พวกฝ่ายสมาคมส่วนใหญ่ พอบอกให้พัฒนาต่อยอดจากระบบติ๊กต๊อก ยกตัวอย่าง ซิโก้ กันใหญ่ ทั้งที่ติ๊กต๊อกแท้จริงมันเป็นคำแสลงที่เรียกลักษณะฟุตบอลที่เลียนแบบ ตีกี้ตาก้า ของไทยในระยะเริ่มต้นเท่านั้นเอง มีโค้ชมากมายที่คุมทีมในระบบติ๊กต๊อก แต่แค่ ซิโก้ นำมาใช้ในไทยคนแรกและไม่ได้มาจากการแต่งตั้งในฝ่ายสมาคมที่คุณรัก พวกสมาคมก็ตัดสินกันแล้วว่าไม่เหมาะกับนักเตะไทย ทั้งที่ยังไม่เคยจ้างโค้ชที่คุมในระบบเดียวกันมาแก้ไขจุดอ่อนในระบบติ๊กต๊อกในเรื่องการเล่นเกมส์รับ และการเพรสซิ่งในแดนหลังเลย แล้วเปลี่ยนไปเล่นสไตล์รถบัสแบบ มูริญโญ่ แล้วก็มานั่งชาบูกัน ทั้งที่ระบบนี้ผมไม่เห็นว่ามันจะดีกว่าตรงไหนเลย

ผมอยากถามจริงๆ ทุกวันนี้ระบบสไตล์ มูริญโญ่ ที่คุมแมนยูเนี่ยคือ เหมาะกับนักเตะไทยมาก ????????? รับก็ไม่เพรส มีแต่คุมโซนจนโดนส่องไกล รับก็ไม่เหนียว โดนแทงหลุด โซนแตกเป็นระยะ ระยะ ดีที่กองหน้าอาเซียนมันกาก ยิงไม่ค่อยจะตรงกรอบกัน แล้วไปรับแบบนี้กับกองหน้าระดับเอเชียที่คมกริบ มันจะรอดหรือครับ มันคงไม่โชคดีบ่อยๆแบบเจอออสเตรเลียนะ เพราะเทรนฟุตบอลสมัยใหม่ตอนนี้เวลารับมันต้องเพรส ไม่ใช่คุมโซนอย่างเดียว และกลางตัวรับมีบทบาทสำคัญในการตัดเกมส์ ซึ่งตั้มตอนนี้ฟอร์มตก แต่ไม่หนีบกลางรับคนอื่นที่ฟอร์มในลีกดี เช่น แอนโทนี่ มาลองเล่นดู หรือ เอาคนที่เคยเล่นกลางรับกับสโมสรอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด มาลองดูก็ได้ กลับไปเอาปีโป้ที่เซ้นต์บอล การฝึกฝนเบสิคที่ไม่มีเลยมาลองเล่นกลางรับ มันจะไหวหรือครับ และมันใช่เวลาจะมาลองเปลี่ยนตำแหน่งตอนใกล้ทัวร์ใหญ่ไหมเนี่ย คนจะเปลี่ยนตำแหน่งขนาดในสโมสรยังฝึกกันเป็นเดือนๆ เลย ถ้า 2 - 3 สัปดาห์เปลี่ยนตำแหน่งแล้วเทพได้ ผมว่า ราเยวัช ไปคุมสโมสรในลีกชั้นนำยุโรปเถอะครับ ถ้าฝีมือมีขนาดนี้

