รีวิว พาลูกหอบคาร์ซีทขึ้นรถทัวร์เฟริทคลาสนครชัยแอร์

ข้อมูล:น้องอายุ2ขวบ8เดือน ส่วนสูงและน้ำหนักนี่กึ่งระหว่างคาร์ซีทกรุ้ป1และ2ค่ะ น้องนั่งคาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่ออกจากรพ. เป็นเด็กติดคซ.ค่ะ นั่งดีหลับดี ถ้าไม่มีคซ. เหมือนหมาหลุดกรงค่ะ คิดว่าเบาะรถเป็นภูเขาปีนป่าย ตอนแรกเกิดใช้คอมบิ360และalibebe nt Premier และapricaทุกวันนี้ใช้ชิคโก้ค่ะ เพราะกว้างใหญ่กว่า
ใช้ดีค่ะ ราคาไม่แรงเหมือนสายญี่ปุ่น ใช้ได้จน7ขวบ มาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่เรื่องระบายความร้อนสู้เบาะของญี่ปุ่นไม่ได้ และมาพร้อมกับนน.13.6กิโลค่ะ

และมาถึงจุดนึง ที่มีธุระจำเป็นต้องไปตจว.บ่อย และแม่มีน้องในท้อง ถึงจุดที่ขึ้นเครื่องบินไม่ได้แล้ว และเดินทางโดยที่พ่อไม่ได้ไปด้วย(ไม่มีคนยกให้) มีพี่เลี้ยงไปด้วย แต่สิบกว่าโลก้อยังไม่น่าจะยกไหว แม่สะดวกรถทัวร์มากกว่ารถไฟ คารซีททุกตัวที่บ้านมี นน.ไม่ต่ำกว่า10กิโลซักตัว หอบไม่ไหวแน่ เลยต้องศึกษาข้อมูลหาคาร์ซีทตัวใหม่
นั่งรถนอนพิเศษ เฟริสคลาสนครชัยแอร์นะคะ แม่จึงหาข้อมูลรถนอน ทำให้รู้ว่า รถนอนแทบทุกรุ่นจะเอนได้ประมาณ135องศา หรือ45องศาค่ะ จึงต้องตามหาคารซีทเอนนอนได้

เบาะรถเฟริสคลาสจะมีความกว้างกว่าปกติ วางคารซีทได้สบาย(วางแล้วที่เหลือ) ถ้าเป็นรถนอนทั่วไป ควรเช็คความกว้างเบาะก่อนซื้อนะค่ะ ว่าวางได้รึเปล่า และเชคว่า เป็นเข็มขัดนิรภัยแบบไหน 3จุดหรือ2จุด รถเฟริสคลาสเป็นแบบ3จุดค่ะ (สามจุดคือมีพาดจากไหล่และตัก 2จุดคือมีพาดที่ตักอย่างเดียว นิยมใช้ในรถตู้ค่ะ)
คาร์ซีทแบบที่ตามหา จึงมีคุณสมบัติดังนี้
1 น้ำหนักเบามาก แม่แบกไหวค่ะ เล็งไปที่apricaค่ะ ยี่ห้อนี้กระทัดรัดและเบา มีบูสเตอรซีทหนัก2.5กิโลด้วย แต่สรุปน้องยังสูงไม่พอ เลยต้องผ่านไป
2 เอนนอนได้มาก ตามเบาะรถทัวร์ได้ ข้อนี้ตัดยี่ห้อแพงทิ้งได้เลย การเอนนอนทำให้ความปลอดภัยลดลง จะไม่ผ่านมาตรฐาน ของแพงจะเอนได้ไม่มากค่ะ เลยต้องเล็งไปที่กลุ่มคซ.จากจีนค่ะ
คือในการติดแบบหันหน้าออก ยิ่งเอนนอนมาก จะสูญเสียความสามารถในการซัพพอร์ท กระดูกต้นคอไปด้วยค่ะ แต่แม่ก้อต้องยอม เพราะยังไงลูกก้อต้องนอนบนรถเพราะเดินทางกลางคืน คิดว่ามีน้อยดีกว่าไม่เลย อย่างน้อยยังป้องกันเด็กพุ่งกระแทกหรือกระเด็นออกจากรถได้
ตอนแรกแม่คิดจะใช้บูสเตอร์ซีทชนิดติดเข็มขัดนิรภัย3จุด เพราะเบากว่า นน.และส่วนสูงน้องคือขั้นต่ำที่ใช้ได้พอดี แต่จากการศึกษา มีเคสต่างประเทศที่เด็กสามขวบกว่าใช้แล้วตัวหลุดจากเบลเสียชีวิต และแม่คิดว่าเวลาน้องหลับ น้องกลิ้งไปมา หรือนอนตะแคง แบบ3จุดไม่น่าจะเอาอยู่ แม่เลยตัดสินใจใช้แบบ5จุดค่ะ เพราะลูกยังตัวเล็ก แบบ3จุดน่าจะเหมาะกับน้อง4ขวบขิ้นไป และแบบ3จุดต้องใช้กับเบล3จุดเท่านั้น ถ้าใช้เบล2จุดนี่แทบไม่มีประโยชน์ แม่กะว่าคาร์ซีทอันนี้จะเอาไว้ใช้เผื่อนั่งรถตู้เวลาไปเที่ยวกับครอบครัวด้วยค่ะ
รูปแบบสายรัด5จุดกับที่แบบติดเบล3จุดนะค่ะ

