จริงๆแล้ว You เป็นซีรีส์ของทางช่อง Life Time ที่ออนแอร์ไปตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2561 ซึ่งหลังจากจบซีซั่นหนึ่ง ก็เตรียมสร้างซีซั่นสองต่อเลยทันที ส่วนในประเทศไทยจะสตรีมให้ชมกันทาง Netflix ในวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ซึ่งมาพร้อมกับซับไทย
สตรีมวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ทาง Netflix:
https://www.netflix.com/title/80211991
เว็บไซต์ออฟฟิเชี่ยล:
https://www.mylifetime.com/shows/you
พล็อตและเรื่องย่อก็ว่าด้วยโจที่ทำงานในร้านขายหนังสือ วันหนึ่งเจอกับแบ็คสาวสวยในร้านนั้น เขาแอบสืบตามประวัติและทำทุกอย่าง เพื่อให้เธอมาตกหลุมรักเขาแม้จะต้องฆ่าใครก็ตาม
ที่ต้องเอ่ยชมซีรีส์เรื่องนี้ก่อนเลยก็คือนางเอกที่แสดงโดย Elizabeth Lail เป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยแบบผู้หญิงเองมองก็ยังแทบจะละลายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตอนยิ้ม ตอนหน้าบึ้ง ตอนโกธร หรือตอนอยู่นิ่งๆเฉยๆก็ตาม ไม่แปลกใจเลยที่ตัวละครโจจะตกหลุมรักและทำทุกอย่างเพื่อให้เธอตกหลุมรักเขาคืน ส่วนพระเอกของเรื่องที่แสดงโดย Penn Badgley ซึ่งมีผลงานที่ผ่านมาก็คือซีรีส์สุดดังอย่าง Gossip Girl ที่ตัวเขาเองรับบทเป็น แดน ฮัมฟรีย์ ในเรื่องนี้เขาแสดงเป็นคนสุดโรคจิต ซึ่งโคตรฉลาด ฉลาดมาก ฉลาดเป็นกรด แถมแสดงได้แบบเข้าถึงบทบาทกับคนที่มีเรื่องราวในอดีตที่ต้องปกปิด
ส่วนเนื้อเรื่องนั้น ถ้าอ่านพล็อตเรื่องดีๆก็คงจะพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่ได้ถูกเอ่ยในพล็อตเรื่องย่อให้ได้ลุ้นและสนุกไปกับซีรีส์ ทั้งเรื่องราวในอดีตที่ยังไม่ถูกเปิดเผย เรื่องราวบางเรื่องที่คาดการณ์ไม่ถึง และด้วยความโรคจิตของโจ เราจึงไว้ใจอะไรในตัวละครนี้ไม่ได้เลย โจพยายามเข้าข้างตัวเองในทุกๆการกระทำ ไม่ว่าจะดีหรือต้องไปทำร้ายใครก็ตาม หลักๆแล้วเขาแค่ต้องการให้ Guinevere Beck สาวที่ตัวเองรักปลอดภัย แล้วก็ยังคิดอีกว่าที่ๆปลอดภัยที่สุดก็คือเธอคนนั้นต้องมาเป็นของๆตัวเขาเองซะนี่
ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเราจริงๆ มันคงโคตรน่ากลัวมากๆเลย นี่คือแค่ขนาดดูซีรีส์เราก็ระแวงแทนตัวละครเบ็คแล้วล่ะ อีกอย่างหนังมันก็สะท้อนให้เห็นถึงการที่เราเปิดโซเชียลทุกอย่างของเราเป็น Public ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆเช่นกัน
จริงๆแล้วทุกคนก็คงจะมีด้านมืดของตัวเอง โจก็เช่นกัน เขาใช้ด้านมืดของตัวเองไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เอาจริงๆคนดูอย่างเราก็แอบลุ้นไปว่าโจจะสามารถละทิ้งด้านมืดของตัวเองแล้วเดินทางสายสว่างได้ไหมนะ
และอีกประเด็นที่น่าสนใจจากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ หากคนที่เราคิดว่าเขาเป็นฮีโร่ คอยช่วยเหลือ คอยแทคแคร์เราทุกอย่าง กลับกลายเป็นตัวร้ายที่มักจะฉกฉวยโอกาสไปจากเราอยู่เสมอๆล่ะ จะเป็นยังไง
นอกจากนี้หนังยังหยิบยืมพล็อตมาเล็กน้อยจากหนังเรื่อง Gone Girl ซึ่งคิดว่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดเลยล่ะ ลองคิดดูสิ ในเรื่อง Gone Girl อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งๆนั้นมันได้อยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ซึ่งจะว่าไปมันก็โคตรดีเลยจริงๆ (ถ้าบอกไป ก็คงจะเป็นการสปอยล์ซีรีส์ทั้งเรื่องเลยแน่ๆ)
You (season 1, 2018)
1. Facebook:
http://bit.ly/2rX0njb
2. Minimore:
http://bit.ly/2rYeHYV
3. Pantip:
http://bit.ly/2rUphQy
4. Twitter:
http://bit.ly/2GJfKpL
