อยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่โดนจ้างออกในปีนี้

เข้ามาเขียนเพราะไม่รู้จะระบายกับใคร ยังไงปีนี้ ผิดหวังกลางปี และเคราะห์ซ้ำกรรมซัดยันท้ายปีโดนบริษัทลดคนอีกตามเคย จะสิ้นปีแล้วด้วย
ตอนนี้นั้นรู้สึกหน้าชา และหัวสมองมันเบลอๆ วิ้งๆ ไม่รู้จะเดินทางไหนต่อไปดี ก็คงต้องรับชะตากรรมสู้ชีวิต ดิ้นกันไปต่อสินะครับ
เพื่อนของพี่อีกคนทำงาน อยู่บริษัทใหญ่ อายุก็ 40+ แล้วมี บ้าน รถ ต้องผ่อน และลูกกำลังเรียนอีก 2 คน ชีวิตเขาจะต้องอยู่อย่างไงต่อไป
ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองและ คนที่โดนในปีนี้นะครับ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีทุกท่าน

ขอบคุณครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
อ่านแล้วถึงกับต้องล็อคอินเข้ามาตอบเลย

เรากับแฟนก็ถูกเลิกจ้างในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งคู่ค่ะ และไม่ได้รับเงินชดเชยตามกฏหมาย (ส่วนของเราได้มาบางส่วนจากการคร่ำครวญของเรา นาทีนั้นให้เราลงไปดิ้นๆๆกับพื้นเราก็ต้องทำ)

ผ่านมาเข้าปีที่สองแล้ว ก็ยังไม่ได้งานทำ ด้วยภาระที่มีทั้งในและนอกระบบ นอกระบบของเราในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเงินกู้หมวกกันน็อคนะคะ หมายถึงค่าใช้จ่ายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน  ค่าหาหมอของแม่ และหมา(ดันมาป่วยหนักอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้) ฯ คือส่วนที่หยุดจ่ายไม่ได้ ส่วนในระบบหมายถึงหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อต่างๆ ทำให้เราทำอย่างที่ใครๆบอกไม่ได้คือ งานอะไรก็ทำไปก่อน เงินเดือนเก้าพันหมื่นนึงก็ทำไปก่อน คำนวณยังไงก็ทำไม่ได้จริงๆ (แต่หนี้บัตรเครดิตเราหยุดจ่ายไปบางส่วนนะคะ ไม่ไหวจริงๆค่ะ ช่วงนี่เลยเดินขึ้นศาลเป็นว่าเล่นเลยเชียว)

ตกงานมาเกือบสองปี เงินเก็บหมด มีหนี้เพิ่มเกือบครึ่งล้าน โชคดีที่ญาติสามีใจดีมาก ให้ยืมลงทุน ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ บอกตามตรงทุกวันนี้ก็ยังขาดทุนอยู่ค่ะ อยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากคนรอบข้างล้วนๆ ยังไม่เห็นทางที่จะกลับไปยืนได้ด้วยตัวเองเลยจริงๆ อย่าพูดเรื่องเครียดเลย มันเลยจุดนั้นมาแล้ว  สามีน้ำหนักลดลงเกือบสิบโล ส่วนเราเครียดจนโรคเก่ากำเริบ  ต้องคอยดึงสติกันตลอด

เรากับสามีอายุหลักสี่ด้วยกันทั้งคู่ค่ะ ได้แต่ผลัดกันเชียร์อัพให้กำลังใจกัน เรามั่นใจว่าเราไม่ใช่คนขี้เกียจ ตั้งแต่ตกงานมา ไม่เคยมีซักวันที่เราจะอยู่บ้านเฉยๆโดยไม่คิดหรือทำงาน เรื่องเที่ยวแพงๆ ต่างจังหวัด ต่างประเทศ ลืมไปได้เลย ตั้งแต่ตกงานมา เราไม่เคยซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อะไรที่ฟุ่มเฟือยเราไม่แตะเลย เงินเก็บที่เคยมี เงินที่เคยแอบเก็บสะสมไว้ เทรวมมากองกลางบ้านหมด สู้กันสุดตัว สู้กันขนาดนี้มันต้องมีซักวันที่เป็นของเราสิ

หายตกใจแล้วรีบตั้งหลักเร็วๆนะคะ มาสู้ไปด้วยกัน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราทำของเอกชน ก่อนหมดสัญญาจ้างเค้าเรียกขึ้นไปกดดันสารพัดเลยค่ะ เรียกเราขึ้นไปพบ 3 วันติดๆกันไมเกรนขึ้นทุกวัน บอกเราให้ออกเองตอนสิ้นเดือน แล้วจะให้เงินชดเชย 1 เดือน สภาพเราตอนนั้นเคว้งคว้างไปหมด เสียใจไปพักนึง ทั้งที่เราทำงานด้วยใจ ดึกดื่นไม่มีโอทีให้เราก้ทำ สรุปแล้วเราก้ไม่มีค่าอะไรเลย เจ้าของกระทู้สู้ๆนะคะ ขอแนะนำไอเดียนะคะ ตอนนี้เราทำแซนวิชกะข้าวกล่องขาย ขายไม่แพงมากกล่อง 20 บาทคนซื้อตลอด ไม่ต้องทำเยอะๆ เอาสัก 10 กล่องก่อนลองดูค่ะ
ความคิดเห็นที่ 24
เฮ้อ ... นี่ผมก็เพิ่งโดนจ้างออกตอนอายุ 35 บริษัทเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
เงินเก็บกะจ้อยร่อย ดีว่าไม่มีเมีย ไม่มีลูก เลี้ยงแม่คนเดียว ไม่มีหนี้ มีแต่เสียค่าเช่าห้อง เลยย้ายมาอยู่คอนโดระดับล่างถูกๆก็พอ

