เราพก Power Bank ขนาด 30,000 mAh ติดตัวไปจำนวน 2 ลูก เป็นขนาดที่เราศึกษามาแล้วว่าสามารถพกขึ้นเครื่องได้
แต่เราต้องไปต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ หลังจากผ่านตม. ก็ไปจุดสแกนเพื่อไปที่เกตที่จะต่อเครื่อง มาโดนตรงนี้ค่ะ
ตอนแรกจนท.เห็นบาร์โค๊ดขาดๆ เขาก็แจ้งว่าไม่ชัดเจนต้องยึด เราเลยไปชี้ให้เห็นว่าตัวเลขอยู่ตรงไหน พอเห็นเท่านั้นแหละ
ตกใจกัน พูดคุยกันเป็นภาษาจีน และบอกว่ามันใหญ่ไป ต้องทิ้งไว้ที่นี่ทั้ง 2 ตัวเลย แต่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะโดนแบบนี้
คือเคยรู้มาว่าถ้าเลขไม่มี โดนยึดแน่นอน แต่อันนี้เราไม่โอเค เราทำการบ้านมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเซี่ยงไฮ้ จีนมีกฏอะไรแบบนี้
ตอนนั้นเราไม่ยอม โชคดีที่ใช้ซิมเน็ตของดีเทค เล่นเน็ตและเข้าเฟสบุ๊คได้ (สำคัญที่เฟส เพราะปกติที่นี่จะเล่นเฟสไม่ได้) เราเปิดหาข้อมูลตรงนั้นเลย
พออ่านในพันทิพบอกเลยใจเสียมาก พอดีเจอเฟสของสายการบินที่เราบิน เรื่องการนำ power bank ติดตัว เป็นข้อมูลเก่า ปี 2559
เราเลยให้ จนท. ดู แต่ตอนนั้นสื่อสารกันไม่เข้าใจ (เราไม่เข้าใจเขา เขาก็จะยึดอย่างเดียว) และเราก็เกะกะจุดสแกน เราเลยถูกส่งต่อไปอีกที่หนึ่ง
เราเห็นมีตู้ล็อกเกอร์เล็กๆ เหมือนให้ฝากของที่โดนยึน ใจเราเสียแล้ว เพราะเราต้องใช้
จนท.เขาก็ให้เรารอ จนท. ของสนามบินคนอื่น รออยู๋ 15 นาที ก็มาแบบเดิมว่า มันใหญ่ไปนะ เราก็ให้ดูเฟสของสายการบินเหมือนเดิม
เขาก็เลยให้เราย้อนกลับไปขอเอกสารรับรองที่ตม. จนท. เขียนอะไรที่ตั๋วเราและพาเราไปส่งออกนอกเขตสแกน เราจึงต้องย้อนมาที่ ตม. ได้
ที่นั่น จนท. สายการบินที่เราบินมา กำลังวุ่นวายกับคนที่ตม. พอเราส่งเรื่องไปก็เหวี่ยงๆตามสไตล์ บ่นๆเป็นภาษาจีน
แล้วก็ขอ power bank เจ้าปัญหาของเราทั้ง 2 ตัว แล้วเขาก็กรอกเอกสารก่อนที่จะให้เราเซ็น โดยเขาเก็บไว้ 1 ใบ และให้เรามา 2 ใบ (สีฟ้าและสีขาว)
พอได้เอกสารมาเราก็กลับไปจุดสแกนอีกครั้ง เข้าแถวใหม่ (เราเขาช่องเดิม) วาง power bank ไว้ทั้ง 2 ตัว พร้อมส่งเอกสารรับรองพร้อมหนังสือเดินทาง
จนท.ไม่อ่านสักคำ เขาคืนใบสีฟ้ามาให้เรา และเก็บใบสีขาวไว้ ไม่เห็นเขาคุยกันเลย จนท.อ่านจอก็ไม่ว่าอะไร ผ่านสบายๆเหมือนไม่เห็น power bank เราเลย
