คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
เคยดูหนังดูละครใช่ไหมครับ
คงจะเคยมีความรู้สึก ไปตามตัวละครที่เล่น เช่นบางทีก็รู้สึกชอบ รู้สึกเกลียด รู้สึกโกรธ บางทีก็ร้องไห้ จากการดูหนัง นั่นเป็นเพราะว่า เราอินไปกับละครนั้น เรามีอารมณ์ร่วมกับละครนั้น
แต่เมื่อดูจบ เราก็จะทิ้งอารมณ์เหล่านั้นไป
ในชีวิตจริง ก็ให้ทำเหมือนในละครครับ เมื่อเจออารมณ์ที่เราไม่ชอบ เช่นโกรธ เกลียด เสียใจ เมื่อเรารู้สึกว่ามีอารมณ์ที่ไม่ดี ขอให้รีบวางมันลง ให้ทิ้งมันไป เหมือนกับที่เราดูละครจบแล้ว เพียงแค่นี้เอง ก็จะไม่ทุกข์
แต่ถ้าไม่ยอมทิ้ง แล้วเอามาแบก ก็จะหนัก และส่วนใหญ่จะนำมาแบกเพิ่มขึ้นทุกๆวัน ก็จะหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน ก็จะทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ
วิธีแก้ไขง่ายๆ เพีบงแค่อย่าเอามาแบก ทิ้งมันไปให้หมด จะได้เบา
ในชีวิตจริง ให้คิดว่ากำลังเล่นละครเรื่องหนึ่งอยู่
คุณเล่นเป็นนางเอก ซึ่งเรื่องนั้นครอบครัวของนางเอกมีปัญหา โดนคนที่บ้าน โขกสับ ใช้แรงงานเช้ายันค่ำ โดนด่าเช้าด่าเย็น โดนซ้อมวันละ3ครั้งหลังอาหาร.....โหดเน๊าะ5555
เวลาหนูดูละคร สิ่งที่หนูควรทำคือ
เมื่อเห็นปัญหาต่างๆ เช่น เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของนางเอก ชอบทะเลาะกัน
ให้หนูใช้สมอง เฉพาะส่วนที่เป็นเหตุและผล
รับทราบ รับรู้ และ*"หยุดเพียงเท่านั้น"
***"แต่อย่าไปใช้สมองส่วนที่เป็นความรู้สึก"
รับเอาความรู้สึกเหล่านั้นไปแบกไว้
เมื่อรู้สึก ก็รีบวางลง ทิ้งอารมณ์นั้นไป
เพราะถ้าเอามาแบกไว้ เอามาคิดมาก
ก็จะทำให้เครียด จะทำให้ทุกข์
คืออย่าไปอินกับเรื่องเหล่านั้น
อย่าไปมีความรู้สึกร่วมกับเรื่องเหล่านั้น
ให้ปล่อยวาง ให้ปล่อยผ่านไป
ถ้าหนู อินไปกับสิ่งเหล่านั้น
ถ้ามีความรู้สึกร่วมกับสิ่งเหล่านั้น
หนูก็จะทุกข์
ดังนั้น อย่าไปอิน อย่าไปมีความรู้สึกร่วม
จะได้ไม่เครียด จะได้ไม่ทุกข์
คนเราเลือกเกิดไม่ได้
เลือกให้คนอื่นเป็นอย่างที่หนูชอบไม่ได้แต่หนูเลือกที่จะไม่ทุกข์ได้ เพียงแค่ปล่อยวาง
จะทำให้อยู่กับความทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์
คงจะเคยมีความรู้สึก ไปตามตัวละครที่เล่น เช่นบางทีก็รู้สึกชอบ รู้สึกเกลียด รู้สึกโกรธ บางทีก็ร้องไห้ จากการดูหนัง นั่นเป็นเพราะว่า เราอินไปกับละครนั้น เรามีอารมณ์ร่วมกับละครนั้น
แต่เมื่อดูจบ เราก็จะทิ้งอารมณ์เหล่านั้นไป
ในชีวิตจริง ก็ให้ทำเหมือนในละครครับ เมื่อเจออารมณ์ที่เราไม่ชอบ เช่นโกรธ เกลียด เสียใจ เมื่อเรารู้สึกว่ามีอารมณ์ที่ไม่ดี ขอให้รีบวางมันลง ให้ทิ้งมันไป เหมือนกับที่เราดูละครจบแล้ว เพียงแค่นี้เอง ก็จะไม่ทุกข์
แต่ถ้าไม่ยอมทิ้ง แล้วเอามาแบก ก็จะหนัก และส่วนใหญ่จะนำมาแบกเพิ่มขึ้นทุกๆวัน ก็จะหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน ก็จะทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ
วิธีแก้ไขง่ายๆ เพีบงแค่อย่าเอามาแบก ทิ้งมันไปให้หมด จะได้เบา
ในชีวิตจริง ให้คิดว่ากำลังเล่นละครเรื่องหนึ่งอยู่
