เคยซื้อลูกกระรอกมาเลี้ยงแล้วตาย ตอนซื้อคนขายดึงมันมาจากแม่ บาปนี้ต้องชดใช้อย่างไร

ในสมัยเด็กอายุ 11 ขวบ อยากเลี้ยงกระรอกมากตอนนั้นเขาฮิตกัน เลยพาพ่อกับแม่ไปซื้อที่จตุจักร ไปบอกคนขายว่าอยากได้กระรอก คนขายบอกว่าต้องเลี้ยงที่เป็นลูกตั้งแต่เล็กๆ ไม่งั้นมันไม่เชื่อง พร้อมกับเอากรงกระรอกออกมาในนั้นมีแม่กระรอกที่อุ้มลูกอยู่ ปรากฏว่าเขาเปิดกรงแล้วเอามือล้วงเข้าไปในกรง แล้วพยายามดึงลูกกระรอกออกจากอกแม่มัน แม่กระรอกและลูกกระรอกร้องใหญ่เลย พอดึงแยกได้แล้วมันกระโดดเกาะมือคนที่ดึงแยกลูกมันมาที่หน้าประตูกรง ก่อนที่เขาจะผลักแม่มันกลับเขาไปในกรงและปิดกรง มันก็พยายามเกาะประตูกรงเขย่าพร้อมร้องอย่างคลุ้มคลั่ง มันกระเทือนใจเรามากในตอนนั้น พ่อกับแม่เราบอกอย่าไปซื้อมันเลยสงสารมัน คนขายก็บอกว่า "ผมไม่รับคืนนะครับ ขายแล้วไม่รับคืน" และบอกต่อว่า "มันไม่เป็นไรหรอกครับ นี่ไม่ใช่ท้องแรกของมัน แต่ก่อนลูกตัวอื่นผมก็ทำแบบนี้ มันก็ซึมไปซัก 4-5 วัน หลังจากนั้นมันก็กลับมากินอาหารกระโดดเหมือนปกติ" และบอกต่อว่า "ผมไม่ขายแม่มันนะครับ" ตอนนั้นพ่อกับแม่ก็บอกว่าอย่าซื้อมันเลยสงสารมัน เราก็สงสารเพราะเห็นมันเกาะกรงและเขย่ากรงเรียกลูก แต่ความอยากเลี้ยงลูกกระรอกมีมากกว่าและเพราะว่ายังเด็กเลยเอาแต่ใจ และก็คิดว่าคนอื่นเขาก็เลี้ยงกันเยอะแยะ อีกอย่างเราเอาไปเลี้ยงไม่ได้เอาไปฆ่าแกงคงไม่เป็นไรหรอก และอาจจะเหมือนที่คนขายบอกว่าอีกเดี๋ยวมันก็กลับเป็นปกติ จึงบอกกับพ่อแม่ให้ซื้อมา พ่อแม่ก็ไม่เห็นด้วยแต่อยากตามใจเราเพราะเราบอกจะเอาให้ได้ จึงซื้อมาเขาเอาลูกกระรอกใส่กรง ปรากฏว่าพอเดินออกจากร้านห่างออกไป แม่มันกระโดดเกาะข้างกรงพร้อมเขย่ากรงอย่างบ้าคลั่งและร้องโหยหวน อย่างกับเสียงคน พอเดินยิ่งห่างมันยิ่งเขย่ากรงร้องโหยหวนไล่หลังดังมากขึ้น ลูกกระรอกก็ร้อง เรารู้สึกสงสารมาก พ่อแม่ก็บอกให้เอาไปคืนเถอะ เราสงสารแต่ก็อยากได้เอาไปเลี้ยง เห็นคนเขาเลี้ยงเยอะแยะคงไม่เป็นไรหรอก จึงใจแข็งบอกพ่อแม่ว่ายังไงก็อยากเลี้ยงและตัดใจเดินจากมา โดยมีเสียงแม่กระรอกร้องโหยหวนตามหลัง

