จากจุดเริ่มต้นที่ต้นปีเริ่มต้นด้วยยอดดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปิดท้ายปีด้วยยอดดอยเขาเทวดา จ.สุพรรณบุรี แค่ชื่อก็ทำให้รู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ละครัช ระยะทางที่ไม่ไกลกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางไม่นานและสามารถไปกลับ เสาร์ – อาทิตย์ได้สบายๆ ทำให้เกิดทริป “ตักหมอกและสอยดาว” ใครจะไปคิดว่าสุพรรณบุรีไม่ได้มีดีแค่เมืองขุนแผน ขนมสาลี่และขนมโมจิ
ยอดเขาเทวดาเป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นยอดเขาที่มีระดับความสูง 1,123 เมตร จากระดับน้ำทะเล ระยะเวลาท่องเที่ยวได้ทั้งปีแต่ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะดีที่สุดจะได้เห็นหมอกเยอะมากช่วงต้นเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคมและบนยอดเขาเทวดาเพราจะสามารถเห็นวิวได้ 3 จังหวัด 1.จ.สุพรรณบุรี 2.จ.กาญจนบุรี 3.จ.อุทัยธานี
การเดินทางขึ้นยอดเขาเทวดาและค่าใช่จ่ายเบื้องต้น
1) โทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนเพื่อจองสถานที่และเช่าอุปกรณ์ต่างๆ 081-934-2240
2) ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวมาเอง ถ้าเป็นรถเก๋งก็จอดได้แค่ศูนย์พิทักษ์อุทยานพุเตยที่เหลือต้องเช่ารถ 4WD ขึ้น ติดต่อจองเช่ารถก่อนมาได้เลย 2,000 บาท/คัน จุได้มากกว่า 6 คน (แต่รถมอเตอร์ไซค์ก็มีเห็นเอาขึ้นแล้วแต่สภาพคนขับ)
3) ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็ก 10 บาท/คน
4) ค่ารถเข้าอุทยาน รถยนต์ 30 บาท/คัน รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คับ
5) ค่าเช่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท
6) ค่าเช่าเต็นท์ 250 บาท/หลัง
7) ค่าเช่าอุปกรณ์เครื่องนอน / ถุงนอน / เบาะปูรองนอน / หมอน อย่างละ 20 บาท
8) ค่าเช่าเตาทำอาหาร + ตะแกรง 60 บาท/ชุด
จุดกางเต็นท์มี 3 จุด
จุดที่ 1 หน่วยพิทักษ์อุทยานฯพุเตยที่ 1 (ด่านวังคัน – ป่าขี)
จุดที่ 2 ที่ทำการอุทยานฯพุเตย (ด่านปลักประดู่ – ห้วยหินดำ)
จุดที่ 3 หน่วยพิทักษ์อุทยานฯพุเตยที่ 3 ตะเพินคี่ (ด่านปลักประดู่ – ตะเพินคี่)
DAY 1 วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลา 7.30 น.
ไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาถ้าเราไม่รู้จักสร้างมันขึ้นมาเอง ป่ะพวกเราเริ่มออกเดินทาง
เปิด Google map เลยครับระยะทาง 263 km. ใช้เวลา 4.40 นาที ทีมงานล้อหมุนตอน 7.30 น. ทริปนี้เป็นทริประยะสั้นของกินก็เตรียมอาหารสดไปทำกินบนลานกางเต็นท์ได้แพ็คใส่ลังโฟมอย่างดีจากกรุงเทพถึงจุดแวะจุดแรกฝากท้องที่ร้านเด็ดเมืองสุพรรณ เวลา 9.30น. 2ชม.ถึงตัวเมืองสุพรรบุรี “ร้านก๋วยเตี๋ยวเดินดง”
เมนูเด็ดประจำร้าน
จากจุดนี้ยังต้องใช้เวลาอีก 3 ชม. กว่าจะถึงจุดหมายกินเสร็จออกเดินทางต่อตาม Google map ไปเรื่อยๆต่อมาจะเจอจุดแวะซื้อของต่างๆซึ่งควรแวะอย่างยิ่งระยะทางจากตลาดม่วงเท่าไปอุทยานฯพุเตยอีก 33 km. ซึ่งตลาดม่วงเท่าจะเป็นจุดที่เจริญและมีของซื้อของใช้จำเป็นต่างๆครบที่สุด
ซื้อสเบียงเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินทางต่อโดยระยะทางจากตลาดม่วงเท่าไปอุทยานฯพุเตยอีก 33 km.
