เรื่องย่อ: "ชาร์ลี" นักแสดงสาวชาวอังกฤษถูก Recruit โดยองค์กรสายลับของอิสราเอล ให้เป็นสายเข้าไปแทรกซึมองค์การก่อการร้ายของชาวปาเลสไตน์
- The Little Drummer Girl สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกันของ John Le Carré และถูกดัดแปลงมาเป็นซีรีส์โดยทีมเดียวกับที่ทำ "The Night Manager" เรื่องนี้เป็น 1 ในซีรีส์ที่ตั้งตารอมากที่สุดของปี 2018 เพราะเป็นการกลับมาฝั่งอินเตอร์ของ Park Chan Wook แถมเป็นแนวสายลับอีก (Spy Genre เป็นแนวที่ชอบที่สุด รองจาก Horror/Thriller เลย) แต่พอดูจบแล้วกลับเป็น 1 ในเรื่องที่ผิดหวังมากๆของปีที่แล้ว
- เรื่องนี้เป็นซีรีส์ Spy Thriller แบบเรียลๆ ที่เรียลมากซะจนแทบไม่มีความระทึกเลยสักนิด ให้อารมณ์เหมือนตอนดู Tinker Tailor Soldier Spy ซึ่งบางคนอาจจะชอบแนวนี้ แต่ผมดูแล้วรู้สึกว่ามันทั้งเข้าใจยาก น่าเบื่อ และไม่ลุ้นระทึก หลายช่วงเหมือนจะพีคๆ แต่พอดูแล้วก็ไม่มีอะไรเล้ย แล้วเรื่องนี้แทบจะดำเนินเป็นเส้นตรง ไม่มี Twist and Turn ตรงไหนเลย เพิ่งเคยหนังสายลับที่ไม่มีจุดหักมุม แถมดูมาจนจบก็ไม่รู้สึกเลยว่านี่คือการกำกับของ PCW ถ้าไม่บอกว่าเขากำกับ เราก็คงนึกว่าคนอื่นทำ
- ถึงทั้งเรื่องจะเป็น Storyline เกี่ยวกับการแทรกซึมทำร้ายล้างองค์กรก่อการร้าย แต่ Core หลักคือ "ความสัมพันธ์ของพระ-นาง" ซึ่งเราไม่อินด้วยสักนิด ไม่ใช่ว่าบทเขียนไม่ดีนะ บทดี แต่ดูยังไงก็ไม่อิน แล้วพอไม่อิน ก็เลยยิ่งทำให้เบื่อ
- แต่สิ่งที่ชอบมากๆก็คือ การโชว์ให้เห็นว่า "ถ้าคนธรรมดาๆมาเป็น Spy มันจะเป็นยังไง?" อย่างเรื่องอื่นๆ เราอาจจะได้เห็นความยากลำบากของตัวเอก ว่ากว่าจะได้เป็น Spy ต้องฝึกโหดแค่ไหน แต่ใน TLDG จะเน้นลงลึกเรื่องจิตใจ ตลอดทั้งเรื่อง "ชาร์ลี" จะได้เจอกับความกดดัน อุปสรรค เรื่องช็อคต่างๆ รวมทั้งเกือบตายอยู่หลายครั้ง เรียกได้ว่าถ้าเป็นในชีวิตจริง อาจจะบ้าไปเลยก็ได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่หนังสายลับเรื่องไหนไม่เคยนำเสนอ
- อีกอย่างที่ชอบมากๆคือ "การเลือกใช้โทนสี" ตามปกติแล้วหนังสายลับโทนสีออกจะออกแนวหม่นๆ หมองๆ ยิ่งเรื่องที่เกิดในยุคก่อนด้วยแล้ว แต่เรื่องนี้ตรงกันข้ามมากๆ เพราะทั้งคอสตูม, สีฉาก, สีสิ่งของต่างๆ ทุกอย่างเป็นสีสดหมดเลย ดูแล้วทั้งสวยและแปลกตา
- "Florence Pugh" (นางเอก) และ "Michael Shannon" คือ 2 คนที่เล่นได้ดีที่สุด อย่างไมเคิลแกเล่นดีทุกเรื่องทุกบทอยู่แล้ว แต่อย่างฟลอเรนซ์ เราเพิ่งรู้จักเธอครั้งแรกจากเรื่องนี้ เห็นแล้วก็ชอบเลย ทั้งแสดงดีและดูไม่เหมือนใครดี (ปกติจะมีแต่นักแสดงหุ่นผอมเพรียว แต่เธอเป็นเพียงไม่กี่คนที่ค่อนข้างอวบและตัวเตี้ย, ในปีนี้ เธอจะมีผลงานใหม่คือ "Little Women" หนังใหม่ของ Greta Gerwig) ส่วน "Alexander Skarsgård" ผมคิดว่าเขาเล่นคล้ายๆผลงานเก่าๆของเขา
