วิธีการไปพบหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

วิธีการไปพบหมอที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

การเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาลของรัฐเป็นเรื่องยาก วุ่นวาย ผู้ป่วยเยอะ แต่หากรู้วิธีการพบหมอ ก็จะง่ายและสะดวกมากขึ้น
การเดินทาง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อยู่ตรง BTS ศาลาแดง สะดวกรถไม่ติด  หากฉุกเฉินแท๊กซี่ จะต้องศึกษาเส้นทางเพราะรถติดช่วงเช้าและเย็นมาก

ประเภทของผู้ป่วยแบ่งออกเป็น ผู้ป่วยปกติ และผู้ป่วยฉุกเฉิน
ผู้ป่วยปกติ แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวจากแห่งอื่น  ผู้ป่วยทั่วไป
ทั้งสองประเภทต้องทำบัตรผู้ป่วยใหม่ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก่อน  ติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าประตูทางเข้า กรอกข้อมูลบัตรผู้ป่วยใหม่ วัดความดันพร้อม
ยื่นเคาน์เตอร์พยาบาล  รอเรียกตามช่องหมายเลข  หากมีบัตรประกันสังคม (ปกติโรงพยาบาลจะไม่รับแล้ว ยกเว้นเป็นบุคลากรภายใน) ให้ยื่นบัตรประกันสังคมคู่กัน  

นั่งรอตามช่องหมายเลข  1-3  ช่องประกันสังคม  4-10  (ไม่แน่ใจ) จำหมายเลขช่องที่คุณพยาบาลบอกนะคะ เมื่อเรียกชื่อไปหน้าช่องดังกล่าว ยื่นเอกสารและถ่ายรูป เสียค่าบัตร 30 บาท  จะได้รับบัตรโรงพยาบาลจุฬาฯ  เจ้าหน้าที่จะบอกให้ไปพบแพทย์ตามชั้นประเภทของอาการ  

ชั้น 1  อายุรกรรมทั่วไป   พวกหัวใจ เบาหวาน ความดัน ปอด
ชั้น 13  หู ตา คอ จมูก     ซึ่งย้ายจากชั้น 10 เดิม  ต้องต่อลิฟท์ลำบากหน่อย หากไม่อยากรอลิฟท์ ให้ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 10 แล้วเดินขึ้นบันไดไป 3 ชั้น
ชั้น 4   ตรวจเลือด  ตรวจเอกซเรย์  

เมื่อเดินไปถึงชั้นที่นัดหมาย  ให้นำเอกสารไปยื่นที่เคาน์เตอร์พยาบาล และรอเรียกชื่อ  ซึ่งตรงนี้จะนานหน่อย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  ไปหาอะไรทานก่อนได้ค่ะ  กลับมาไปถามเคาน์เตอร์พยาบาลได้ว่าเรียกชื่อไปหรือยัง    ระหว่างนี้อย่าลืมชั่งน้ำหนัก วัดความดันนะคะ

เมื่อเรียกชื่อ พยาบาลจะขอดูบัตรผู้ป่วย  และใบวัดความดันชั่งน้ำหนัก  หลังจากนั้นให้ถือแฟ้มประวัติเข้าไปด้านใน   ต้องเดินเข้าไปวางเอกสารในกล่องรับเอกสาร   และรอพบแพทย์หน้าห้องตรวจตามหมายเลขที่ระบุ    

เจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อและจัดคิวให้เรานั่งหน้าห้องต่อจากคนก่อนหน้า  ตรงนี้ไม่นานแล้วค่ะ  แป๊บเดียวคุณหมอก็จะเรียกเข้าห้องแล้วค่ะ

ข้อมูลทุกอย่างจะเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์  หมอจะกรอกข้อมูลในแฟ้มประวัติ ตรวจอาการ  มีอะไรผิดปกติหมอจะสั่งเจาะ ดูด เอ๊กซเรย์ต่อ ลาคุณหมอ
หยิบแฟ้มประวัติกลับมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์พยาบาล แล้วนั่งรอเรียกชื่อ   ตรงนี้สำคัญมากนะคะ  เราเคยลืมเดินออกไปวางแฟ้มที่ด้านนอก ต้องรอยาวเลย

เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกชื่อ จะอธิบายเพิ่มเติมถึงการตรวจเพิ่ม  หรือวันนัดหมายครั้งต่อไป  หลังจากนั้นจะให้เราถือแฟ้มไปวางที่เคาน์เตอร์นัดหมายด้านหน้าต่อ