หลังจากจุดนี้ข้อควรระวังไว้เลยคือเรื่องสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณ Internet จะเริ่มแกว่งๆขาดๆหายๆและย้ำว่าเป็นทุกเครือข่ายเหมือนกันหมดและจะเริ่มหายสนิทก็ช่วง 5 km. สุดท้าย
และแล้วเราก็มาถึงด่านแรกของอุทยานจุดเช็คอินกับทางอุทยาน
เวลาตอนนี้ 13.00 น. จ่ายเงินต่างๆและจะมีรถเจ้าหน้าที่มารับขึ้นไปลานกางเต็นท์ที่ 3 แต่ทีมงานเรามีการตกลงกับทางอุทยานคลาดเคลื่อนนิดหน่อยต้องมาลุ้นหน้างานว่าจะมีเครื่องนอนรึปล่าว
รถ 4WD ที่จะพาเราชาวแก๊งทั้ง 4 ชีวิตพิชิตยอดดอย โชเฟอร์ชื่อว่า พี่โต เป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยาน
ก่อนไปก็เก็บรูปรวมซักหน่อยยิ้มใสๆกันไป
ขนของสัมภาระขึ้นทายรถเป็นที่เรียบร้อย จริงๆแล้วด้านหลังก็สามารถนั่งได้แต่วันที่เราไปถนนมีแต่ฝุ่นนั่งท้ายน่าจะพากันหัวแดงตัวแดงกันเกินไป เลยเข้าไปนั่งข้างในกันทั้งหมด
ทางช่วงแรกๆยังเป็นทางปูนอย่างดีก่อนขึ้นเจ้าหน้าที่พาแวะกินข้าวกันก่อน
แนะนำร้านนี้เลยร้านลุงดำนับว่าเด็ดเดินทางกันต่อก็ยังยิ้มแย้มกันสัญญานโทรศัพท์และสัญญาน Net ตายสนิทไปละนะคับตั้งแต่จุดเช็คอินของอุทยานแล้ว อากาศดีๆวันนี้
สุดทางปูนแล้วหลังจากนี้ทั้งชันและหินกระจัดกระจายและขรุขระล้วนๆจุดเริ่มต้นทางดิน
2 ข้างทางมีแต่ป่าและฝุ่นร่องลอยร้าวของกระจกบ่งบอกได้ว่ารถคันนี้ลุยมาขนาดไหน
ทางที่ไม่ใช่ทางแต่ก็มีมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านสวนไปมาเป็นระยะ
จุดพักจุดแรกคือน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ทางขนาดนี้พี่เวสป้าแกก็ลุยขึ้นมาได้นับถือใจพี่เค้าจริงๆเพื่อนร่วมทาง 2 ล้อขับมาจากลพบุรีกันเลยเชียวใครจะเชื่อว่าพี่เค้าออกรถมา 6 เดือน วิ่งไปแล้ว 6,000 km. สายลุยจริงๆ
พี่โต เจ้าหน้าที่อุทยานโชเฟอร์ของเราจัดให้ 2-3 ภาพ
จากจุดนี้ระยะทาง 500 m. ที่ชันมากค่อยๆใต่กันลงไป
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกถึงความดั้นด้นกันขึ้นมา
เดินกลับไปที่รถมาทางไหนกลับทางนั้นเลย
เส้นทางก็จะโยกเยกหัวหมุนไปมาบวกกับฝุ่นและชันมากไปตลอดทาง
มาถึงจนได้จุดลานกางเต็นท์หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 ตะเพินคี่ จุดนี้นะไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาน Internet
แต่มีห้องน้ำ + ห้องอาบน้ำให้ ไฟที่ใช้ในห้องน้ำเป็นไฟจากแผงโซลาเซล
มีน้ำฝนรองใส่แทงค์น้ำไว้ให้ใช้
พร้อมขนสัมภาระลงแล้วไปจองพื้นที่กางเต็นท์
พื้นที่รอบๆลานกางเต็นท์จะมีสำนักงานให้ยืมสิ่งของพวกเครื่องนอน / เต็นท์ / ชุดทำอาหาร ที่เราจัดการเช่าตั้งแต่ด้านล่าง สรุปเรามีเครื่องนอนใช้กันคืนนี้นี
ทางเข้าลานกางเต็นท์
