ต้องถือว่าเป็นสินค้าราคาแพงแห่งกรุงแฟรงค์เฟิร์ตศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งเยอรมนีเลยทีเดียว สำหรับสามทหารเสือ ลูก้า โยวิช เซบาสเตียน ฮัลเลอร์ และอันเต้ เรบิช โดยรายแรกให้เหตุผลว่าที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงกันขนาดนี้ก็เพราะเคมีในสนามที่เข้ากันได้ดี แต่คงไม่ใช่แค่เพียงเคมีเท่านั้นแน่ๆ เพราะภูมิศาสตร์ในการระบุตำแหน่งประตูก็แม่นยำกันทุกคน แถมฟิสิกส์แรงโน้มถ่วงของลูกยิงแต่ละลูกก็เป๊ะทั้งนั้น ถ้ายังเดินหน้าถล่มประตูกันด้วยอัตราเฉลี่ยแบบนี้ต่อไป คงไม่ต้องห่วงวิชาอะไรอีกแล้วนอกจากคณิตศาสตร์ต้องคิดสถิติกันให้วุ่นนี่แหละ…
โยวิช ดาวยิงเลือดเซิร์บถือเป็นหนึ่งในจอมถล่มประตูร้อนแรงที่สุดในบุนเดสลีกาขณะนี้ หลังตกอยู่ภายใต้เงาของอเล็กซ์ ไมเออร์ ศูนย์หน้าขาประจำแห่งแฟรงค์เฟิร์ตมานาน โดยในฤดูกาลนี้ทีม “อินทรีแดง-ดำ” ถล่มประตูคู่แข่งไปแล้วสูงเป็นอันดับ 3 ในลีกที่ 34 ประตู เป็นรองแค่เพียงโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (42) และ โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค (35) โดยที่ 26 ประตูที่เกิดขึ้นเป็นผลงานจากสามทหารเสือนี้เอง แถมยังจ่ายให้เพื่อนยิงกันเป็นว่าเล่นอีกด้วย ซึ่งจากทุกประตูที่ทีมทำได้ มีเพียง 2 ประตูเท่านั้นที่สามคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย งานนี้แฟรงค์เฟิร์ตคงพูดได้เต็มปากเลยว่าพวกเขาค้นพบกุญแจดอกสำคัญถึง 3 ดอกที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมแล้ว
โยวิชกับฟอร์ม 5 ดาว
แม้ว่าคนส่วนใหญ่อาจจะเคลือบแคลงใจกับฟอร์มที่พุ่งแรงของโยวิชในฤดูกาลนี้ แต่เมื่อไปพิจารณาสถิติกันแล้วบอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คแน่ๆ ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขามีโอกาสลงสนามเพียง 9 นัด แต่ก็สามารถยิงได้ถึง 8 ประตู รวมไปถึงประตูชัยจากลูกส้นมหัศจรรย์ในเกมปราบชาลเค่อ 04 ในศึกเดเอฟเบ
โพคาลรอบรองชนะเลิศด้วย และในฤดูกาลนี้เขาก็อัพเลเวลมาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการซัลโวคนเดียว 5 ประตูในเกมโค่นดุสเซลดอร์ฟ นับเป็นผู้เล่นต่างชาติคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ทำได้แบบนี้ ทำให้ในฤดูกาลนี้โยวิชยิงรวม 12 ประตูเข้าไปแล้ว
“นักเตะบางคนก็ไม่ได้ต้องการโอกาสมากมาย” อาดี ฮึทเทอร์ เฮ้ดโค้ชแฟรงค์เฟิร์ตกล่าว “อย่างเช่น ลูก้า โยวิช ที่ทุกการยิง 5 ครั้งจะเป็นประตู 4 ครั้ง เพราะเขาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า และเมื่อเขาอยู่ในกรอบเขตโทษ เขาจะรู้ดีว่าต้องยิงไปทางไหน”
โยวิชสามารถก้าวสู่ระดับเวิลด์คลาสได้ (ฮึทเทอร์)
