รีวิวนี้เป็นบันทึกการเดินทางพาเด็ก 5 ขวบเที่ยวเชียงใหม่ครับ ช่วงเวลา 14-19 ธันวาคม 61 โดยเป็นทริปกึ่งสำหรับเด็กกึ่งพ่อแม่ปนๆกัน แฮ่ และเป็นการฝึกการเรียนรู้นอกห้องเรียน ฝึกเด็กให้รู้จักมีวินัยในการเที่ยวและมารยาทในที่สาธารณะ ฝึกพ่อแม่เองด้วยในการสอนลูก
เริ่มจากสุราษฎร์ธานีมาลงที่เชียงใหม่จากนั้นตรงไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก่อนเลย ที่นี่เคยพาเด็กมาครั้งนึงแล้ว แต่พอเด็กโตขึ้นความรู้สึกก็เปลี่ยนไปจากเมื่อตอนยังเล็ก คำถามเปลี่ยนไปและสิ่งที่สนใจก็เปลี่ยนไปจากเดิม สรุปว่าสำหรับเด็กแล้วเที่ยวสวนสัตว์ก็สนุกทุกครั้งอยู่ดี ความคุ้มค่า ดี
จากนั้นเช้าวันใหม่ เราเดินทางตรงไปดอยอ่างขางแต่เช้า ถึงประมาณ 10 โมงครึ่ง รีบไปจองเต็นท์ที่ม่อนสน เพราะที่พักอื่นๆปิดหมดแล้ว กลัวไม่มีที่นอน ฮา
เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปเที่ยวในโครงการหลวง กินข้าวเที่ยงที่สโมสรอ่างขางหน้าสวน 80 ที่นี่ยังมีข้าวขายนะครับ แต่ว่าเมนูน้อยลง
จากนั้นเดินเล่นภายในโครงการหลวงเพลินๆ วนๆอยู่ข้างใน 3 รอบได้ ฮ่าๆๆ
จากนั้นกลับเต็นท์มาเจอเซอร์ไพรส์ กรุ๊ปท่องเที่ยวน่าจะทริปเพื่อนๆในบริษัท กางผ้าใบ เตาย่าง ลังน้ำแข็ง และเสียงเพลง ล้อมรอบเต็นท์เราไว้ ฮ่า เอาไงดี ด้วยความที่มีเด็ก และกลัวว่าเขาจะปาร์ตี้ไม่สนุกเพราะเกรงใจเรา กอปรกับเด็กเราจะไม่ได้นอน(น่าจะเหตุผลนี้มากกว่า 555) แก้ปัญหาที่ตัวเราเองดีกว่า เลยไปขอย้ายเต็นท์ โชคดี มีเต็นท์ว่างเหลือแถวล่างสุด ก็วินวินกันทั้งหมด (แล้วจะรีบขึ้นมาจองทำไมเนี่ย 55) แบ่งๆกันเที่ยว เพราะบนนี้เหลือที่ค้างคืนแค่ที่นี่ที่เดียว สำหรับเด็กในการนอนเต็นท์ก็จัดเต็มเครื่องกันหนาวมาให้ครบครันดีกว่าครับ เพราะถุงนอนของอุทยานบางทีอาจเปียกแห้งไม่ทัน น้ำค้างลงหนักมาก
ตื่นเช้ามาวิวคุ้มค่ากับที่นอนหนาวรอ ย่ำรุ่งหมอกลอยเหนือเมืองด้านล่าง
เริ่มสว่างหมอกไหลเข้ามา ยังกับสึนามิหมอก



