Review กระเทยเคยตกอับ ตั้งตัวได้ด้วยเงิน 7000 บาทค่ะ

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ถือว่ากราบสวัสดีปีใหม่ทุกคนไปเลยนะคะ ^^

เพราะเราตั้งปณิธานไว้แล้วว่า หากเราลงสู่จุดต่ำสุดไปแล้ว หากเป็นบัวพ้นน้ำขึ้นมาได้ เราจะมาเล่าให้เพื่อนๆทุกคนฟัง ไม่เพียงแต่เพื่อนๆกระเทยที่ตกทุกข์ได้ยากในตอนนี้ หรือ เพศอื่นๆที่กำลังประสบปัญหาใดๆก้อตาม เราจะมาเล่าให้ฟัง ให้เป็นกำลังใจ ให้ข้อคิด ว่าชีวิตมันเลือกไม่ได้ มันกำหนดทางเดินไม่ได้เองทุกเรื่องค่ะ ทุกอย่างสิ่งที่มองไม่เห็นเค้าขีดเส้นเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ทุกวันนี้เราเชื่อเลย ทำทุกวันให้ดีที่สุดก้อพอ.. สู้จนหมดลมหายใจไปด้วยกันนะคะ
-----------------
ย้อนอดีตก่อน... เชื่อว่าบางท่านอาจจะไม่เคยอ่านกระทู้ที่เราเคยตั้ง เนื่องด้วยแต่เด็กๆมา เราลูกคนเดียวด้วย แล้วพ่ออยากได้ลูกชายค่ะ วาดฝันไว้ว่าอยากให้ลูกชายเป็นทหาร ตั้งความหวังไว้กับเรามาก แล้วเราเรียนหนังสือเก่งค่ะ แต่พวกกิจกรรมเราไม่เก่งนะคะ เก่งแต่เรียน แล้วจะสุงสิงกับเพื่อนกระเทยด้วยกันไม่ได้ค่ะ พ่อจะเข้ามากระชากเราออกวง แล้วก้อเอาเพื่อนกระเทยเข้ามาในบ้านไม่ได้ค่ะ พ่อไล่ตะเพิดหมด มีอยู่ครั้งนึง จำได้เลยตอน ประถม คุณครูท่านเอาเรื่องเราไปบอกว่า เราชอบร้องแต่เพลงผู้หญิง ทำตัวกระตุ้งกระติ้ง มีแนวโน้มเป็นกระเทย ก้อเอาไปบอกแม่เรา แต่แม่เราท่านก้อปกป้องเรานะ ท่านก้อรู้ว่าพ่อต้องตีเราแน่ๆ ก้อไม่บอกท่านค่ะ  พอซักพักพ่อเรามาถามเรื่องเราเองกับคุณครูท่านนี้ ก้อโดนกระหน่ำค่ะ ท่านอยากให้ลูกเป็นชายแมนๆ ก้อเอาเราไปเตะบอลบ้าง เตะตระกร้อบ้าง เล่นบาสบ้าง แต่เราเองก้อไม่ใช่แบบที่พ่อหวัง ไปเตะบอลก้อเค้าบอกปีกซ้าย ปีกขวา เราไปยืนตรงโกล คุยกับโกลนู่นค่ะ เล่นไม่เป็น 555+

พอมาถึงสมัยจบ มัธยมต้น .. เหมือนฮอร์โมนความเป็นหญิงหนักขึ้นค่ะ อยากเป็นเหลือเกิน ไม่ได้อยากมีแฟนนะ หรือทำตัวอะไรตลกๆ แบบที่เห็นในโทรทัศน์นะคะ เราก้อเรียนหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงปกติ แต่อยากเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ มีครั้งนึงเพื่อนเอาชุดผู้หญิงมาให้ยืมใส่ สวยมากกกกกกกกกกกกกก เป็นชุดที่เราชอบ ตอนนั้นก้อแอบเอามาใส่ค่ะ นึกว่าอยู่บ้านคนเดียว พ่อกลับมาบ้านพอดีค่ะ โดนตบจนเลือดหูไหลเลย จนแม่ต้องมาห้าม เราครอบครัวเดี่ยวด้วยค่ะ ไม่สนิทแบบครอบครัวใหญ่ ที่มีน้า อา ตา ยาย มาคอยปกป้อง ก้อจะมีแต่แม่เรานี่แหละค่ะ ที่เสมือนนางฟ้าประจำบ้านคอยปกป้องเรา ปกติแม่จะไม่เถียงพ่อเลย ให้อำนาจพ่อเป็นใหญ่ แต่วันนั้นแม่เราทนไม่ได้จริงๆ ก้อเลยมาปกป้องเรา ก้อน่วมทั้งคู่เลยค่ะ กอดคอกันร้องไห้ เราถึงรักและผูกพันธ์กับแม่เรามาก

