วันที่ 28 ธันวาคม 2561 - 15:39 น.
ภาพจาก @Cherprang BNK48
“เป็นปีที่มหัศจรรย์มากๆค่ะ” เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันแห่ง วง BNK 48 พูดถึงปี 2018 ว่าอย่างนั้น
แล้วขยายความเพิ่มว่า สำหรับเธอ ปีนี้ที่กำลังจะผ่านไปเป็นปีที่ “ตื่นตาตื่นใจและได้ทำอะไรหลายอย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ”
ไม่ว่าจะเป็นการขึ้น คอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์ ครั้งที่ 11 ของธงไชย แมคอินไตย์ ในฐานะแขกรับเชิญ รวมไปถึงการแสดงภาพยนตร์เรื่อง “โฮมสเตย์” ซึ่งทั้ง 2 งานดังกล่าว เฌอปรางบอกว่า “เหนือความคาดหมาย” และ “เลยความฝันของเฌอไปเยอะมาก”
“จากคนเคยดูที่อิมแพค (อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี) ชั้น 3 เห็นพี่เบิร์ดตัวเล็กๆบนเวที วันหนึ่งได้มายืนอยู่ข้างเขาบนเวที เป็นอะไรที่สุดมากๆ”
“จากเด็กที่ร้อง เต้น ไม่เป็น ใช้เวลาไม่กี่ปีเข้ามาตรงนี้ เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก” เฌอปรางว่า
ขณะเดียวกันการได้รับฟังคำสอนจาก ‘พี่เบิร์ด’ ก็มีส่วนช่วยให้เปิดความคิด และทำให้เธอมองงานที่ทำในมุมที่ลึกซึ้งขึ้น
“พี่เบิร์ดสอนให้ขยัน ซ้อมเยอะๆ และรักแฟนๆมากๆ ให้เต็มที่มากๆ เพราะเราไม่ได้เป็นแค่คนที่เต้นกินรำกิน เราเป็นคนที่มอบความสุขให้ทุกคน เป็นตัวกลางสื่อว่าเขาเจอเรื่องเครียดๆมา เข้ามาในคอนเสิร์ตเรา เข้ามารับความสุขจากเราไป แล้วเราก็ได้รับความสุขจากเขา”
“เฌอเองตอนแรกไม่ได้มีความฝันทางนี้มาก่อนเลยในชีวิต แค่ชอบในคอนเซ็ปต์ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ BNK 48 แล้วค่อยๆเรียนรู้ว่าวงการนี้เป็นอย่างไร มันจึงเป็นความพิเศษจริงๆที่ได้เจอพี่เบิร์ด ซึ่งโอ้โห! สุดยอดของการอยู่ในวงการของเฌอแล้ว เขาอยู่มา 30 กว่าปี”
“เราก็เหมือนรู้สึกอยากทำอาชีพนี้ต่อ เหมือนขึ้นเวทีเรื่อยๆแล้วติดใจเหมือนกัน มีความสุขค่ะ ทั้งสุขกับเราเอง และดีใจที่ได้มอบให้คนอื่น”
ในส่วนของงานภาพยนตร์ เฌอปรางบอกว่า เธอรู้สึกขอบคุณผู้กำกับ โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ มากที่ให้โอกาส และส่งผลให้ปีนี้ “เปิดโลกของเฌอมาก มากๆ”
ขณะเดียวกันยังส่งผลต่อการเป็นศิลปินของเธอและภาพรวมในวง
“เพราะฉะนั้นจึงเติบโตขึ้นเยอะมากจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าเทียบปีนี้กับปีที่แล้ว แบบคนละคนเลย รู้สึกว่ามีสกิลมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การแสดงจากศูนย์ เป็นคนที่แสดงหนังได้ อันนี้สำหรับเฌอคือสุดมาก”
กัปตันของวง ผู้เป็นขวัญใจแฟนๆยังบอกอีกว่า จะว่าไป ในปีนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย
“ตั้งแต่เพลงคุ้กกี้เสี่ยงทายปล่อยมา เริ่มเป็นกระแส แคน (นายิกา ศรีเนียน) กับ เมษา (จีนะ วิจารณะ) ก็ตัดสินใจไปในเส้นทางของตัวเอง ดีใจที่น้องหาเจอค่ะว่าอยากทำอะไร รวมถึงเฌอได้ไปงาน AKB ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย อันนี้ก็เกินความฝันไปเยอะมาก คือเราเป็นคนหนึ่งที่ติดตามวงนี้มาตลอด แล้ววันหนึ่งได้ไปอยู่กับเขา ไปออกซิงเกิลกับเขา ร่วมงานกับเขา มันไม่เคยอยู่ในหัวมาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะเป็นความจริงได้ เพราะฉะนั้นเป็นอะไรที่พูดไม่ออกเหมือนกันค่ะ เป็นความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ”
“ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เฌอได้มาอยู่ตรงนี้”
ส่วนการถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีดราม่ารายการ ‘ที่นี่ประเทศไทย’ เฌอปรางยิ้มนิดๆ ก่อนตอบ
“มองว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วเดี๋ยวก็ผ่านไปค่ะ เรารู้ว่าเราทำอะไร และยังมีคนที่มองเห็น มีคนที่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”
นอกจากนี้เธอยังบอกว่า “ปีที่แล้วการได้เข้า BMK 48 ก็โหดมากสำหรับเฌอแล้วนะ ในการปรับจากเด็กที่ร้อง เต้นไม่เป็น แล้วมาฝึก ก็เป็นความสุดแล้ว แต่ปีนี้คือสุดยิ่งกว่า มีเรื่องที่เข้ามาทำให้เฌอได้เรียนรู้ มีประสบการณ์อีกเยอะมาก การที่ต้องทำงานทุกวันโดยไม่มีวันหยุด เมื่อก่อนได้หยุดเสาร์ อาทิตย์รู้สึกว่ามันน้อย ปัจจุบันคือไม่ได้หยุดเลย แต่ก็รู้สึกแฮปปี้ที่ได้ทำ”
สำหรับปีหน้า เฌอปรางบอกว่าสิ่งที่จะมีมาฝากแฟนๆแน่ๆคือ การแสดงซีรีย์ที่วางแผนร่วมกับบริษัทไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน “ก็จะเป็นเรื่องของการออกมาช่วยเหลือผู้คนมากขึ้น คืนกลับให้สังคมมากขึ้น”
ส่วนจะช่วยแบบไหน ทำอะไร ได้เห็นแน่ในปี 2019 นี้
มติชนออนไลน์
ปีที่มหัศจรรย์และเกินฝัน ‘2018 อันสุดๆ’ ของเฌอปราง อารีย์กุล
ภาพจาก @Cherprang BNK48
“เป็นปีที่มหัศจรรย์มากๆค่ะ” เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันแห่ง วง BNK 48 พูดถึงปี 2018 ว่าอย่างนั้น
แล้วขยายความเพิ่มว่า สำหรับเธอ ปีนี้ที่กำลังจะผ่านไปเป็นปีที่ “ตื่นตาตื่นใจและได้ทำอะไรหลายอย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ”
ไม่ว่าจะเป็นการขึ้น คอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด โชว์ ครั้งที่ 11 ของธงไชย แมคอินไตย์ ในฐานะแขกรับเชิญ รวมไปถึงการแสดงภาพยนตร์เรื่อง “โฮมสเตย์” ซึ่งทั้ง 2 งานดังกล่าว เฌอปรางบอกว่า “เหนือความคาดหมาย” และ “เลยความฝันของเฌอไปเยอะมาก”
“จากคนเคยดูที่อิมแพค (อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี) ชั้น 3 เห็นพี่เบิร์ดตัวเล็กๆบนเวที วันหนึ่งได้มายืนอยู่ข้างเขาบนเวที เป็นอะไรที่สุดมากๆ”
“จากเด็กที่ร้อง เต้น ไม่เป็น ใช้เวลาไม่กี่ปีเข้ามาตรงนี้ เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก” เฌอปรางว่า
ขณะเดียวกันการได้รับฟังคำสอนจาก ‘พี่เบิร์ด’ ก็มีส่วนช่วยให้เปิดความคิด และทำให้เธอมองงานที่ทำในมุมที่ลึกซึ้งขึ้น
“พี่เบิร์ดสอนให้ขยัน ซ้อมเยอะๆ และรักแฟนๆมากๆ ให้เต็มที่มากๆ เพราะเราไม่ได้เป็นแค่คนที่เต้นกินรำกิน เราเป็นคนที่มอบความสุขให้ทุกคน เป็นตัวกลางสื่อว่าเขาเจอเรื่องเครียดๆมา เข้ามาในคอนเสิร์ตเรา เข้ามารับความสุขจากเราไป แล้วเราก็ได้รับความสุขจากเขา”
