วันนี้ผมได้ปลงผมนาค โดยมีพระอาจารย์ของผมและญาติผู้ใหญ่มาร่วมปลงผม ในขณะที่ปลงผมครั้งแรกโดยท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์กล่าวว่า " ให้พิจารณาดูว่ามันเป็นของทิ้ง " พอผมได้พิจารณาลงไป ผมเห็นว่ามนุษย์ทุกคนในโลกมักจะคิดว่าเส้นผมหรือร่างกายนี้มันเป็นของเราเสมอ ทำนุบำรุงดูแลรักษามันอย่างดี แต่พอตัดมันทิ้ง เก็บเอาเส้นผมที่ตกหล่นมา แล้วถามว่านี่เส้นผมของเธอหรือไม่ มันยังเป็นผมของเธอจริงๆรึเปล่า คำตอบคือไม่ได้เป็นอีกต่อไป คนเราตัดผมตั้งแต่เด็กจนโต ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ก่อนตัดก็ดูแลพัดวีอย่างดี ทั้งย้อมสีทั้งตกแต่งประดัยจัดทรง แต่พอตัดทิ้งปุ๊บ กลับเมินเฉยไม่สนใจไม่รักไม่หวงมันซะอย่างนั้น หากเป็นผู้มีปัญญาญาณสูงส่ง จะพิจารณาออกทันทีทันใดว่า ไม่เฉพาะเส้นผมเท่านั้น ทั้งเล็บที่ตัดทิ้งตลอดชีวิต ทั้งขนที่หลุดร่วงออกไป ทั้งฟันที่ถูกถอน ทั้งหนังกำพร้าที่หลุดลอกเปลี่ยนสภาพไปตามวัย มันไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ของเรา ชีวิตมนุษย์อยู่กับสิ่งเหล่านี้มาทั้งชีวิต แต่ไม่เคยพิจารณาจริงๆจังๆเสียที คำถามที่ผมมักจะถามนักปราชญ์ขั้นสูง ผมถามว่าปัญหาในชีวิตมนุษย์คืออะไร ท่านเหล่านั้นตอบสั้นๆแต่ครอบคลุมอนันตจักรวาลว่า " การมีตัวตนของมนุษย์นั้นแหละคือปัญหา ตราบใดที่ยังมีตัวตนอยู่ ก็ย่อมมีปัญหาอยู่ " นี่เป็นธรรมะระดับโลกกุตรภูมิ ยากนักที่คนธรรมดาจะพิจารณาให้เข้าใจได้ถึงแก่นอย่างลึกซึ้ง สรุปคือตราบใดที่เรายังยึดมั่นในสิ่งทั้งหลายว่าเป็นตัวเป็นตน ยึดมั่นในสังขารร่างกายอันไม่เที่ยงแท้แน่นอนนี้ว่าเป็นตัวเรา ความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นวนเวียนอยู่ร่ำไปอย่างไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น
ก็ขอแชร์การพิจารณาธรรมก่อนบวชนี้ให้กับเพื่อนๆในห้องศาสนา หวังว่าน่าจะพอได้อะไรบ้างจากกะทู้นี้ครับผม
จาก เด็กวัดที่ตอนนี้เป็นนาคเตรียมตัวจะบวช
ธรรมะที่ได้ขณะปลงผมนาค ก่อนที่จะบวช
ก็ขอแชร์การพิจารณาธรรมก่อนบวชนี้ให้กับเพื่อนๆในห้องศาสนา หวังว่าน่าจะพอได้อะไรบ้างจากกะทู้นี้ครับผม
จาก เด็กวัดที่ตอนนี้เป็นนาคเตรียมตัวจะบวช