OTP ที่ทรูบอกว่าจะส่งมาให้เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะดึงเงินจากบัญชีธนาคารเข้าบัญชีทรูวอลเล็ตนั้น คือ OTP นี้จะส่งให้เจ้าของบัญชีทรูวอลเล็ตที่เป็นคนร้ายเท่านั้น ซึ่งไม่มีประโยชน์เพราะการผูกบัญชีสำเร็จไปแล้ว แต่จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเจ้าของบัญชีทรูวอลเล็ตกับเจ้าของบัญชีธนาคาร คือคน ๆ เดียวกัน การมี OTP แบบนี้จะช่วยให้มือไม่ลั่นเวลาดึงเงินจากบัญชีธนาคารเข้าทรูวอลเล็ต


แต่ในกรณีนี้ได้สิ้นสุดตั้งแต่การที่ผู้เสียหายได้กดยินยอมบนหน้า feed ของ KPLUS เพื่อสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติแล้ว หากเป็นคนทั่วไปที่ไม่เคยทำหรือไม่มีข้อมูลมากนักคงจะคิดว่าเป็นการแจ้งเตือนธรรมดา จากรูปจะเห็นได้ว่าข้อความที่ระบุว่าเป็นการหักบัญชีอัตโนมัติมีอยู่น้อยมาก บอกเพียงชื่อบริษัท อีเมล์ เลขที่บัญชี ที่ไม่ได้เน้นหรือทำตัวใหญ่ ๆ ให้ง่ายต่อการสังเกต แล้วข้อความเหล่านี้ก็ไม่ได้บอกเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ที่จะทำให้เจ้าของบัญชีได้รับรู้รับทราบว่าได้เลยว่าเป็นวัตถุประสงค์ใด อีกทั้งข้อความที่ต้องให้ยืนยันภายใน... เป็นการเร่งรัดให้ผู้เสียหายกดได้ง่ายคืนด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เพียงแค่ครั้งเดียว ถ้าเป็นการฟิชชิ่งในอีเมลคงจะแปลกใจและไม่กดแน่ ๆ แต่ข้อความนี้อยู่ในแอพการเงินของธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือ การกดยืนยันคงเป็นเรื่องไม่ยากเลยล่ะครับ



สิ่งที่ธนาคารกสิกรไทยกับทรูวอลเล็ตต้องทำเพื่อเพิ่มความปลอดภัยนั่นก็คือ การล็อกฟิลด์บางช่องไม่ให้ผู้ที่จะทำการผูกบัญชีนั้นกรอกได้เอง เช่น เบอร์โทรศัพท์ เลขที่บัตรประชาชน ควรดึงจากข้อมูลการลงทะเบียนยืนยันตัวตนของทรูวอลเล็ตมาใส่เท่านั้น เมื่อกดยืนยันในหน้านี้แล้วข้อมูลจากทรูวอลเล็ต ไปตรงกับฐานข้อมูลธนาคารแล้วเท่านั้นจึงจะส่งแจ้งเตือนไปยังหน้าฟีดของแอบ KPLUS เพื่อเป็นการยืนยันว่าบัญชีธนาคารที่จะเอามาผูกต้องเป็นบัญชีธนาคารของเจ้าของบัญชีทรูวอลเล็ตเท่านั้น

จะโทษ true กับ ธนาคาร อย่างเดียวไม่ได้นะครับ ตอนยืนยันการสมัครคนกดคือเจ้าของ เหมือนเราเซ็นสัญญาอะไรไปสักอย่างแล้วเราไม่ได้อ่านสัญญา แต่ก็เข้าใจ จขกทครับ ว่าไม่คุ้นชินเลยไม่ทันระวัง เคสนี้ไม่น่าจะมาด่าธนาคารกับทรูนะครับ แค่แนะนำก็พอ  ส่วนเรื่องตามจับคนร้ายคงไม่อยากครับ เบอมือถือที่ส่งtop ไปนั้นละ

ขอบคุณจขกทมากเลยคะที่ให้ความรู้ เราไม่เคยรู้รายละเอียกพวกนี้มาก่อนเลย! อีกอย่างเราไม่เคยสมัครบริการของTrue walletคะเลยไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครเลย และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือเกิดจากการโพสขายของออนไลน์ และเราพลาดที่กดยืนยันการสมัครโดยไม่อ่านให้ละเอียดเพราะไม่คิดว่าตะเป็นการเปิดช่องทางให้มิจฉาชีพมาทำธุรกรรมในบัญชีเราได้ โชคดีที่พลังsocialช่วยให้เราได้รับการติดต่อจากทั้งทางธนาคารและทางtrue

ล่าสุด 29/12/18 จากกรณีที่เกิดขึ้นเรามาอัปเดตความคืบหน้านะคะ ตอนนี้ทางธนาคารกสิกรได้ติดต่อเรามาแล้วคะ และทางธนาคารได้ทำการโอนเงินเยียวยาคืนเงินที่เราเสียไปให้แล้วแบบเต็มจำนวนครบทุกบาทที่เสียไปเราได้เงินคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้วคะ และธนาคารจะประสานกับทางtrue walletเพื่อหาตัวคนผิดและปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นคะ

#ขอบคุณทุกคนมากๆ🙏🙏🙏นะคะที่มาช่วยแสดงความคิดเห็น และช่วยกันแชร์ทำให้เราได้เงินคืนจากพลังsocial ขอให้เคสของเราเป็นกรณีศึกษากับทุกคนนะว่าสื่อออนไลน์สะดวกสบายจริงแต่อยากให้ทุกคนใช้อย่างสติ

**ข้อสำคัญที่สุดคือข้อมูลส่วนตัวเราถ้าไม่จำเป็นอย่าเปิดเผยข้อมูลให้คนอื่นเด็ดขาดคะ** การขายของออนไลน์ก็ดีแต่มันมีอันตรายซ่อนอยู่ถ้าเราใช้ไม่เป็นตอนนี้เราได้เปิดบัญชีใหม่และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้วคะและขอย้อนกลับไปทำธุรกรรมการเงินโดยการเดินเข้าธนาคารเองดีกว่า เป็นประสบการณ์ที่เตือนใจในชีวิตมากคะภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม