
“วันเดียว 700 โลเลยนะ ไหวแน่เหรอแก?” ข้อความที่แสดงถึงความไม่ไว้วางใจของสมาชิกร่วมทริปเด้งบนหน้าจอมือถือของผม หลังจากที่ผมส่งแผนการเที่ยวญี่ปุ่นทริปล่าสุดลงไปในกลุ่ม LINE
“ไหวน่ะ” ผมพิมพ์ตอบปัดกลับไป เพราะแผนการเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้มีอย่างเดียวที่ผมอยากตามใจตัวเองสักหน่อยก็คือ ฉันจะไปชิราคาวาโกะ! ฉันอยากเกลือกกลิ้งบนหิมะฟูฟ่อง! ซึ่งมีเพียงเท่านี้จริง ๆ ที่ทำให้ผมตัดสินใจไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นรอบที่ 3 เพราะส่วนที่เหลือคือการนำทัวร์พี่น้องที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน ดังนั้นเส้นทางเดิม ๆ ถ้าจะมารีวิวใหม่หมดทั้งทริปแบบที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ก็คงจะน่าเบื่อไปหน่อย กระทู้นี้ผมจึงขอแบ่งปันประสบการณ์ที่ผมก็ไม่เคยทำมาก่อนดีกว่า นั่นคือการขับรถจากโอซาก้าไปชิราคาวาโกะแบบไป-กลับวันเดียวก็เฟี้ยวได้ ระยะทางรวมเกือบ 700 กิโลเมตร!
กราบสวัสดีครับทุกท่าน ก่อนอื่นผมต้องขอพระขอบคุณเป็นอย่างสูงที่ให้ความสนใจทุกกระทู้ของผม ที่ผ่านมาล้วนเป็นกำลังใจและพลังที่ช่วยผลักดันให้เกิดกระทู้ที่ 3 นี้ขึ้นมาครับ โดยก่อนหน้านี้ผมเพิ่งได้รีวิวการล่องเรือสำราญครั้งแรก (กระทู้:
ppantip.com/topic/38343183) และมีรีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก (กระทู้:
ppantip.com/topic/34497193) เมื่อปี พ.ศ. 2558 เป็นรีวิวแรกใน Pantip ของผม แต่สำหรับการขับรถเที่ยวชิราคาวาโกะในรีวิวนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา และก็ได้เขียนรีวิวไปแล้วในเว็บไซต์ที่ผมทำงาน Freelance อยู่ แต่ด้วยปริมาณข้อความที่ต้องคำนึงถึง SEO เป็นหลัก งานนั้นจึงเขียนได้ไม่สาแก่ใจผมเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณสนใจรีวิวขับรถเที่ยวชิราคาวาโกะเวอร์ชั่นแรกแบบสั้น ๆ ก็สามารถดูได้ที่
www.skyscanner.co.th/news/road-trip-shirakawago-osaka-in-one-day ครับ (อนุญาตขายของให้ลูกค้านิดนึง) ส่วนใน Pantip นี้ผมขอร่ายใหม่แบบละเอียดขึ้น รูปเยอะขึ้น เต็มอารมณ์มากขึ้น ถ้าสนใจแล้วล่ะก็ มาติดตามอ่านกันได้เลยครับ ^_^
ก่อนจะมาเป็นทริปขับรถไปชิราคาวาโกะ
สำหรับทริปนี้จุดประสงค์หลักคือการท่องเที่ยวในแถบคันไซ ได้แก่โอซาก้า - ฮิเมจิ - โกเบ - เกียวโต ซึ่งเป็นเส้นทางเดิมกับที่ผมเคยรีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเลยครับ แต่ทริปนี้จะมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน สถานที่เที่ยวน่าสนใจก็เป็นที่ที่ผมเคยไปมาแล้วทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอ, ปราสาทฮิเมจิ, อ่าวโกเบ, ปราสาทโอซาก้า บลา บลา บลา แต่ด้วยความที่จองตั๋วเครื่องบินไปช่วงเดือนมกราคม งานตามล่าหาหิมะก็ต้องมาสิครับ! เพราะเกิดมาผมยังไม่เคยพบกับหิมะหนา ๆ ฟู ๆ แบบในหนังคริสต์มาสฝรั่งมาก่อนเลย แต่ถึงกระนั้น การจะได้พบกับหิมะในโอซาก้าก็ยังเป็นอะไรที่ต้องอาศัยดวงอยู่พอสมควร ฉะนั้นเพื่อการันตีว่าผมต้องสมใจปรารถนา ทริปนี้ผมจึงต้องไปให้ไกลกว่าที่เคย!

“หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)” จึงเป็นคำตอบเดียวของคนที่ต้องการเกลือกกลิ้งบนหิมะเช่นผม เพราะเท่าที่เช็คมาจากหลาย ๆ สำนักพบว่าช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์คือช่วงหิมะหนานุ่มของที่นี่ ดังนั้นชิราคาวาโกะจึงถูกยัดเข้ามาในแผนนี้ในทันที โดยตอนแรกผมก็ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะเดินทางอย่างไร มีรถไปถึงไหม มันอยู่ไกลขนาดไหน และต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเท่าใด คือพอคิดได้ก็โยนรูปหมู่บ้านในปุยหิมะลงกลุ่มหยั่งเชิงดูก่อน ซึ่งทุกคนก็อยากไป แล้วมารู้ตัวอีกทีผมก็นั่งกุมขมับอยู่หน้าจอ Google Maps แล้วครับว่าทำไมมันไปยากอย่างนี้เนี่ย!!! แต่ไม่เป็นไร ถ้าใจมันอยากไป อะไรก็ทำได้ อิอิ
การเดินทางไปชิราคาวาโกะ
จากการพยายามรวบรวมข้อมูลเท่าที่จะหาได้ทั้งจากรีวิวของท่านอื่น ๆ ใน Pantip เว็บไซต์ท่องเที่ยวต่าง ๆ ผมรู้สึกว่าการเดินทางไปชิราคาวาโกะนั้นยากกว่าที่อื่นที่ผมเคยเที่ยวมา ด้วยความที่ชิราคาวาโกะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดกิฟุ แม้จะไปได้ทั้งจากโตเกียว ทางโอซาก้า หรือจะใกล้สุดคือนาโกย่า แต่ตอนนั้นสายการบิน AirAsia X ขวัญใจตั๋วถูกของผมยังไม่มีเส้นทางไปลงนาโกย่า ส่วนโตเกียวก็ไม่ใช่จุดหมายที่เราจะเดินทาง จึงเหลือแค่โอซาก้าทางเดียวเท่านั้นที่จะไปได้ โดยมีระยะทางห่างกันประมาณ 320 กิโลเมตร ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ คุณต้องนั่งรถไฟหรือรถบัสจากโอซาก้าไปให้ถึงเมืองทาคายามะ (Takayama) ก่อน จากนั้นก็ต่อรถบัส Nohi Bus เข้าสู่หมู่บ้านอีกทอดหนึ่ง

จากรีวิวและคำแนะนำการท่องเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะส่วนใหญ่จึงเห็นพ้องให้ค้างคืนในทาคายามะหรือในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ 1 คืน (ไม่ก็ไปกลับอยู่ในระแวกนี้) เพราะการเดินทางใช้เวลาค่อนข้างนาน การเที่ยวแบบเร่งรีบทำเวลาหรือเที่ยวแบบจะไปจะกลับตอนไหนก็ได้จึงไม่เหมาะกับหมู่บ้านนี้สักเท่าไหร่ครับ ตัวเลือกของการเดินทางไปเที่ยวชิราคาวาโกะของผมจึงเหลือไม่มากนัก โดยผมขออธิบายดังนี้ครับ (อัพเดตราคาล่าสุด ณ วันที่เขียน เดือนธันวาคม พ.ศ. 2561)
นั่งรถบัสไปชิราคาวาโกะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
