ประสบการณ์การกู้ซื้อบ้านครั้งแรกกับธนาคารกสิกร

สวัสดีค่ะ
มีเรื่องจะเล่าให้อ่านกันค่ะ การกุ้บ้านค่ะ
เรายื่นเอกสารกู้ซื้อบ้านให้ทางบ้านเราคะ เป็นชื่อแฟนค่ะยื่นกสิกร เมื่อวันที่26 ตุลาคม 61
เราวางมัดจำบ้านไป20,000สัญญาหมด30พ.ย.นี้
อาชีพธุระกิจส่วนตัว เป็นร้านขายสเต็ก เหล้า&เบียร์ อาหาร นมสด อะไรพวกนี้ ไม่ได้จดทะเบียนการค้าไม่เสียภาษีกรมสรรพากร
แต่เสียภาษีท้องถิ่นกับ อบต.และเสียภาษีขายใบอนุญาติขายเหล้าเบียร์ เงินเดินบัญชีค่อนข้างน้อย ภาระมีผ่อนรถ4ประตูเดือนละ8000-9000 แต่ทางสินเชื่อแจ้งว่า เครดิตรถไม่ขึ้นแล้วบอกเครดิตแฟนเราผ่าน แต่ขึ้นว่ามีภาระบ้านเขาร่วมกับพ่อเขา พ่อเขาอายุ57ได้ เลยน่าจะเข้าจำนองบ้านร่วมหรือป่าวเราก็ไม่แน่ใจนะเพราะพ่ออายุเยอะแต่พ่อเขาเป็นคนผ่อน ส่งตรงทุกงวด ไม่มีเบี้ยว เลยกู้ได้
วันที่11พฤศจิกายน61 พนง.เรียกเก็บค่าประเมิน3,745฿ แล้ววันที่15พฤศจิกายน61 พนง.แจ้งว่าหักลบแล้วรายได้ไม่พอเงินหมุนเวียนมันน้อย เรียกเก็บเงินเรา18,000เพื่อทำเอกสารรายรับจ่ายเป็นเงินสด 6เดือน ตอนแรก24,000บอกต่อให้เหลือ18,000เพื่อให้อนุมัติได้ง่าย เร่งเอาเงินในวันนั้น มารับเงินเองที่บ่นเราเลย เรากับแฟนตัดสินใจอยู่ลังเล แกบอกอยากให้ผ่านทำเหอะ เราก็อยากให้จบที่เดียวเขาให้ความหวังเรามาก เราก็จ่ายไป บอกเอกสารเสดวันจันทร์ พอวันจันทร์เราถามบอกกำลังยื่นเอกสารใหม่ ขอดูก็ไม่ให้ดู ส่วนทางฝ่ายที่พาเราไปดูบ้านก็เร่งทุกวันให้เราไปยื่นหลายๆที่ แต่เกิดเหตุนิดหน่อย ที่เราเกิดแพ้ท้องหนักมาก ทำงานไม่ได้ ตาก็เป็นผู้ป่วยติดเตียง แม่เราก็ต้องใช้เงินไปซื้อของให้ตา ซึ่งเงินก็ต้องใช้ เวลาก็เริ่มไม่มี แฟนทำงานคนเดียวทั้งเช้าทำโรงกลึงหลังบ้านแต่พึ่งทำได้ไม่กี่เดือนไม่ได้จดทะเบียน กลางคืนขายของหน้าบ้าน และเราก็ไม่สามารถไปยื่นและเสียค่าประเมินบ้านหลายๆ ที่ เพราะเราเสียค่าประเมินบ้านของทางกสิกรไปแล้ว เราอยากจบที่ธนาคารนี้ เพราะเงินไม่มีแล้ว
ทางคนพาไปดูบ้านก็หาว่าเราไม่สนใจเป็นคนอื่นโอนไปนานแล้ว ซึ่งเราก็บอกเหตุผลไปแล้ว แกไม่สนใจเลยค่ะ ทางสินเชื่อแจ้งว่ากู้อ่ะผ่านแต่รายได้ไม่พอ
ก่อนหน้านี้ลืมบอก ไปยื่นกู้ร่วมแฟน+แม่เรา แล้วไม่ผ่าน หลังจากจ่าย18,000ไป ทางคนที่พาไปดูบ้านก็ส่งสินเชื่อกรุงศรีมารับเอกสาร เราก็ยื่นๆ ไปงั้น เพราะเขาหาว่าทางเราไม่สนใจ จริงๆ เงิน20,000ใครจะจ่ายไปฟรีๆ โดยที่ไม่อยากได้บ้าง เราก็เครียดแต่คุยกับคนขายบ้านไม่เข้าใจเลยไม่คุย
พอหมอสัญญามัดจำบ้าน30พฤศจิกายนไป ประเมินก็เข้าวันที่3ธันวาคม61 ซึ่งหลังจากที่จ่ายค่าประเมินไปตอนนั้น จนท.ก็บอกเราว่าอาทิตย์นี้แหละประเมินเข้าบอกแบบนี้ จนเข้าวันที่3ธันวา เป็นบริษัทไชนิส เสร็จเขสก็บอกทราบผล7วัน อาทิตย์นี้ก็ทราบ พอเลยอาทิตย์นี้ไป เราก็ตามอีก แกก็บอก อาทิตย์นี้แหละ ตอบแบบนี้ทุกอาทิตย์ที่ตาม เราก็เริ่มใจคอไม่ดี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเราตัดสินใจโทหากสิกรสำนักงานใหญ่สอบถามก่อนว่ามีพนักงานชื่อนี้ไหม และถามสถานะการกู้ ปรากฎว่าพนง.คนนี้เป็นฝ่ายขายในเครือข่ายจริง แล้วก็ไม่มีเอกสารเรายื่นกู้เข้าไป เราตกใจมาก เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เขารับเรื่องไว้ เราก็ไปถาม พนง.คนนั้นว่าวันที่18แล้ว ทราบผลยังคะ เพราะเขาแจ้งเราว่านัดโอนประมาน17-21ธันวานะ นี่18แล้วเลยถามไป แกบอกสับปดาห์นี้ชี้ชะตา แล้วเราขอใบเสร็จประเมินแกบอกมีเดี๋ยวถ่าย สรุปก็ไม่ได้
อีกวันมีหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อมั้งโทมาถามว่าเรื่องเป็นมายังไง เล่าก็เล่าคร่าวๆ แล้วเขาบอกว่าราคาประเมินเข้ามาแล้วนะ เราก็งงว่าทำไมเข้าทแล้วเอกสารเราไม่มียื่น เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะเรียกพนง.คนนั้นมาสอบสวน ละจะแจ้งกลับไป
เราก็แจ้งกับคนขายบ้านว่าโทไปสนง.ใหญ่ เขาแจ้งว่าเอกสารไม่ได้ยื่นเราก็เล่าไป แล้วคนขายบ้านก็ทักแชทไปสอบถามว่า "สรุปเคสนี้ยังไงครับ ราคาประเมินเท่าไหร่? ใบเสร็จประเมินอยู่ไหน? แล้วที่เคยบอกว่าภายในอาทิตย์นี้โอน คือ....?"