ทีนี้วันกลับ เราก็ต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่เซี่ยงไฮ้เหมือนเดิม เราเลยเตรียมใบรับรองสีฟ้าใบเก่าเราไว้เลย
เราไปต่อแถว ตม. แบบเจอจนท. ไม่ใช่เครื่องออโต้ พอได้เข้าไปที่ ตม. เราก็ขอให้เขาทำเอกสารให้เลย
เริ่มจาก เอกสารหมด เรารออยู่ 15 นาที พอเอกสารมา ตม. ขอดู power bank โดนบ่นไปอีกรอบ เขาก็ถามว่า 2 ก้อนนี้เป็นของเราคนเดียวเหรอ ใหญ่ไปนะ ไม่ได้
เราก็ใช้วิธีเดิมก็คือ เฟสของสายการบิน พร้อมใบฟ้าใบเก่า ตม. เขาก็พยายามประสานงานค่ะ ก่อนที่จะหายไปอีกครึ่งชม. เหมือนเขาไปคุยกับจนท.สายการบินของเรา ก่อนที่จะกลับมาเขียนเอกสารให้
พอมีเอกสารพร้อม ที่จุดสแกนเราก็เตรียมทุกอย่างพร้อม เอกสาร power bank เอาออกมาวางอย่างชัดเจน เราส่งเอกสารให้จนท.
แต่จนท.ไม่สนใจอะไรเลย ไม่สนใจpower bank ไม่สนใจเอกสาร เขาให้เราวางเอกสารในถาด โดยที่เขาไม่แตะต้องเอกสารเลย
แล้วเราก็เลยได้เอกสารคืนมาครบทั้ง 2 ใบ โดยที่ไม่มีใครสนใจ ก่อนออกมาเราก็ถามย้ำแล้วนะว่าผ่านได้เลยเหรอ เขาก็บอกชัวร์ คุณไปได้เลย
โคตรไม่เข้าใจเลย
เกือบโดนยึด power bank 30,000 mAh จำนวน 2 ก้อน ที่สนามบินเซี่ยงไฮ้
แต่เราต้องไปต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ หลังจากผ่านตม. ก็ไปจุดสแกนเพื่อไปที่เกตที่จะต่อเครื่อง มาโดนตรงนี้ค่ะ
ตอนแรกจนท.เห็นบาร์โค๊ดขาดๆ เขาก็แจ้งว่าไม่ชัดเจนต้องยึด เราเลยไปชี้ให้เห็นว่าตัวเลขอยู่ตรงไหน พอเห็นเท่านั้นแหละ
ตกใจกัน พูดคุยกันเป็นภาษาจีน และบอกว่ามันใหญ่ไป ต้องทิ้งไว้ที่นี่ทั้ง 2 ตัวเลย แต่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะโดนแบบนี้
คือเคยรู้มาว่าถ้าเลขไม่มี โดนยึดแน่นอน แต่อันนี้เราไม่โอเค เราทำการบ้านมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเซี่ยงไฮ้ จีนมีกฏอะไรแบบนี้
ตอนนั้นเราไม่ยอม โชคดีที่ใช้ซิมเน็ตของดีเทค เล่นเน็ตและเข้าเฟสบุ๊คได้ (สำคัญที่เฟส เพราะปกติที่นี่จะเล่นเฟสไม่ได้) เราเปิดหาข้อมูลตรงนั้นเลย
พออ่านในพันทิพบอกเลยใจเสียมาก พอดีเจอเฟสของสายการบินที่เราบิน เรื่องการนำ power bank ติดตัว เป็นข้อมูลเก่า ปี 2559
