เจมี่ เร้ดแน็ปป์อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษกางแขนป้องลิเวอร์พูลไม่ได้ใช้เงินซื้อความสำเร็จเพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทุ่มมากกว่า 200 ล้านปอนด์ยังไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
"หงส์แดง"นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเวลานี้โดยมีคะแนนทิ้งห่างท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 6 คะแนน และมีโอกาสลุ้นแชมป์ลีกมาครองครั้งแรกในรอบ 28 ปี
ช่วงปีที่ผ่านมาทีมจากแอนฟิลด์ทุ่มเงินไปกว่า 250 ล้านปอนด์กับนักเตะอย่างเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อลิสซอน เบ็คเกอร์, นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่และเซอร์ดาน ชากิรี่
เร้ดแน็ปป์กล่าวว่า"เป็นเรื่องจริงที่คล็อปป์สามารถทุ่มเงินได้ในช่วง 12 เดือนหลัง"
"ตั้งแต่เดือนมกราคม ลิเวอร์พูลใช้เงินไปมากกว่า 250 ล้านปอนด์กับเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก, อลิสซอน เบ็คเกอร์นายประตูมือ 1 ทีมชาติบราซิลและเสริมในแดนกลาง"
"แต่พลังการซื้ออย่างเดียวไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 6 คะแนนเมื่อถึงครึ่งทางของฤดูกาลนี้หรอกนะ"
"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่ายเงินมากกว่าคล็อปป์ตลอด 3 ปีหลังเกือบ 200 ล้านปอนด์ และพวกเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนทีมลุ้นแชมป์สักหน่อย"
"ทีมลิเวอร์พูลที่ถล่มนิวคาสเซิ่ล 4-0 มีนักเตะที่มาจากทีมเยาวชนอย่างเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันแบ็คค่าตัว 8 ล้านปอนด์และเซอร์ดาน ชากิรี่ที่มาจากสโต๊คด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งในการซื้อสุดถูกของซัมเมอร์"
"คล็อปป์คือผู้จัดการทีมที่ไม่ได้มองหาแต่นักเตะเก่งๆ แต่ยังพัฒนาพวกเขาขึ้นมาด้วย โม ซาลาห์ไม่ใช่กองหน้าที่ยิง 40 ประตูแล้วก็เป็นคนมีลุ้นบัลลงดอร์ตอนที่ย้ายมาอยู่กับสโมสร"
"โจ โกเมซเปลี่ยนมาเป็นเซ็นเตอร์ตัวเลือกแรกของทีมชาติอังกฤษ นักเตะที่ก่อนจะเจ็บทำให้เดยัน ลอฟเรนกองหลังรองแชมป์โลกต้องเป็นสำรอง"
"หลังย้ายออกจากคอมฟอร์ท โซนที่อาร์เซน่อลเมื่อปีก่อน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เบนก็ดูจะเป็นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกก่อนที่เจ็บเข่ารุนแรงในรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ ลีก"
"สิ่งที่ยิ่งน่าจดจำกับพัฒนาการของลิเวอร์พูลภายใต้เยอร์เก้น คล็อปป์นั้นมันไม่ได้ถูกทำให้สั้นลงด้วยการเสียฟิลิปเป้ คูตินโญ่เพลย์เมคเกอร์ระดับโลกเท่านั้นหรอกนะ"
Credit : Soccersuck
เอาที่สบายใจเลยครับพี่ ขอเอาข้อความของท็อปเม้นท์ทางนั้นมาลงนะครับ เพราะผมเองก็ค่อนข้างเห็นด้วย กินใจดีทีเดียว
"ลิเวอร์พูล 250 ล้าน - 0 แชมป์ , มีโอกาสได้แชมป์พรีเมียร์ปีนี้
แมนยู 200 กว่าล้าน(ในสามปี) - แชมป์ยูโรป้า แชมป์ลีคคัพ = ไม่มีความสำเร็จ
ตามนั้นเลยครับพี่"
ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้สนใจมากถึงขนาดรู้ลึกไปถึงทุกตัวที่ลิเวอร์พูลซื้อเข้ามานะครับ แต่บางตัวที่แสดงผลงานเด่นๆ นี่ก็ต้องยกให้เขาว่าคุ้มค่าจริงๆ
เช่น
VVD แกร่งจริงครับ ตัวนี้ยอมรับทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาปีเดียวเท่านั้น แต่ก็สามารถเล่นในระดับเดียวกันกับเวส บราวน์ได้แล้ว (ขาดแค่ถ้วย)
Alisson ตัวนี้ไม่ต้องสืบ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม นี่ถ้าเล่นได้แบบนี้ไปทั้งฤดูกาล ผมจะยกให้อยู่ในระดับเดียวกับ ทิม ฮาวเวิร์ด (ในฤดูกาลแรกกับแมนยู) เลยทีเดียว
