เป็นการเดินทางไปพม่าในครั้งแรกค่ะ ส่วนตัวชอบเดินทางไปเอง ไม่ชอบไปกับทัวร์ เพราะจะนอนตื่นกี่โมงก้อได้ อยากไปไหนก็ไป เวลาก็ไม่จำกัด
โดยทริปนี้ก็แพลนไว้ว่าจะเดินทางไปที่ไหนบ้าง เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังค่ะ จริงๆ อยากไปนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที เมื่อทุกอย่างพร้อม ตั๋วพร้อมไปจะรออะไร ไปด้วยกันเลยค่ะ

โดยบินไฟล์ สิบโมงเช้า ใช้เวลาไม่นานค่ะหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ


ถึงแล้วค่ะ สนามบินย่างกุ้ง หลังจากแลกเงิน ซื้อซิมการ์ดเรียบร้อย ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้ไปเองไม่มีไกด์ค่ะ ไม่ได้หาข้อมูลของไกด์ไว้เลย ตั้งใจไว้ว่าจะเรียกรถเที่ยวเอง แล้วความตื่นเต้นก็มาถึง การเรียกแท็กซี่ ความสนุกมันอยู่ตรงที่ต่อรองราคานี่แหละค่ะ โดยกะว่าจะไปโรงแรมเช็คอินให้เรียบร้อยก่อน แล้วก็มีแท็กซี่เดินเข้ามาถามว่าเราจะไปไหน เขาก็เสนอราคามาแพงค่ะ ก็เลยว่าจะเดินออกไปเรียกข้างนอก ระหว่างนั้นก็มีแท็กซี่คนนึงเข้ามถามว่าจะไปไหน เขาชื่อ Mr.Kyaw โดยเค้าเสนอสถานที่เที่ยวเป็นทั้งคนขับรถและไกด์ในตัว ราคาไม่แพง
คุยกันสักพักนึง สรุปเราเลือกใช้บริการค่ะ (คิดในใจรอดแล้วเรา555)


หลังจากเช็คอินที่โรงแรม เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปทานข้าวร้านอาหารไทย อิ่มท้องแล้วเที่ยวสิคะรออะไร
โดยทริปนี้ เราเที่ยวเมืองย่างกุ้ง พะโค สิเรียม พระธาตุอินแขวน ค่ะ

สถานที่แรก เจดีย์โบตาทาวน์ (Botataung Pagoda) เป็นมหาเจดีย์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ ภายในสีทองอร่ามเดินเข้าไปทางเดินช่องเล็กๆ ข้างในมีเพียงกระจกกั้น กราบสักการะขอพรกันได้เลยค่ะ



เดินข้ามมาเป็นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ที่คนไทยรู้จักกันดี คนไทยมากราบไหว้กันเยอะค่ะ โชคดีที่วันนั้นไปคนไม่เยอะค่ะ อธิษฐานขอพรได้ข้อเดียวนะคะ โดยเอาหน้าจิ้มกับนิ้วชี้ของเทพทันใจค่ะ



ใส่แบงค์ไปที่มือท่าน 2 ใบ แล้วเอาออกมาหนึ่งใบ เก็บไว้เป็นขวัญถุงค่ะ



จากเทพทันใจไปต่อที่เทพกระซิบ เดินข้ามมาไม่ไกลกัน ที่คนพม่าเรียกว่า "อะมาดอว์เมียะ" ตำนานว่าเป็นธิดาของพญานาค ศรัทธาในศาสนา รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์



ที่ต่อมา คือ วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือที่คนไทยเรียก วัดพระนอนตาหวาน เป็นวัดที่คนไทยรู้จักมากที่สุดเลยค่ะ
ก่อนเข้าไปคุณลุงอยากได้โสร่งค่ะ ไกด์จัดให้ค่ะ แถมบริการใส่ให้ตลอดเลยนะถ้าหลุดอ่ะค่ะ

ตอนไปกำลังปิดทองบูรณะอยู่ค่ะ

วัดงาทัตจี (Nga Htal Gyi PagodaX) วัดนี้ไม่เสียค่าเข้าค่ะ เป็นพระพุทธปางมารวิชัย สูงเท่าตึก 5 ชั้น งดงามมากค่ะ


เริ่มค่ำแล้ว อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่พลาดไม่ได้สำหรับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่บ้านพม่าในครั้งนี้ คือ เจดีย์ชเวดากอง[img] ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลค่ะ




นี่คือลานอธิษฐาน เอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้ขอพรค่ะ





ดอกไม้ประจำวันเกิดหนึ่งค่ะ



วันที่ 2 เที่ยวเมือง หงสาวดี (Bago)



ที่นี่เสียค่าเข้า 10,000 kyat เข้าได้ 4 ที่

สถานที่แรก คือ เจดีย์ชเวมอดอว์ หรือ พระธาตุมุเตา เป็นเจดย์คู่บ้านคู่เมืองหงสา พระมหาธาตุเจดีย์องค์สูงมาก จนต้องแหงนหน้ามองต้องกับแสงแดด เวลาขอพรให้เอาเอาธูปไปค้ำ แล้วมือกับหน้าผากแตะที่พระธาตุแล้วอธิษฐาน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ค้ำจุนชีวิตให้รุ่งเรืองค่ะ






สถานที่สอง เจดีย์ไจ๊ปุ่น หรือพระสี่ทิศ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ 4 ทิศ แทนความหมายของพระองค์ทั้ง 4 ค่ะ