การนั่งรถบัสคือตัวเลือกที่ดูจะประหยัดมากที่สุด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ผมรู้สึกว่าสิ้นเปลืองเวลามากครับ โดยวิธีนี้ผมต้องใช้บริการ Nohi Bus 2 ต่อได้แก่เส้นทางโอซาก้า (นัมบะ) ไปทาคายามะ จากนั้นก็ต่อรถที่ทาคายามะไปชิราคาวาโกะ ซึ่งดู ๆ ไปการนั่งรถบัสดูง่ายกว่ารถไฟเยอะเลย แต่ทว่ารถต่อแรกใน 1 วันมีแค่ 4 รอบ และการเดินทางช่วงแรกใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า ส่วนช่วงที่ 2 ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง (ตามสภาพถนนและหิมะด้วย) รวมเวลาเดินทางขาละ 6 ชั่วโมงกว่า (ยังไม่รวมเวลารอรถต่อที่ทาคายามะอีกนะ) ค่าใช้จ่ายไป-กลับทั้งสายรวมอยู่ที่ 13,820 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,000 บาทต่อคน

แม้ว่าการเดินทางวิธีนี้ถูกมากก็จริง แต่คงจะเหมาะกับคนที่ให้เวลากับชิราคาวาโกะ + ทาคายามะอย่างน้อย 2 วัน 1 คืนมากกว่าครับ และยังไม่รวมกรณีรถอาจเต็มจนต้องจองก่อนด้วย ซึ่งทริปผมไม่มีเวลาขนาดนั้นจึงตกไป แต่คุณสามารถตรวจสอบตารางเวลารถ Nohi Bus ได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
www.nouhibus.co.jp/english ซึ่งมีเส้นทางจากโตเกียวและนาโกย่าด้วยครับ แต่จองออนไลน์จากไทยได้เลยไหมไม่แน่ใจนะครับไม่เคยลอง >_<
นั่งรถไฟไปชิราคาวาโกะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
การนั่งรถไฟตอนแรกผมคิดว่าเป็นวิธีที่เร็วที่สุดครับ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ และยังแพงมากด้วยถ้าไม่ใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass แบบ 5 วัน ซึ่ง Pass นี้จะเหมาะกับเส้นทาง โอซาก้า - เกียวโต - ทาคายามะ – นาโกย่า แต่ทริปที่ผมจัดดูแล้ว Kansai Wide Area Pass แบบ 5 วันนั้นจะเหมาะกับผมมากกว่าสำหรับวันที่เหลือ ดังนั้นจึงลองชั่งน้ำหนักจากราคาตั๋วรถไฟต่อรอบโดยไม่มีตั๋วเหมาดูก่อน ซึ่งได้ออกมา 2 ทางดังนี้ครับ

ทางที่ 1: ใช้บริการรถไฟชินคันเซ็นจากโอซาก้าถึงนาโกย่า แล้วต่อด้วยรถไฟด่วนถึงทาคายามะนั้นมีค่าใช้จ่ายไป-กลับประมาณ 22,000 เยน ใช้เวลาขาละประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นก็ต่อด้วยค่ารถโดยสาร Nohi Bus ไป-กลับอีก 4,420 เยน ใช้เวลาอีกขาละ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพถนนช่วงหิมะตก รวมค่าใช้จ่ายไป-กลับประมาณ 26,000 เยนต่อคน คิดเป็นเงินไทยจะตกประมาณ 7,500 บาทต่อคน (รวมจองที่นั่ง) ใช้เวลาราว 5 ชั่วโมงในการเดินทางต่อเที่ยว (ไม่รวมเวลารอรถที่ทาคายามะ) โดย Pass นี้จะใช้ Kansai Wide Area Pass ไม่ได้ตั้งแต่สถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) เลย

