“ไข่ย้อย ดากานดา” ซึ่งเป็นเรื่องราว 9 ปีต่อมา ของกล่องไปรษณีย์สีแดง (เพื่อนสนิท)
ผมยอบรับว่า เพิ่งอ่านหนังสือเล่มนี้จบ หลังจากซื้อมาเกือบปี สาเหตุคือ หลังจากอ่านได้ไปไม่กี่ตอน ผมรู้สึกว่าตัวละครที่เราเคยรู้จัก กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าไป
เพราะอะไร เพราะตัวละครเหล่านั้นได้เติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ที่เจนชีวิตบนโลกนี้ขึ้น ความสดใส ความน่ารัก ความซื่อ ของตัวละครได้หายไป
นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง เพราะคาดหวังว่าจะได้อ่านอะไรที่มันให้ความรู้สึก “ดี” แบบภาคแรกในช่วงชีวิตวัยรุ่น แต่ไม่เลยแท้จริงมันดราม่าล้วนๆ
แต่นั่นมันก็ทำให้ผมปล่อยวางลง ได้มานั่งคิดว่า ตัวละครในหนังสือ เค้าก็ได้เติบโตตามความเป็นจริงเหมือนโลกที่เราอยู่นี่แหล่ะ
ความกร้านโลก กร้านชีวิต ได้พบได้เจออะไรหลายๆอย่างทำให้เค้าเหล่านั้นเปลี่ยนไป มีแต่เรานี่แหล่ะที่ยังติดอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่สดใสโดยไม่ยอมรับความจริง
หลังจากที่ได้อ่านจบ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้อ่านหนังสือคนละเรื่องกับ “กล่องไปรษณีย์สีแดง” เพียงแค่ยังคงชื่อตัวละครหลักๆไว้เท่านั้นเอง
สุดท้ายหากต้องการอ่านเพื่อรู้บทสรุปตอนโต ก็อ่านได้ไม่ขัดเขิน หรือไม่อ่านก็ได้เพื่อยังคงความรู้สึกดีๆที่มีต่อตัวละคร
ขอบคุณครับ
“ไข่ย้อย ดากานดา” อยากแชร์ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน
ผมยอบรับว่า เพิ่งอ่านหนังสือเล่มนี้จบ หลังจากซื้อมาเกือบปี สาเหตุคือ หลังจากอ่านได้ไปไม่กี่ตอน ผมรู้สึกว่าตัวละครที่เราเคยรู้จัก กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าไป
เพราะอะไร เพราะตัวละครเหล่านั้นได้เติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ที่เจนชีวิตบนโลกนี้ขึ้น ความสดใส ความน่ารัก ความซื่อ ของตัวละครได้หายไป
นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง เพราะคาดหวังว่าจะได้อ่านอะไรที่มันให้ความรู้สึก “ดี” แบบภาคแรกในช่วงชีวิตวัยรุ่น แต่ไม่เลยแท้จริงมันดราม่าล้วนๆ
แต่นั่นมันก็ทำให้ผมปล่อยวางลง ได้มานั่งคิดว่า ตัวละครในหนังสือ เค้าก็ได้เติบโตตามความเป็นจริงเหมือนโลกที่เราอยู่นี่แหล่ะ
ความกร้านโลก กร้านชีวิต ได้พบได้เจออะไรหลายๆอย่างทำให้เค้าเหล่านั้นเปลี่ยนไป มีแต่เรานี่แหล่ะที่ยังติดอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่สดใสโดยไม่ยอมรับความจริง
หลังจากที่ได้อ่านจบ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้อ่านหนังสือคนละเรื่องกับ “กล่องไปรษณีย์สีแดง” เพียงแค่ยังคงชื่อตัวละครหลักๆไว้เท่านั้นเอง
สุดท้ายหากต้องการอ่านเพื่อรู้บทสรุปตอนโต ก็อ่านได้ไม่ขัดเขิน หรือไม่อ่านก็ได้เพื่อยังคงความรู้สึกดีๆที่มีต่อตัวละคร
ขอบคุณครับ