แม้ฮึทเทอร์ กุนซือใหญ่ชาวออสเตรียจะเคยกล่าวว่า “คุณต้องระวังนักเตะระดับท็อปในทีมไว้ให้ดี” แต่ก็ดูเหมือนเขาจะลืมคำพูดนั้นไปแล้ว เมื่อเอ่ยปากชมโยวิชว่า “สำหรับผม เขามีความสามารถที่จะเป็นนักเตะเวิลด์คลาสได้เลย” ขณะเดียวกันโยวิชก็ได้ให้เครดิตกับกุนซือของเขาในเรื่องการให้อิสระในการแสดงฝีมือบนฟลอร์สนาม ซึ่งทีมก็ได้รับผลประโยชน์มาเต็มๆ และถึงตอนนี้แฟรงค์เฟิร์ตทำประตูคู่แข่งได้ในทุกนัดที่ลงเล่น
โควัชยังต้องเกรงฮัลเลอร์
แม้จะมีส่วนสูงถึง 6 ฟุต 3 นิ้วหรือ 190 เซนติเมตร แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหากับลีลาการเล่นฟุตบอลของฮัลเลอร์เลย นิโก้ โควัช อดีตกุนซือใหญ่ทีมแฟรงค์เฟิร์ตซึ่งกุมบังเหียน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิคในปัจจุบันถึงกับเคยพูดถึงฮัลเลอร์ว่า “รถบรรทุกยังเอาเขาไม่ลง!” ไม่เชื่อลองกลับไปดูประตูสุดน่าทึ่งที่ได้รับโหวตเป็นลูกยิงแห่งปีของ Bundesliga.com ดูได้เลยว่าดาวเตะรายนี้มีดีมากกว่าแค่ดาหน้าชนแหลก ในฤดูกาลที่ผ่านมาฮัลเลอร์ยิงในลีกไปทั้งหมด 9 ประตู แต่ในฤดูกาลนี้ ถึงตอนนี้เขายิง 9 ประตูเข้าไปแล้ว นอกจากนี้เขายังทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ เฉลี่ยแล้วในฤดูกาลนี้เขาจะยิงหรือจ่ายทุกๆ 68 นาทีที่ลงสนาม! “ผมกระหายในการยิงประตูอยู่เสมอ” ฮัลเลอร์กล่าว “แต่ผมชอบเล่นเป็นทีม ทีมต้องมาก่อน” การประสานงานของเขากับโยวิชและเรบิชในฤดูกาลนี้ช่วยให้เขายิงได้เป็นกอบเป็นกำ แม้ในช่วงต้นฤดูกาลเรบิชอาจจะยังโชว์ฟอร์มไม่ออกเท่าไหร่เพราะเหนื่อยล้าจากศึกฟุตบอลโลก
แถมยังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอีก แต่เขาก็ได้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายจนกลับมาฟิตสมบูรณ์ และมีส่วนในการทำประตูถึง 7 ลูกและยิงเอง 5 ประตูจากการลงสนามในบุนเดสลีกาไป 10 นัด เป้าหมายต่อไปคือต้องยิงอีกประตูเดียวก็จะทำสถิติยิงเท่ากับทั้งฤดูกาลที่แล้วจากการลงสนามถึง 25 นัด
ฮุมเมิลส์ยังต้องเอ่ยปากชม
เรบิชมีสถิติที่น่าสนใจที่ส่งผลต่อชัยชนะของทีม นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่แล้ว แฟรงค์เฟิร์ตสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 62 เปอร์เซนต์เมื่อเรบิชลงเป็นตัวจริง แต่ถ้าไม่มีเขาในสนาม ตัวเลขจะลดลงไปถึง 12 เปอร์เซนต์ มัทส์ ฮุมเมิลส์กล่าวว่า “เรบิชเหมือนเป็นศรธนู เขาสลัดหนีจากผมไป 2-3 เมตรแล้วยิงเข้าด้วยโอกาสแค่ครั้งสองครั้ง” ความเร็วของเรบิช บวกกับความนิ่งของฮัลเลอร์และความเฉียบคมของเรบิชทำให้แฟรงค์เฟิร์ตมีเกมรุกที่คู่แข่งต้องเกรงกลัว เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของเหล่ากองหลังในบุนเดสลีกาไปแล้ว
“เราอยากเล่นให้สนุก” (ฮัลเลอร์) บางคนอาจสงสัยว่าแฟรงค์เฟิร์ตฝากความหวังในการทำประตูไว้กับแข้งสามทหารเสือนี้มากเกินไปหรือเปล่า แต่รู้ไหมว่าสถิติถล่มประตูอันน่าทึ่งของแฟรงค์เฟิร์ตนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อเพียง 2 จาก 3 แข้งดังกล่าวได้ลงสนาม นั่นหมายความว่าถึงจะฟอร์มตกหรือบาดเจ็บไปสักคน แฟรงค์เฟิร์ตก็จะยังเป็นทีมที่น่ากลัวอยู่ดี ฮัลเลอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bundesliga.com ไว้ว่า “เราแค่อยากเล่นด้วยกันให้สนุก โยนความกดดันไปให้คู่แข่งแล้วสนุกกับมัน ผมไม่อยากให้เรากดดันตัวเอง แต่ทำงานเป็นทีม เล่นเพื่อเพื่อนร่วมทีม และมันก็ได้ผล”