พอมาถึงม.ปลาย พ่อบอกเราเลยว่าต้องติดทหารนะ ไปเป็นอะไรก้อได้ เพราะเค้าไม่มีเงินส่งเสียเราเรียน เราก้อร้องไห้หนักเลยค่ะ ร้องอยู่คนเดียว ทำอย่างไรดี เราอยากเรียนมัธยมปลาย ไม่อยากเรียนพวก ปวช หรือ ทหาร ร้องไห้หนักมาก แม่เราก้อบอกไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวแม่ส่งเอง แต่ต้องหาเงินช่วยแม่นะ เราก้อดีใจ ช่วงนั้นก้อหาของไปขายค่ะ อย่างตอนไปโรงเรียน เช้าๆก้อเอาขนมใส่ตระกร้าไปยืนขาย ก้อขายหมดนะคะ เรียกว่าหมดทุกวัน ถ้าวันไหนไม่หมดจะมีเพื่อนช่วยเหมาค่ะ ถือว่ามีพระคุณกับเรามาก เราค่อนข้างวางตัวดี เรียนเก่ง เพื่อนเลยเกรงใจ พอกลับมาเย็นๆ ก้อมาช่วยแม่เย็บผ้าต่ออีก แต่พ่อไม่ชอบให้เราช่วยแม่เย็บผ้าค่ะ มาเจอทีไรจะไล่ไปทำอย่างอื่น บอกรกหูรกตา เราก้อจะขับรถไปส่งผ้าเอา เก็บตังให้แม่ ซื้อของให้แม่ ยอมรับว่าทั้งเหนื่อย ทั้งเหงาค่ะ แต่เราก้อต้องสู้ วันนึงตอนไปเรียน ใช้ 30 บาท ยังเหลือเก็บ ไม่ได้ลำบากนะคะ เพราะปกติไม่ค่อยกินอะไรจุกจิก กินแต่มื้อกลางวัน เช้าก้อกินบ้าน เย็นก้อกินบ้านค่ะ

พอมาช่วงมหาลัยค่อยสบายใจหน่อยตรงที่เราย้ายมาอยู่หอในมหาวิทยาลัย แล้วหาเงินเองได้สบายใจนะคะ ตอนนั้นค่อนข้างคิดถึงแม่ เพราะปกติไม่เคยห่างแม่เลย เราหาเงินได้จากตรงที่ไปของานเสริมจากทางมหาวิทยาลัยค่ะ บอกเลยว่าต้องทำงานหาเองจริงจัง พอเรียนเสร็จ บ่ายสี่ต้องไปช่วยเค้าตั้งร้านแถวมหาลัยแล้วค่ะ เสาร์ อาทิตย์ ก้อออกไปทำงานแต่เช้า กิจกรรมคณะแทบไม่ค่อยได้เข้าค่ะ คือต้องหามาจ่ายค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าเสื้อผ้า คือหาเองหมด แล้วเราไม่กู้ค่ะ ไม่อยากเป็นหนี้ ที่เหลือนิดๆหน่อยๆก้อเก็บค่ะ ใช้เงินวันนึงนี่บังคับตัวเอง ไม่เกิน 50 บาท ถ้าเกินนี่วันต่อไปห้ามใช้ ตอนนั้นเรียนปีสี่ นี่ล่ะ เราเก็บได้หมื่นกว่าบาท ซักพักแม่เราบอกไม่มีเงิน เราก้อให้แม่เราหมดเลย บอกไม่ต้องยืมหรอก หนูให้แม่ แม่คือพระคุณของหนู

