ช่วยทีครับ พี่ชายมีความคิดที่ปลงกับชีวิตมากๆ ไม่สนใจทุดอย่างรอบตัวเลย ใช้ชีวิต ให้เหมือนตายไปแล้ว รอวันบวชตลอดชีวิต

สวัสดีครับ ผมมีพี่ชาย และพี่สาว ปัญหาตอนนี้ในครอบครัวของเราคือ พี่ชายผมอายุได้ 28 มีความคิดที่ ใช้ชีวิต ไม่แสวงหาความสุข ตัดขาดจากทุกอย่าง ไม่กินเนื้อสัตว์ ปลงกับชีวิต และไม่ออกจากหน้าซอยบ้านเลย ทุกอย่างฟังดูดีครับ แต่ปัญหาคือ เค้าก็ไม่เอาครอบครัวเช่นเดียวกัน

พี่ผมไม่สนใจครอบครัวเลย ไม่กินข้าวด้วยกัน ไม่คุยกับพ่อแม่นอกจากงาน ไม่สนใจพี่น้อง ไม่ออกจากซอยหน้าบ้านเลย แต่แม่ผมอยากให้ ทุกคนอยู่ด้วยกันไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน แต่พอพี่ชาย มีความคิดที่ว่าทุกอย่าง ล้วนเป็นสิ่งหลอกหลวงไม่ใช่เรื่องจริง เค้าก็จะไม่ทำสิ่งพวกนี้เลย และไม่รับความคิดเห็นจากใครเลย เรื่องนี้ทำให้พ่อแม่ผมเครียดมาก แต่พี่ชายผมก็ไม่แคร์ เพราะเค้าบอกว่า ความเครียด เป็นสิ่งที่คิดไปเอง

ที่เค้าทำงานอยู่ทุกวันนี้คือ รอผมเรียนจบมารับช่วงต่อ และเค้าจะไปบวชแต่ปัญหาคือ งานของเราต้องทำงานกับคน แล้วเค้าไม่อยากสุงสิงกับผู้คน ทั้งลูกน้อง และลูกค้า โอเครครับ พ่อแม่ผมให้ทำตำแหน่งที่ไม่มีลูกน้อง แต่ยังไงๆ ก็ต้องมีลูกค้า แต่พี่ผมไม่เอาลูกค้าเลย แล้วจะทำงานยังไง พอเกิดปัญหานี้แม่ผม พยายามคุย พยายามขอ แต่เค้าไม่รับฟังเลย ทะเลาะกันทุกวัน แล้วจะจบด้วยการ เค้าเทงานครับ ไม่สนใจ บางวัน ไม่ยอมมาทำงาน ทำให้คนอื่นทำงานต่อไม่ได้ แต้เค้าแคร์ไหม ไม่อะครับ พวกเราเลย จะให้เค้าไปบวช แต่เค้าไม่ไปครับ เค้าจะรอผมเรียนจบ ตัวผมเองไม่ได้อะไรกับพี่ชายครับ แต่พอตอนนี้ พ่อแม่ผม เครียดมากๆ จะให้ไล่ออกจากบ้านไปบวชก็ไม่ได้พ่อแม่ทำใจไม่ได้หรอกครับ

พ่อแม่ รวมทั้งตัวผม เข้าใจว่าเค้าได้พ้นจากทางโลกได้แล้ว เป็นสิ่งที่น่ายินดีครับ แต่ ตอนนี้เค้าเลือกที่จะทำงานก่อน แต่เค้าไม่เอาคนจะทำได้อย่างไร  ผมถามเค้าว่า เกิดมาทำไม เค้าบอกเกิดมาเพื่อให้รู้ว่า สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งจอมปลอม เกิดมาเพื่อเข้าใจชีวิต ว่าทุกอย่างมันไม่มีค่า
ผมถามเค้าอีกว่า แล้วที่ผ่านมาเรามีความสุขกันไม่ดีหรอ เค้าบอกว่า มีสุขก็ต้องมีทุข อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ถ้าพี่ชายตายไป ทุกคนจะต้องทุข เค้าเลยสู้ ทำให้ทุกคนถือว่าเค้าตายไปแล้ว ไม่ต้องสนใจเค้าอีกเลย ผมจะโอเครกับความคิดพี่ชายมาก

ผมเข้าใจว่าเค้าอยากจะไปบวช แต่ตอนนี้ยังไม่ได้บวช เค้าก็ไม่ทำหน้าที่ลูก ใช้ชีวิตปกติ ได้เลย และมันทำให้แม่ผมเครียดมาก ทุกๆวันเค้าจะบอกแม่ว่า เดี๋ยวก็ตาย เดี๋ยวก็ตาย ผมเค้าใจว่าการตายคือ ธรรมชาติ แต่ตอนที่เรายังเป็น เราก็ควรใช้ชีวิตกับมันให้ดีที่สุดไม่ใช่หรอครับ