ทางที่ 2: คือการไม่นั่งชินคันเซ็นแล้วใช้รถไฟด่วนปกติจากโอซาก้าจนถึงทาคายามะ ซึ่งจะถูกลงมานับพันบาท โดยค่าใช้จ่ายไป-กลับจะเหลือประมาณ 15,000 - 20,000 เยน (4,400 - 5,800 บาท รวมจองที่นั่ง) และยังสามารถใช้ Kansai Wide Area Pass ได้จนถึงไมบาระ (Mibara) แล้วจึงเสียเงินไปทางกิฟุ (Gifu) ต่อ แต่เวลาเดินทางด้วยรถไฟนั้นจะดีดเพิ่มไปเป็น 5-6 ชั่วโมง ยังไม่รวมเวลาบนรถ Nohi Bus โดยคุณสามารถเช็คตารางเวลารถไฟและราคาที่ต้องจ่ายได้ที่
www.hyperdia.com ซึ่งอาจจะพบทั้งเส้นทางที่ถูกและแพงกว่าตัวอย่างที่ผมแคปมา ขึ้นอยู่กับเส้นทางและขบวนรถที่เลือกครับ
นอกจากนี้ราคารถสาธารณะทั้งหมดก็เป็นราคาต่อ 1 คน ส่วนผมมีสมาชิก 4 คน! คิดแล้วก็หน้ามืดแล้วมืดอีก และได้แต่นั่งหัวหมุนกับเรื่องเดินทางอยู่นานมาก จนกระทั่งต้องตั้งสติแล้วตีโจทย์ของเรากันใหม่ ถ้าในเมื่อรถไฟมันแพงมหาโหดและใช้เวลานานมาก กับความเสี่ยงของรถบัสที่รอบน้อยแล้วคนเต็มหรือเปล่าก็ไม่รู้ และสถานที่ท่องเที่ยวในแผนของเราที่ไม่สามารถใช้ Pass เพื่อลดค่าใช้จ่ายของการเดินทางได้เลย และจะทำอย่างไรให้การเดินทางไปชิราคาวาโกะคุ้มค่าทั้งเงินและเวลามากที่สุดกันล่ะ?
แล้วขับรถเช่าไปชิราคาวาโกะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ในเมื่อรถไฟมันแพงนักสำหรับ 4 คน ก็เช่ารถไปคันเดียวสิ! ในที่สุดผมก็คิดถึงเรื่องนี้ได้ รถยนต์ 1 คันนั่งได้ตั้ง 4 คน แถมขับไปไหนก็ได้ เดินทางเวลาไหนก็ได้ อยากแวะที่ไหนก็แวะ ไม่ต้องกลัวตกรถหรือหมดเที่ยว แล้วอากู๋ผู้ชี้ทางก็บอกด้วยว่าการขับรถจากโอซาก้าไปชิราคาวาโกะใช้เวลาแค่ 4 ชั่วโมงนิด ๆ ซึ่งน้อยกว่ารถไฟและรถบัส แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกรถเช่า เรามาดูค่าใช้จ่ายกับการเช่ารถกันก่อนดีกว่าครับ เพราะการเช่ารถขับก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนเหมือนกัน
- ค่าธรรมเนียมใบขับขี่สากล 505 บาท (จ่ายที่ไทย)
- รถเช่า 1 วัน (Toyota Prius) รวมประกันรถ 4,230 บาท (จ่ายที่ไทย)
- ค่ายางลุยหิมะ (รับรถนอกเขตที่มีหิมะมีค่าใช้จ่าย) 519 บาท (จ่ายที่ไทย)
- ค่าธรรมเนียมบัตรทางด่วน ETC ของญี่ปุ่น 1,000 เยน / 280 บาท
- ค่าทางด่วน ETC ไป-กลับตามจริง 16,350 เยน / 4,580 บาท (มีวิธีคำนวณ)