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าจัดแจงกางเต็นท์กัน
บริเวณรอบๆลานก็จะมุมใครมุมมัน มาเร็วก็ได้มุมดีๆไปวันนี้ถือว่านักท่องเที่ยวไม่เยอะเต็นท์กางกันไม่แออัดกำลังดีเลย ถ้ากางบริเวณขอบข้างๆก็จะดีตรงมีโต๊ะม้าหินให้โดยรอบๆบริเวณ อากาศวันนี้ เวลา 15.00 น. ประมาณ 22 องศา อากาศกำลังดี
ฟ้าใสแดดแรงดีจิมๆ เต็นท์ข้างเคียงมีน้ำใจงามมากๆ เป็นรุ่นใหญ่ที่ชอบออกตั้งแคมป์ไปในที่ต่างๆให้ยืมรูเสียบชาร์ทแบทกล้องและแบทโทรศัพท์รอดตายไปวันนี้ ขอเตือนเลยถ้าเราสามารถเตรียมแบทแบบชาร์ทเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไปด้วยจะดีมากๆเลย
แถมลิงค์ให้ลองทำความรู้จักกับมันได้
พวกเราขึ้นมาที่ระดับความสูง 802 m.จากระดับน้ำทะเลแล้ว
วัตถุดิบสำหรับเย็นนี้และเช้าวันพรุ่งนี้ บนนี้สามารถทำอาหารได้ทุกอย่างยกเว้นห้ามก่อกองไฟ บรรยากาศการช่วยกันทำอาหาร บริเวณรอบๆก็จะเป็นหมูบ้านกระเหรี่ยงมีการปลูกทำไร่ข้าวโพดตลอดแนว
รีบกินรีบนอนยังต้องเก็บแรงไว้ปีนเขาตอนตี 5 อีก
ก่อนนอนคืนนี้ดาวเยอะมากภาพจากกล้องเพื่อนร่วมทางที่ไปรู้จักกันที่นั้นดาวเยอะและสวยจริงๆตอนนี้อากาศ 18 องศา ที่เวลา 00.30 น.
DAY 2 วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561 เวลา 4.00 น.
เช้าตรู่ของวันนี้ การจะขึ้นยอดเขาเทวดาจะมีรถที่เราเช่าไว้มารับเราช่วง 4.30 น. ขึ้นไปส่งตีนเขาใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที แต่เกิดเหตุอีกแล้วรถที่เราเช่ากันไว้ดันไม่มาตามนัดเลยต้องอาศัยรถคันอื่นขึ้นไปแทนอากาศเช้านี้ค่อนข้างเย็น ทางก็มืดมากไฟฉายแบบคาดหัวสำคัญนะคับพกติดตัวมาเลยแต่สภาพร่างกายที่สมบูรณ์ก็สำคัญเช่นกันทางค่อนข้างชันมากและเป็นการปีนป่ายซะส่วนใหญ่จะต้องใช้ทั้ง 2 มือ 2 เท้ากันเลยทีเดียว ทางที่ชันๆก็จะมีเชือกให้โหนเกาะขึ้นด้านบนจากจุดเริ่มเดินขึ้นยอดเขาเทวดาจะมีระยะทาง 1000 m. ซึ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลที่พอเราขึ้นไปถึงข้างบนได้เราจะภูมิใจกับมันมากๆ เริ่มจากจุดทางขึ้นตอน 05.00 น. ถึงยอดเขาเทวดาตอน 6.00น. ขอยอมรับวิวหลักล้านจริงๆ
งามสมคำล่ำลือจริงๆบนนี้ แสงแดดแรกยามเช้าของวันใหม่ อาบชโลมยอดเขาหลายๆลูกเบื่องหน้าสุดลูกหูลูกตาทอดยาวออกไป
สมแล้วที่ได้ชื่อว่ายอดเขาเทวดา
สายหมอกไหลเอื่อยๆเป็นริวๆตามแรงลมผ่านช่องเขาสลับไปมามันชั่งเนียนตาดีจิงๆ
ลองหยิบพระอทิตย์ใส่กระเป๋าเอากลับไปดูที่บ้านเลยใกล้กันแค่เอื้อมด้านบนยอดเขาเทวดาจะมีแต่เจดีย์กับพระพุทธรูปเป้นสิ่งที่ชาวบ้านเชื้อสายกะเหรี่ยงได้สร้างไว้บนนี้เพราะมีตำนานเรื่องเทวดาบนนี้
บริเวณโดยรอบๆด้านบนมีจุดชมวิวทั้งจุดถ่ายรูปป้ายบอกต่างๆแดดเริ่มแรงขึ้นมากแล้วบนนี้ต่างคนต่างเริ่มหาที่พักหลบจากแดดกัน