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าไม่สามารถดึงพี่ตัวเองกลับมาได้ ปัญหาตอนนี้คือ แม่ผมเครียดมากแล้วอายุมากแล้ว

* เราปล่อยให้พี่ชายทำงาน แม่ผมก็รบกับพี่ชายทุกวันจนแม่ผมจะเป็นโรคประสาทแล้วครับ เราจะมีวิธีที่ทำให้เค้ายอมคุยกับลูกค้าบ้าง ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งได้บ้างไหมครับ
** เราให้เค้าไปบวช เค้าไม่ยอมไป เพราะถือว่าตัวเองพูดแล้วที่จะรอผม ความซวยมาอยู่ที่ผมที่ต้องรีบเรียนให้จบ ทำให้แพลน ต่อโท ที่ ตปท ไม่รู้จะได้ไปไหม เพราะผมกลัวแม่ผมจะไม่ไหวส่ะก่อน เพราะเป็นแบบนี้มา 3จะ4ปีแล้ว
*** เรื่องครอบครัว เราปลงแล้วครับว่าไม่มีทางที่จะได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว แต่เรายังอยากด้วยกันได้ ถึงแม้ว่า โลกของผมกับพี่ชายจะคนละโลกก็ตาม
**** แล้วที่ผมไม่เข้าใจที่สุดเลยคือ พี่ชายผมเหมือนจะเข้าทางธรรมได้แล้ว ผมไม่เคยอคติเรื่องนี้เลย รวมทั้งพ่อแม่ผมที่ เชื่อในศาสนามากครับ พวกท่านก็สนับสนุนด้านนี้ แต่ถ้าพี่ชายผม เข้าทางธรรม เข้าใจทางธรรมได้จริงๆ ทำไม ถึงพูดจา และการกระทำให้พ่อแม่ เสียใจขนาดนี้ครับ ทางธรรมไม่ได้สอนให้รักครอบครัว หรอครับ หรือการเข้าทางธรรมที่แท้จริงคือ ตัดครอบครัวออกไปด้วย ผมไม่เข้าใจตรงนีจริงๆ เค้าเหมือนจะรักพ่อรักแม่ แต่ ทำไม หลายๆอย่างทำให้พ่อแม่เสียใจตลอดเลย  พอยกเรื่องครอบครัวมาเค้าก็บอก ครอบครัว ก็คือสิ่งจอมปลอม ที่พ่อแม่ให้กำเนิดก็ไม่มีค่าอะไร ความคิดแบบนี้ คือ การเข้าสู่ทางธรรม หลุดจากโลก จริงๆหรอครับ
***** สุดท้ายนี้คือผมไม่แน่ใจแล้วครับว่า สิ่งที่พี่ผมเป็นคือ เค้าสามารถตัดขาดจากทางโลกได้แล้ว หรือ เป็นโรคซึมเศร้า เพราะทางธรรมของพี่ผม ทำไมถึงทำให้พ่อแม่เสียใจได้ เป็นคนที่ไม่รับฟังใครเลย ไม่พูดดีๆกับคนอื่น ไม่คุยกับคนอื่น ไม่ออกจากบ้าน ที่พี่ผมอยากจะบวชคือเค้าอยากจะบวชเพื่อศึกษาธรรมะอยากแท้จริง หรือการบวชคือการหนีโลกสำหรับเค้า

ปล. พี่ผม3-4ปีที่ผ่านมา ไม่เคยสวนมนต์เลย ไม่เคยออกจากบ้านไหว้พระทำบุญเลย ไม่ทีท่าทางศรัทธากับพระพุทธศาสนาเลย แล้วสิ่งที่เค้าคิด เป็นอยู่ คือการหลุดพ้นจากโลกจริงๆหรอครับ การที่เค้าไม่ต้องการออกจากซอยหน้าบ้าน เค้าเข้าใจธรรมะได้จริงๆหรอครับ

ทุกคนมีความคิดเห็นดีๆมั้งไหมครับ ที่จะยังพอให้เราแบ่งกันคนล่ะครึ่งทาง หรือ พอทำให้เราอยู่ด้วยกันแบบต่างความคิดกันได้โดยดี พ่อแม่ผมไม่เครียด พี่ชายผม ไม่พยายาม พูด-ดันแม่ เช่น เดี๋ยวก็ตายๆไปแล้ว แม่ผมสร้างมาเค้าก็ต้องเสียใจอยู่แล้วที่ ลูกชายตัวเองพูดแบบนี้ แม่ผมจิตใจแย่ลงทุกวัน ร้องไห้กับคำพูดพี่ชายที่ไม่เคยแคร์แม่เลย พอแม่ร้องไห้ก็จะบอกแม่ว่า ถ้าปรับตัวไม่ได้ ก็ร้องไห้ต่อไป  ผมไม่โอเครหรอกนะครับที่เห็นแม่ต้องร้องไห้บ่อยๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่