แบบที่เป็นสายรัด5จุดส่วนใหญ่ พอน้องโตก้อถอดใช้แบบ3จุดได้ค่ะ วิธีดูคือดูด้านหลัง คซ.จะมีช่องแบบในรูปให้ติดกับเบล(ใช้เบลคล้องเข้าไปก่อนล้อคค่ะ) แล้วใช้สายรัด5จุดรัดเด็กด้านหน้าค่ะ และแบบนี้สามารถติดกับเบล2จุดได้ด้วยค่ะ ใช้นั่งรถตู้ได้ค่ะ

ต่อมาก้อเริ่มหาดูในลาซาด้าค่ะ ทำให้รู้ว่าบูสเตอร์ซีทแบบมีพนักของจีนส่วนใหญ่จะเอนหลังได้อิสระ คือวางพิงเบาะรถ เบาะรถเอนเท่าไหร่เบาะคาร์ซีทก็เอนได้เท่านั้น แต่ไม่ค่อยลงข้อมูลเกี่ยวกับนน.ไว้ กะบางอันบอกแค่ว่าเอนได้ แต่ไม่รู้เอนมากเอนน้อย ก้อแชทถามร้านค้าเอาค่ะ มีหลายแบบให้เลือกมากมายเลย ตัวอย่างนะค่ะ





สุดท้ายแม่ไปจบกับยี่ห้อHugค่ะ เพราะนน.2.7กิโลนี่ดึงดูดใจมากมาก และที่นั่งกับพนักพิงถอดแยกจากกันได้ค่ะ พับเก็บไม่เปลืองที่ค่ะ




ถึงวันเดินทาง แม่ก้อเอารถเข็นน้องกาง เอาคารซีทใส่ พร้อมกระเป๋าวางทับ ให้น้องยืนเกาะหน้ารถเอา เข็นสบายสบายไปขึ้นรถค่ะ ตอนยกขึ้นรถก้อสบายสบายค่ะ เบาดี ไม่ใหญ่กว่าทางเดิน ไม่เกะกะ ถือขึ้นรถง่าย ใช้เวลาติดไม่เกิน5นาที แล้วก้อจับน้องนั่ง ยาวยาวทีเดียวค่ะ
รูปตอนนั่งนะคะ




เบาะรถเฟริสคลาสเป็นแบบเอนไฟฟ้า พอน้องหลับก้อกดเอนเบาะ คารซีทก้อจะเอนราบไปกับเบาะเองเลย ไม่ต้องไปปรับอะไร แค่เช็คสายรัดตัวน้องให้กระชับดีก้อพอค่ะ
รูปตอนเอนนอน


สบายชิวยาวยาวจนถึงปลายทางค่า

นอกจากคาร์ซีทแบบนี้แล้ว แม่ยังหาข้อมูลแบบอื่นด้วย อย่างตุ๊กตารัดเบล คาร์ซีทพกพา สายรัด แล้วจะมาลงข้อมูเพิ่มในเม้นท์ให้นะคะ

เพิ่ม รีวิว คาร์ซีทพกพาขนาดเล็ก เม้นท์ที่22ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่