หลังจากที่กระทู้ก่อนไฟลท์จาก Bangkok ไป Beijing ที่เราโดนเปลี่ยนสายการบินจาก Xiamen airlines ไปบิน Business class ของ Air China
กระทู้นี้ > https://ppantip.com/topic/38410362
Youtube > https://www.youtube.com/watch?v=6fU_IVnHyF0&t=238s

กลับมากระทู้นี้บ้าง คราวนี้ของจริงแล้ว บินจาก Beijing กลับ Bangkok ด้วย Xiamen airlines (แวะพักที่ Xiamen) พร้อมบริการ Transfer hotel สำหรับผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่อง ใช่ครับเข้าใจไม่ผิดเลย คือทางสารการบิน Xiamen เนี่ยมีบริการสำหรับผู้โดยสารที่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องดังต่อไปนี้คือ
1.    บริการ Lounge สำหรับผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป
2.    บริการ City tour สำหรับผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป
3.    บริการ Transfer hotel สำหรับผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป
ซึ่งไฟลท์ของเราบินออกจาก Beijing วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม แล้วจะมาถึง Xiamen ตอนค่ำ ๆ พักแวะ 18 ชั่วโมง แล้วบินออกจาก Xiamen กลับ Bangkok ตอนบ่ายวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม ซึ่งแน่นอนว่าเราตั้งใจเลือกใช้บริการ Transfer hotel อย่างแน่นอน
ปล.ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไฟลท์ที่แวะพักไม่นานก็มีนะครับ แต่เราตั้งใจเลือกไฟลท์ที่พักนาน ๆ เพราะอยากจะได้ดูบรรยากาศรอบ ๆ เมืองด้วย ถือว่าได้เที่ยวเพิ่มอีกหนึ่งเมือง เมืองที่สายการบินจะแวะพักมีอยู่สองเมืองก็คือ Xiamen แล้วก็ Fuzhou จริง ๆ ไฟลท์เดิมของเราเนี่ยขาไป Beijing จะพักที่ Fuzhou ส่วนขากลับจะพักที่ Xiamen แต่ขาไป Beijing นี่พังไปแล้ว 555 ก็เหลือทำรีวิวได้แค่ขากลับ Bangkok อ่ะโอเคมาเริ่มกันเลย

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม ไฟลท์ของเราคือ 16:05 เราก็มาถึงที่ Beijing Capital International Airport (Terminal  2) เวลา 14:00
Terminal นี้เราเข้ามาในส่วนที่เป็น Domestic


เราเห็นมีแต่ China Southern, China Eastern แล้วก็ Xiamen Air เข้ามาก็จะเห็นเครื่องเช็คอินอัตโนมัติเยอะแยะไปหมด




แต่มีแค่ของ China Southern กับ China Eastern ส่วนเราบินของ Xiamen ไม่มีเหมือนอย่างของเขา ก็ต้องเดินไปที่เคาท์เตอร์เท่านั้น 555



อ่ะพอเช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวเข้าไปใน Gate กัน แต่ดูสิขนาดเคาท์เตอร์กับ Boarding pass ยังต้องพึ่งบุญบารมีของ China Southern เลย น้องเล็ก Xiamen น่าสงสารจริง ๆ 555


ปล.กระเป๋าโหลดได้ คนละ 2 ใบ น้ำหนักรวมกันไม่เกิน 23 กิโลกรัมนะครับ อันนี้สำหรับคนที่จองตั๋วตั้งแต่หลังเดือนตุลาคม 2018 นะครับ ส่วนเราดันจองตั๋วตั้งแต่เมษายน ก็เลยโหลดกระเป๋าได้แค่ใบเดียว แต่น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัมเหมือนกัน

Security ของประเทศจีน คือเข้มงวดมาก ๆ ๆ ๆ คือตั้งแต่ก้าวเข้ามาในสนามบินแล้ว เช็คทั้งหมดก่อนหนึ่งครั้ง พอเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จก็ต้องเช็คอีกหนึ่งครั้ง (เข้มงวดในที่นี้คือไม่เหมือนของไทย ที่แบบจะมือถือ/กล้อง/พาวเวอร์แบงค์ ก็ใส่ไว้ในกระเป๋าทีเดียวได้ แต่ที่จีนคือไม่ได้เลย ต้องใส่ถาดต่างหากสำหรับของพวกนี้เท่านั้น) อ่ะไฟลท์นี้เป็นไฟลท์บินในประเทศ ก็เลยไม่ต้องผ่าน ตม. ตรวจอะไรต่าง ๆ เสร็จก็ไปที่ Gate กันเลย วันนี้เลขออกที่ Gate 45 ซึ่งเป็น Bus gate!! น้ำตาจะไหลเลย ณ จุดนั้น เพราะตอนนั้นอากาศที่ Beijing หนาวมาก -12 องศา การเดินอยู่ข้างนอกเป็นสิ่งที่ทรมานมาก 555