ส่วนการทำเกมส์สวนกลับก็มีแต่ให้กลาง หรือหลัง ตัดสาดไปให้กองหน้าวิ่งแข่งกองหลังทีมคู่ต่อสู้ หรือ ให้กองหน้าพักบอล ทั้งที่ระดับเกรดนักเตะของเราก็ไม่สูง ไม่รอบด้าน ขนาดระดับโลกยังหาหน้าพักบอลเก่งๆ ยังยากเลย แล้วของเราต่อให้มุ้ยเทียบกับ ดิออโก้ ฝีเท้ายังห่างกันเลย แล้วเจอหลังที่เล่นในลีกยุโรปมา มันจะพักได้สักเท่าไรแม้แต่มุ้ยก็เหอะ เพราะหลังเขาไม่ใช่ระดับเจลีก แต่เจอเหนือกว่านั้นหลายทีม ไอ่ผมก็สงสัยว่าเวลาสวนกลับมันต้องสาดอย่างเดียวเลยหรือ จะครองบอลไว้กับตัวแล้วถ่ายบอลเร็วๆ ใช้ระบบติ๊กต๊อกในยามสวนกลับคือ ทำไม่ได้ ????????? ไม่ต้อง 40 กว่าทีก็ได้ แต่ขอให้มีการต่อบอลสวนกลับบ้าง ไม่ใช่มีแต่สาด อีกอย่าง ระบบนี้ก็ไม่ต่างจาก ซัปโปโระ ชุดโยเฮ ที่โยนจนไม่รีดศักยภาพเจ้าเจแม้แต่น้อย บอลข้ามหัวกองกลางไปมา แล้วจะมีเจในทีมทำไม ถ้าใช้ระบบนี้

ติ๊กต๊อกเนี่ยว่าตามตรงควรเอาเป็นแผนหลัก ดูบทความดีๆ ผมไม่ปฏิเสธแผนอื่น แต่ควรใช้แผนอื่นเป็นแค่ตัวเสริมแผนหลัก เช่นระบบสาดเนี่ย เอาไว้เกมส์ตันๆ คู่ต่อสู้โดนตัดบอล หรือ เผลอ ถึงจะเล่นสักที ไม่ใช่ให้สาดเป็นหลักแบบที่ทำใน AFF นี้ แล้วลองให้โค้ชท่านอื่นที่เล่นระบบติ๊กต๊อกเหมือนกันเนี่ยมาลองจัดระเบียบเกมส์รับดูว่าจะทำให้เหนียว มีเพรสซิ่งด้วยได้ไหม และ โค้ชคนนี้ควรมีหลายแผน เจอทีมเล็ก ศักยภาพใกล้เคียงตูเล่นติ๊กต๊อก เจอทีมเหนือกว่าเล่นรับและสวน ไม่ใช่รับและสวนซะทุกทีมแบบ ราเยวัช ทำเลียนแบบ มูริญโญ่ นอกจากนี้ เล่นสวนกลับก็ไม่จำเป็นต้องสาด ทำเกมส์ลำเลียงสวนกลับแต่ปรับให้มันเร็วขึ้น แซมด้วย เอาปีกเลี้ยงตัดในบ้าง ถ้าปีกไทยกากก็ให้ตำแหน่งอื่นมาลองทำดู ทำชิ่งหรือเลี้ยงไปสุดเส้นและตบกลับ หรือแทงยัดเข้ามากลางประตู หรือ ใช้โป้มาไถเข้าไปในกรอบดื้อๆ ให้มันเกมส์สวนมันหลากหลายเข้าไว้ มันก็ต้องมีสักวิธีสิน่าที่เจาะเกมส์รับทีมเหนือกว่าได้

การจะตัดสินระบบใดเหมาะไม่เหมาะ มันควรลองเปลี่ยนโค้ชเล่นระบบเดียวกันสัก 3 ถึง 4 โค้ชซะก่อน แล้วค่อยตัดสิน ไม่ใช่เพิ่งผ่านแค่คนเดียวตัดสินกันแล้ว แล้วก็เปลี่ยนไปเล่นระบบใหม่ วนๆ เวียนๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไรจะมีระบบของตัวเอง การชนะทีมเหนือกว่าเราต้องมีระบบการเล่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ผ่านการนำหลายระบบมาผสมผสาน ไม่ตัดระบบใดระบบหนึ่งทิ้ง จนคนประเทศอื่นเขานึกถึงทีมไทย จะนึกถึงการเล่นระบบนี้ นั่นละถึงจะชนะทีมเหนือกว่าได้ในถาวร นอกจากพัฒนาศักยภาพของผู้เล่น