พอเราเรียนจบ ป.ตรีมา มันคิดถึงแม่ เราก้อกลับมาบ้าน เราว่าเรามีความสุขนะคะ ได้อยู่ดูแลแม่ แต่ปัญหาคือ พ่อเราไม่ชอบจริงๆ ยิ่งเราแต่งหญิง ไว้ผมยาว คือทำอะไรก้อเกลียดเราไปหมด ยิ่งพอย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันหลังจบป.ตรี ปัญหามันหนักจริงๆค่ะ พ่อก้อพยายามกดดันให้เราหางานให้ได้ (งานประจำ) แล้วกระเทยแต่งหญิงแบบเราไม่ได้หาง่ายๆนะคะ คือ เราไม่ใช่กระเทยสวย ไม่ใช่พี่ปอย ไม่ใช่โยชิ คือตัดประเด็นความเป็นหญิงละมุนบอบบางไปได้เลย เราเองก้อเข้าใจพ่อนะ ทำอะไรคงขัดหูขัดตาท่านไปหมด แต่ที่เราไม่ไหวจริงๆคือ เราพยายามหาเงินแทบทุกอย่าง ไปตั้งขายของตลาดนัด เพื่อหาเงินมาใช้ ท่านก้อไม่ให้เราไปขาย บอกคนแถวบ้านมาเห็นจะอาย พอมาเช้าๆช่วงตีสี่ แกจะมาปลุกเราละ ให้ไปทำงานบ้าน กวาดบ้าน ไล่เก็บหญ้า ไล่เก็บใบไม้ พอสายๆเราจะทำกับข้าวกินเอง ก้อโดนมาจ้องเรื่องใช้น้ำมันทอดไข่ มาดูกาแฟเรากินไปกี่ช้อน ข้าวสวยหุงแล้วห้ามกินเหลือ คือเหมือนหาเรื่องเราสุดๆ แล้วเราไม่มีเงินแล้ว เพราะเราก้อให้แม่เราหมด จะเอาอะไรไปซื้อเองกิน จะเอาของไปขายก้อไม่ได้ จะไปทำงานก้อยังไม่มีที่ไหนแถวบ้านรับ พออยู่บ้านก้อโดนห้ามกินนู่นนี่อีก โดนปลุกตีสี่มาง่วงมาก เครียดก้อเครียด สุดท้ายท่านก้อเอ่ยปากมา บอกให้เงิน 7000 บาทนะ จะไปไหนก้อไป ไล่เราเหมือนหมูเหมือนหมา เราไม่อยากไปก้อต้องไป โดนไล่ขนาดนี้แล้ว ไหนจะพวกกับข้าวกับปลา เราเองก้อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวไม่ได้อยู่แล้ว ก้อคิดว่าออกมาก้อดีเหมือนกันค่ะ อยู่ไปคงจะแย่ ก้อคงไม่พ้นโดนต่อว่าเหมือนเดิม

แล้วก่อนนั้นเราได้ยินแม่เราทะเลาะกับพ่อ ว่าไปทำเวรกรรมอะไรไว้ ลูกชายคนเดียวก้อมาเป็นกะเทย มีผัวก้อคอยผลาญเงิน กินเหล้า เราได้ยินก้อเจ็บแปร๊บ ลึกๆแล้วแม่เราก้อคงรับไม่ได้เหมือนกัน เราได้ยินก้อแอบไปร้องไห้คนเดียว ชีวิตเราทำไมเคว้งคว้าง เหงา เศร้า โดดเดี่ยว เหมือนเราเป็นเอเลี่ยน เหมือนเราเกิดมาผิดทุกอย่าง ณ วินาทีนั้น ก้อกำเงิน 7000 บาทออกมาขึ้นรถไฟแบบเคว้งๆเหมือนกันนะคะ ตอนนั้นก้อคิดว่า กรุงเทพ ภูเก็ต พัทยา ไปไหนดี

พอเราลงรถไฟฟรีมาถึงหัวลำโพง เราก้อว่าที่นี่แหละ น่าจะเหมาะกับเรา ไปพัทยา ภูเก็ต เราก้อไม่ถนัดงานโรงแรม แต่อย่างแรกเลยเราคว้ากระเป๋าไปอาบน้ำแถวปั๊มเอาช่วยได้มาก ตอนแรกกะจะขอที่วัดใช้ แต่คนเยอะมาก แล้วก้อจัดการเดินเลย ตั้งแต่เช้าแดดเปรี้ยงๆ เดินหาหอไปเรื่อยๆ เอาที่ถูกที่สุด แล้วอยู่ได้ จนเราได้หอนึง ราคาเดือนละ 2300 บาท รวมมัดจำกับคีการ์ด ราวๆ สามพันบาท แต่มีอินเตอเน็ตฟรี แม้จะอืดหน่อย แต่มันช่วยไม่ให้เราเสียตัง แถมช่วยเราสมัครงานได้ อีกอย่างที่ช่วยชีวิตเราคือน้ำ กับ หมูฝอย อันนี้เราเน้นมาก หมูฝอยสำหรับเราคือซื้อข้าวมาห้าบาท หมูฝอยแพงหน่อยร้อยกว่าบาท แต่กินได้นานเป็นเดือน รวมกินกับข้าวแล่วประหยัดกว่ามาม่าหรือปลากะป๋อง ส่วนน้ำเปล่าก้อกดเติมเอา

