สวัสดีผู้อ่านทุกคนครับ ได้เวลาเริ่มเขียนกระทู้สักที หลังจากผลัดวันประกันพรุ่งมานาน555😁
มีคนหลายคนถามเข้ามาว่าทำยังไงถึงจะเก่งภาษาอังกฤษ ต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่เก่งระดับTutor ขนาดนั้น เอาเป็นว่าภาษาใช้ได้ในระดับดีก็พอครับ เริ่มเลยละกันครับ อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้นะครับ
1.ตั้งเป้าหมาย🇬🇧
บางคนก็จะบอกว่าเออๆรู้แล้วน่า แต่ความจริงมันสำคัญมากครับ ตั้งไว้เลยว่าจะเก่งแค่ไหน แค่สื่อสาร หรือไปสอบ หรือใช้ได้แบบเจ้าของภาษา เป้าหมายที่ดีควรมี ระยะเวลากำหนด ด้วย แบบว่าประเมินผลได้จริง เช่น สอบ TOEIC ได้มากกว่า600คะแนนภายใน 6เดือน
2. ประเมินตนเองและวางแผนให้เหมาะสม
ยกตัวอย่างนะครับ ประเมินตนเองต้องประเมินหลายด้านครับ เช่น เรามีความรู้แค่ไหน เราเป็นคนนิสัยอย่างไร ชอบการเรียนรู้แบบสบายๆ หรือสาระจ๋า หริอชอบการเรียนผ่าน ออนไลน์ อะไรประมาณนี้ ก็จะทำให้เราวางแผนได้ถูกต้อง สำหรับการวางแผนควรให้เหมาะกับตนเอง ทั้งในด้านเวลา ควรเป็นเวลาที่มีตารางแน่นอน เพราะจะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะบางคน ทำบ้างหยุดบ้าง ก็เลยไม่เก่งสักที เหมือนร้องเพลงครึ่งเพลงมันก็ไม่มีวันเข้าใจความหมาย ใช่ป่าวครับ อีกอย่างนึง เนื้อหาควรเรียงลำดับให้เหมาะสมจากง่ายไปยาก อันนี้ก็หาอ่านได้ตาม internet ทั่วไป
3.ทำใจให้ชิน เอ้ย ทำตัวให้ชินต่างหากล่ะ555
ที่จริงคือต้องทำให้เราคุ้นชินกับภาษาและทำใจครับ
เออ รีบพูดมาดิ (ผู้อ่านคิดในใจ)
ทำตัวให้ชินคือ ฝึกทุกทักษะครับ ฟัง พูด อ่าน เขียน เพราะถ้าฝึกไม่ครบ ก็ไม่มีวันเก่ง เห็นมาหลายคนครับ ฉันชอบ อะไรฉันก็จะทำแต่สิ่งนั้นเช่น ฟังเพลง ดูหนัง อย่างเดียว หรืออ่านอย่างเดียว ความจริงคือมันส่งเสริมกันทุกทักษะนะ ควรฝึกให้ครบ
มาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงคิดว่า เอ้ย แค่นี้เองหรอ เคยอ่านมาหมดแล้ว แต่ไม่ใช่นะ ผมมีอะไรจะบอก
ย้ำๆๆๆไปแสนรอบ เหมือนเพลงซ้ำเติมตัวเองตอนอกหัก555 นั่นคือ ทำใจ
ทำใจนะครับทุกคน ทำใจใช้ชิน ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย คุณไม่มีวันได้เจอเส้นทางที่เรียบหรู ใส่ชุดดูดี ประดุจ Miss universe วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์หรอกนะ เส้นทางที่คุณต้องเจอมีอะไรมากมายที่ เท่าที่เคยเห็นนะ มันต้องมีล่ะ ปัจจัยภายนอก คนที่บอกคุณว่า คุณทำไม่ได้หรอก คุณไม่ดีพอ กระแดะจังเลย ทำไปทำไม รวมถึงปัจจัยภายใน เช่น ต้องอดทน พยามยาม ต่อสู้กับความคิดตัวเอง อารมณ์ต่างๆ ทุกๆอย่างอะไรก็แล้วแต่ มันมาเพื่อทำให้เราได้เรียนรู้ เหมือนการเดินทางครับ มีดีมีร้าย การเรียนภาษาก็เหมือนกัน มีทั้งเหนื่อยทั้งท้อ แต่ถ้าทำได้ นั่นล่ะครับ คุณก็ก้ามข้ามกำแพงในอดีตไปได้อีกอย่างนึง มันน่าภูมิใจนะครับ อันนี้คือ บิ้วอารมณ์555 อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
4.ทำตามแผนด้วยใจที่มุ่งมั่นและศรัทธา
ทุกๆการก้าวไปข้างหน้ามีแรงต้านเสมอ อย่าไปท้อ เหนื่อยก็พักแล้วทำต่อ แม้passion จะหมดไป แต่ก็ต้องทำต่อครับ คนที่ถึงเส้นชัยไม่ใช่คนที่เก่งและแข็งแกร่งที่สุด แต่คือคนที่ไม่ยอมหยุดเดินครับ
แหะๆ กระทู้แรก ก็มีแค่นี้นะครับ เดี๋ยวกระทู้ต่อไปจะมาแนะนำหนังสือและลงรายละเอียดย่อยๆ เกี่ยวกับเนื้อหาครับ ที่จริงมีเรื่องที่จะเขียนเยอะมาก ใครสนใจอะไรก็comment ไว้ได้นะครับ good bye ❤😊😊ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
