บทความโดยเด็กหงส์ 🕊️ - ควันหลงเกมครึ่งฤดูกาล นักล่าที่อาจจะกลายเป็นเหยื่อ !!

คำเตือน : บทความโดยเด็กหงส์ 🕊️

จบไปเรียบร้อยสำหรับเกมแรกในช่วงสัปดาห์หฤโหดของกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ (เรือ ไก่ หงส์) หงส์แดงลิเวอร์พูลก็ทำได้ตามคาดกับชัยชนะสวยหรูที่ไม่รู้ว่าราฟา บรรจงนำมามอบให้ถึงที่เลยหรือเปล่า

ส่วนไก่เดือยทองก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนุ่มเกาหลี เฮอริเคน และอีริคเซ่น ที่พอยิงประตูแรกในฤดูกาลได้แล้ว พี่แกก็ล่อติดๆกันได้ 3 เกมเลย

จะมีก็แต่เรือใบสีฟ้า ที่เกิดอาการช๊อตไปอย่างไม่น่าเชื่อ จนแพ้ไปถึง 3 จาก 4 เกมล่าสุด ซึ่งเปมที่แพ้ถ้าไม่นับเกมกับเชลซีก็ต้องบอกว่าเรือใบยังเล่นเกมรุกได้วูบวาบน่ากลัว ขาดเพียงจังหวะสุดท้ายเท่านั้น ขณะเดียวกัน เกมรับก็ไม่เป๊ะเหมือนต้นดูกาล เมื่อรวมกับการเจอลูกยิงแต่ละดอก ที่จับคนยิงมาเตะใหม่อีกสิบทีก็ยังทำไม่ได้! มันก็เลยทำให้ผลการแข่งขันกลายเป็นอย่างที่เห็น

ผลงานที่ยอดเยี่ยมและมิติในเกมใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพ ยกความดีส่วนใหญ่ให้เค้าได้เลย

วกกลับมาที่เกมการแข่งขันของหงส์แดง ซึ่งวันนี้แผงหลังส่งอาโนลด์ลงตัวจริง ขณะที่แดนกลางใช้เฮนโดคู่ดุม ให้ฟีโน่เป็นกลางรุก และส่งชากิรี่เป็นตัวจริงในริมเส้นฝั่งขวา

รูปเกมเป็นหงส์แดงที่ครองเกมรุกอยู่ตลอดเวลา โดยที่ไม่ได้ทำการเร่งจังหวะเกมรุกมากมายนัก แต่กลับค่อยๆถ่ายบอล นวดไปเรื่อยๆจนสาลิกาดงพลาดเอง จนในที่สุดก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่นิวคาสเซิลเคลียร์บอลไม่ขาด และเป็นลอฟเรนที่บรรจงยิงเข้าไปอย่างสวยงาม จากนั้นเกมก็เป็นในรูปแบบเดิมจนกระทั่งจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเหมือนเป็นการซ้อมการเข้าทำของหงส์แดง เพราะนิวคาสเซิ่ลพลาดเสียจุดโทษในแต่นาทีที่ 3 ของครึ่งหลัง นั่นทำให้การแก้เกมต่างๆนาๆ ที่ราฟาวางไว้จบเห่ทันที ลิเวอร์พูลเล่นง่าย กองหลังไม่พลาด และสุดท้ายก็ยิงได้เบาๆอีก 2 ลูก จนจบเกมด้วยสกอร์ 4-0 และทำให้ประตูได้เสีย (+36) เท่ากับแมนซิตี้พอดี 😁😁

บทสรุปของเกมนี้ ไม่สามารถวัดอะไรได้ เพราะทั้งสองทีมนี้ต่างกันเกินไปทั้งคุณภาพนักเตะและ Team work ซึ่งผลลัพธ์ก็คงเป็นไปตามการคาดการณ์ของแฟนบอลส่วนใหญ่ แต่ในส่วนตัวแล้ว ด้วยความที่เป็นกองเชียร์ของทีมที่เพิ่งหัดลุ้นแชมป์ได้ไม่นาน  มันก็ทำให้แอบหวั่นใจอยู่ ทั้งๆที่กองเชียร์นิวคาสเซิลเองยังจนใจและมองไม่เห็นแม้กระทั่งทางเอาตัวรอดเลย

ต้องชื่นชมกับแผนกองกลางสามเหลี่ยมของคลอป ที่ทำให้คู่กลางสามารถเล่นแบบส่งเสริมกันได้อย่างโดดเด่น จนทำให้ครองเกมรุกได้แทบจะเบ็ดเสร็จ และขณะเดียวกันก็ยังแบ่งเบาภาระของเกมรับได้ดีอีกด้วย และนาทีนี้เหมือนกับว่าสูตร 4-2-1-3 จะกลายเป็นแผนที่ลงตัว และทำให้เกมรุกและรับอยู่ในแนวทางที่สมดุลที่สุดแล้ว

ฟอร์มโดยนวมวันนี้ นักเตะตัวจริงของหงส์แดง เล่นกันได้ดีกันทุกคนจะดูเคอะเขินหน่อยก็แค่ฟีร์มิโน่เท่านั้น ส่วนสตาร์คนอื่นๆ ทำได้ดีถึงดีมากกันทุกตัว

