สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ใกล้เข้าปีใหม่แล้ว วันนี้ได้ฤกษ์มารีวิวผลิตภัณฑ์ Crème de la Mer ครีมในตำนานของแบรนด์นี้ เราได้รับเจ้าตัวนี้มาจากการเป็นผู้โชคดี ที่ได้ร่วมกิจกรรมใน pantip (ได้รับตัวทดลองมาลองก่อนหน้านี้ขนาด 3.5ml)


ต้นกำเนิดจากท้องทะเล Crème de la Mer ผลิตภัณฑ์อันเป็นตำนานที่มีคุณค่าในการช่วยฟื้นบำรุงผิว ให้ผิวแลดูนุ่มนวล กระชับ เรียบเนียน ริ้วรอยแห่งกาลเวลาดูเลือนรางลง รูขุมขนดูกระชับ แลดูอ่อนเยาว์' คำโปรยของผลิตภัณฑ์จากหน้า website La Mer มาดูกันค่ะว่าจริงมั้ย


ระยะเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ (รวมตอนใช้ขนาดทดลองด้วย) จนถึงตอนนี้ก็ใช้มาประมาณเกือบสี่เดือน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวจะมาแชร์ให้เพื่อนๆฟังประกอบการตัดสินใจว่าเจ้าตัวนี้คุ้มค่ากับการลงทุนบนผิวหน้าหรือไม่





ก่อนอื่นมาดูรูปร่างภายนอกของบรรจุภัณฑ์กันก่อน ตัวนี้เราได้ขนาด 60mlมา ลักษณะเป็นกระปุกแก้วสีขาวนวลดูสะอาด มาพร้อมกับที่ตักพลาสติก เอาไว้ตักครีมป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากมือเราไปถูกครีมที่อยู่ในกระปุก ตัวกระปุกดูภายในนอกอาจจะดูเหมือนไม่ใหญ่มาก แต่ขอบอกกระปุกนี้อาจจะใช้ได้จนเกือบปีเลยทีเดียว ข้างในมันอัดแน่นจริงๆค่ะ



มาดูตัวเนื้อครีมกันค่ะ เปิดมาจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อครีมสีขาวอัดแน่นกันมา (ในภาพคือมีการตักใช้งานแล้ว) ครีมเข้มข้นมาก


วิธีการบำรุงผิวหน้า จากการที่เนื้อครีมเข้มข้นมาก ทำให้ไม่เหมาะที่จะตักมาแล้วทาผิวเลย ทาง La Mer จึงมีวิธีทาครีมบำรุงผิวหน้าตัวนี้ โดยการ...
1.ใช้ที่ตักตักครีมมาเท่าเมล็ดถั่วเขียว (จริงๆแล้วแต่ขนาดใบหน้าของเพื่อนๆด้วยเน้อ)
2.วอร์มครีมที่มือตัวเอง โดยเอามือทั้งสองมาถูๆเนื้อครีมให้แตกตัวเป็นสีใส (เพื่อนอาจจะคิดว่าครีมอาจจะละลายไปกับมือ แต่ความจริงมันจะพอดีนะคะ ทำให้ครีมบนหน้าเราไม่หนาเกินไป)
3. เอามือทั้งสองข้างที่มีเนื้อครีมอยู่กดประสานบนใบหน้าแต่ละส่วนอย่างเบามือ (ถ้าวันไหนเพื่อนๆโมโหอารมณ์ไม่ดี ก็กดไปแรงๆเลยจ้า)
4.หลังจากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น กู้ดไนท์ไปนอนต่อได้ ถ้าทาตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาจะรู้สึกว่าหน้านุ่มฟูมาก

หลังจากลองใช้มาหลายเดือน จนเห็นถึงข้อดี ข้อเสียของเจ้าตัวนี้ วันนี้เราจะลิสต์มาให้ดูแต่ละข้อค่ะ

เอาข้อดีก่อนนะคะ
1.ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น
เท่าที่สัมผัสครีมตัวนี้จะทำให้หน้าเราชุ่มชื่น นุ่มน่าสัมผัส เพื่อนๆคนไหนมีปัญหาผิวแห้ง นี่แหละครีมที่คุณคู่ควร ตอบโจทย์คนที่ผิวแห้งมากๆ แต่ใช่ว่าคนผิวผสมผิวมันจะใช้ไม่ได้ เพราะประโยชน์ของเจ้าตัวนี้ไม่ได้มีแค่ข้อเดียว (สำหรับคนที่ผิวมันแนะนำให้ใช้เวลากลางคืน เพราะเนื้อครีมค่อนข้างหนัก)

2.ลดเลือนจุดด่างดำจากรอยสิว
เราเป็นคนที่สิวชอบขึ้นบนหน้าผาก แล้วบางทีก็ชอบบีบจนเป็นรอย รอยที่เป็นจะเป็นนานมากกว่าจะจาง แต่เจ้าครีมตัวนี้เริ่ดมากสำหรับเรา (อันนี้ชอบมาก) พอทาครีมไปสักพักสองสามวัน จะสังเกตได้ว่ารอยสิวดูจางลงมาก ดี!

3.ผิวละเอียด
หลังจากใช้สักพักผิวหน้าดูละเอียดขึ้น ถ้าบำรุงผิวตอนเช้าก่อนใช้เครื่องสำอาง จะรู้สึกว่าหน้าแน่นมาก อันนี้หมายความว่าดีนะ คือเครื่องสำอางมันจะอยู่ทนมาก หน้าเด้งมาเลย

ข้อเสีย
1.เนื้อครีมค่อนข้างข้น
หากใช้ผิดวิธีหรือใช้มากเกินอาจจะเกิดความอุดตัน โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน แต่แก้ได้คือเราก็ต้องวอร์มครีมก่อนทาผิวตามที่แบรนด์บอก

2.ความขาว
จริงๆก็ไม่น่าใช่ข้อเสีย เพราะทางแบรนด์ไม่ได้เน้นในเรื่องช่วยให้ผิวหน้าขาวขึ้น

ส่วนเรื่องราคาเพื่อนๆอาจคิดว่านี่เป็นข้อเสียอย่างหนึ่งเพราะราคาค่อนข้างแรงถ้าเทียบกับแบรนด์ดังๆบางแบรนด์ แต่จะบอกว่ากระปุกนึง อย่างเช่นกระปุกนี้ตามที่บอกข้างต้นขนาด 60ml อาจจะใช้ได้เกือบปีเลย ถ้าเอาราคาครีมมาหาร 12เดือน ก็ตกเดือนละพันนิดๆ ซึ่งมาคิดแล้วราคาก็ไม่ได้หนีจากแบรนด์อื่นๆมาก  

โดยรวม เราคิดว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวไม่ละเอียด ผิวขาดน้ำ มีริ้วรอย ตัวนี้คุ้มค่าที่จะลงทุนค่ะ ได้ใช้แล้วจะรู้สึกรักผิวตัวเองเลย ต้องลองดูค่ะ (ถ้ายังไม่มั่นใจ กลัวใช้แล้วไม่ถูกกับผิวก็ลองหาตัวทดลองมาใช้ก่อนก็ได้ค่ะ)