เดินป่ามาหลายที่ และเกิดความประทับใจกับที่ต่างๆ มากมาย มาวันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของปลายทางที่เรียกว่า "เดอกวาเดาะ" ให้เพื่อนๆ ฟังครับ
จากข้อมูลเบื้องต้นที่เพื่อนๆ ได้รู้มาว่า "เลอกว่าเดาะ" นั้นมีความหมายว่าเขาชมวิว มีเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ซึ่งเจดีย์แบบหล่อปูนนี้ก็เกิดจากความศรัทธาของชาวบ้านที่อยู่ในแถบนั้นช่วยกันลำเลียง ก่อสร้างกันขึ้นมา
ประเภท : วิวบนสันเขา จุดชมทะเลหมอก
ระดับ : มีประสบการณ์การเดินป่ามาบ้าง
ความสูงของยอดเจดีย์ : ประมาณ 1,060 เมตร
ระยะทางเดินเท้า : ประมาณ 3 กิโล
ระยะเวลาในการเดินทาง : 3-4 ชั่วโมง
ระยะเวลาเที่ยวชม : 2 วัน 1 คืน
ความยากของเส้นทาง : 2/5
ความหลากหลายทางสิ่งแวดล้อม (แหล่งน้ำ, ผืนป่า, สภาพอากาศ, จุดชมวิว) : 3/5
สิ่งอำนวยความสะดวก : 2/5
อื่นๆ
ลูกหาบ/คนนำทาง : มี
ที่พัก : มีศาลา และพื้นที่ว่างสำหรับกางเต๊นท์ (พื้นที่กางจะมีความลาดเอียงเล็กน้อย)
แหล่งน้ำตามธรรมชาติใกล้ที่พัก : ไม่มี
ห้องน้ำ : ไม่มี
ระยะเวลาขึ้นยอดจากที่พัก : 40 - 50 นาที
ติดต่อ.
อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
088-290-7964
การเดินทางพวกเราขอเริ่มกันที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังจากที่นั่งรถตู้มาทั้งคืน เพื่อกินข้าวเช้าและเตรียมตัวเพื่อต่อรถโฟล์วีลของชาวบ้านเพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านแม่อมกิ (GPS : 17.580702, 98.061070) อีกที
Credit : Chart anusami
เราเริ่มเดินทางเวลา 9.30 น. โดยใช้เส้นทางเดินเท้าข้างวัดป่าเกร๊ะคี ซึ่งระยะทางตั้งแต่จุดเริ่มถึงจุดพักค้างแรมประมาณ 3 กิโล ใช้เวลาเดินเท้า 3-4 ชั่วโมง ผ่านป่า ลำธารขนาดย่อมๆ ก่อนที่จะขึ้นเขา และถึงจุดตั้งแคมป์ เส้นทางในตอนแรกนั้นเพื่อป้องกันการพลัดหลงแนะนำให้เดินเกาะกลุ่มกันไว้ครับ
เส้นทางที่ต้องเดินตามน้ำนั้นให้เราเดินตามขอนไม้ที่ถูกวางไว้เป็นทาง หากจุดไหนทางไม่ชัดให้มองสังเกตุตามรอยหินที่มีร่องรอยการถูกเหยียบเป็นระยะๆ จะช่วยให้เราแกะรอยทางได้ถูกต้องครับ
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 30 นาที จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทางอยู่ ดูภายนอกอาจจะไม่เห็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่าน แต่ให้เราเดินรอดต้นไม้ที่ล้มนั้นไปครับ (8/12/61 ต้นไม้ที่ล้มยังมีอยู่) เมื่อพ้นไปเราก็จะมาอยู่ที่จุดที่มีรางน้ำไม้ไผ่ที่เป็นจุดพัก (GPS : 17.579544, 98.052667) และเป็นจุดเริ่มของบันไดที่ชาวบ้านทำเอาไว้
Credit : Chart anusami
จากนี้ไปจะเป็นการเดินขึ้นเขาสลับกับการใช้บันไดไปสักระยะ แล้วก็จะเป็นการเดินขึ้นเขาจริงๆ บางช่วงมีเชือกให้จับ ใครพกถุงมือมือผ้ามาด้วยก็สบาย ทางจะชันไปจนถึงจุดพักที่ราวๆ ความสูง 950 เมตร (GPS : 17.577800, 98.046900) สามารถนั่งพักตรงนี้ได้ เพราะจากจุดนี้ไปถึงแคมป์ก็ไม่เกิน 30 นาที ทางชัดเจน ไม่มีจุดที่ต้องกลัวหลง ถ้าเดินแบบปกติมีพักมีถ่ายรูปบ้างจะถึงแคมป์ในเวลา 2.30 - 3 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ
Credit : Chart anusami
ยอดเขาด้านซ้ายจะเป็นแคมป์ที่พักแรม และยอดแหลมๆ คือ ยอดเลอกวาเดาะ ที่เราจะเดินขึ้นไปชมวิว และเป็นจุดชมทะเลหมอกในตอนเช้า