ประมาณสองสัปดาห์เราได้งาน ตอนนั้นเงินเราเหลือสามพัน ต้องไปทำงานให้ครบเดือนกว่าเงินจะออก เราเลยใช้วิธีเดินไปทำงาน ประมาณสามกิโล เราไปถึงที่ทำงานเค้าก้อซุบซิบกัน  บอกเหม็นเราบ้าง บอกเราสกปรก ซึ่งก้อตามใจ แต่ถ้าเราขึ้นรถไปกลับ วันละเกือบยี่สิบบาท แล้วค่ากินอีกเราตายแน่ เราเลยเลือกไม่กินข้าวกลางวัน กินแต่ข้าวเช้าห้าบาท กับหมูฝอยที่เราซื้อเก็บไว้ น้ำก้อเติมจากที่ทำงานละพกกลับ ข้าวกลางวันเราไม่ไปนั่งกินกับที่ทำงานไม่งั้นเราจะเสียอีกอย่างต่ำ 35 บาท/วัน บางทีก้อหิวมากๆๆๆๆๆๆๆ เราซื้อมาม่าซองเข้าไปกินในห้องน้ำ กิบดิบเลยเพื่อให้มันอืดและอิ่ม

ตอนนั้นเราโทรมมาก สิวด้วย ดำด้วย พวกที่ทำงานชอบล้อเราว่าเราเป็นกะเทยหน้าผี เคยเห็นแต่กะเทยเค้าจะสวยๆกัน แต่เราเหมือนผี เราก้อพยายามไม่ยุ่ง ไม่อะไร กลับบ้านก้อเดินกลับ บางทีเค้าขับรถผ่านมาเห็นเรา แม้จะผ่านทางเดียวกัน แต่เค้าไม่ชวน เราก้อเดินของเราไปเรื่อยๆ  

ผ่านพ้นจนเงินเดือนออก แม้จะได้หมื่นปลายๆ แต่ชีวิตเหมือนเล่นตลก มันมีเรื่องให้ใช้เงินตลอด เช่น รองเท้าขาดบ้าง พัดลมในห้องเสีย หลอดไฟเสีย ฯลฯ คือมันจำเป็นจริงๆแต่ละอย่าง ก้อต้องทนควักตังมาจ่าย  

มีอยู่ครั้งนึงจู่ๆพ่อเราก้อโทรมา บอกแม่อาการไม่ดี พูดไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ขอเงินค่ายาหมื่นนึง เรามีในบัญชีหมื่นสาม ก้อรีบโอนเลย ละเหลือสามพัน แต่จู่ๆคืนนั้นเราเป็นอะไรไม่รู้เล็บเราขึ้นเป็นเส้นแปลกๆ ละขึ้นทุกเล็บ ละเท้าเราขยับไม่ได้เลย เราเลยรีบโทรแจ้งหัวหน้างาน แต่หัวหน้าบอกเราลาต้องมีใบรับรองแพทย์ เราก้อจำใจต้องไปตรวจ ขาก้ออ่อนปวกเปียกไปหมด แบ้วต้องไปคนเดียวอีก พอไปถึงหมอบอกร่างกายเรามีบางอย่างผิดปกติ แต่ต้องออกเงินเองในแลปบางอย่าง เราก้อบอกหมอว่าเราไม่พร้อมเรื่องเงิน

