อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรีและได้กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีไปแล้ว รวมถึงได้รับการยกย่องให้เป็น "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ" อีกด้วย
สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร ปัจจุบันใช้เป็นทางสัญจรของรถไฟสายธนบุรี - น้ำตกหรือทางรถไฟสายมรณะในอดีตนั่นเอง
[งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2561]
สำหรับงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควจัดขึ้นทุกปี งานมีตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 9 ธันวาคม 2561 ชมการแสดง แสง สี เสียง ย้อนรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในบรรยากาศสมจริง ภายในงานมีเลือกซื้อสินค้ามากมายและรวมถึงสินค้า OTOP จังหวัดกาญจนบุรีและยังมีนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดอีกด้วย
ราคาบัตรงานแสดงแสงสีเสียง
ราคาบัตรรับชมการแสดง ราคา 100 บาท / 300 บาท / 500 บาท มีการแสดงทุกวัน 30 พ.ย.- 9 ธ.ค. ซื้อบัตรชมการแสดงได้บริเวณประตูทางเข้าชมการแสดง ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของแต่ละวัน
รอบการแสดง
รอบแรก วันที่ 30 พ.ย. – 9 ธ.ค. เวลา 19.00 น. มีทุกวัน
รอบสอง มีเฉพาะวันที่ 30 พ.ย. , 1 ธ.ค. และ 7 ธ.ค. เวลา 20.30 น.
และวันนี้ก็ได้มีโอกาสมาเที่ยวงานสะพานข้ามแม่น้ำแควกันสักที หลังจากที่ปีก่อนๆ จะมา จะมา และจะมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที วันนี้เลยจัดเต็ม เดินทั่วทั้งงาน ตั้งแต่ทุ่มกว่าไปจนถึงเกือบห้าทุ่มกันเลยทีเดียว
เมื่อมาถึงหน้างาน เราหาที่จอดรถกันก่อนเลย เราจอดรถริมข้างทางฟุตบาท แล้วเดินไปหน่อย ซึ่งไม่ห่างจากตัวงานมากนัก ที่สำคัญที่นี่ไม่เสียค่าที่จอดรถด้วยนะ
ที่จอดรถของเราติดกับทางเดินข้ามทางรถไฟ
ที่จอดรถกับหน้างานเดินแปปเดียวก็ถึง แฮ้ๆ
ถึงแล้วงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี 2561
เมื่อเข้ามาภายในงาน เราจะต้องซื้อบัตรเข้างานกันก่อนเลย ในราคาคนละ 20.- บาท
จุดจำหน่ายบัตร
ก่อนซื้อบัตรเราก็เข้าไปถาม จนท. นะว่า บัตรนี้ไม่ซื้อได้ไหม ทาง จนท. แจ้งว่าไม่ได้ค่ะ ต้องซื้อบัตรถึงจะเข้าไปชมบรรยากาศภายในงานได้และยังบอกอีกว่า "ฟรีคอนเสิร์ต" แหม...เอาเข้าจริง เข้างานคอนเสิร์ตไม่ได้อ่ะ ต้องซื้อต่างหาก แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ซีเรียสถึงขนาดนั้น
เมื่อเข้ามาภายในงาน ถึงกับต้องร้องอู๊วววววว...กันเลยทีเดียว คนเยอะมาก เยอะกว่างานพระปฐมเจดีย์ที่เราไปมาเสียอีก
หิวแล้วอ่ะ ไปหาอะไรลองท้องกันก่อนม่ะ --->> จัดนี่เลย ไส้กรอกอีสาน ลูกละ 5.- บาท อดใจไม่ไหว
รสชาติดีแล้วก็อร่อยด้วย แฮ้ๆ
ผ่านซุ้มเครื่องดื่มเฉาก๊วยเต็งหนึ่ง ขอหวานๆ สักแก้วเถ๊อะ
ได้รสสตรอเบอร์รี่มา สดชื่นและหวานฉ่ำซอสสตรอเบอร์รี่ ส่วนเฉาก๊วยหนึ๊บ หนึบ
เดินผ่านลานกาชาด มีกิจกรรมตักไข่ด้วย ต่อคิวยาวเลย
เจอต้นตะบองเพชรอีกแว้ว สวยอะ ไม่ได้ซื้อกลับบ้าน แพงจุง
ต่อกันด้วย มันเกรียว ไม้ละ 10.- บาท
โรยบาร์บีคิวกับสไปร์ซี่ กรอบ เกรียว ใหญ่และแซ่บเว้อ