ถึงจะรีวิวออกมาดูไม่ชอบเลย แต่แฟนๆของ Park Chan Wook ดูแล้วอาจจะคิดต่างกับผมทุกอย่างเลยก็ได้ ยังไงก็ลองหามาดูกันนะครับ อย่าเพิ่งเชื่อผม
The Little Drummer Girl (2018) - ⭐⭐⭐ [ซีรีส์ Spy Thriller ผลงานใหม่ของ Park Chan Wook]
- The Little Drummer Girl สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกันของ John Le Carré และถูกดัดแปลงมาเป็นซีรีส์โดยทีมเดียวกับที่ทำ "The Night Manager" เรื่องนี้เป็น 1 ในซีรีส์ที่ตั้งตารอมากที่สุดของปี 2018 เพราะเป็นการกลับมาฝั่งอินเตอร์ของ Park Chan Wook แถมเป็นแนวสายลับอีก (Spy Genre เป็นแนวที่ชอบที่สุด รองจาก Horror/Thriller เลย) แต่พอดูจบแล้วกลับเป็น 1 ในเรื่องที่ผิดหวังมากๆของปีที่แล้ว
- เรื่องนี้เป็นซีรีส์ Spy Thriller แบบเรียลๆ ที่เรียลมากซะจนแทบไม่มีความระทึกเลยสักนิด ให้อารมณ์เหมือนตอนดู Tinker Tailor Soldier Spy ซึ่งบางคนอาจจะชอบแนวนี้ แต่ผมดูแล้วรู้สึกว่ามันทั้งเข้าใจยาก น่าเบื่อ และไม่ลุ้นระทึก หลายช่วงเหมือนจะพีคๆ แต่พอดูแล้วก็ไม่มีอะไรเล้ย แล้วเรื่องนี้แทบจะดำเนินเป็นเส้นตรง ไม่มี Twist and Turn ตรงไหนเลย เพิ่งเคยหนังสายลับที่ไม่มีจุดหักมุม แถมดูมาจนจบก็ไม่รู้สึกเลยว่านี่คือการกำกับของ PCW ถ้าไม่บอกว่าเขากำกับ เราก็คงนึกว่าคนอื่นทำ
- ถึงทั้งเรื่องจะเป็น Storyline เกี่ยวกับการแทรกซึมทำร้ายล้างองค์กรก่อการร้าย แต่ Core หลักคือ "ความสัมพันธ์ของพระ-นาง" ซึ่งเราไม่อินด้วยสักนิด ไม่ใช่ว่าบทเขียนไม่ดีนะ บทดี แต่ดูยังไงก็ไม่อิน แล้วพอไม่อิน ก็เลยยิ่งทำให้เบื่อ
- แต่สิ่งที่ชอบมากๆก็คือ การโชว์ให้เห็นว่า "ถ้าคนธรรมดาๆมาเป็น Spy มันจะเป็นยังไง?" อย่างเรื่องอื่นๆ เราอาจจะได้เห็นความยากลำบากของตัวเอก ว่ากว่าจะได้เป็น Spy ต้องฝึกโหดแค่ไหน แต่ใน TLDG จะเน้นลงลึกเรื่องจิตใจ ตลอดทั้งเรื่อง "ชาร์ลี" จะได้เจอกับความกดดัน อุปสรรค เรื่องช็อคต่างๆ รวมทั้งเกือบตายอยู่หลายครั้ง เรียกได้ว่าถ้าเป็นในชีวิตจริง อาจจะบ้าไปเลยก็ได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่หนังสายลับเรื่องไหนไม่เคยนำเสนอ
- อีกอย่างที่ชอบมากๆคือ "การเลือกใช้โทนสี" ตามปกติแล้วหนังสายลับโทนสีออกจะออกแนวหม่นๆ หมองๆ ยิ่งเรื่องที่เกิดในยุคก่อนด้วยแล้ว แต่เรื่องนี้ตรงกันข้ามมากๆ เพราะทั้งคอสตูม, สีฉาก, สีสิ่งของต่างๆ ทุกอย่างเป็นสีสดหมดเลย ดูแล้วทั้งสวยและแปลกตา
- "Florence Pugh" (นางเอก) และ "Michael Shannon" คือ 2 คนที่เล่นได้ดีที่สุด อย่างไมเคิลแกเล่นดีทุกเรื่องทุกบทอยู่แล้ว แต่อย่างฟลอเรนซ์ เราเพิ่งรู้จักเธอครั้งแรกจากเรื่องนี้ เห็นแล้วก็ชอบเลย ทั้งแสดงดีและดูไม่เหมือนใครดี (ปกติจะมีแต่นักแสดงหุ่นผอมเพรียว แต่เธอเป็นเพียงไม่กี่คนที่ค่อนข้างอวบและตัวเตี้ย, ในปีนี้ เธอจะมีผลงานใหม่คือ "Little Women" หนังใหม่ของ Greta Gerwig) ส่วน "Alexander Skarsgård" ผมคิดว่าเขาเล่นคล้ายๆผลงานเก่าๆของเขา