[CR] “ตักหมอกและสอยดาว”....ยอดเขาเทวดา
ยอดเขาเทวดาเป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นยอดเขาที่มีระดับความสูง 1,123 เมตร จากระดับน้ำทะเล ระยะเวลาท่องเที่ยวได้ทั้งปีแต่ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะดีที่สุดจะได้เห็นหมอกเยอะมากช่วงต้นเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคมและบนยอดเขาเทวดาเพราจะสามารถเห็นวิวได้ 3 จังหวัด 1.จ.สุพรรณบุรี 2.จ.กาญจนบุรี 3.จ.อุทัยธานี
การเดินทางขึ้นยอดเขาเทวดาและค่าใช่จ่ายเบื้องต้น
1) โทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนเพื่อจองสถานที่และเช่าอุปกรณ์ต่างๆ 081-934-2240
2) ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวมาเอง ถ้าเป็นรถเก๋งก็จอดได้แค่ศูนย์พิทักษ์อุทยานพุเตยที่เหลือต้องเช่ารถ 4WD ขึ้น ติดต่อจองเช่ารถก่อนมาได้เลย 2,000 บาท/คัน จุได้มากกว่า 6 คน (แต่รถมอเตอร์ไซค์ก็มีเห็นเอาขึ้นแล้วแต่สภาพคนขับ)
3) ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็ก 10 บาท/คน
4) ค่ารถเข้าอุทยาน รถยนต์ 30 บาท/คัน รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คับ
5) ค่าเช่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท
6) ค่าเช่าเต็นท์ 250 บาท/หลัง
7) ค่าเช่าอุปกรณ์เครื่องนอน / ถุงนอน / เบาะปูรองนอน / หมอน อย่างละ 20 บาท
8) ค่าเช่าเตาทำอาหาร + ตะแกรง 60 บาท/ชุด
จุดกางเต็นท์มี 3 จุด
จุดที่ 1 หน่วยพิทักษ์อุทยานฯพุเตยที่ 1 (ด่านวังคัน – ป่าขี)
จุดที่ 2 ที่ทำการอุทยานฯพุเตย (ด่านปลักประดู่ – ห้วยหินดำ)
จุดที่ 3 หน่วยพิทักษ์อุทยานฯพุเตยที่ 3 ตะเพินคี่ (ด่านปลักประดู่ – ตะเพินคี่)
DAY 1 วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลา 7.30 น.
ไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาถ้าเราไม่รู้จักสร้างมันขึ้นมาเอง ป่ะพวกเราเริ่มออกเดินทาง
เปิด Google map เลยครับระยะทาง 263 km. ใช้เวลา 4.40 นาที ทีมงานล้อหมุนตอน 7.30 น. ทริปนี้เป็นทริประยะสั้นของกินก็เตรียมอาหารสดไปทำกินบนลานกางเต็นท์ได้แพ็คใส่ลังโฟมอย่างดีจากกรุงเทพถึงจุดแวะจุดแรกฝากท้องที่ร้านเด็ดเมืองสุพรรณ เวลา 9.30น. 2ชม.ถึงตัวเมืองสุพรรบุรี “ร้านก๋วยเตี๋ยวเดินดง”เมนูเด็ดประจำร้านจากจุดนี้ยังต้องใช้เวลาอีก 3 ชม. กว่าจะถึงจุดหมายกินเสร็จออกเดินทางต่อตาม Google map ไปเรื่อยๆต่อมาจะเจอจุดแวะซื้อของต่างๆซึ่งควรแวะอย่างยิ่งระยะทางจากตลาดม่วงเท่าไปอุทยานฯพุเตยอีก 33 km. ซึ่งตลาดม่วงเท่าจะเป็นจุดที่เจริญและมีของซื้อของใช้จำเป็นต่างๆครบที่สุดซื้อสเบียงเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินทางต่อโดยระยะทางจากตลาดม่วงเท่าไปอุทยานฯพุเตยอีก 33 km.