เมื่อวางแฟ้มประวัติที่เคาน์เตอร์นัดหมายด้านหน้าแล้ว  ก็ออกมานั่งรอที่เก้าอี้ผู้ป่วยด้านนอกได้เลย  รอเรียกชื่อก่อนกลับค่ะ  
ตรงนี้เราจะได้เอกสาร เช่น ค่ารักษาพยาบาล   ใบสั่งตรวจเลือด   ใบสั่งเอ็กซเรย์  ตามที่คุณหมอบอก ให้เก็บไว้ก่อน  

หากมีค่าใช้จ่ายค่าตรวจให้นำใบแจ้งไปยื่นที่เคาน์เตอร์การเงิน และชำระเงินได้ค่ะ ค่าตรวจ 50 บาท  ค่าใบรับรองแพทย์ 50 บาท (ต้องบอกพยาบาลเคาน์เตอร์หน้าห้องคุณหมอก่อนว่าขอใบรับรองแพทย์ด้วยนะคะ)

จ่ายเงินเสร็จก็นั่งรอบัตรนัดหมายต่อ  ตรงนี้ก็สักพักนะคะ ตามจำนวนผู้ป่วย  

เมื่อได้บัตรนัดแล้ว ก็ไปรอรับยา   หรือดำเนินการไปตรวจเพิ่มเติมตามที่คุณหมอบอก  เช่น  ใบสั่งตรวจเลือด  ใบสั่งเอ็กซเรย์  ให้ไปที่ชั้น 4  เป็นศูนย์รวมของการตรวจเลือด ชิ้นเนื้อ เอ็กซเรย์   ขั้นตอนมาดำเนินการชั้นนี้ คือ
1  ยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์การเงิน  เพื่อชำระเงินก่อน
2 ยื่นเอกสารตามเคาน์เตอร์ที่ต้องการตรวจ   เลือด  เอ็กซเรย์  แยกกันค่ะ  สอบถามเจ้าหน้าที่ได้  
3  รอเอกสารที่แจ้งวันรับผล   ซึ่งเอกซเรย์ ผลจะลงระบบคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นาน    หากเป็นชิ้นเนื้อจะใช้เวลานาน  ให้ดูเวลาผลออกด้วยนะคะ  
    อาจจะออกผลช้ากว่าที่หมอนัด   หากไม่เป็นอะไรมาก  ขอเปลี่ยนวันนัดหมอ ให้รอผลตรวจก่อนได้ค่ะ  แต่เพื่อความปลอดภัยก็ไปตามที่หมอนัดค่ะ

กลับบ้านได้  ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวันแน่นอน 7 โมง กลับ 12.00 น.  แบบเร็วสุด  ไม่มียา ไม่มีเอ็กซเรย์  
สำหรับผู้ป่วยอายุรกรรม  ใช้เวลานานกว่าแผนกอื่น ๆ เตรียมลางานทั้งวันได้เลยค่ะ

ครั้งหน้าก็ไม่ต้องสมัครผู้ป่วยใหม่แล้ว  สามารถยื่นบัตรผู้ป่วยและบัตรนัดหมาย แสกนที่ตู้หน้าประตูทางเข้าได้เลย  (สังเกตมีสองจุด ฝั่งซ้ายเป็นผู้ป่วยประกันสังคม  ฝั่งขวาหน้าทางเข้าใหญ่เป็นผู้ป่วยทั่วไป)  แล้วไปตามชั้นที่นัดหมาย  เสียบบัตรนัดหมายที่เคาน์เตอร์พยาบาล  แล้วค่อยกลับไปอีกทีตอนใกล้ ๆ ถึงเวลานัดหมาย  จะช่วยประหยัดเวลาได้  

สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน  จะอยู่ชั้นล่าง  ต้องมีญาติไปด้วย  เพราะต้องเดินเรื่องทำบัตรให้เรียบร้อยก่อน  เค้าดูอาการหากไม่มากก็รอญาติได้ค่ะ  

ที่สำคัญคือ ห้ามถ่ายรูปในทุกจุดของโรงพยาบาล  

ร้านอาหารมีมากมาย  ชัน 1  อายุรกรรม  หรือด้านล่าง แบบกล่อง  โรงอาหารก็มีอยู่หลายตึก ลองเดิน ๆ ดูนะคะ  

สำหรับผู้สูงอายุ ไม่มีญาตพามา สามารถติดต่อขอเวรเปรที่เคาน์เตอร์พยาบาลได้ค่ะ  เค้ามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ ไม่ต้องนั่งรถเข็นเดินทางเอง

สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ  อย่าลืมงดกินหวาน มัน เค็ม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  หนึ่งมื้อหนึ่งจาน หรือออกกำลังกายโดยยืนแกว่งแขน 30 นาทีขึ้นไป  
แค่นี้ก็ลดโรคได้ค่ะ

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุก ๆ ท่าน นะคะ   ชีวิตที่ดี คือชีวิตที่แข็งแรงทั้งกายและใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่