลาแอปไหนมีการแจ้งเตือนก็จะเป็นสีของแอปนั้นๆครับ เช่น Facebook ไฟจะกระพริบสีฟ้า / Line สีเขียว/ IG สีม่วงเป็นต้นครับ และสามารถ ตั้งค่าประหยัดพลังงานได้ 3 ระดับคือ ปิด / ปานกลาง ติดเฉพาะตอนจอติด และ / สูงสุดคือติดตลอดทุกเวลานั้นเองครับ
SCREEN
ทางด้านของหน้าจอจุดเด่นมันเลยเป็นเจ้าเดียวในตอนนี้ที่มาพร้อมกับ 120 Hz ของแท้ทั้งการสัมผัส และ การแสดงผลครับ ซึ่งในรุ่นแรกนั้นบอกตรงๆว่าจอนั้นค่อนข้างซีด และ ไม่สู้แสงครับ ในรุ่นนี้นั้นเป็นการพัฒนาออกมาตอบโจทย์แก้ไขปัญหารุ่นแรกได้อย่างดีครับ หน้าจอ 5.72″ IGZO LCD (True 120Hz, UltraMotion ® Technology) ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5 ความสว่างจัดเต็มกว่าเดิม สูงสุด 580NITS รุ่นเดิมแค่ 380 NITS ครับ
ถือว่าพัฒนาแบบชัดเจน ส่วนทางด้านการแสดงผลนั้นรอบรับ HDR 10 ได้ปกติครับตัวจอทั้งในการใช้งาน กลางแจ้ง ทำได้ดีครับ สู้แสงได้ดีมองเห็นถือว่าผ่าน และ สีสดใสคมดีขึ้นมากและสวยอันดับต้นๆได้เลยครับ ความลื่นไหลในการเลื่อนใช้งานติดนิ้วและ 120 FPS ลื่นมากๆจริงถ้าใช้และไปสลับใช้รุ่นอื่นจะเห็นความต่างมากๆ แต่ในเกมยังอาจจะไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากนัก ต้องเล่นเกมที่รองรับ 120 FPS ถึงจะแตกต่างแบบชัดๆครับผม
SOUND
เสียงผ่านหูฟัง รุ่นนี้ก็ยังคงจัดรู 3.5 มม.ออกไปแล้วซึ่งได้ตัดออกไปในรุ่นแรกและแน่นอนว่าตัดออกไปแต่แถม DAC เทพมาให้ ที่รองรับเสียง DAC 24Bit ได้อย่างดีคุณภาพเสียงจัดเต็มแน่นอนครับ แต่อาจจะลำบากในการใช้งานสายเกมที่จำเป็นต้องชาร์จไปเล่นไปอย่างมากเลย แอบเสียดายจริงๆ ส่วนหูฟังไม่มีแถมให้ แต่มีขายแยกครับ เราจึงเทียบกับหูฟังประจำของแอดมินกันผ่านตัวแปลงครับ คุณภาพเสียงหลังจากที่ลองนั้นแรงขับมาเต็มสะใจดีเลยครับ เสียงทำได้ดีเลยแหละ ขับหูฟังออกมาได้สบายและเสียงมิติ เวทีมาดีครับ เบสเสียงแน่นสะใจพอสมควรเลยในด้านของตัวแปลง เสียงจะเน้นไปทางดูหนัง เล่นเกม มิติเสียงทิศทางมาดีจริงๆ กังวาลและเสียงใสคมชัดเจนมากครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้