- ค่าน้ำมันรถไป-กลับตามจริง 5,300 เยน / 1,490 บาท (มีวิธีคำนวณ)
เรต ณ วันเดินทางประมาณ x 0.28 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ประมาณ 12,000 บาทสำหรับการเดินทางไป-กลับชิราคาวาโกะจากโอซาก้า ซึ่ง 12,000 บาทดูเหมือนแพง แต่มันก็จบแค่ 12,000 บาทสำหรับ 4 คนครับ พอหารกันแล้วก็ตกคนละ 3,000 บาทเอง ถูกกว่ารถไฟเยอะ!!! แถมถูกกว่ารถบัสอีกนิดหน่อย ณ จุดนี้การเดินทางด้วยการเช่ารถขับจึงดูคุ้มค่ากว่ามากเมื่อทริปของคุณมีผู้ร่วมเดินทาง 3 คนขึ้นไป แต่ถ้าผมมาเอง 1-2 คนก็คงเลือกนั่งรถไฟไม่ก็รถบัสแหละครับถูกกว่า
และจากรายการค่าใช้จ่ายข้างต้น “ยางลุยหิมะ” คือสิ่งสำคัญที่คุณต้องจ่ายหากจะขับรถไปชิราคาวาโกะในฤดูหนาวครับ เพราะถ้าเลือกทางนี้คุณต้องขับรถลุยถนนที่มีหิมะปลกคลุมด้วย ซึ่งฟังดูอันตรายและไม่ใช่เรื่องที่คนเมืองร้อนอย่างผมจะมีประสบการณ์มาก่อนเลย ถ้าใครใจไม่กล้าพอหรือขับรถไม่เป็น ตัวเลือกนี้ก็ตกไปโดยปริยายครับ แต่บังเอิญผมชอบจังครับเรื่องตื่นเต้นเนี่ย! แม้จะมีเสียงคัดค้าน + ความเป็นห่วงจากทั้งสมาชิกในทริปและญาติ ๆ ที่กังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ถ้าคนญี่ปุ่นเขาขับกันได้ เราทำไมจะขับไม่ได้ล่ะ? และค้านกันยังไงก็ไม่เป็นผลกับคนหัวดื้อชอบลองอย่างผมหรอกครับ 555
พอผมเลือกได้แล้วว่าจะเดินทางไปชิราคาวาโกะอย่างไร ต่อไปก็เป็นการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อมลุยถนนญี่ปุ่นครับ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ แฮะ ๆ
[CR] ขับรถลุยหิมะเที่ยวชิราคาวาโกะ ไปเช้าเย็นกลับจากโอซาก้าแบบบ้าพลัง!
“ไหวน่ะ” ผมพิมพ์ตอบปัดกลับไป เพราะแผนการเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้มีอย่างเดียวที่ผมอยากตามใจตัวเองสักหน่อยก็คือ ฉันจะไปชิราคาวาโกะ! ฉันอยากเกลือกกลิ้งบนหิมะฟูฟ่อง! ซึ่งมีเพียงเท่านี้จริง ๆ ที่ทำให้ผมตัดสินใจไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นรอบที่ 3 เพราะส่วนที่เหลือคือการนำทัวร์พี่น้องที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน ดังนั้นเส้นทางเดิม ๆ ถ้าจะมารีวิวใหม่หมดทั้งทริปแบบที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ก็คงจะน่าเบื่อไปหน่อย กระทู้นี้ผมจึงขอแบ่งปันประสบการณ์ที่ผมก็ไม่เคยทำมาก่อนดีกว่า นั่นคือการขับรถจากโอซาก้าไปชิราคาวาโกะแบบไป-กลับวันเดียวก็เฟี้ยวได้ ระยะทางรวมเกือบ 700 กิโลเมตร!