ต่อกันด้วย ลาซานญ่าไป 1 ถาด อันนี้เอากลับไปกินที่บ้าน รสชาติกลมกล่อม แผ่นแป้งเหนียวนุ่ม หอมและอร่อยเข้ากันดี
มาถึงจุดๆ นี้ได้อย่างไร จัดอีก 1 ชุด
โครตอร่อยเลย
เดินไปกินไป มันช่างเข้ากับงานแบบนี้เสียเหลือเกิน
ร้านชิมชา แก้วละ 50.- บาท โอ้ว...แม่เจ้า เสมือนบังคับขาย พร้อมแพ็คเกจถุงผ้า ลืมถ่ายให้ดู สั่งชาเขียวมะนาวไป รสชาติก็ทั่วๆไป แบบร้านชอบชา
ร้านสเต็กคุณอัง ร้านนี้ลูกค้าเยอะมาก เยอะจริงๆ แทบจะไม่มีที่ให้นั่งกันเลยทีเดียว
แสงไฟของที่นี่จัดเต็มทุกอนูจริงๆ
ตรงนี้เป็นโซนการแสดงของน้องๆ ที่มากความสามารถ
บรรยากาศภายในงาน
ชิงช้าสวรรค์
เมียงูก็มา
ที่เจ๋งกว่านั้น ยังมีอีกหนึ่งโซนที่โดนใจวัยรุ่นหลายๆ คน นั่นก็คือ โซนเครื่องเล่น "Siam Carnival Funfair" นั่นเอง โซนนี้บอกเลยแสง สี เสียงก็จัดเต็มเช่นกัน เป็นเครื่องเล่นที่นำเข้ามาจากอิตาลีและเยอรมัน เรื่องความปลอดภัยที่นี่เค้ารับรองเรื่องนี้ไว้แล้ว ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องกังวล 50.- บาททุกอย่างเลย ราคาเบาๆ สนุกได้ทุกเพศและทุกวัย โซนนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 22.00 น. เท่านั้นนะจ๊ะ สำหรับเครื่องเล่นนั้นมีอะไรกันบ้างไปดูกันดีกว่า
Viking สุดเสียว
เรียกเสียงกรี๊ดได้เยอะเลย
Speedy เจ้าหนูลมกรด รถไฟเหาะความเร็วปานกลาง ตื่นเต้นเป็นช่วงๆ เครื่องเล่นชนิดนี้ไม่หวาดเสียวจนเกินไป
เรือเหาะ
อันนี้ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร ไม่มีเครื่องเล่นอะ มีแต่ที่นั่งพัก
สุดยอดความสนุกต้องอันนี้เลย
มีคลิปให้ดูด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=0_wGbGrn6h4
https://www.youtube.com/watch?v=xiuzqFZN6T4
https://www.youtube.com/watch?v=t5KMLeFQCm8
ส่วนด้านข้างของโซนเครื่องเล่นนี้จะเป็นซุ้มไฟประดับ ระยิบระยับที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม
https://www.youtube.com/watch?v=bXN_4PEkhEM
นอกจากนี้ยังมีรถบั๊ม , สาวน้อยตกน้ำ , บ้านลม , ช้อนปลา , รถไฟคุณปู่ , ชิงช้า , ม้าหมุน , ป่าโป่ง , บิงโกและอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้พูดถึง
หมดโซนเครื่องเล่นแล้ว เราเดินทั่วเลย วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานด้วย หิวอีกรอบ เลยแวะซื้อไก่ย่างบางตาลไปกินกันต่อ
ระหว่างทางเดินกลับ มีพิณไม้ไผ่ ภูมิปัญญาพื้นบ้านให้ได้ชมกันอีกด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=MZ4lffWdLo4
ที่นี่เค้าจัดเต็มจริงๆ ชอบตรงที่มีของกินเยอะ เสียดายที่เราไม่ได้ไปเดินชมการแสดงแสง สี เสียง เรื่องราวเกี่ยวกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนได้ลองมาเที่ยวงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควของจังหวัดกาญจนบุรีดู เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่สะพาน แต่ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานแสดงแสง สี เสียงที่ทุกคนไม่ควรพลาด ปีหน้าฟ้าใหม่จะไปดูการแสดงระเบิดและจุดพลุบนสะพานข้ามแม่น้ำแควให้ได้
[ทริปนี้หมดไป]