สถานที่สาม พระราชวังบุเรงนองค่ะ สีทองอร่ามสวยงามมากค่ะ

สถานที่สี่ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (พระนอนยิ้มหวาน) เป็นศิลปะแบบมอญ สวยงามพร้อมด้วยรอยยิ้มหวาน
ที่นี่จะมีร้านขายของที่ระลึกค่ะ เช่นไม้หอมแกะสลัก ทานาคา ราคาถูกค่ะ คนขายพูดไทยได้เยอะเลยแถมรับเงินบาทด้วยค่ะ



วันที่ 3 เที่ยวเมืองสิเรียม (Syriem) เจดีย์เยเลพญา Yele Paya

ใช้เวลาเดินทางไม่นานค่ะ เป็นเจดีย์เกาะเล็กๆ แห่งแม่น้ำย่างกุ้ง เล่ากันว่าคหบดีชาวมอญในตอนสร้าง ได้อธิษฐานไว้ว่าถ้าน้ำท่วมก็อย่าให้ท่วมองค์เจดีย์ ถ้ามีคนมากราบไหว้ก็อย่าให้ล้นพื้นที่นั้นๆ เจดีย์เยเลพญา เป็นเจดีย์ยอดฮิตพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจท้งหลาย หากใครมีโอกาสมาขอพร ที่เจดีย์จะทำให้การค้ารุ่งเรืองค่ะ

จะเห็นเกาะอยู่ด้านหน้าค่ะ


นั่งเรือข้ามไปเกาะค่ะ


แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องสักการะ บนเกาะเจดีย์เยเลพญาแห่งนี้ คือ "พระอุปคต"



จุดนี้มีปลาเยอะเลย ซื้ออาหารปลาได้ค่ะเค้ามีขาย



หลังจากไหว้พระเสร็จ ออกมาถ่ายรูปกันค่ะ




วันที่ 4 ออกเดินจากย่างกุ้ง สู่วัดไจ้คะวาย (Kyakhat wine monastery)
เป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนา จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนที่นี่เป็นจำนวนมาก ใครที่อยากตักบาตรพระสงฆ์ ต้องมาก่อน 11.00 น.จะมีพระสงฆ์จำนวนมากเดินออกมารับบิณฑบาตค่ะ


ทางวัดจะหุงข้าวสวยในหม้อใหญ่ ตักข้าวสวยใส่บาตรพระได้เลยค่ะ นำปัจจัยใส่ หรือนำของมาใส่บาตรเองได้ค่ะ



พระสงฆ์รอฉันเพลค่ะ


จากวัดไจ้คะวาย มุ่งหน้าสู่พระธาตุอินแขวน (Golden Rock) หรือพระธาตุ ไจ้ทีโย Kyaikhtiyo อยู่ในเขตรัฐมอญ 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่าที่ต้องมากราบไหว้ค่ะ
จะเห็นสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำสะโตง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย กับ พม่า




มองเห็นไกลๆ แล้วค่ะ


ถึงคิมปูนแคมป์ จุดที่เปลี่ยนรถขึ้นเขาเป็นรถบรรทุก หรือที่คนไทยเรียกรถขนหมู แต่ก่อนขึ้นแวะเติมพลังด้วย kfc รสชาติพม่ารองท้องกันก่อนค่ะ


อิ่มแล้ว ขึ้นรถไปกันเลยค่ะ นี่คือบรรยากาศทางขึ้น



ถึงแล้วค่ะ จุดนี้ต้องถอดรองเท้าฝากไว้ เพื่อเดินไปยังพระธาตุค่ะ



จุดเด่น คือ เป็นหินสีทอง ที่ปิดด้วยทองคำเปลว เป็นเจดีย์แสวงบุญของพุทธศาสนิกชน หากใครมีโอกาสแนะนำไปกราบสักการะครั้งนึงในชีวิต
เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองค่ะ








ก้อนหินแห่งศรัทธา




ลงมามืดแล้วว หิวข้าวค่ะ ไกด์พามาร้านอาหารพม่า แวะทานจานนี้หน้าตาไม่โอเลย แต่ขอบอกอร่อยสุดอ่าาา ติดใจ



วันสุดท้ายก่อนกลับค่ะ แวะ shopping ตลาดสก๊อต (Scott Market)
ที่ตลาดนี้จะมีของขายเยอะแยะไม่ว่า จะเป็นรองเท้า เสื้อผ้า หยก อัญมณี ของที่ระลึกต่างๆ ขากลับอย่าลืมแวะนะคะ ส่วนตัวนี้มาเพื่อตาล่าหาหยกค่ะ
ที่ถามๆ มีราคาตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่นค่ะ
ได้กลับมาเส้นนึงค่ะ เย้ๆ

]


ก่อนเข้าสนามบิน แวะกราบไหว้ขอพร (Swe Taw Myat Pagoda) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐพระเขี้ยวแก้ว เจดีย์สีทองงดงาม

จบทริปค่ะ สิ่งที่ลืมไม่ได้ต้องขอบคุณไกด์พม่า เป็นทั้งคนขับ คนถ่ายรูป ให้บริการแนะนำที่เที่ยว รถใหญ่นั่งสบายเบยย

แล้วเจอกันใหม่ ทริปหน้า ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะคะ [:อมยิ้ม17:]