สวัสดีครับ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาผมได้ไปเที่ยวในโอซาก้ากับเพื่อนๆ เรื่องมันมีอยู่ว่าผมได้ทานมื้อค่ำในร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างฯ ใกล้ๆ กับ osaka station ผมสั่งปลาย่างชนิดหนึ่งมากินครับ แล้วทีนี้ผมก็รู้สึกว่าก้างมันติดคอ เลยลองกลืนข้าว+ไปล้วงคอที่ห้องน้ำแต่ก้างก็ยังไม่ออก (อันนี้ผมยอมรับครับว่ารีบกินและประมาทเอง) ก็เลยลองหาอะไรมากินเพิ่มและล้วงคออีก แต่ก็ยังไม่ออก และตอนกลืนน้ำลายก็รู้สึกเจ็บคอมากๆ ลองทนไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ก็ทนไม่ไหวครับ แล้วกลัวว่าก้างมันจะทิ่มคอหรือเกิดอันตรายหนักขึ้นไปอีก เลยตัดสินใจเรียกรถพยาบาลให้มารับที่โคบาลตรง kyobashi station ใกล้ๆ ที่พัก ใช้เวลาไม่นานรถพยาบาลก็มาครับ (อันนี้ขอชื่นชม) แล้วรถพยาบาลก็พาผมไปที่สถานพยาบาลฉุกเฉิน 中央急病診療所 (ขออนุญาตบอกชื่อนะครับ) แล้วก็เข้าไปพบหมอแผนกหู-ตา-คอ-จมูกของที่นั่น หมอเขาก็ใช้อุปกรณ์และกล้องส่องทางจมูกเพื่อหาก้างปลาในคอ แต่เขาบอกว่าหาไม่เจอครับ ผมก็พยายามสื่อสารกับเขานะครับว่าตอนนี้ฉันเอาลิ้นดุนในปากก็ยังรู้สึกว่ามีก้างแข็งๆ ติดอยู่นะ หมอเลยส่องกล้องเข้าไปอีกรอบ เขาก็ยืนยันว่าไม่เจออีก ผมก็บอกเขาไปว่ายังรู้สึกว่าก้างมันยังติดอยู่จริงๆ นะ แต่เขาบอกว่าก้างมันอาจจะหลุดหรือออกไปแล้วแหละแต่มันจะยังเจ็บอยู่ในคอ รอให้มันหายเจ็บไปเอง อีกทั้งท่าทางของหมอก็ดูรีบและไม่ค่อยใส่ใจผมเท่าที่ควรอีกด้วย เขาส่งผมกลับพร้อมกับยาแก้ปวด 3 เม็ด และยาทางกระเพาะอีก 3 เม็ด โดนค่ารักษาไปเกือบ 23,000 เยนครับ ซึ่งผมก็เข้าใจว่าค่ารักษาที่นี่มันแพงอยู่แล้วและก็รับได้ กลับถึงที่พักก็อาบน้ำนอนและหวังว่าไอ้ที่ปวดนั่นจะหายลงในตอนเช้า

แต่เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาลองเอาลิ้นดันๆ ในปากก็รู้สึกว่ามันยังมีอะไรเรียวๆ แข็งๆ อยู่ และตอนกลืนน้ำลายก็เจ็บมากกว่าเดิม ผมเลยตัดสินใจโทรบอกพ่อและหาตั๋วกลับเมืองไทยก่อนกำหนดครับ เพื่อความสบายใจของเรา-ที่บ้าน และเพื่อนคนอื่นๆ จะได้เที่ยวโดยไม่ต้องเป็นห่วงเราตลอด พอกลับมาถึงเมืองไทยก็ไปหาหมอแผนกหู-คอ-จมูกที่รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตอนวันที่ 23 หมอเขาหาก้างปลาก้างนั้นเจอครับ ติดอยู่ในต่อมทอนซิล ตอนเห็นก้างปลาออกมาผมรู้สึกโกรธหมอญี่ปุ่นคนนั้นมากครับที่ทำไมไม่ใส่ใจและไม่ฟังเราว่ามันมีก้างปลาอยู่จริงๆ หมอไทยเองเขาก็งงครับว่าทำไมหมอที่ญี่ปุ่นเขาถึงหาไม่เจอ ตอนกลับบ้านมา ผมพยายามโทรไปที่สถานพยาบาลญี่ปุ่นแห่งนั้นเพื่อที่จะขออีเมล์เพราะจะเมล์ไปร้องเรียนและเผื่อไว้ให้เป็น case study ของเขา แต่จนท.ที่รับโทรศัพท์ก็พูดได้แต่ I don't know ผมเลยค่อยๆ บอกเขาว่าคุณช่วยหาคนที่สามารถพูดอังกฤษมาคุยให้หน่อยได้ไหม จนท.คนนั้นก็พูดแต่ I don't know กับภาษาญี่ปุ่น จนผมต้องยอมวางสายไป

เรื่องเงินที่เสียไปกับค่ารักษาพยาบาลที่ญี่ปุ่นผมไม่ได้ซีเรียสนะครับ แต่พอได้รับการรักษาพยาบาลและท่าทีจากหมอ-สถานพยาบาลญี่ปุ่นแบบนี้ แล้วทำให้ผมต้องพลาดโอกาสเที่ยวในญี่ปุ่นอีก 3-4 วันไปโดยปริยายอีก ผมรู้สึกเสียใจมากครับ เลยมาตั้งกระทู้นี้เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ของผมที่เจอมา และหวังว่าสถานพยาบาลแห่งนั้นจะรับรู้เรื่องราวของผมเพื่อไปปรับปรุงการบริการ-การรักษาพยาบาลต่อคนไข้ไม่ว่าจะเป็นชาติใดก็ตาม ขอบคุณครับ

ปล.กระทู้นี้ไม่มีเจตนาต่อว่าหรือเหมารวมสถานพยาบาลและหมอทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่นว่าไม่ดีนะครับ แต่เป็นเพียงการบอกเล่าประสบการณ์ที่ตัวผมได้เจอด้วยตนเองที่สถานพยาบาลแห่งนั้นแห่งเดียวเท่านั้น


ค่ารักษาพยาบาลที่ญี่ปุ่น

ก้างปลาที่เอาออกมาได้