credit : www.siasmport.co.th
โยวิช - ฮัลเลอร์ - เรบิช สามทหารเสือแห่ง “อินทรีแดง-ดำ” ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต
โยวิช ดาวยิงเลือดเซิร์บถือเป็นหนึ่งในจอมถล่มประตูร้อนแรงที่สุดในบุนเดสลีกาขณะนี้ หลังตกอยู่ภายใต้เงาของอเล็กซ์ ไมเออร์ ศูนย์หน้าขาประจำแห่งแฟรงค์เฟิร์ตมานาน โดยในฤดูกาลนี้ทีม “อินทรีแดง-ดำ” ถล่มประตูคู่แข่งไปแล้วสูงเป็นอันดับ 3 ในลีกที่ 34 ประตู เป็นรองแค่เพียงโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (42) และ โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค (35) โดยที่ 26 ประตูที่เกิดขึ้นเป็นผลงานจากสามทหารเสือนี้เอง แถมยังจ่ายให้เพื่อนยิงกันเป็นว่าเล่นอีกด้วย ซึ่งจากทุกประตูที่ทีมทำได้ มีเพียง 2 ประตูเท่านั้นที่สามคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย งานนี้แฟรงค์เฟิร์ตคงพูดได้เต็มปากเลยว่าพวกเขาค้นพบกุญแจดอกสำคัญถึง 3 ดอกที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมแล้ว
โยวิชกับฟอร์ม 5 ดาว
แม้ว่าคนส่วนใหญ่อาจจะเคลือบแคลงใจกับฟอร์มที่พุ่งแรงของโยวิชในฤดูกาลนี้ แต่เมื่อไปพิจารณาสถิติกันแล้วบอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คแน่ๆ ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขามีโอกาสลงสนามเพียง 9 นัด แต่ก็สามารถยิงได้ถึง 8 ประตู รวมไปถึงประตูชัยจากลูกส้นมหัศจรรย์ในเกมปราบชาลเค่อ 04 ในศึกเดเอฟเบ
โพคาลรอบรองชนะเลิศด้วย และในฤดูกาลนี้เขาก็อัพเลเวลมาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการซัลโวคนเดียว 5 ประตูในเกมโค่นดุสเซลดอร์ฟ นับเป็นผู้เล่นต่างชาติคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ทำได้แบบนี้ ทำให้ในฤดูกาลนี้โยวิชยิงรวม 12 ประตูเข้าไปแล้ว
“นักเตะบางคนก็ไม่ได้ต้องการโอกาสมากมาย” อาดี ฮึทเทอร์ เฮ้ดโค้ชแฟรงค์เฟิร์ตกล่าว “อย่างเช่น ลูก้า โยวิช ที่ทุกการยิง 5 ครั้งจะเป็นประตู 4 ครั้ง เพราะเขาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า และเมื่อเขาอยู่ในกรอบเขตโทษ เขาจะรู้ดีว่าต้องยิงไปทางไหน”
โยวิชสามารถก้าวสู่ระดับเวิลด์คลาสได้ (ฮึทเทอร์)
แม้ฮึทเทอร์ กุนซือใหญ่ชาวออสเตรียจะเคยกล่าวว่า “คุณต้องระวังนักเตะระดับท็อปในทีมไว้ให้ดี” แต่ก็ดูเหมือนเขาจะลืมคำพูดนั้นไปแล้ว เมื่อเอ่ยปากชมโยวิชว่า “สำหรับผม เขามีความสามารถที่จะเป็นนักเตะเวิลด์คลาสได้เลย” ขณะเดียวกันโยวิชก็ได้ให้เครดิตกับกุนซือของเขาในเรื่องการให้อิสระในการแสดงฝีมือบนฟลอร์สนาม ซึ่งทีมก็ได้รับผลประโยชน์มาเต็มๆ และถึงตอนนี้แฟรงค์เฟิร์ตทำประตูคู่แข่งได้ในทุกนัดที่ลงเล่น
โควัชยังต้องเกรงฮัลเลอร์