หลังจากจุดนี้ข้อควรระวังไว้เลยคือเรื่องสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณ Internet จะเริ่มแกว่งๆขาดๆหายๆและย้ำว่าเป็นทุกเครือข่ายเหมือนกันหมดและจะเริ่มหายสนิทก็ช่วง 5 km. สุดท้ายและแล้วเราก็มาถึงด่านแรกของอุทยานจุดเช็คอินกับทางอุทยานเวลาตอนนี้ 13.00 น. จ่ายเงินต่างๆและจะมีรถเจ้าหน้าที่มารับขึ้นไปลานกางเต็นท์ที่ 3 แต่ทีมงานเรามีการตกลงกับทางอุทยานคลาดเคลื่อนนิดหน่อยต้องมาลุ้นหน้างานว่าจะมีเครื่องนอนรึปล่าวรถ 4WD ที่จะพาเราชาวแก๊งทั้ง 4 ชีวิตพิชิตยอดดอย โชเฟอร์ชื่อว่า พี่โต เป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยาน ก่อนไปก็เก็บรูปรวมซักหน่อยยิ้มใสๆกันไปขนของสัมภาระขึ้นทายรถเป็นที่เรียบร้อย จริงๆแล้วด้านหลังก็สามารถนั่งได้แต่วันที่เราไปถนนมีแต่ฝุ่นนั่งท้ายน่าจะพากันหัวแดงตัวแดงกันเกินไป เลยเข้าไปนั่งข้างในกันทั้งหมดทางช่วงแรกๆยังเป็นทางปูนอย่างดีก่อนขึ้นเจ้าหน้าที่พาแวะกินข้าวกันก่อนแนะนำร้านนี้เลยร้านลุงดำนับว่าเด็ดเดินทางกันต่อก็ยังยิ้มแย้มกันสัญญานโทรศัพท์และสัญญาน Net ตายสนิทไปละนะคับตั้งแต่จุดเช็คอินของอุทยานแล้ว อากาศดีๆวันนี้สุดทางปูนแล้วหลังจากนี้ทั้งชันและหินกระจัดกระจายและขรุขระล้วนๆจุดเริ่มต้นทางดิน2 ข้างทางมีแต่ป่าและฝุ่นร่องลอยร้าวของกระจกบ่งบอกได้ว่ารถคันนี้ลุยมาขนาดไหนทางที่ไม่ใช่ทางแต่ก็มีมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านสวนไปมาเป็นระยะจุดพักจุดแรกคือน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ทางขนาดนี้พี่เวสป้าแกก็ลุยขึ้นมาได้นับถือใจพี่เค้าจริงๆเพื่อนร่วมทาง 2 ล้อขับมาจากลพบุรีกันเลยเชียวใครจะเชื่อว่าพี่เค้าออกรถมา 6 เดือน วิ่งไปแล้ว 6,000 km. สายลุยจริงๆพี่โต เจ้าหน้าที่อุทยานโชเฟอร์ของเราจัดให้ 2-3 ภาพจากจุดนี้ระยะทาง 500 m. ที่ชันมากค่อยๆใต่กันลงไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกถึงความดั้นด้นกันขึ้นมาเดินกลับไปที่รถมาทางไหนกลับทางนั้นเลยเส้นทางก็จะโยกเยกหัวหมุนไปมาบวกกับฝุ่นและชันมากไปตลอดทางมาถึงจนได้จุดลานกางเต็นท์หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 ตะเพินคี่ จุดนี้นะไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาน Internetแต่มีห้องน้ำ + ห้องอาบน้ำให้ ไฟที่ใช้ในห้องน้ำเป็นไฟจากแผงโซลาเซลมีน้ำฝนรองใส่แทงค์น้ำไว้ให้ใช้พร้อมขนสัมภาระลงแล้วไปจองพื้นที่กางเต็นท์พื้นที่รอบๆลานกางเต็นท์จะมีสำนักงานให้ยืมสิ่งของพวกเครื่องนอน / เต็นท์ / ชุดทำอาหาร ที่เราจัดการเช่าตั้งแต่ด้านล่าง สรุปเรามีเครื่องนอนใช้กันคืนนี้นีทางเข้าลานกางเต็นท์ว่าแล้วก็ไม่รอช้าจัดแจงกางเต็นท์กันบริเวณรอบๆลานก็จะมุมใครมุมมัน