คืนนั้นพอกลับมาถึงห้องเราได้ยินโทรศัพท์จากพ่ออีก บอกแม่ดูอาการแย่ ซักพักที่ทำงานโทรมาหาเราอีกบอกจะต่อโปรทำงานเราออกไป เท่ากับว่าเงินเราก้อยังไม่ได้เต็มๆ คืนนั้นเราหดหู่มาก เราเหนื่อย เราท้อ เราเศร้า ทุกอย่างมันถาโถมมาหาเราหมด เราร้องไห้เหมือนเป็นบ้า กรี๊ดในถังน้ำ ซักพักเราหยิบเข็มขัดมาแขวนกับประตูห้อง รัดคอตัวเอง จนรู้สึกชาๆ ซักพักหัวมันจะเริ่มไร้ความรู้สึกมันไม่เจ็บหรอกแต่เราอยากหลับ แต่เสียงจู่ๆเสียงจากไหนมาก้อไม่รู้ มันเป็นเสียงแม่เรา เรารีบถอดสายเข็มขัด รีบวิ่งไปดูคอตัวเองว่ามันมีรอยรัดไหม ละเปิดประตูไปดูข้างนอก เรานึกว่าแม่เรามา ซักพักเราก้อคิดว่าเราทำบ้าอะไร ทำไมเราเป็นคนแบบนี้ เราก้อร้องไห้ เราร้องจนเหนื่อย จนหลับไป พอตื่นมารู้สึกหิวมาก คอแห้ง เราก้อเดินไปซื้อมาม่าซอง กับ ดื่มน้ำก๊อกเอาให้ชุ่มคอ มันอิ่มจริงๆนะคะ คือเราเอาพออิ่ม พอเอาให้รอดเท่านั้นพอ

พอมาช่วงแรก เราทำงานได้หมื่นปลายๆ ลำบากมากๆ ไม่มีโอที ไม่มีค่าอย่างอื่น ต้องเดินไปกลับวันนึงหกกิโล ตัวเหม็นๆ โดนพูดลับหลังกระเทยหน้าผี ละคิดนู่นคิดนี่ไปล่วงหน้าเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน ทำให้ชีวิตติดลบ ซึมเศร้ามาก ..พอผ่านโปรมา เราได้สองหมื่นกว่าๆนะคะ เฉพาะเงินเดือน แล้วไม่รวมพวก ค่ากะ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าโอที ค่าวันหยุดแรงคูณ 3 อย่าง OT ชั่วโมงละ 150 บาท เราทำเดือนนึง 200 ชั่วโมง ก้อรวมๆไปเลยเราไม่ได้หยุดแต่เงินออกมาทีก้อห้าหมื่นอัพ  แต่เหนื่อยนะคะ เหนื่อยมากกกก ไหนจะกลับมาห้อง กวาดห้อง ถูห้อง ล้างห้องน้ำ ซักผ้า แต่หายเหนื่อยนะคะเวลาเงินออกมาที

พวกรายได้อย่างเงินเดือนที่ออกมาเราเก็บหมดค่ะ เก็บเรียบ ไม่ให้กระเด็น แต่อย่างพวกรายจ่ายประจำวัน พอทำงานไปซักพักจะเห็นพวกเพื่อนที่ทำงานทำกันจะมี เอาของมาขายในที่ทำงาน มีเปิดแทงเบอร์ มีขายข้าว ขายชามุก ขายขนม อย่างเราตอนแรกลองเป็นชามุกก่อน แต่หลังๆมาตื่นมาทำไม่ไหวค่ะ เพราะเม็ดมุกต้องต้มตั้งกะตีสี่ แล้วบางทีกว่าเราจะเลิกงานมีสี่ทุ่ม ลูกค้าออเดอร์มาปิดเที่ยงคืน ตื่นมาตีสี่ไม่ไหวจริงๆค่ะ เลยเลิกไป หลังๆมาเลยคิดค่าหิ้วเอา แล้วไปส่งเค้า อย่างพี่แผนกนี้จะกินอะไรเราก้อเอาไปส่งให้ คิดค่าหิ้วชิ้นละห้าบาท เราไปทำงานเช้าหน่อย อย่างเข้างานแปดโมง หกโมงเช้าเราไปถึงที่ทำงานแล้วค่ะ จัดการส่งของ เอาของแช่ตู้เย็น แปะชื่อ เห็นเล็กๆน้อยๆแบบนี้วันนึงส่งร้อยคน เราได้หลายร้อยแล้วนะคะ ทำเป็นเล่นไป อย่าดูถูกอะไรเล็กๆน้อยๆค่ะ บางทีมีทิปอีก เราไม่เคยใช้เงินเดือนเลย เพราะส่งของจากตรงนี้นี่แหละ