อลิสซอน มีจังหวะออกมาเป็นกองหลังตัวสุดท้าย และบังทางจนทำซุปเปอร์เซฟและเก็บคลีนชีตได้ เป็นผู้รักษาประตูที่ใช้มันสมองในการเล่นมากๆ เปรียบได้เป็นอิเนสต้าในตำแหน่งโกลคีปเปอร์ 🥰🥰

แบ็คสองฝั่ง ซ้อมเกมรุกกันมันส์บรรลัยเลย

ลอฟเรน เด็ดขาด และมีประตูสวยๆช่วงต้นเกม ทำให้ทีมเล่นได้อย่างผ่อนคลาย

ฟานไดจ์ มีจังหวะปล่อยให้กองหน้านิวคาสเซิลโหม่งได้ในต้นเกม นอกจากนั้นก็เก็บเรียบ และที่โคตรพิเศษก็คือ จังหวะที่ชิงจังหวะตัดบอลนั้น เค้าบังคับทิศทางบอลส่งต่อไปให้เพื่อนเล่นเกมบุกต่อได้ทันทีเลย เก่งจนไม่อยากจะชมละฮะ 😁

เด่นทุกเกม ห้ามเจ็บห้ามตายสำหรับเบอร์ 4 คนนี้


เฮนโด ดุม เป็นเกมที่ไม่ต้องทำอะไรมาก เล่นตามจังหวะเกมและทำได้ดีทั้งคู่ บงการแดนกลางให้อยู่ในคอนโทรลได้ดีเยี่ยม

ฟีร์มิโน มีจังหวะทำเกม เชื่อมเกมดีๆหลายที แต่ก็มีพลาดเสียบอลบ่อยเช่นกัน ที่เห็นชัดเจนคือติดการครองบอลกับตัวนานเกินไป น่าจะติดมาจากการที่เคยเป็นฟอลสส์ไนน์ คงต้องปรับตัวในตำแหน่งใหม่อีกระยะ แต่ยังไงก็เป็นคนสำคัญของทีมอยู่ดี เพราะความขยันที่มีมันจะคอยสร้างโอกาสให้ทีมเสมอ

มาเน่ สร้างสรรเกมได้ดีมาก จังหวะจบสกอร์คม ไม่คม นัดเว้นนั้น เกมนี้เสียดายไม่มีชื่อในสกอร์บอร์ด

ชากิรี่ โดดเด่นมากกับการเล่นฝั่งขวา มีอิสระในการรุกเต็มที่ ยิงไป 6 ประตูจาก 14 เกมเข้าไปแล้ว เป็นหนึ่งในการซื้อผู้เล่นที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ของพรีเมียร์ลีค

ซาลาห์ ไม่ชมละนะเจ็บปาก 😛😛 ถึงโอกาสจะไม่เยอะ แต่ได้บอลเมื่อไรก็ป่วนแนวรับซะเละเทะ ยิง 1 จ่าย 1 เบาๆกันไป

ฟาบินโญ่ ประตูแรกไปแล้วหลังจากเล่นดีมาอย่างต่อเนื่อง เท่ากับว่า 4 ตัวใหม่ที่ซื้อมา มี 2 ตัวที่เล่นโคตรดี 1 ตัวที่กำลังจะดีมาก และอีก 1 ตัวที่กำลังปรับตัว ถือว่าเป็นการทุ่มเม็ดเงินที่ประสบความสำเร็จ และยกระดับทีมขึ้นมาได้อย่างดีเยี่ยม

ดีวันดีคืน และทำให้แผงกลางยืดหยุ่นที่สุดตั้งแต่หมดยุค เจิด ชาย มาสเค 🤩🤩


ไคลน์ ได้เล่นแบ๊คซ้าย พูดได้คำเดียวว่าโคตรไม่เหมาะ เล่นพลาด ผิดจังหวะ แต่ว่าอะไรไม่ได้กับตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งเล่นครั้งแรก ดีที่เกมขาดและเป็นการพักตัวหลักอย่าง รบส เท่านั้น

สเตอริดจ์ มีจังหวะครองบอลทำเกมไม่บ่อย ยังวัดอะไรไม่ค่อยได้

ส่วนนักเตะอีกฝั่งอย่างจามาล ลาสเซเลส ไม่เห็นอะไรดีในตัวเลย พลาดเยอะ ยืนหลวม ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีข่าวกับเชลซีได้

การชนะในเกมนี้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และโชว์ให้เห็นว่าหงส์แดงมีองค์ประกอบทีมที่ลงตัวมาก ทั้งหลังแกร่ง กลางแข็ง หน้าคม และประตูหล่อ 😂🤣

และจากการที่เรือใบได้ล่มปากอ่าวเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน นั่นก็ทำให้สถานการณ์ตอนนี้หงส์แดงกำลังกลายเป็นเหยื่อผู้ถูกล่าจากหลายสารทิศ ดังนั้นถึงจะมีช่องว่างอยู่ 6 คะแนน แต่ว่าจำนวนนักล่าที่ตะบึงเข้ามาและพร้อมที่จะตะครุบมันหลากหลายขึ้น ความกดดันมันจะเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