You (season 1), A- | ความรักกับความหมกมุ่น มีเส้นบางๆกั้นอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆแล้ว You เป็นซีรีส์ของทางช่อง Life Time ที่ออนแอร์ไปตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2561 ซึ่งหลังจากจบซีซั่นหนึ่ง ก็เตรียมสร้างซีซั่นสองต่อเลยทันที ส่วนในประเทศไทยจะสตรีมให้ชมกันทาง Netflix ในวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ซึ่งมาพร้อมกับซับไทย
สตรีมวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ทาง Netflix: https://www.netflix.com/title/80211991
เว็บไซต์ออฟฟิเชี่ยล: https://www.mylifetime.com/shows/you
พล็อตและเรื่องย่อก็ว่าด้วยโจที่ทำงานในร้านขายหนังสือ วันหนึ่งเจอกับแบ็คสาวสวยในร้านนั้น เขาแอบสืบตามประวัติและทำทุกอย่าง เพื่อให้เธอมาตกหลุมรักเขาแม้จะต้องฆ่าใครก็ตาม
ที่ต้องเอ่ยชมซีรีส์เรื่องนี้ก่อนเลยก็คือนางเอกที่แสดงโดย Elizabeth Lail เป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยแบบผู้หญิงเองมองก็ยังแทบจะละลายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตอนยิ้ม ตอนหน้าบึ้ง ตอนโกธร หรือตอนอยู่นิ่งๆเฉยๆก็ตาม ไม่แปลกใจเลยที่ตัวละครโจจะตกหลุมรักและทำทุกอย่างเพื่อให้เธอตกหลุมรักเขาคืน ส่วนพระเอกของเรื่องที่แสดงโดย Penn Badgley ซึ่งมีผลงานที่ผ่านมาก็คือซีรีส์สุดดังอย่าง Gossip Girl ที่ตัวเขาเองรับบทเป็น แดน ฮัมฟรีย์ ในเรื่องนี้เขาแสดงเป็นคนสุดโรคจิต ซึ่งโคตรฉลาด ฉลาดมาก ฉลาดเป็นกรด แถมแสดงได้แบบเข้าถึงบทบาทกับคนที่มีเรื่องราวในอดีตที่ต้องปกปิด
ส่วนเนื้อเรื่องนั้น ถ้าอ่านพล็อตเรื่องดีๆก็คงจะพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่ได้ถูกเอ่ยในพล็อตเรื่องย่อให้ได้ลุ้นและสนุกไปกับซีรีส์ ทั้งเรื่องราวในอดีตที่ยังไม่ถูกเปิดเผย เรื่องราวบางเรื่องที่คาดการณ์ไม่ถึง และด้วยความโรคจิตของโจ เราจึงไว้ใจอะไรในตัวละครนี้ไม่ได้เลย โจพยายามเข้าข้างตัวเองในทุกๆการกระทำ ไม่ว่าจะดีหรือต้องไปทำร้ายใครก็ตาม หลักๆแล้วเขาแค่ต้องการให้ Guinevere Beck สาวที่ตัวเองรักปลอดภัย แล้วก็ยังคิดอีกว่าที่ๆปลอดภัยที่สุดก็คือเธอคนนั้นต้องมาเป็นของๆตัวเขาเองซะนี่
ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเราจริงๆ มันคงโคตรน่ากลัวมากๆเลย นี่คือแค่ขนาดดูซีรีส์เราก็ระแวงแทนตัวละครเบ็คแล้วล่ะ อีกอย่างหนังมันก็สะท้อนให้เห็นถึงการที่เราเปิดโซเชียลทุกอย่างของเราเป็น Public ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆเช่นกัน
จริงๆแล้วทุกคนก็คงจะมีด้านมืดของตัวเอง โจก็เช่นกัน เขาใช้ด้านมืดของตัวเองไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เอาจริงๆคนดูอย่างเราก็แอบลุ้นไปว่าโจจะสามารถละทิ้งด้านมืดของตัวเองแล้วเดินทางสายสว่างได้ไหมนะ
และอีกประเด็นที่น่าสนใจจากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ หากคนที่เราคิดว่าเขาเป็นฮีโร่ คอยช่วยเหลือ คอยแทคแคร์เราทุกอย่าง กลับกลายเป็นตัวร้ายที่มักจะฉกฉวยโอกาสไปจากเราอยู่เสมอๆล่ะ จะเป็นยังไง
นอกจากนี้หนังยังหยิบยืมพล็อตมาเล็กน้อยจากหนังเรื่อง Gone Girl ซึ่งคิดว่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดเลยล่ะ ลองคิดดูสิ ในเรื่อง Gone Girl อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งๆนั้นมันได้อยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ซึ่งจะว่าไปมันก็โคตรดีเลยจริงๆ (ถ้าบอกไป ก็คงจะเป็นการสปอยล์ซีรีส์ทั้งเรื่องเลยแน่ๆ)
You (season 1, 2018)
1. Facebook: http://bit.ly/2rX0njb
2. Minimore: http://bit.ly/2rYeHYV
3. Pantip: http://bit.ly/2rUphQy
4. Twitter: http://bit.ly/2GJfKpL