คุณเล่นเป็นนางเอก ซึ่งเรื่องนั้นครอบครัวของนางเอกมีปัญหา โดนคนที่บ้าน โขกสับ ใช้แรงงานเช้ายันค่ำ โดนด่าเช้าด่าเย็น โดนซ้อมวันละ3ครั้งหลังอาหาร.....โหดเน๊าะ5555
เวลาหนูดูละคร สิ่งที่หนูควรทำคือ
เมื่อเห็นปัญหาต่างๆ เช่น เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของนางเอก ชอบทะเลาะกัน
ให้หนูใช้สมอง เฉพาะส่วนที่เป็นเหตุและผล
รับทราบ รับรู้ และ*"หยุดเพียงเท่านั้น"
***"แต่อย่าไปใช้สมองส่วนที่เป็นความรู้สึก"
รับเอาความรู้สึกเหล่านั้นไปแบกไว้
เมื่อรู้สึก ก็รีบวางลง ทิ้งอารมณ์นั้นไป
เพราะถ้าเอามาแบกไว้ เอามาคิดมาก
ก็จะทำให้เครียด จะทำให้ทุกข์
คืออย่าไปอินกับเรื่องเหล่านั้น
อย่าไปมีความรู้สึกร่วมกับเรื่องเหล่านั้น
ให้ปล่อยวาง ให้ปล่อยผ่านไป
ถ้าหนู อินไปกับสิ่งเหล่านั้น
ถ้ามีความรู้สึกร่วมกับสิ่งเหล่านั้น
หนูก็จะทุกข์
ดังนั้น อย่าไปอิน อย่าไปมีความรู้สึกร่วม
จะได้ไม่เครียด จะได้ไม่ทุกข์
คนเราเลือกเกิดไม่ได้
เลือกให้คนอื่นเป็นอย่างที่หนูชอบไม่ได้แต่หนูเลือกที่จะไม่ทุกข์ได้ เพียงแค่ปล่อยวาง
จะทำให้อยู่กับความทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์
แสดงความคิดเห็น
เกิดมาเพื่อโดนรังแก เหมือนในละครน้ำเน่าไช่ป่ะ
1.ตอนเด็ก โดนพี่เลี้ยงจิกใช้อย่างกับทาส ในบ้านตัวเองแท้ๆ
โดนสาระพัด ทั้งด่าทั้งยิก ไห้ไห้พ่อเรารุ้ ทุกวันนี้พ่อก้ไม่รุ้
2. ตอนเด็กเถียงกับลูกแม่เลี้ยงคนเล็ก ว่านี้มันบ้านฉัน
จนผู้ใหญ่ คือแม่เลี้ยงกับพ่อ ทะเลาะกัน จนพวกเราและพ่อต้องออกไปนอนข้างนอก
ไปหาห้องพักชั่วคราวยุ (บ้านฉันจริงๆนี่นา) แต่ลูกเลี้ยงก้ว่าเป็นบ้านของเขาเช่นกัน
..เมื้อเราโต
3.แม่แท้ๆฟังชาวบ้าน (เราก็ไม่อยากโทษแกหรอกนะ เพราะแกหัวอ่อน แต่มันน่าน้อยใจ)
ให้ตำรวจเข้ามาจับเรา เพราะคิดว่าติดยา เพราะเราตัวผอม จริงๆ ที่ผอม เพราะแม่ไม่ไห้ตัง แม่คิดว่าเราเอาไปจ่ายอย่างอื่น
อีกทั้ง คิดว่าแฟนเก่าเราให้ตังจ่าย แต่เปล่าเรย เราอดข้าว ทั้งสองคน ต้องกินม่าม่า เกือบทุกมื้อ บางมื้อก้ไม่ได้กิน .
(เรายืนยันคำเดิมว่า เราไม่ได้ติดยา เราไม่ได้เล่น เราโดนนายทุบ เพราะคิดว่าเป็บเครื่องวัดคนท้อง สุดท้ายผล คือเยี่ยวไม่ม่วง
4.แม่แท้ๆ ฟังชาวบ้าน แม่พาเราไปบ้านพักเด็ก ตอนนั้น15 ปี เราไม่ไช่คนยากจนเสียหน่อย เราไม่ไช่คนไม่มีพ่อ แม่
ทำไมถึงพาเรามาไว้ที่นี้ เพียงเพราะฉันไม่ทำตามที่แม่บอก ฉันรุ้ตัวเองว่าต้องยุที่นั้นถึง1ปี ตัดขาดกับโลกภายนอก
ฉันยุที่นั้นได้ 3เดือน ฉันขอเจ้าหน้าที่โทรหาแม่ และบอกกับแม่ว่าไห้เอาตัวฉันออกไป ฉันจะทำตามที่ที่แกพุด
(ปัจจุบัน) 5.ฉันโดนคนที่แม่ไว้ใจ คนที่แม่ฝากเงิน คนที่แม่เล่าปัญหาให้กับเค้า คือ คนที่ช่วยแม่เก็บค่าเช่าห้อง
ฉันพยามบอกกับแก ว่าแก ว่าแกก้ได้ผลประโยชน์จากแม่บ้าง อีกอย่างแกก็เอาเรื่องแม่และครอบครัวเอาไปเล่านิทราให้คนนอกฟัง
(ฉันอยากไห้แม่ไล่เค้าออกไป เพราะฉันจะอาบน้ำแปรงโถส้วม ยุในถังน้ำที่จะตักอาบ พอนอน ก็มีประทัด ตรงหน้าห้องฉัน
และฉันก้รุ้ว่าใคร ในเมื่อบอกแม่ไป แม่ก้เฉยๆ ฉันต้องยุแบบกลัวๆว่าใครจะแกล้ง จริงๆมันไม่แฟร์เรย นี่มันบ้านฉันนะ
แม่ฉันให้เค้าเข้ามีสิทธิ ทำอะไรไม่แกล้งใจเรย พุดไล่ฉันออกไปบ้าง ไม่ไห้คนเช่าทั้งหมดล้างห้องน้ำ ให้ฉันล้างคนเดียว