“เฌอเองตอนแรกไม่ได้มีความฝันทางนี้มาก่อนเลยในชีวิต แค่ชอบในคอนเซ็ปต์ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ BNK 48 แล้วค่อยๆเรียนรู้ว่าวงการนี้เป็นอย่างไร มันจึงเป็นความพิเศษจริงๆที่ได้เจอพี่เบิร์ด ซึ่งโอ้โห! สุดยอดของการอยู่ในวงการของเฌอแล้ว เขาอยู่มา 30 กว่าปี”
“เราก็เหมือนรู้สึกอยากทำอาชีพนี้ต่อ เหมือนขึ้นเวทีเรื่อยๆแล้วติดใจเหมือนกัน มีความสุขค่ะ ทั้งสุขกับเราเอง และดีใจที่ได้มอบให้คนอื่น”
ในส่วนของงานภาพยนตร์ เฌอปรางบอกว่า เธอรู้สึกขอบคุณผู้กำกับ โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ มากที่ให้โอกาส และส่งผลให้ปีนี้ “เปิดโลกของเฌอมาก มากๆ”
ขณะเดียวกันยังส่งผลต่อการเป็นศิลปินของเธอและภาพรวมในวง
“เพราะฉะนั้นจึงเติบโตขึ้นเยอะมากจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าเทียบปีนี้กับปีที่แล้ว แบบคนละคนเลย รู้สึกว่ามีสกิลมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การแสดงจากศูนย์ เป็นคนที่แสดงหนังได้ อันนี้สำหรับเฌอคือสุดมาก”
กัปตันของวง ผู้เป็นขวัญใจแฟนๆยังบอกอีกว่า จะว่าไป ในปีนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย
“ตั้งแต่เพลงคุ้กกี้เสี่ยงทายปล่อยมา เริ่มเป็นกระแส แคน (นายิกา ศรีเนียน) กับ เมษา (จีนะ วิจารณะ) ก็ตัดสินใจไปในเส้นทางของตัวเอง ดีใจที่น้องหาเจอค่ะว่าอยากทำอะไร รวมถึงเฌอได้ไปงาน AKB ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย อันนี้ก็เกินความฝันไปเยอะมาก คือเราเป็นคนหนึ่งที่ติดตามวงนี้มาตลอด แล้ววันหนึ่งได้ไปอยู่กับเขา ไปออกซิงเกิลกับเขา ร่วมงานกับเขา มันไม่เคยอยู่ในหัวมาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะเป็นความจริงได้ เพราะฉะนั้นเป็นอะไรที่พูดไม่ออกเหมือนกันค่ะ เป็นความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ”
“ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เฌอได้มาอยู่ตรงนี้”
ส่วนการถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีดราม่ารายการ ‘ที่นี่ประเทศไทย’ เฌอปรางยิ้มนิดๆ ก่อนตอบ
“มองว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วเดี๋ยวก็ผ่านไปค่ะ เรารู้ว่าเราทำอะไร และยังมีคนที่มองเห็น มีคนที่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”
นอกจากนี้เธอยังบอกว่า “ปีที่แล้วการได้เข้า BMK 48 ก็โหดมากสำหรับเฌอแล้วนะ ในการปรับจากเด็กที่ร้อง เต้นไม่เป็น แล้วมาฝึก ก็เป็นความสุดแล้ว แต่ปีนี้คือสุดยิ่งกว่า มีเรื่องที่เข้ามาทำให้เฌอได้เรียนรู้ มีประสบการณ์อีกเยอะมาก การที่ต้องทำงานทุกวันโดยไม่มีวันหยุด เมื่อก่อนได้หยุดเสาร์ อาทิตย์รู้สึกว่ามันน้อย ปัจจุบันคือไม่ได้หยุดเลย แต่ก็รู้สึกแฮปปี้ที่ได้ทำ”
สำหรับปีหน้า เฌอปรางบอกว่าสิ่งที่จะมีมาฝากแฟนๆแน่ๆคือ การแสดงซีรีย์ที่วางแผนร่วมกับบริษัทไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน “ก็จะเป็นเรื่องของการออกมาช่วยเหลือผู้คนมากขึ้น คืนกลับให้สังคมมากขึ้น”
ส่วนจะช่วยแบบไหน ทำอะไร ได้เห็นแน่ในปี 2019 นี้
มติชนออนไลน์