ออกตัวก่อนว่าผมไม่ค่อยมาเขียนรีวิวหนังเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ไปดูมาแล้ว อดไม่ไหวจริงๆ ที่จะต้องมาเขียนชม

ตัวหนังสนุกมากกกกกกกกกก มีความเป็น สไปดี้ อยู่เต็มอัตรา ดูจบแล้วแฟนสไปดี้อย่างผมต้องบอกว่า "อิ่มเอิบ" มากครับ

ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมถึงจับเอา Miles มาเป็นตัวเอกแทน Peter แต่พอได้ดูทำให้รู้ว่า หนังเล่นกับความเป็น coming of age ได้อย่างลงตัว เราจะไม่มีวันได้เห็น Peter ในด้านการเติบโต การมีมุมมองต่อโลก ความสูญเสีย การรู้จักตนเอง "ความรับผิดชอบ" (ที่เป็น key ของสไปดี้เสมอมา) ที่อยู่ในระหว่างช่วงวัยรุ่นแบบนี้ได้ แม้แต่ Home coming ที่สร้าง Peter ให้เป็นวัยรุ่นเหมือนกันก็ตาม พื้นฐานของ Peter ใน Home coming กับ Miles ใน Into sp verse ก็ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวผมชอบความสัมพันธ์ของ พ่อ (ที่ Peter ไม่เคยมี)-Miles-[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลุงอารอนในนี้มากกว่า

การเลือกใช้อนิเมชั่นในการนำเสนอ ทำให้สามารถนำเสนอฉากแอคชันที่รวดเร็วและเหนือมนุษย์ได้มากกว่าแบบคนแสดง ลดทอนความรุนแรงในบางฉากลง และสตูดิโอนี้ก็มีลูกเล่นในการปรับอนิเมชั่นให้เข้ากับหนังได้อย่างน่าสนใจ เหมือนกับเรากำลังดูอนิเมชั่น + graphic novel เหมือนคอมมิคอเมริกายังไงยังงั้น เช่น การทำให้มีกรอบคำพูดแทนความคิดของ Miles (แต่ก็มีเสียงไปด้วย)

เหล่าพลพรรคแมงมุม
ตามที่เห็นในหนังตัวอย่างไปแล้ว สไปดี้จาก Multiverses ที่โผล่ออกมา ประกอบไปด้วย Miles, Spider-man วัย 40, Spider-Gwen, Spider-man Noir, Spider-ham และขวัญใจหลายคนอย่าง Peni&Sp//dr
บอกได้เลยว่าขนความฮากันมาอย่างไม่ให้พักหายใจ โดยเฉพาะพี่ Noir กับมุข [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูบิคสี (เพราะในโลกของ Noir เป็นแค่ขาว-ดำ รูบิคสี จึงเป็นเสมือนของที่ไม่มีวันเข้าใจได้ 555) ลุงเคจบทน้อยแต่มุขนี่จัดเต็มแท้ ในขณะที่ Peni กับ Sp//dr บทน้อยและจืดกว่าที่คาดไว้ครับ
อ่อ เหล่าตัวสมทบอย่าง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ป้าเมย์ และ MJ ก็มาครับ แต่ไม่มี JJ ในเรื่อง

เหล่าตัวร้าย
ในตัวอย่าง เรารู้แน่นอนว่าคนร้ายคือ Kingpin และก็เห็น Norman แว้บๆ บ้าง แต่ตัวร้ายหลักในเรื่องก็ถือว่า surprise มาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Prowler หรือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลุงอารอนของไมลส์ เป็นตัวละครที่รับบทแทนลุงเบน ดึงความดราม่าออกมาได้อย่างท่วมท้น และสุดเซอร์ไพรส์กับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Doc-Oc ซึ่งเหมือน Marvel แกดันสุดฤทธิ์เลยจะให้ขึ้นมาแถวหน้าคู่กับ Goblin เพราะใน PS4 ก็จัดเด็มมารอบนึงละ

สรุปว่า จากแฟนสไปดี้ที่เคยเฉยๆ กับ Miles ในคอมมิคอย่างผม ดูจบละ บอกได้คำเดียวว่า คุณจะ "ชอบ" สไปดี้หนุ่มคนนี้มาก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง Miles กับ Peter วัย 40 ที่ฮาแบบไม่คิดจะแตะเบรคเลยสักนิด ซีนที่ฮาที่สุดคือ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ตอน 2 คนเข้าไป Alchemax แกปล่อยมุขกันแบบไม่หยุดจริงๆ ส่วนซีนที่ขนลุกที่สุด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอน Miles แกลุกขึ้นมาได้ พร้อมกับไปหา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป้าเมย์ เพื่อขอ Spider-suit ที่จะกลายมาเป็นของตัวเอง พร้อมกับจัดการ "ย้อม" ให้กลายเป็นสีดำ และลายแมงมุมแบบสเปรย์ ตรงกับ concept ของเรื่องที่พยามนำเสนอ "be myself"

ใครที่อยากเห็น ความเทพของ Miles อย่าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ท่าอัลติมหาโกงVenom Blast และ การพรางตัวล่องหน ได้เห็นอย่างเต็มอิ่มแน่นอนครับ

เอาไปเลย 12 เต็ม 10 ก้าวขึ้นไปสู่อันดับหนึ่งของหนัง Spider-man ที่ผมเคยดูมาทั้งหมด แซง Spider-man 2 ของ โทบี้ ไปเลยครับ
คะแนนเพียวๆ ให้ 10 จากนั้น +1 ด้วยความเป็นสไปดี้ (ลำเอียง) +0.5 กับเพลงในช่วงเครดิต (ฮาเละเทะ) และ +0.5 กับ End credit ครับ

ปล. มี End credit 1 ตัวครับ ใครอยากรู้ กด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปิดตัว "กำไลข้ามมิติ และ สไปดี้ ผู้กระโดดข้ามมิติด้วยตนเองคนแรกของจักรวาลหนัง" คำใบ้ Newark city ในอนาคต [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใช่แล้วครับ Miguel Ohara หรือ Spider-man2099 ของเรานั่นเอง แต่มาทำอะไรในท้ายเครดิต นี่ไม่บอกครับ 555

ขอบคุณที่อ่านครับ ใครอยากถามอะไร ถามมาได้ครับ จะตอบแบบเลี่ยงสปอยล์ หรือ ครอบไว้ให้

ปล. 2 เห็น Stan Lee แล้วน้ำตาคลอ