** ค่าเข้างาน คนละ 20.- บาท = 40.- บาท
** ไส้กรอกอีสาน 4 ลูก 20.- บาท
** เฉาก๋วยเต๊งหนึ่ง 30.- บาท
** ลาซานญ่า ถาดละ 60.- บาท
** ไข่นกกระทาทอด 20.- บาท
** มันเกรียว 2 ไม้ 20.- บาท
** ไก่ย่างบางตาล 50.- บาท
รวมค่าเสียหาย 240.- บาท (ไม่รวมค่าน้ำมันไป-กลับกรุงเทพฯ)
[ข้อมูลเพิ่มเติม]
พิกัด :: สะพานข้ามแม่น้ำแคว
Facebook :: งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี 2561
การเดินทาง ::
1. ทางรถยนต์
** จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี
** จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายปิ่นเกล้า - นครชัยศรี (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 338) มุ่งหน้าสู่นครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี
*** ทั้งสองเส้นทางด้านบนจะต้องผ่านแยกนครชัยศรีจากแยกนครชัยศรี ขับตรงไป โดยจะผ่านสะพานไปบ้านแพ้ว ประมาณ 8.5 กิโลเมตร ผ่านสะพานไปตัวเมือง นครปฐม ประมาณ 0.5 กิโลเมตร ผ่านแยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 6.4 กิโลเมตร จากนั้นจะถึงสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 9 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 24.4 กิโลเมตร
2. ทางรถโดยสารประจำทาง
** จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยสามารถนั่งรถปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี แล้วไปลงที่สถานีขนส่ง จังหวัดกาญจนบุรี
** จากขนส่งกาญจนบุรีนั่งรถสายกาญจนบุรี - เอราวัณหรือรถสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ - สังขละบุรี ไปลงตรงแยกซ้ายมือเข้าสะพานข้ามแม่น้ำแคว จากนั้นนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างเข้าไประมาณ 700 เมตร
3. ทางรถไฟ
** สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ป้ายหยุดรถไฟสะพานแควใหญ่
** โดยสารขบวนรถไฟประจำ ธนบุรี - น้ำตก หรือขบวนรถนำเที่ยวพิเศษ กรุงเทพ - น้ำตก (เฉพาะเสาร์ - อาทิตย์) ลงที่สะพานแควใหญ่ ซึ่งอยู่ที่เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแควพอดี
[CR] งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี 2561
สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร ปัจจุบันใช้เป็นทางสัญจรของรถไฟสายธนบุรี - น้ำตกหรือทางรถไฟสายมรณะในอดีตนั่นเอง
[งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2561]
สำหรับงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควจัดขึ้นทุกปี งานมีตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 9 ธันวาคม 2561 ชมการแสดง แสง สี เสียง ย้อนรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในบรรยากาศสมจริง ภายในงานมีเลือกซื้อสินค้ามากมายและรวมถึงสินค้า OTOP จังหวัดกาญจนบุรีและยังมีนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดอีกด้วย
ราคาบัตรงานแสดงแสงสีเสียง
ราคาบัตรรับชมการแสดง ราคา 100 บาท / 300 บาท / 500 บาท มีการแสดงทุกวัน 30 พ.ย.- 9 ธ.ค. ซื้อบัตรชมการแสดงได้บริเวณประตูทางเข้าชมการแสดง ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของแต่ละวัน
รอบการแสดง
รอบแรก วันที่ 30 พ.ย. – 9 ธ.ค. เวลา 19.00 น. มีทุกวัน
รอบสอง มีเฉพาะวันที่ 30 พ.ย. , 1 ธ.ค. และ 7 ธ.ค. เวลา 20.30 น.