พอตกสายหน่อยอย่าง แปดโมงเช้า ก้อโพสขายของออนไลน์ไปเลยค่ะ จะเป็นไอจี ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค ใช้ให้เป็นประโยชน์ไปเลยค่ะ ไม่ต้องอาย แต่พวกของออนไลน์นี่ ไม่แนะนำพวกสต๊อคของนะคะ มันจะเข้าเนื้อ แล้วอีกอย่างถ้าปล่อยยากๆ เราก้อจะขาดทุน พวกขายออนไลน์เรามาจ่ายค่าห้อง ประมาณสองพันกว่าบาท

ช่วงเย็นๆ วันไหนว่างๆ มีงาน จะไปช่วยเค้าทำค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้า ทำผม จัดดอกไม้ พวกนี้เราชอบค่ะ พวกสำเพ็ง คลองสาน เสือป่า คลองถม เราไปเดินซื้อของมาหมด
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ขอต่ออีกนิดนะคะ เกี่ยวกับเรื่อง ทำสวย

คือเราเองก้อยังไม่ได้แปลงเพศนะคะ แต่เร็วๆนี้มีความฝันว่าอยากแปลงเพศ เพราะเราก้ออยากเป็นผู้หญิงคนนึงเหมือนกัน

ในฐานะที่เราเป็นกระเทยคนนึงที่ไม่สวย และ โดนว่าลับหลังเป็นกระเทยหน้าผีมา แล้วก้อเอามาปรับปรุงตัวเอง

อย่างแรกเลยคือ ต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่างเราก้อให้พ่อเราทุกเดือนอยู่แล้ว แม่เราก้อให้ หักค่าเงินเก็บ ค่าห้อง ค่าของกิน ส่วนต่างที่เหลือเราถึงจะเอามาดูแลตัวเอง

พวกยาฮอร์โมน เป็นสิ่งสำคัญที่กระเทยต้องทานนะคะ อย่างเราจะทานสองตัว เพื่อพร้อมกับการที่จะแปลงเพศ  

ตอนนี้เรายังไม่ได้ทำอะไรซักอย่างเลย แต่พวกผิวพรรณ กับ สรีระ ก้อเริ่มดีขึ้น เพราะเราก้อมีเงินมาพอดูแลตัวเอง คือ ใครจะบอกว่าคนเรามองกันข้างใน แต่บางอย่างเราก้อต้องยอมรับนะคะ ว่าที่เห็นมันคือข้างนอกก่อนจริงๆ

อันนี้เราว่าจะทำให้ตัวเองเป็นของขวัญปีใหม่ ก้อคงทั้ง นม และ อวัยวะเพศ

หลังๆมาเราเริ่ม ไปทำบุญมากขึ้น แต่เราไม่ได้บริจาคนะคะ เพราะ เราก้อให้พ่อ กับ แม่เราสองท่าน  มีให้ป้าด้วยค่ะ เพราะป้าเราเคยช่วยเรื่องค่าเช่าห้อง (ในเดือนแรกๆที่เราไม่พอใช้) หลังจากนั้นมา เราก้อเหมือนเจอทั้งเงิน เจอทั้งงาน เจอเพื่อนที่ดี เจอแฟน ซึ่งเราว่าทุกอย่างเกิดจากการให้จริงๆค่ะ แต่ไม่ใช่ให้จนหมดตัว ไม่เหลือเก็บนะคะ คือทุกอย่างเราหักจากส่วนที่เราคิดไว้แล้วเป๊ะๆ  ชีวิตจะได้ไม่ลำบากอีกต่อไปค่ะ

สุดท้ายแล้ว ชีวิตจะเจอดีหรือร้าย เรายอมรับมันแล้วค่ะ เพราะเราผ่านจุดที่ยากที่สุดมาแล้ว ต่อไปนี้จะเจออะไรก้อแค่ทำให้สุดแล้วยอมรับมันค่ะ เชื่อว่าเบื้องบนคงลิขิตมาแล้ว ที่เหลือแค่ทำให้เต็มที่ค่ะ

หวังว่าเรื่องของเราจะเป็นกำลังใจให้คนที่ท้อได้ เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเผชิญปัญหาได้ ผ่านพ้นไปได้ด้วยกันค่ะ

สวัสดีปีใหม่(ล่วงหน้า) อีกรอบนะคะ ^^
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัว ครอบครัว สุขภาพจิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่