กราบสวัสดีครับทุกท่าน ก่อนอื่นผมต้องขอพระขอบคุณเป็นอย่างสูงที่ให้ความสนใจทุกกระทู้ของผม ที่ผ่านมาล้วนเป็นกำลังใจและพลังที่ช่วยผลักดันให้เกิดกระทู้ที่ 3 นี้ขึ้นมาครับ โดยก่อนหน้านี้ผมเพิ่งได้รีวิวการล่องเรือสำราญครั้งแรก (กระทู้: ppantip.com/topic/38343183) และมีรีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก (กระทู้: ppantip.com/topic/34497193) เมื่อปี พ.ศ. 2558 เป็นรีวิวแรกใน Pantip ของผม แต่สำหรับการขับรถเที่ยวชิราคาวาโกะในรีวิวนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา และก็ได้เขียนรีวิวไปแล้วในเว็บไซต์ที่ผมทำงาน Freelance อยู่ แต่ด้วยปริมาณข้อความที่ต้องคำนึงถึง SEO เป็นหลัก งานนั้นจึงเขียนได้ไม่สาแก่ใจผมเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณสนใจรีวิวขับรถเที่ยวชิราคาวาโกะเวอร์ชั่นแรกแบบสั้น ๆ ก็สามารถดูได้ที่ www.skyscanner.co.th/news/road-trip-shirakawago-osaka-in-one-day ครับ (อนุญาตขายของให้ลูกค้านิดนึง) ส่วนใน Pantip นี้ผมขอร่ายใหม่แบบละเอียดขึ้น รูปเยอะขึ้น เต็มอารมณ์มากขึ้น ถ้าสนใจแล้วล่ะก็ มาติดตามอ่านกันได้เลยครับ ^_^
ก่อนจะมาเป็นทริปขับรถไปชิราคาวาโกะ
สำหรับทริปนี้จุดประสงค์หลักคือการท่องเที่ยวในแถบคันไซ ได้แก่โอซาก้า - ฮิเมจิ - โกเบ - เกียวโต ซึ่งเป็นเส้นทางเดิมกับที่ผมเคยรีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเลยครับ แต่ทริปนี้จะมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน สถานที่เที่ยวน่าสนใจก็เป็นที่ที่ผมเคยไปมาแล้วทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอ, ปราสาทฮิเมจิ, อ่าวโกเบ, ปราสาทโอซาก้า บลา บลา บลา แต่ด้วยความที่จองตั๋วเครื่องบินไปช่วงเดือนมกราคม งานตามล่าหาหิมะก็ต้องมาสิครับ! เพราะเกิดมาผมยังไม่เคยพบกับหิมะหนา ๆ ฟู ๆ แบบในหนังคริสต์มาสฝรั่งมาก่อนเลย แต่ถึงกระนั้น การจะได้พบกับหิมะในโอซาก้าก็ยังเป็นอะไรที่ต้องอาศัยดวงอยู่พอสมควร ฉะนั้นเพื่อการันตีว่าผมต้องสมใจปรารถนา ทริปนี้ผมจึงต้องไปให้ไกลกว่าที่เคย!