ทุกคนเก่งภาษาอังกฤษได้แค่ลงมือทำและตั้งใจจริง ❤❤😀😀
มีคนหลายคนถามเข้ามาว่าทำยังไงถึงจะเก่งภาษาอังกฤษ ต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่เก่งระดับTutor ขนาดนั้น เอาเป็นว่าภาษาใช้ได้ในระดับดีก็พอครับ เริ่มเลยละกันครับ อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้นะครับ
1.ตั้งเป้าหมาย🇬🇧
บางคนก็จะบอกว่าเออๆรู้แล้วน่า แต่ความจริงมันสำคัญมากครับ ตั้งไว้เลยว่าจะเก่งแค่ไหน แค่สื่อสาร หรือไปสอบ หรือใช้ได้แบบเจ้าของภาษา เป้าหมายที่ดีควรมี ระยะเวลากำหนด ด้วย แบบว่าประเมินผลได้จริง เช่น สอบ TOEIC ได้มากกว่า600คะแนนภายใน 6เดือน
2. ประเมินตนเองและวางแผนให้เหมาะสม
ยกตัวอย่างนะครับ ประเมินตนเองต้องประเมินหลายด้านครับ เช่น เรามีความรู้แค่ไหน เราเป็นคนนิสัยอย่างไร ชอบการเรียนรู้แบบสบายๆ หรือสาระจ๋า หริอชอบการเรียนผ่าน ออนไลน์ อะไรประมาณนี้ ก็จะทำให้เราวางแผนได้ถูกต้อง สำหรับการวางแผนควรให้เหมาะกับตนเอง ทั้งในด้านเวลา ควรเป็นเวลาที่มีตารางแน่นอน เพราะจะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะบางคน ทำบ้างหยุดบ้าง ก็เลยไม่เก่งสักที เหมือนร้องเพลงครึ่งเพลงมันก็ไม่มีวันเข้าใจความหมาย ใช่ป่าวครับ อีกอย่างนึง เนื้อหาควรเรียงลำดับให้เหมาะสมจากง่ายไปยาก อันนี้ก็หาอ่านได้ตาม internet ทั่วไป
3.ทำใจให้ชิน เอ้ย ทำตัวให้ชินต่างหากล่ะ555
ที่จริงคือต้องทำให้เราคุ้นชินกับภาษาและทำใจครับ
เออ รีบพูดมาดิ (ผู้อ่านคิดในใจ)
ทำตัวให้ชินคือ ฝึกทุกทักษะครับ ฟัง พูด อ่าน เขียน เพราะถ้าฝึกไม่ครบ ก็ไม่มีวันเก่ง เห็นมาหลายคนครับ ฉันชอบ อะไรฉันก็จะทำแต่สิ่งนั้นเช่น ฟังเพลง ดูหนัง อย่างเดียว หรืออ่านอย่างเดียว ความจริงคือมันส่งเสริมกันทุกทักษะนะ ควรฝึกให้ครบ
มาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงคิดว่า เอ้ย แค่นี้เองหรอ เคยอ่านมาหมดแล้ว แต่ไม่ใช่นะ ผมมีอะไรจะบอก
ย้ำๆๆๆไปแสนรอบ เหมือนเพลงซ้ำเติมตัวเองตอนอกหัก555 นั่นคือ ทำใจ
ทำใจนะครับทุกคน ทำใจใช้ชิน ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย คุณไม่มีวันได้เจอเส้นทางที่เรียบหรู ใส่ชุดดูดี ประดุจ Miss universe วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์หรอกนะ เส้นทางที่คุณต้องเจอมีอะไรมากมายที่ เท่าที่เคยเห็นนะ มันต้องมีล่ะ ปัจจัยภายนอก คนที่บอกคุณว่า คุณทำไม่ได้หรอก คุณไม่ดีพอ กระแดะจังเลย ทำไปทำไม รวมถึงปัจจัยภายใน เช่น ต้องอดทน พยามยาม ต่อสู้กับความคิดตัวเอง อารมณ์ต่างๆ ทุกๆอย่างอะไรก็แล้วแต่ มันมาเพื่อทำให้เราได้เรียนรู้ เหมือนการเดินทางครับ มีดีมีร้าย การเรียนภาษาก็เหมือนกัน มีทั้งเหนื่อยทั้งท้อ แต่ถ้าทำได้ นั่นล่ะครับ คุณก็ก้ามข้ามกำแพงในอดีตไปได้อีกอย่างนึง มันน่าภูมิใจนะครับ อันนี้คือ บิ้วอารมณ์555 อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
4.ทำตามแผนด้วยใจที่มุ่งมั่นและศรัทธา
ทุกๆการก้าวไปข้างหน้ามีแรงต้านเสมอ อย่าไปท้อ เหนื่อยก็พักแล้วทำต่อ แม้passion จะหมดไป แต่ก็ต้องทำต่อครับ คนที่ถึงเส้นชัยไม่ใช่คนที่เก่งและแข็งแกร่งที่สุด แต่คือคนที่ไม่ยอมหยุดเดินครับ
แหะๆ กระทู้แรก ก็มีแค่นี้นะครับ เดี๋ยวกระทู้ต่อไปจะมาแนะนำหนังสือและลงรายละเอียดย่อยๆ เกี่ยวกับเนื้อหาครับ ที่จริงมีเรื่องที่จะเขียนเยอะมาก ใครสนใจอะไรก็comment ไว้ได้นะครับ good bye ❤😊😊ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