สู้ๆกันต่อไป เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
ความคิดเห็นที่ 5
อ่านแล้วนึกถึงพวกที่บอก ชอบซื้อบ้านดีกว่าเช่า เพราะเสียดายค่าเช่าเลย        เตือนกันไม่ฟัง  แห่ซื้อบ้านตามกันก็เพราะกลัวราคาขึ้นไปไกล  
   ปัจจุบันหลายคนเหมาะเช่าอยู่อาศัยมากกว่าผ่อน   เนื่องจากสภาพการจ้างงานไม่มั่นคง เศรษฐกิจแย่ด้วย  ค่าผ่อนถูกกว่ามาก    
ที่สำคัญไม่เสี่ยงเป็นหนี้ระยะยาวด้วย  ไม่งั้นแย่       ยังไงก็วางแผนชีวิตกันดีนะครับ
ความคิดเห็นที่ 55
หลายคน ก็ใช้เวลางานสันทนาการอย่างฟุ่มเฟือย แต่ก็มีข้ออ้างต่างๆนาๆ ที่จะตำหนิคนอื่น  ลูกจ้างบางคน  (เน้นบางคนไม่เหมารวมทุกคน) มาทำงาน สาย และกลับบ้านเร็ว เพราะมีความจำเป็น และภาระ อย่างมาก (มีทั้งน่าเห็นใจจริง และไม่น่าเห็นใจ) หัวหน้าก็ไม่ว่า เงียบเพราะอาจรู้ว่า อาจถูกนำไปเป็นประเด็น เมื่อมาสายอย่างสม่ำเสมอ และชั่วโมงทำงานน้อย จึงส่งผลให้เนื้องานนั้นด้อยค่า.ไม่มีราคา(แต่ไม่ยอมรับ) ยังดีทีมีทางออกคือคนในทีม ยังช่วยประคับประคอง ให้มันพอถูไถและไปดี นานวันเข้า ความอ่อนล้าของคนทำงานเริ่มเหนื่อยหน่ายและหมดแรง  ส่วนคนที่มีภาระมาก สายสม่ำเสมอ ก็อ่อนแรง  วันนึงถึงคราวประเมินผลงานเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม กลุ่มที่ดูผลงานน้อยต้องถูกเลิกจ้าง คนในกลุ่ม ทีทำงานดี ออกไป  ต่อยอดสร้างตัวเองใหม่ได้ดี ต่อให้เจอเนื้องานยากและท้าทายก็ผ่านไปได้.....  จากทักษะ ที่ฝึกฝนจนช่ำชอง อย่างสม่ำเสมอ  ส่วนคนทีสม่ำเสมอจากการมาสายและกลับเร็วเพราะมีภาระต่างๆนาๆ เมื่อออกไป  กว่าจะตั้งตัวได้  ........ ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่  เพราะสิ่งแรกที่ทำ คือโทษบริษัท โทษหัวหน้างาน โทษรอบๆตัว ยกเว้นโทษตัวเอง ว่าสั่งสมและทำอะไรมาในตลอดชีวิตการทำงาน ถ้าเราดีแล้ว เจอหัวหน้าไม่ดี ไม่ถูกใจ ต้องหาทางไป  ให้ถูกจริตและเหมาะกับตัวเอง แต่ถ้าตัวเองไม่ดี แล้วไม่ยอมรับไม่รู้ตัว จะไปไหน ก็จะคอยแต่หาข้อติเตียนผู้อื่นและคนรอบข้าง แต่ตัวเองไม่พัฒนา ถึงเวลา ต้องแสดงฝีมือ ก็จะไปไม่เป็น เศร้าและเหงาอย่างเดียว.   คนทุกคนมีพลังชีวิตที่ดีหมด แต่อยู่ที่ว่า คุณจะใช้มันอย่างไร  คนแกร่ง ดี มีคุณภาพ  ต่อให้เจอปัญหาอะไร ยังไงก็ไปต่อได้
ความคิดเห็นที่ 78
เราก็เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งถูกเลิกจ้างเช่นกันค่ะ อายุ 39 แล้ว แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหลังจากถูกเลิกจ้างได้แค่เดือนเดียว
สามีก็เสียชีวิตแบบจากไปอย่างกระทันหันอีก เรียกได้ว่าเป็นปลายปีที่มรสุมเข้าอย่างหนักหน่วงชีวิตพังกันเลยทีเดียว
ช่วงนั้นก็วิ้งค์ๆ เบลอๆ ไปอยู่พักใหญ่ รู้สึกว่ากว่าจะผ่านไปได้แต่ละวันมันช่างนานเหลือเกิน แถมยังมีบ้านที่กู้ร่วมกันเป็นภาระก้อนใหญ่อีก

ยังไงขอเป็นกำลังใจใหัอีกเสียงนะคะ เพราะนี่ที่ผ่านมาได้ก็มาจากกำลังใจจากคนรอบข้างเช่นเดียวกัน สู้ๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่