แม้จะมีส่วนสูงถึง 6 ฟุต 3 นิ้วหรือ 190 เซนติเมตร แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหากับลีลาการเล่นฟุตบอลของฮัลเลอร์เลย นิโก้ โควัช อดีตกุนซือใหญ่ทีมแฟรงค์เฟิร์ตซึ่งกุมบังเหียน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิคในปัจจุบันถึงกับเคยพูดถึงฮัลเลอร์ว่า “รถบรรทุกยังเอาเขาไม่ลง!” ไม่เชื่อลองกลับไปดูประตูสุดน่าทึ่งที่ได้รับโหวตเป็นลูกยิงแห่งปีของ Bundesliga.com ดูได้เลยว่าดาวเตะรายนี้มีดีมากกว่าแค่ดาหน้าชนแหลก ในฤดูกาลที่ผ่านมาฮัลเลอร์ยิงในลีกไปทั้งหมด 9 ประตู แต่ในฤดูกาลนี้ ถึงตอนนี้เขายิง 9 ประตูเข้าไปแล้ว นอกจากนี้เขายังทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ เฉลี่ยแล้วในฤดูกาลนี้เขาจะยิงหรือจ่ายทุกๆ 68 นาทีที่ลงสนาม! “ผมกระหายในการยิงประตูอยู่เสมอ” ฮัลเลอร์กล่าว “แต่ผมชอบเล่นเป็นทีม ทีมต้องมาก่อน” การประสานงานของเขากับโยวิชและเรบิชในฤดูกาลนี้ช่วยให้เขายิงได้เป็นกอบเป็นกำ แม้ในช่วงต้นฤดูกาลเรบิชอาจจะยังโชว์ฟอร์มไม่ออกเท่าไหร่เพราะเหนื่อยล้าจากศึกฟุตบอลโลก
แถมยังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอีก แต่เขาก็ได้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายจนกลับมาฟิตสมบูรณ์ และมีส่วนในการทำประตูถึง 7 ลูกและยิงเอง 5 ประตูจากการลงสนามในบุนเดสลีกาไป 10 นัด เป้าหมายต่อไปคือต้องยิงอีกประตูเดียวก็จะทำสถิติยิงเท่ากับทั้งฤดูกาลที่แล้วจากการลงสนามถึง 25 นัด
ฮุมเมิลส์ยังต้องเอ่ยปากชม
เรบิชมีสถิติที่น่าสนใจที่ส่งผลต่อชัยชนะของทีม นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่แล้ว แฟรงค์เฟิร์ตสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 62 เปอร์เซนต์เมื่อเรบิชลงเป็นตัวจริง แต่ถ้าไม่มีเขาในสนาม ตัวเลขจะลดลงไปถึง 12 เปอร์เซนต์ มัทส์ ฮุมเมิลส์กล่าวว่า “เรบิชเหมือนเป็นศรธนู เขาสลัดหนีจากผมไป 2-3 เมตรแล้วยิงเข้าด้วยโอกาสแค่ครั้งสองครั้ง” ความเร็วของเรบิช บวกกับความนิ่งของฮัลเลอร์และความเฉียบคมของเรบิชทำให้แฟรงค์เฟิร์ตมีเกมรุกที่คู่แข่งต้องเกรงกลัว เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของเหล่ากองหลังในบุนเดสลีกาไปแล้ว
“เราอยากเล่นให้สนุก” (ฮัลเลอร์) บางคนอาจสงสัยว่าแฟรงค์เฟิร์ตฝากความหวังในการทำประตูไว้กับแข้งสามทหารเสือนี้มากเกินไปหรือเปล่า แต่รู้ไหมว่าสถิติถล่มประตูอันน่าทึ่งของแฟรงค์เฟิร์ตนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อเพียง 2 จาก 3 แข้งดังกล่าวได้ลงสนาม นั่นหมายความว่าถึงจะฟอร์มตกหรือบาดเจ็บไปสักคน แฟรงค์เฟิร์ตก็จะยังเป็นทีมที่น่ากลัวอยู่ดี ฮัลเลอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bundesliga.com ไว้ว่า “เราแค่อยากเล่นด้วยกันให้สนุก โยนความกดดันไปให้คู่แข่งแล้วสนุกกับมัน ผมไม่อยากให้เรากดดันตัวเอง แต่ทำงานเป็นทีม เล่นเพื่อเพื่อนร่วมทีม และมันก็ได้ผล”
credit : www.siasmport.co.th