ชื่นชมครับ
สุดหล่อป้องหงส์ไม่ได้ซื้อความสำเร็จ-ชี้ผีช็อปเยอะกว่า 200 ล้านแชมป์ไม่ได้ลุ้น
"หงส์แดง"นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเวลานี้โดยมีคะแนนทิ้งห่างท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 6 คะแนน และมีโอกาสลุ้นแชมป์ลีกมาครองครั้งแรกในรอบ 28 ปี
ช่วงปีที่ผ่านมาทีมจากแอนฟิลด์ทุ่มเงินไปกว่า 250 ล้านปอนด์กับนักเตะอย่างเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อลิสซอน เบ็คเกอร์, นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่และเซอร์ดาน ชากิรี่
เร้ดแน็ปป์กล่าวว่า"เป็นเรื่องจริงที่คล็อปป์สามารถทุ่มเงินได้ในช่วง 12 เดือนหลัง"
"ตั้งแต่เดือนมกราคม ลิเวอร์พูลใช้เงินไปมากกว่า 250 ล้านปอนด์กับเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก, อลิสซอน เบ็คเกอร์นายประตูมือ 1 ทีมชาติบราซิลและเสริมในแดนกลาง"
"แต่พลังการซื้ออย่างเดียวไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 6 คะแนนเมื่อถึงครึ่งทางของฤดูกาลนี้หรอกนะ"
"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่ายเงินมากกว่าคล็อปป์ตลอด 3 ปีหลังเกือบ 200 ล้านปอนด์ และพวกเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนทีมลุ้นแชมป์สักหน่อย"
"ทีมลิเวอร์พูลที่ถล่มนิวคาสเซิ่ล 4-0 มีนักเตะที่มาจากทีมเยาวชนอย่างเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันแบ็คค่าตัว 8 ล้านปอนด์และเซอร์ดาน ชากิรี่ที่มาจากสโต๊คด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งในการซื้อสุดถูกของซัมเมอร์"
"คล็อปป์คือผู้จัดการทีมที่ไม่ได้มองหาแต่นักเตะเก่งๆ แต่ยังพัฒนาพวกเขาขึ้นมาด้วย โม ซาลาห์ไม่ใช่กองหน้าที่ยิง 40 ประตูแล้วก็เป็นคนมีลุ้นบัลลงดอร์ตอนที่ย้ายมาอยู่กับสโมสร"
"โจ โกเมซเปลี่ยนมาเป็นเซ็นเตอร์ตัวเลือกแรกของทีมชาติอังกฤษ นักเตะที่ก่อนจะเจ็บทำให้เดยัน ลอฟเรนกองหลังรองแชมป์โลกต้องเป็นสำรอง"
"หลังย้ายออกจากคอมฟอร์ท โซนที่อาร์เซน่อลเมื่อปีก่อน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เบนก็ดูจะเป็นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกก่อนที่เจ็บเข่ารุนแรงในรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ ลีก"
"สิ่งที่ยิ่งน่าจดจำกับพัฒนาการของลิเวอร์พูลภายใต้เยอร์เก้น คล็อปป์นั้นมันไม่ได้ถูกทำให้สั้นลงด้วยการเสียฟิลิปเป้ คูตินโญ่เพลย์เมคเกอร์ระดับโลกเท่านั้นหรอกนะ"
Credit : Soccersuck
เอาที่สบายใจเลยครับพี่ ขอเอาข้อความของท็อปเม้นท์ทางนั้นมาลงนะครับ เพราะผมเองก็ค่อนข้างเห็นด้วย กินใจดีทีเดียว
"ลิเวอร์พูล 250 ล้าน - 0 แชมป์ , มีโอกาสได้แชมป์พรีเมียร์ปีนี้
แมนยู 200 กว่าล้าน(ในสามปี) - แชมป์ยูโรป้า แชมป์ลีคคัพ = ไม่มีความสำเร็จ
ตามนั้นเลยครับพี่"
ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้สนใจมากถึงขนาดรู้ลึกไปถึงทุกตัวที่ลิเวอร์พูลซื้อเข้ามานะครับ แต่บางตัวที่แสดงผลงานเด่นๆ นี่ก็ต้องยกให้เขาว่าคุ้มค่าจริงๆ
เช่น
VVD แกร่งจริงครับ ตัวนี้ยอมรับทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาปีเดียวเท่านั้น แต่ก็สามารถเล่นในระดับเดียวกันกับเวส บราวน์ได้แล้ว (ขาดแค่ถ้วย)
Alisson ตัวนี้ไม่ต้องสืบ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม นี่ถ้าเล่นได้แบบนี้ไปทั้งฤดูกาล ผมจะยกให้อยู่ในระดับเดียวกับ ทิม ฮาวเวิร์ด (ในฤดูกาลแรกกับแมนยู) เลยทีเดียว
ชื่นชมครับ