การเดินทางไปชิราคาวาโกะ
จากการพยายามรวบรวมข้อมูลเท่าที่จะหาได้ทั้งจากรีวิวของท่านอื่น ๆ ใน Pantip เว็บไซต์ท่องเที่ยวต่าง ๆ ผมรู้สึกว่าการเดินทางไปชิราคาวาโกะนั้นยากกว่าที่อื่นที่ผมเคยเที่ยวมา ด้วยความที่ชิราคาวาโกะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดกิฟุ แม้จะไปได้ทั้งจากโตเกียว ทางโอซาก้า หรือจะใกล้สุดคือนาโกย่า แต่ตอนนั้นสายการบิน AirAsia X ขวัญใจตั๋วถูกของผมยังไม่มีเส้นทางไปลงนาโกย่า ส่วนโตเกียวก็ไม่ใช่จุดหมายที่เราจะเดินทาง จึงเหลือแค่โอซาก้าทางเดียวเท่านั้นที่จะไปได้ โดยมีระยะทางห่างกันประมาณ 320 กิโลเมตร ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ คุณต้องนั่งรถไฟหรือรถบัสจากโอซาก้าไปให้ถึงเมืองทาคายามะ (Takayama) ก่อน จากนั้นก็ต่อรถบัส Nohi Bus เข้าสู่หมู่บ้านอีกทอดหนึ่ง
นั่งรถบัสไปชิราคาวาโกะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
การนั่งรถบัสคือตัวเลือกที่ดูจะประหยัดมากที่สุด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ผมรู้สึกว่าสิ้นเปลืองเวลามากครับ โดยวิธีนี้ผมต้องใช้บริการ Nohi Bus 2 ต่อได้แก่เส้นทางโอซาก้า (นัมบะ) ไปทาคายามะ จากนั้นก็ต่อรถที่ทาคายามะไปชิราคาวาโกะ ซึ่งดู ๆ ไปการนั่งรถบัสดูง่ายกว่ารถไฟเยอะเลย แต่ทว่ารถต่อแรกใน 1 วันมีแค่ 4 รอบ และการเดินทางช่วงแรกใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า ส่วนช่วงที่ 2 ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง (ตามสภาพถนนและหิมะด้วย) รวมเวลาเดินทางขาละ 6 ชั่วโมงกว่า (ยังไม่รวมเวลารอรถต่อที่ทาคายามะอีกนะ) ค่าใช้จ่ายไป-กลับทั้งสายรวมอยู่ที่ 13,820 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,000 บาทต่อคน
นั่งรถไฟไปชิราคาวาโกะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
การนั่งรถไฟตอนแรกผมคิดว่าเป็นวิธีที่เร็วที่สุดครับ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ และยังแพงมากด้วยถ้าไม่ใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass แบบ 5 วัน ซึ่ง Pass นี้จะเหมาะกับเส้นทาง โอซาก้า - เกียวโต - ทาคายามะ – นาโกย่า แต่ทริปที่ผมจัดดูแล้ว Kansai Wide Area Pass แบบ 5 วันนั้นจะเหมาะกับผมมากกว่าสำหรับวันที่เหลือ ดังนั้นจึงลองชั่งน้ำหนักจากราคาตั๋วรถไฟต่อรอบโดยไม่มีตั๋วเหมาดูก่อน ซึ่งได้ออกมา 2 ทางดังนี้ครับ
นอกจากนี้ราคารถสาธารณะทั้งหมดก็เป็นราคาต่อ 1 คน ส่วนผมมีสมาชิก 4 คน! คิดแล้วก็หน้ามืดแล้วมืดอีก และได้แต่นั่งหัวหมุนกับเรื่องเดินทางอยู่นานมาก จนกระทั่งต้องตั้งสติแล้วตีโจทย์ของเรากันใหม่ ถ้าในเมื่อรถไฟมันแพงมหาโหดและใช้เวลานานมาก กับความเสี่ยงของรถบัสที่รอบน้อยแล้วคนเต็มหรือเปล่าก็ไม่รู้ และสถานที่ท่องเที่ยวในแผนของเราที่ไม่สามารถใช้ Pass เพื่อลดค่าใช้จ่ายของการเดินทางได้เลย และจะทำอย่างไรให้การเดินทางไปชิราคาวาโกะคุ้มค่าทั้งเงินและเวลามากที่สุดกันล่ะ?