มาเร็วก็ได้มุมดีๆไปวันนี้ถือว่านักท่องเที่ยวไม่เยอะเต็นท์กางกันไม่แออัดกำลังดีเลย ถ้ากางบริเวณขอบข้างๆก็จะดีตรงมีโต๊ะม้าหินให้โดยรอบๆบริเวณ อากาศวันนี้ เวลา 15.00 น. ประมาณ 22 องศา อากาศกำลังดีฟ้าใสแดดแรงดีจิมๆ เต็นท์ข้างเคียงมีน้ำใจงามมากๆ เป็นรุ่นใหญ่ที่ชอบออกตั้งแคมป์ไปในที่ต่างๆให้ยืมรูเสียบชาร์ทแบทกล้องและแบทโทรศัพท์รอดตายไปวันนี้ ขอเตือนเลยถ้าเราสามารถเตรียมแบทแบบชาร์ทเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไปด้วยจะดีมากๆเลยแถมลิงค์ให้ลองทำความรู้จักกับมันได้ พวกเราขึ้นมาที่ระดับความสูง 802 m.จากระดับน้ำทะเลแล้ววัตถุดิบสำหรับเย็นนี้และเช้าวันพรุ่งนี้ บนนี้สามารถทำอาหารได้ทุกอย่างยกเว้นห้ามก่อกองไฟ บรรยากาศการช่วยกันทำอาหาร บริเวณรอบๆก็จะเป็นหมูบ้านกระเหรี่ยงมีการปลูกทำไร่ข้าวโพดตลอดแนวรีบกินรีบนอนยังต้องเก็บแรงไว้ปีนเขาตอนตี 5 อีกก่อนนอนคืนนี้ดาวเยอะมากภาพจากกล้องเพื่อนร่วมทางที่ไปรู้จักกันที่นั้นดาวเยอะและสวยจริงๆตอนนี้อากาศ 18 องศา ที่เวลา 00.30 น.
DAY 2 วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561 เวลา 4.00 น.
เช้าตรู่ของวันนี้ การจะขึ้นยอดเขาเทวดาจะมีรถที่เราเช่าไว้มารับเราช่วง 4.30 น. ขึ้นไปส่งตีนเขาใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที แต่เกิดเหตุอีกแล้วรถที่เราเช่ากันไว้ดันไม่มาตามนัดเลยต้องอาศัยรถคันอื่นขึ้นไปแทนอากาศเช้านี้ค่อนข้างเย็น ทางก็มืดมากไฟฉายแบบคาดหัวสำคัญนะคับพกติดตัวมาเลยแต่สภาพร่างกายที่สมบูรณ์ก็สำคัญเช่นกันทางค่อนข้างชันมากและเป็นการปีนป่ายซะส่วนใหญ่จะต้องใช้ทั้ง 2 มือ 2 เท้ากันเลยทีเดียว ทางที่ชันๆก็จะมีเชือกให้โหนเกาะขึ้นด้านบนจากจุดเริ่มเดินขึ้นยอดเขาเทวดาจะมีระยะทาง 1000 m. ซึ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลที่พอเราขึ้นไปถึงข้างบนได้เราจะภูมิใจกับมันมากๆ เริ่มจากจุดทางขึ้นตอน 05.00 น. ถึงยอดเขาเทวดาตอน 6.00น. ขอยอมรับวิวหลักล้านจริงๆงามสมคำล่ำลือจริงๆบนนี้ แสงแดดแรกยามเช้าของวันใหม่ อาบชโลมยอดเขาหลายๆลูกเบื่องหน้าสุดลูกหูลูกตาทอดยาวออกไปสมแล้วที่ได้ชื่อว่ายอดเขาเทวดาสายหมอกไหลเอื่อยๆเป็นริวๆตามแรงลมผ่านช่องเขาสลับไปมามันชั่งเนียนตาดีจิงๆลองหยิบพระอทิตย์ใส่กระเป๋าเอากลับไปดูที่บ้านเลยใกล้กันแค่เอื้อมด้านบนยอดเขาเทวดาจะมีแต่เจดีย์กับพระพุทธรูปเป้นสิ่งที่ชาวบ้านเชื้อสายกะเหรี่ยงได้สร้างไว้บนนี้เพราะมีตำนานเรื่องเทวดาบนนี้บริเวณโดยรอบๆด้านบนมีจุดชมวิวทั้งจุดถ่ายรูปป้ายบอกต่างๆแดดเริ่มแรงขึ้นมากแล้วบนนี้ต่างคนต่างเริ่มหาที่พักหลบจากแดดกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น