เราเลยให้ จนท. ดู แต่ตอนนั้นสื่อสารกันไม่เข้าใจ (เราไม่เข้าใจเขา เขาก็จะยึดอย่างเดียว) และเราก็เกะกะจุดสแกน เราเลยถูกส่งต่อไปอีกที่หนึ่ง
เราเห็นมีตู้ล็อกเกอร์เล็กๆ เหมือนให้ฝากของที่โดนยึน ใจเราเสียแล้ว เพราะเราต้องใช้
จนท.เขาก็ให้เรารอ จนท. ของสนามบินคนอื่น รออยู๋ 15 นาที ก็มาแบบเดิมว่า มันใหญ่ไปนะ เราก็ให้ดูเฟสของสายการบินเหมือนเดิม
เขาก็เลยให้เราย้อนกลับไปขอเอกสารรับรองที่ตม. จนท. เขียนอะไรที่ตั๋วเราและพาเราไปส่งออกนอกเขตสแกน เราจึงต้องย้อนมาที่ ตม. ได้
ที่นั่น จนท. สายการบินที่เราบินมา กำลังวุ่นวายกับคนที่ตม. พอเราส่งเรื่องไปก็เหวี่ยงๆตามสไตล์ บ่นๆเป็นภาษาจีน
แล้วก็ขอ power bank เจ้าปัญหาของเราทั้ง 2 ตัว แล้วเขาก็กรอกเอกสารก่อนที่จะให้เราเซ็น โดยเขาเก็บไว้ 1 ใบ และให้เรามา 2 ใบ (สีฟ้าและสีขาว)
พอได้เอกสารมาเราก็กลับไปจุดสแกนอีกครั้ง เข้าแถวใหม่ (เราเขาช่องเดิม) วาง power bank ไว้ทั้ง 2 ตัว พร้อมส่งเอกสารรับรองพร้อมหนังสือเดินทาง
จนท.ไม่อ่านสักคำ เขาคืนใบสีฟ้ามาให้เรา และเก็บใบสีขาวไว้ ไม่เห็นเขาคุยกันเลย จนท.อ่านจอก็ไม่ว่าอะไร ผ่านสบายๆเหมือนไม่เห็น power bank เราเลย
ทีนี้วันกลับ เราก็ต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่เซี่ยงไฮ้เหมือนเดิม เราเลยเตรียมใบรับรองสีฟ้าใบเก่าเราไว้เลย
เราไปต่อแถว ตม. แบบเจอจนท. ไม่ใช่เครื่องออโต้ พอได้เข้าไปที่ ตม. เราก็ขอให้เขาทำเอกสารให้เลย
เริ่มจาก เอกสารหมด เรารออยู่ 15 นาที พอเอกสารมา ตม. ขอดู power bank โดนบ่นไปอีกรอบ เขาก็ถามว่า 2 ก้อนนี้เป็นของเราคนเดียวเหรอ ใหญ่ไปนะ ไม่ได้
เราก็ใช้วิธีเดิมก็คือ เฟสของสายการบิน พร้อมใบฟ้าใบเก่า ตม. เขาก็พยายามประสานงานค่ะ ก่อนที่จะหายไปอีกครึ่งชม. เหมือนเขาไปคุยกับจนท.สายการบินของเรา ก่อนที่จะกลับมาเขียนเอกสารให้
พอมีเอกสารพร้อม ที่จุดสแกนเราก็เตรียมทุกอย่างพร้อม เอกสาร power bank เอาออกมาวางอย่างชัดเจน เราส่งเอกสารให้จนท.
แต่จนท.ไม่สนใจอะไรเลย ไม่สนใจpower bank ไม่สนใจเอกสาร เขาให้เราวางเอกสารในถาด โดยที่เขาไม่แตะต้องเอกสารเลย
แล้วเราก็เลยได้เอกสารคืนมาครบทั้ง 2 ใบ โดยที่ไม่มีใครสนใจ ก่อนออกมาเราก็ถามย้ำแล้วนะว่าผ่านได้เลยเหรอ เขาก็บอกชัวร์ คุณไปได้เลย
โคตรไม่เข้าใจเลย