          พอมาขึ้นรถพ่อกับแม่ก็บอกให้เอามันไปคืนเถอะลูกสงสารมัน แต่เราได้มาแล้วแม้จะสงสารแม่กระรอกแต่ด้วยอารมณ์ของเด็กที่อยากได้ก็บอกไม่เป็นไรเราเอามันไปเลี้ยงไม่เป็นไรหรอก พอเอากลับมาเลี้ยงก็พยายามป้อนนมมันมันก็กินได้บ้างไม่ได้บ้างและซึมไป ปรากฏพอแค่ 5 วันมันก็ตาย รู้สึกเสียใจกระเทือนใจมาก เราไปเอามาจากแม่มันอย่างโหดร้าย คิดว่าจะเลี้ยงแล้วรอดคงไม่เป็นไร แต่ก็ไม่รอด หลังจากนั้นเราก็ไม่คิดเลี้ยงลูกกระรอกอีกเลย

          พยายามคิดปลอบใจตัวเองว่า มันเป็นสัตว์ความจำมันอาจไม่นาน มันรักตามสัญชาติญาณไม่ได้ผูกพันเป็นระยะยาวเหมือนมนุษย์ เมื่อลูกโตขึ้นมันก็เลิกรักและกัดกับลูกมันเอง คิดว่าเดี๋ยวมันก็คงทำใจได้และกลับมากินข้าวได้เหมือนเดิมอย่างที่คนขายบอก ความจำมันอาจไม่ยาวนานเหมือนมนุษย์เพราะโตขึ้นมันก็ไม่รักลูกมันแล้วและกัดกันเอง และคิดว่าธรรมชาติของมันคงอายุไม่ยืนเท่าไรซัก 10 ปี แต่ปรากฏว่าเมื่อโตขึ้นเราไปเซิร์ซหาข้อมูลดูปรากฏว่ามันอายุยืนถึง 30 ปี เราหดหู่ใจมากนี่มันจะต้องตรอมใจถึงอีกร่วม 20 กว่าปีเลยเหรอ เราคิดยังงั้น

          ทุกวันนี้เวลาหวนคิดไปถึงวันนั้น เสียงแม่กระรอกร้องโหยหวนยังติดหู แล้วรู้สึกทุกข์ทรมานจนถึงเดี๋ยวนี้ อยากชดใช้แต่ไม่รู้จะชดใช้อย่างไร เคยคิดว่าควรชดใช้ด้วยชีวิต อยากลองฆ่าตัวตายเหมือนกันเคยอยากพยายามแต่พอเอาจริงมือก็แข็งไม่กล้า เลยรู้สึกผิดบาปรู้สึกว่าตัวเองขี้ขลาด ในเมื่อเราผิดควรชดใช้ให้กับแม่กระรอก แต่พอจะชดใช้ด้วยชีวิตก็กลับไม่กล้าฆ่าตัวตาย แต่ถ้าวันหนึ่งเขากลับมาเกิดเป็นคนและจะมาฆ่าเราๆ ก็จะยืนเฉยๆ ให้เขาฆ่า แต่ถ้าจะลงมือให้เราฆ่าตัวตายเองแม้จะรู้ว่าสมควรแต่ก็ไม่กล้าทำ คุณคิดว่าเราขี้ขลาดไหม ขนาดคนญี่ปุ่นในสมัยก่อนถ้าทำผิดมากๆ เขายังกล้าคว้านท้องตัวเองเลย เราไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ แค่ฆ่าตัวตายธรรมดาเรายังไม่กล้า

          ผมกลัวมากกลัวว่าวันหนึ่งเรามีลูกๆ เราจะต้องตาย ต้องสูญเสียลูกเหมือนกับที่เราทำกับเขา ถ้าบาปกรรมมีจริงก็ขอให้มันลงกับเราเถอะ เพื่อนๆ คิดว่าเราต้องชดใช้ไหม มันจะลงกับเรา หรือจะลงกับลลูกเราไหมถ้าวันหนึ่งเรามี และเราต้องชดใช้อย่างไรบ้างตามกฏแห่งกรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่