แล้วขับรถเช่าไปชิราคาวาโกะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ในเมื่อรถไฟมันแพงนักสำหรับ 4 คน ก็เช่ารถไปคันเดียวสิ! ในที่สุดผมก็คิดถึงเรื่องนี้ได้ รถยนต์ 1 คันนั่งได้ตั้ง 4 คน แถมขับไปไหนก็ได้ เดินทางเวลาไหนก็ได้ อยากแวะที่ไหนก็แวะ ไม่ต้องกลัวตกรถหรือหมดเที่ยว แล้วอากู๋ผู้ชี้ทางก็บอกด้วยว่าการขับรถจากโอซาก้าไปชิราคาวาโกะใช้เวลาแค่ 4 ชั่วโมงนิด ๆ ซึ่งน้อยกว่ารถไฟและรถบัส แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกรถเช่า เรามาดูค่าใช้จ่ายกับการเช่ารถกันก่อนดีกว่าครับ เพราะการเช่ารถขับก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนเหมือนกัน
- ค่าธรรมเนียมใบขับขี่สากล 505 บาท (จ่ายที่ไทย)
- รถเช่า 1 วัน (Toyota Prius) รวมประกันรถ 4,230 บาท (จ่ายที่ไทย)
- ค่ายางลุยหิมะ (รับรถนอกเขตที่มีหิมะมีค่าใช้จ่าย) 519 บาท (จ่ายที่ไทย)
- ค่าธรรมเนียมบัตรทางด่วน ETC ของญี่ปุ่น 1,000 เยน / 280 บาท
- ค่าทางด่วน ETC ไป-กลับตามจริง 16,350 เยน / 4,580 บาท (มีวิธีคำนวณ)
- ค่าน้ำมันรถไป-กลับตามจริง 5,300 เยน / 1,490 บาท (มีวิธีคำนวณ)
เรต ณ วันเดินทางประมาณ x 0.28 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ประมาณ 12,000 บาทสำหรับการเดินทางไป-กลับชิราคาวาโกะจากโอซาก้า ซึ่ง 12,000 บาทดูเหมือนแพง แต่มันก็จบแค่ 12,000 บาทสำหรับ 4 คนครับ พอหารกันแล้วก็ตกคนละ 3,000 บาทเอง ถูกกว่ารถไฟเยอะ!!! แถมถูกกว่ารถบัสอีกนิดหน่อย ณ จุดนี้การเดินทางด้วยการเช่ารถขับจึงดูคุ้มค่ากว่ามากเมื่อทริปของคุณมีผู้ร่วมเดินทาง 3 คนขึ้นไป แต่ถ้าผมมาเอง 1-2 คนก็คงเลือกนั่งรถไฟไม่ก็รถบัสแหละครับถูกกว่า
และจากรายการค่าใช้จ่ายข้างต้น “ยางลุยหิมะ” คือสิ่งสำคัญที่คุณต้องจ่ายหากจะขับรถไปชิราคาวาโกะในฤดูหนาวครับ เพราะถ้าเลือกทางนี้คุณต้องขับรถลุยถนนที่มีหิมะปลกคลุมด้วย ซึ่งฟังดูอันตรายและไม่ใช่เรื่องที่คนเมืองร้อนอย่างผมจะมีประสบการณ์มาก่อนเลย ถ้าใครใจไม่กล้าพอหรือขับรถไม่เป็น ตัวเลือกนี้ก็ตกไปโดยปริยายครับ แต่บังเอิญผมชอบจังครับเรื่องตื่นเต้นเนี่ย! แม้จะมีเสียงคัดค้าน + ความเป็นห่วงจากทั้งสมาชิกในทริปและญาติ ๆ ที่กังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ถ้าคนญี่ปุ่นเขาขับกันได้ เราทำไมจะขับไม่ได้ล่ะ? และค้านกันยังไงก็ไม่เป็นผลกับคนหัวดื้อชอบลองอย่างผมหรอกครับ 555
พอผมเลือกได้แล้วว่าจะเดินทางไปชิราคาวาโกะอย่างไร ต่อไปก็เป็นการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อมลุยถนนญี่ปุ่นครับ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ แฮะ ๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้