และวันนี้ก็ได้มีโอกาสมาเที่ยวงานสะพานข้ามแม่น้ำแควกันสักที หลังจากที่ปีก่อนๆ จะมา จะมา และจะมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที วันนี้เลยจัดเต็ม เดินทั่วทั้งงาน ตั้งแต่ทุ่มกว่าไปจนถึงเกือบห้าทุ่มกันเลยทีเดียว
เมื่อมาถึงหน้างาน เราหาที่จอดรถกันก่อนเลย เราจอดรถริมข้างทางฟุตบาท แล้วเดินไปหน่อย ซึ่งไม่ห่างจากตัวงานมากนัก ที่สำคัญที่นี่ไม่เสียค่าที่จอดรถด้วยนะ
ที่จอดรถของเราติดกับทางเดินข้ามทางรถไฟ
ที่จอดรถกับหน้างานเดินแปปเดียวก็ถึง แฮ้ๆ
ถึงแล้วงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี 2561
เมื่อเข้ามาภายในงาน เราจะต้องซื้อบัตรเข้างานกันก่อนเลย ในราคาคนละ 20.- บาท
จุดจำหน่ายบัตร
ก่อนซื้อบัตรเราก็เข้าไปถาม จนท. นะว่า บัตรนี้ไม่ซื้อได้ไหม ทาง จนท. แจ้งว่าไม่ได้ค่ะ ต้องซื้อบัตรถึงจะเข้าไปชมบรรยากาศภายในงานได้และยังบอกอีกว่า "ฟรีคอนเสิร์ต" แหม...เอาเข้าจริง เข้างานคอนเสิร์ตไม่ได้อ่ะ ต้องซื้อต่างหาก แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ซีเรียสถึงขนาดนั้น
เมื่อเข้ามาภายในงาน ถึงกับต้องร้องอู๊วววววว...กันเลยทีเดียว คนเยอะมาก เยอะกว่างานพระปฐมเจดีย์ที่เราไปมาเสียอีก
หิวแล้วอ่ะ ไปหาอะไรลองท้องกันก่อนม่ะ --->> จัดนี่เลย ไส้กรอกอีสาน ลูกละ 5.- บาท อดใจไม่ไหว
รสชาติดีแล้วก็อร่อยด้วย แฮ้ๆ
ผ่านซุ้มเครื่องดื่มเฉาก๊วยเต็งหนึ่ง ขอหวานๆ สักแก้วเถ๊อะ
ได้รสสตรอเบอร์รี่มา สดชื่นและหวานฉ่ำซอสสตรอเบอร์รี่ ส่วนเฉาก๊วยหนึ๊บ หนึบ
เดินผ่านลานกาชาด มีกิจกรรมตักไข่ด้วย ต่อคิวยาวเลย
เจอต้นตะบองเพชรอีกแว้ว สวยอะ ไม่ได้ซื้อกลับบ้าน แพงจุง
ต่อกันด้วย มันเกรียว ไม้ละ 10.- บาท
โรยบาร์บีคิวกับสไปร์ซี่ กรอบ เกรียว ใหญ่และแซ่บเว้อ
ต่อกันด้วย ลาซานญ่าไป 1 ถาด อันนี้เอากลับไปกินที่บ้าน รสชาติกลมกล่อม แผ่นแป้งเหนียวนุ่ม หอมและอร่อยเข้ากันดี
มาถึงจุดๆ นี้ได้อย่างไร จัดอีก 1 ชุด
โครตอร่อยเลย
เดินไปกินไป มันช่างเข้ากับงานแบบนี้เสียเหลือเกิน
ร้านชิมชา แก้วละ 50.- บาท โอ้ว...แม่เจ้า เสมือนบังคับขาย พร้อมแพ็คเกจถุงผ้า ลืมถ่ายให้ดู สั่งชาเขียวมะนาวไป รสชาติก็ทั่วๆไป แบบร้านชอบชา
ร้านสเต็กคุณอัง ร้านนี้ลูกค้าเยอะมาก เยอะจริงๆ แทบจะไม่มีที่ให้นั่งกันเลยทีเดียว
แสงไฟของที่นี่จัดเต็มทุกอนูจริงๆ
ตรงนี้เป็นโซนการแสดงของน้องๆ ที่มากความสามารถ
บรรยากาศภายในงาน
ชิงช้าสวรรค์
เมียงูก็มา
ที่เจ๋งกว่านั้น ยังมีอีกหนึ่งโซนที่โดนใจวัยรุ่นหลายๆ คน นั่นก็คือ โซนเครื่องเล่น "Siam Carnival Funfair" นั่นเอง โซนนี้บอกเลยแสง สี เสียงก็จัดเต็มเช่นกัน เป็นเครื่องเล่นที่นำเข้ามาจากอิตาลีและเยอรมัน เรื่องความปลอดภัยที่นี่เค้ารับรองเรื่องนี้ไว้แล้ว ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องกังวล 50.- บาททุกอย่างเลย ราคาเบาๆ สนุกได้ทุกเพศและทุกวัย โซนนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 22.00 น. เท่านั้นนะจ๊ะ สำหรับเครื่องเล่นนั้นมีอะไรกันบ้างไปดูกันดีกว่า
Viking สุดเสียว
เรียกเสียงกรี๊ดได้เยอะเลย
Speedy เจ้าหนูลมกรด รถไฟเหาะความเร็วปานกลาง ตื่นเต้นเป็นช่วงๆ เครื่องเล่นชนิดนี้ไม่หวาดเสียวจนเกินไป
เรือเหาะ
อันนี้ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร ไม่มีเครื่องเล่นอะ มีแต่ที่นั่งพัก
สุดยอดความสนุกต้องอันนี้เลย
มีคลิปให้ดูด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=0_wGbGrn6h4
https://www.youtube.com/watch?v=xiuzqFZN6T4
https://www.youtube.com/watch?v=t5KMLeFQCm8