และถึงแม้นักเตะทั้งทีมแทบจะไม่มีประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์ลีค แต่อย่าลืมว่าผู้นำอย่างคลอปได้ก้าวผ่านจุดนี้มาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นงานหนักก็จะอยู่ที่ผู้นำ ที่ต้องดูแลสภาพความพร้อมทั้งด้านร่างกาย และทางด้านจิตใจ

ในด้านร่างกาย ไม่กังวลมากเท่าใดนักเนื่องจากนักเตะที่ต้อลงบ่อยๆก็ยังคงสภาพความฟิตได้ดีอย่างเหลือเชื่อ นั่นแสดงว่าทีมแพทย์ของลิเวอร์พูลคงมีกลวิธีในการดูแลนักเตะเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะถ้าจำได้ช่วงที่คลอปคุมทีมในปีแรกๆ หงส์จะพบปัญหานักเตะเจ็บตอนฝึกซ้อมบ่อยมาก แต่ระยะหลังแทบไม่พบปัญหานี้เลย กลับกัน นักเตะที่จำเป็นต้องลงทุกนัด ทีมงานก็มีวิธีในการดูแลจนเค้าสามารถลงสนามได้อย่างต่อเนื่องด้วยฟอร์มที่ดีอีกต่างหาก 💪💪

ส่วนด้านจิตใจ ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมในตอนนี้มันส่งผลให้นักเตะทั้งทีมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่!! ต้องไม่ลืมว่าอะไรก็ตามที่ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งดีๆ แต่ถ้ามันมากเกินไปมันสามารถที่จะส่งผลร้ายกลับมาได้เช่นกัน ตัวอย่างไม่ต้องมองไปไกล ดูที่เรือใบได้เลย จากวิธีการเล่นที่มั่นใจในเกมรุก ที่มีอาวุธหนักมากมาย ดังนั้นทีมจึงเปิดเกมรุกเต็มตัว ซึ่งมันก็เป็นรูปแบบเกมที่หลายๆทีมอิจฉาอยู่แล้ว แต่เมื่อเกมรุกขาดความเด็ดขาด บวกทั้งการประมาทในเกมรับ มันก็เลยทำให้ทีมสะดุดแพ้ 3 จาก 4 เกมแบบไม่น่าเชื่อ

นั่นจึงเป็นงานสำคัญที่คลอปจะต้องคอยปลุกเร้าให้กำลังใจทีมอยู่เสมอควบคู่ไปกับการเตือนไม่ให้ลูกทีมเกิดอาการย่ามใจจนกลายเป็นความประมาท ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นคลอปจัดการตรงนี้ได้ดี ด้วยการถ่อมตนออกสื่อในทุกครั้งที่มีการสัมภาษณ์

ณ เวลานี้ ก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สถานการณ์จะพลิกผันมาเข้าทางหงส์แดงได้ถึงขนาดนี้ จุดเปลี่ยนอย่างนึงก็คงเป็นความเอื้อเฟื้อของพิคฟอร์ด ที่ทำให้ลิเวอร์พูลได้ชัยชนะแบบเซอร์ไพรส์ ทำให้ไม่โดนเรือใบทำแต้มทิ้งห่าง และหลังจากเกมนั้นไม่รู้ว่าคลอปจัดการอะไรกับทีม เพราะลิเวอร์พูลกลับมาโชว์ฟอร์มสุดแกร่ง โดยเฉพาะเกมรุกที่วูบวาบ และลงตัวมากกว่าเดิม และทำให้ทีมเปลี่ยนสถานะจากนักล่า กลายเป็นผู้ถูกล่าที่ต้องวิ่งหนีฝูงไก่ เรือ และสิงโตน้ำเงิน

สองนักล่าที่พร้อมจะขย้ำหงส์ทุกเวลา 6 แต้มไม่ได้มากมายเกินที่จะไล่ทัน


จากนี้ไปหงส์จะต้องเจอกับเกมสองนัดสุดสำคัญที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเก็บให้ได้ 4 แต้มเป็นอย่างน้อย เพราะว่านักล่าที่วิ่งไล่กวดมานั้น มีเขี้ยวเล็บที่พร้อมจะตะปบเหยื่ออยู่ทุกเมื่อ ดังนั้นด้วยระยะห่างที่พอตัว ทุกย่างก้าวที่จะวิ่งหนีต่อจากนี้ไป ไม่จำเป็นต้องเร่งก้าวอย่างผลีผลาม หงส์แดงยังมีโอกาสมองเส้นทางที่จะก้าวไปข้างหน้า ว่ามีหลุมมีบ่อ หรือมีเปลือกกล้วยอยู่รึเปล่า 🤣😂 จากนั้นจึงก้าวไปด้วยความชัวร์ เพราะถ้าก้าวผิด อาจจะลื่นล้มหัวแตก และอาจจะกลับกลายเป็นหงส์โหยที่ต้องวิ่งไล่จับเหยื่ออีกครั้งนึงก็ได้ฮะ 😂😂
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่