เด็กตื่นมาชมทะเลหมอก อากาศ 13 องศา ยังทนได้ไม่เป็นหวัด
มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวลิบๆ
จากนั้นเก็บข้าวของไปเที่ยวที่สวนสตรอเบอร์รี่และแปลงชา2000
สวนสตรอเบอร์รี่นี่คือจุดหมายหลักของเด็กในทริปนี้เลย 555 อยากเห็นมาตลอดว่าเขาทำกันยังไง
ต่อด้วยแปลงชา2000 ในละแวกเดียวกัน
ความคุ้มค่าของดอยอ่างขางอยู่ในเกณฑ์ ดี แต่ถ้าเป็นช่วงดอกนางพญาเสือโคร่งบานในช่วงกลางเดือนมกราคมคิดว่าจะ ดีมาก
จากนั้นลงจากดอยอ่างขางมุ่งหน้าไปสวนส้มธนาธร2ที่ฝาง
ความคุ้มค่าอยู่ในเกณฑ์ พอใช้ เพราะเด็กไม่ว้าวกับสวนส้ม แต่ ว้าวกับรถซาฟารีนำชม
คืนนี้เรานอนที่โรงแรม BB&B ในตัวอำเภอฝางเพราะจองบ้านพักน้ำพุร้อนฝางไม่ทัน แต่อาม่าเจ้าของใจดีมาก ข้าวต้นตอนเช้าอร่อยด้วย แนะนำ
เช้าวันใหม่เราไปบ่อน้ำพุร้อนฝาง แนะนำว่ามาฝางต้องมาที่นี่ให้ได้ ชิลมาก และที่นี่เคยได้รางวัลกินรีน่าจะปี 2016 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ
ความคุ้มค่า ดีมาก
เสร็จจากแช่น้ำอุ่นไปต่อกันที่ดอยที่สองคือดอยแม่ตะมาน นั่งรถโยกเยก ขึ้นดอย 1 ชั่วโมง เรามาพักที่สถานีวิจัยเกษตรที่สูง คณะเกษตร ม.ช. บ้านสันป่าเกี๊ยะ สำหรับเด็ก 5 ขวบ ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ แต่เป็นจุดหมายของพ่อแม่เอง 555 มาที่นี่ของใช้สำหรับเด็กและยาประจำตัวต้องพร้อม เราจองบ้านพักสำหรับนอน 5 คน มีครัว ห้องน้ำในตัวและเครื่องทำน้ำอุ่น อาหารต้องพามาเอง แต่ข้างบนมีข้าวไข่เจียวขายถ้าไม่สะดวกพามา
มาถึงแล้วเด็กก็วิ่งเล่นยืดเส้นยืดสายหลังจากนั่งเกร็งขึ้นมา
จากนั้นเดินย้อนกลับประมาณ 400 เมตร มาที่สถานีจัดการต้นน้ำดอยแม่ตะมาน มาถ่ายรูปเล่น
ที่ลานจอด ฮ
พอ 5 โมงเย็น เดินกลับมาที่พักเตรียมทานข้าวเย็น (มาม่า ใส่ไข่ ใส่ผัก ปลากระป๋อง นี่มันเข้าค่ายลูกเสือรึเปล่าเนี่ย 555)
กินมาม่าหน้าวิวดอยหลวงเชียงดาวระยะประชิด
วันที่เราไป ค่อนข้างเงียบเพราะเป็นวันจันทร์ ตอนกลางคืนมาดูดาวได้ หน้าบ้านพักเรามีดาวตกด้วย
ฟ้าเริ่มสาง พอแดดออก หมอกเริ่มฟุ้งอยู่ในทะเลหมอกมองไม่เห็นอะไรเลย แต่พอสายขึ้นหมอกลอยขึ้นบนเริ่มมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว

ความคุ้มค่า พอใช้ เพราะค่าใช้จ่ายเยอะ และกิจกรรมสำหรับเด็กไม่มี และเด็กต้องอึดระดับนึง แต่ถ้าดอกนางพญาเสือโคร่งบานจะสวยงามขึ้นอีก 30 % เลยทีเดียว
เราลงจากดอยแม่ตะมาน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าเพราะเราเพิ่มทริปสำหรับเด็กนั่นคือ สวนสัตว์แมลง ที่แม่ริม


ความคุ้มค่าอยู่ในเกณฑ์ ดี เพราะมีแมลงตัวจริงเป็นๆเยอะ ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์แห้งๆ พี่เจ้าหน้าที่ ก็เต็มที่ เด็กของเรา ว้าว แค่นี้ก็คุ้มแล้ว 555
จากนั้นแวะซื้อของที่กาดหลวงและแพ็คเครื่องกันหนาวลงกล่องส่งไปรษณีย์กลับสุราษฯที่ไปษณีย์ที่ติดกับตลาด
แล้วนั่งรถไฟตู้นอนใหม่กลับ กทม. เด็กตื่นเต้นมาก เปิดประสบการณ์ใหม่
ถึงดอนเมือง ลากกระเป๋าจากรถไฟไปฝากที่สนามบิน แล้วไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ เด็กชายสนุกมากตื่นเต้นขั้นสุด เครื่องบินเยอะมาก ช่วงนี้กำลังอินเครื่องบินรบพอดี ไปแต่เช้าวันธรรมดา แทบจะเหมารอบ ซิมมูเรเตอร์ เลย เข้าฟรีด้วย คุ้มมากๆ
สรุปการเที่ยวที่มีเด็กเพิ่มเข้ามา ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาประมาณ 3 เท่า เพราะต้องจ่ายค่าเข้าสถานที่นั่นนี่ เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อก่อนไม่เคยคิดจะไป
ค่าเดินทาง การเตรียมตัวที่มากขึ้น ความเหนื่อยมากขึ้น แต่เมื่อได้เห็นแววตา รอยยิ้ม ของเด็ก กับสิ่งใหม่ๆ อากาศหนาวๆแต่อบอุ่น ความสุขที่ได้ไปท่องเที่ยวมันไม่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสุขมากขึ้น
จบแล้วครับกับรีวิวเล็กๆ พาเด็กเที่ยว