นางตอบกลับว่า..."เมื่อวานทางเราโทรแจ้งร้องเรียนเรื่องกับทางธนาคารและได้คุยกับทางหัวหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว รอทางหัวหน้าติดต่อกลับนะคะ เนื่องจากตอนนี้เขาพ้นสภาพการเป็นพนักงานเพราะมีส่วนสมรู้ร่วมคิดกับทางลูกค้าปลอมแปลงเอกสารคะ"
เราก็แจ้งว่าไม่ได้ร้องเรียนแค่โทรสอบถามความคืบหน้า แล้วสรุปเขาได้ทำจริงไหม เขาตอบว่าทำคะ.!! แล้วออกจากกลุ่มแชทไลน์ไปแล้ว
เสร็จก็ตามไปคุยต่อในแชทส่วนตัว
แกบอกว่า พวกเราคุยโจมตีขนาดนั้นใครจะอยากคุย ตอนนี้เขาได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานแล้ว เพราะเราโทรร้องเรียน
เราก็โทไปหาหัวหน้าเขาที่โทรมาถามเรื่องสรุปว่าว่าไง เขาบอกสรุปผลมาว่า พนง.คนนั้นโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับลูกค้าเพื่อปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งเราบอกว่า เป็นงั้นได้ไง ในเมื่อคุณแล้วเราก็ยังไม่เห็นเอกสารตัวนั้นเลย แล้วเอกสารก็ไม่มียื่นเข้าไปด้วยจะบอกปลอมแปลงได้ไง แล้วเขาบอกชื่อเราติดแบล็คลิสปลอมแปลงเอกสารด้วย เขาพูดแบบไม่รับผิดชอบแล้วข่มขู่ว่าจะแบล็คลิสเครดิตเราเฉยซึ่งคุยต่อก็ไม่ได้ความเลยพอก่อน แล้วไปคุยกับ พนง.คนนั้น เราบอกนางว่า ขอเอกสารที่จ้างทำด้วยถ้าทำจริง ถ้าไม่ทำขอเงินคืน แล้วแกโทมาบอกว่าพี่พ้นสภาพการเป็นพนักงานแล้วเพราะข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ถามว่าแล้วทำไมพี่ไม่ยื่น เขาบอกเขารู้ว่าถ้ายื่นไปต้องโดนอยู่แล้ว แล้วทำแบบนี้เพื่อไรอ่ะ บอกมาไม่ผ่านก็จบเราได้ไปยื่นที่อื่น
แกบอกเขาจะรับผิดชอบเงินตรงนี้เอง เพราะเขาเอาเงินให้บริษัททำไปแล้วเดี๋ยวจะโทคุยกับบริษัทว่าจะเอาเงินคืน แล้วเขาจะทำลายเอกสารนั้น เขาถามเราว่าถ้าเอาเอกสารจะไม่เอาตังใช่ไหม เราบอกเราเอาตังคืนคะ เพราะเคสเราหลุด และไม่ได้ความไม่ได้ยื่น ขอเงินคืน แกบอกจะหาเงินมาคืนให้ 2วันแล้วยังไม่ได้เลยคะ
เสียใจมาก มาให้ความหวังเรา กู้ครั้งแรกต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยอ่ะ เสียเงินเพราะเราโง่เอง เราคิดว่า แกจะยืดเวลาเราแบบนี้เพื่อหลังปีใหม่แกจะมาบอกเราว่าไม่ผ่านส่วนเงินก็เอาไปใช้เอง ขนาดเรื่องมาขนาดนี้แกยังไม่พูดความจริงเลยคะ เสียใจมากๆ เรากำลังท้องอยุ่ด้วยก็ไม่อยากเครียดแต่ก็อดคิดไม่ได้
เพื่อนๆ มีความเห็นหรือข้อแนะนำอะไรไหมคะ เราคิดอะไรไม่ออกแล้ว รอแต่ทวงเงินคืนแล้วยื่นกู้กับไทยพาณิชย์ที่เป็นเพื่อนเราทำอยู่ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่