ส่วนด้านข้างของโซนเครื่องเล่นนี้จะเป็นซุ้มไฟประดับ ระยิบระยับที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม
https://www.youtube.com/watch?v=bXN_4PEkhEM
นอกจากนี้ยังมีรถบั๊ม , สาวน้อยตกน้ำ , บ้านลม , ช้อนปลา , รถไฟคุณปู่ , ชิงช้า , ม้าหมุน , ป่าโป่ง , บิงโกและอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้พูดถึง
หมดโซนเครื่องเล่นแล้ว เราเดินทั่วเลย วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานด้วย หิวอีกรอบ เลยแวะซื้อไก่ย่างบางตาลไปกินกันต่อ
ระหว่างทางเดินกลับ มีพิณไม้ไผ่ ภูมิปัญญาพื้นบ้านให้ได้ชมกันอีกด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=MZ4lffWdLo4
ที่นี่เค้าจัดเต็มจริงๆ ชอบตรงที่มีของกินเยอะ เสียดายที่เราไม่ได้ไปเดินชมการแสดงแสง สี เสียง เรื่องราวเกี่ยวกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนได้ลองมาเที่ยวงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควของจังหวัดกาญจนบุรีดู เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่สะพาน แต่ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานแสดงแสง สี เสียงที่ทุกคนไม่ควรพลาด ปีหน้าฟ้าใหม่จะไปดูการแสดงระเบิดและจุดพลุบนสะพานข้ามแม่น้ำแควให้ได้
[ทริปนี้หมดไป]
** ค่าเข้างาน คนละ 20.- บาท = 40.- บาท
** ไส้กรอกอีสาน 4 ลูก 20.- บาท
** เฉาก๋วยเต๊งหนึ่ง 30.- บาท
** ลาซานญ่า ถาดละ 60.- บาท
** ไข่นกกระทาทอด 20.- บาท
** มันเกรียว 2 ไม้ 20.- บาท
** ไก่ย่างบางตาล 50.- บาท
รวมค่าเสียหาย 240.- บาท (ไม่รวมค่าน้ำมันไป-กลับกรุงเทพฯ)
[ข้อมูลเพิ่มเติม]
พิกัด :: สะพานข้ามแม่น้ำแคว
Facebook :: งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี 2561
การเดินทาง ::
1. ทางรถยนต์
** จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี
** จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายปิ่นเกล้า - นครชัยศรี (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 338) มุ่งหน้าสู่นครปฐม จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี
*** ทั้งสองเส้นทางด้านบนจะต้องผ่านแยกนครชัยศรีจากแยกนครชัยศรี ขับตรงไป โดยจะผ่านสะพานไปบ้านแพ้ว ประมาณ 8.5 กิโลเมตร ผ่านสะพานไปตัวเมือง นครปฐม ประมาณ 0.5 กิโลเมตร ผ่านแยกไปจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 6.4 กิโลเมตร จากนั้นจะถึงสะพานไปจังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 9 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 24.4 กิโลเมตร
2. ทางรถโดยสารประจำทาง
** จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยสามารถนั่งรถปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี แล้วไปลงที่สถานีขนส่ง จังหวัดกาญจนบุรี
** จากขนส่งกาญจนบุรีนั่งรถสายกาญจนบุรี - เอราวัณหรือรถสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ - สังขละบุรี ไปลงตรงแยกซ้ายมือเข้าสะพานข้ามแม่น้ำแคว จากนั้นนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างเข้าไประมาณ 700 เมตร
3. ทางรถไฟ
** สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ป้ายหยุดรถไฟสะพานแควใหญ่
** โดยสารขบวนรถไฟประจำ ธนบุรี - น้ำตก หรือขบวนรถนำเที่ยวพิเศษ กรุงเทพ - น้ำตก (เฉพาะเสาร์ - อาทิตย์) ลงที่สะพานแควใหญ่ ซึ่งอยู่ที่เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแควพอดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้