ผมมาถึงแคมป์เวลาประมาณ 12.10 น. ถ้านับเวลาตั้งแต่เริ่มเดินทางเวลา 9.30 น. เท่ากับว่าใช้เวลารวมพักไปราว 3 ชม. มีเวลาพักอีก 1-2 ชั่วโมงก่อนที่จะเดินขึ้นยอดไปชมวิว
ที่แคมป์ (GPS : 17.57879, 98.04368) มีศาลาสำหรับใช้เป็นจุดกองกลางเพื่อทำอาหาร แต่ใครมาถึงก่อนก็ได้สิทธิ์ใช้ศาลาไปก่อนแบบนั้นละกันเนอะ
และพื้นที่แม้จะเป็นที่ราบเนินเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ทั้งหมดจะราบเรียบเหมาะแก่การกางเต๊นท์ ก็จะมีพื้นที่บางส่วนราบเอียงบ้าง เอาเป็นว่าตรงที่มีที่ราบดีๆ หน่อยก็เผื่อพื้นที่ข้างๆ ให้เพื่อนๆ มากางเต๊นท์ด้วยนะครับ
ที่พักมีห้องน้ำข้างศาลา แต่เหมือนจะไม่มีน้ำให้ใช้ เท่ากับว่าคงต้องพาตัวเองหาที่ลับตาแล้วทำธุระข้างทางตามระเบียบ
บ่าย 2 ผมไม่รอช้าขึ้นมาที่ยอดเจดีย์เพื่อมาเก็บภาพ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที พกน้ำหรือสิ่งจำเป็นมาด้วย มีบางช่วงที่เป็นทางแคบๆ และเป็นทางลงหุบเขา
Credit : Chart anusami
ข้างบนวิวข้างบนเป็นมุมมอง 360 องศา มีเจดีย์ประดิษฐานอยู่ และมีหญ้าขึ้นบ้างประปราย ผมถือว่าการขึ้นมายอดเขาในช่วงเวลาบ่าย 2 นี้เป็นการสำรวจพื้นที่คร่าวๆ ก่อนที่จะขึ้นมาเก็บภาพจริงๆ ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ตอนนี้ขอตัวกลับแคมป์ก่อนครับ เพราะฟ้าเริ่มปิดเพราะหมอกลง อุณภูมิตอนเย็นวัดได้ 20 องศา และในเวลาเช้ามืดวัดได้ต่ำสุด 19 องศา ถือว่าอากาศเย็นสบาย ไม่หนาวจัด แล้วหลังจากนั้นกิจวัตรในตอนเย็นก็เป็นการกินข้าวที่ทำกินแบบง่ายๆ และพูดคุยกันเรียกเสียงหัวเราะ
ผมตื่นอีกทีเวลาตี 4 เพื่อขึ้นยอดไปเก็บภาพพร้อมกับพี่อีกคน สภาพอากาศน้ำค้างน้อย ลมไม่แรงมาก ท้องฟ้ามีเมฆบ้างประปราย และที่สำคัญมีหมา 2 ตัวที่ขึ้นมาจากหมู่บ้านติดตามขึ้นเขามาด้วยครับ
เมื่อใกล้เช้าหมอกก็ฟูฟ่องเต็มไปแทบทุกที่ บางส่วนก็รอดช่องเขาผ่านแคมป์ที่เราอยู่ ถือว่าที่นี่แม้จะไม่สูงมากนัก แต่ได้บรรยากาศของการดูทะเลหมอกแบบใกล้ชิดไม่แพ้ที่อื่นๆ
ป่าทุกที่มีความยากลำบากในการเข้าถึง แต่มันก็เป็นเหมือนการคัดกรองจากธรรมชาติให้ทุกอย่างยังมีความสมดุล
ขอบคุณที่ติดตาม
ตากล้องสายเที่ยว
https://www.facebook.com/taklongtraveler/
https://www.youtube.com/taklongtraveler
เลอกวาเดาะ สายหมอก ขุนเขา และศรัทธา
จากข้อมูลเบื้องต้นที่เพื่อนๆ ได้รู้มาว่า "เลอกว่าเดาะ" นั้นมีความหมายว่าเขาชมวิว มีเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ซึ่งเจดีย์แบบหล่อปูนนี้ก็เกิดจากความศรัทธาของชาวบ้านที่อยู่ในแถบนั้นช่วยกันลำเลียง ก่อสร้างกันขึ้นมา
ประเภท : วิวบนสันเขา จุดชมทะเลหมอก
ระดับ : มีประสบการณ์การเดินป่ามาบ้าง
ความสูงของยอดเจดีย์ : ประมาณ 1,060 เมตร
ระยะทางเดินเท้า : ประมาณ 3 กิโล
ระยะเวลาในการเดินทาง : 3-4 ชั่วโมง
ระยะเวลาเที่ยวชม : 2 วัน 1 คืน
ความยากของเส้นทาง : 2/5
ความหลากหลายทางสิ่งแวดล้อม (แหล่งน้ำ, ผืนป่า, สภาพอากาศ, จุดชมวิว) : 3/5
สิ่งอำนวยความสะดวก : 2/5
อื่นๆ
ลูกหาบ/คนนำทาง : มี
ที่พัก : มีศาลา และพื้นที่ว่างสำหรับกางเต๊นท์ (พื้นที่กางจะมีความลาดเอียงเล็กน้อย)
แหล่งน้ำตามธรรมชาติใกล้ที่พัก : ไม่มี
ห้องน้ำ : ไม่มี
ระยะเวลาขึ้นยอดจากที่พัก : 40 - 50 นาที
ติดต่อ.
อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
088-290-7964
การเดินทางพวกเราขอเริ่มกันที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังจากที่นั่งรถตู้มาทั้งคืน เพื่อกินข้าวเช้าและเตรียมตัวเพื่อต่อรถโฟล์วีลของชาวบ้านเพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านแม่อมกิ (GPS : 17.580702, 98.061070) อีกที
Credit : Chart anusami
เราเริ่มเดินทางเวลา 9.30 น. โดยใช้เส้นทางเดินเท้าข้างวัดป่าเกร๊ะคี ซึ่งระยะทางตั้งแต่จุดเริ่มถึงจุดพักค้างแรมประมาณ 3 กิโล ใช้เวลาเดินเท้า 3-4 ชั่วโมง ผ่านป่า ลำธารขนาดย่อมๆ ก่อนที่จะขึ้นเขา และถึงจุดตั้งแคมป์ เส้นทางในตอนแรกนั้นเพื่อป้องกันการพลัดหลงแนะนำให้เดินเกาะกลุ่มกันไว้ครับ
เส้นทางที่ต้องเดินตามน้ำนั้นให้เราเดินตามขอนไม้ที่ถูกวางไว้เป็นทาง หากจุดไหนทางไม่ชัดให้มองสังเกตุตามรอยหินที่มีร่องรอยการถูกเหยียบเป็นระยะๆ จะช่วยให้เราแกะรอยทางได้ถูกต้องครับ
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 30 นาที จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทางอยู่ ดูภายนอกอาจจะไม่เห็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่าน แต่ให้เราเดินรอดต้นไม้ที่ล้มนั้นไปครับ (8/12/61 ต้นไม้ที่ล้มยังมีอยู่) เมื่อพ้นไปเราก็จะมาอยู่ที่จุดที่มีรางน้ำไม้ไผ่ที่เป็นจุดพัก (GPS : 17.579544, 98.052667) และเป็นจุดเริ่มของบันไดที่ชาวบ้านทำเอาไว้
Credit : Chart anusami
จากนี้ไปจะเป็นการเดินขึ้นเขาสลับกับการใช้บันไดไปสักระยะ แล้วก็จะเป็นการเดินขึ้นเขาจริงๆ บางช่วงมีเชือกให้จับ ใครพกถุงมือมือผ้ามาด้วยก็สบาย ทางจะชันไปจนถึงจุดพักที่ราวๆ ความสูง 950 เมตร (GPS : 17.577800, 98.046900) สามารถนั่งพักตรงนี้ได้ เพราะจากจุดนี้ไปถึงแคมป์ก็ไม่เกิน 30 นาที ทางชัดเจน ไม่มีจุดที่ต้องกลัวหลง ถ้าเดินแบบปกติมีพักมีถ่ายรูปบ้างจะถึงแคมป์ในเวลา 2.30 - 3 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ
ยอดเขาด้านซ้ายจะเป็นแคมป์ที่พักแรม และยอดแหลมๆ คือ ยอดเลอกวาเดาะ ที่เราจะเดินขึ้นไปชมวิว และเป็นจุดชมทะเลหมอกในตอนเช้า
ผมมาถึงแคมป์เวลาประมาณ 12.10 น. ถ้านับเวลาตั้งแต่เริ่มเดินทางเวลา 9.30 น. เท่ากับว่าใช้เวลารวมพักไปราว 3 ชม. มีเวลาพักอีก 1-2 ชั่วโมงก่อนที่จะเดินขึ้นยอดไปชมวิว
ที่แคมป์ (GPS : 17.57879, 98.04368) มีศาลาสำหรับใช้เป็นจุดกองกลางเพื่อทำอาหาร แต่ใครมาถึงก่อนก็ได้สิทธิ์ใช้ศาลาไปก่อนแบบนั้นละกันเนอะ
และพื้นที่แม้จะเป็นที่ราบเนินเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ทั้งหมดจะราบเรียบเหมาะแก่การกางเต๊นท์ ก็จะมีพื้นที่บางส่วนราบเอียงบ้าง เอาเป็นว่าตรงที่มีที่ราบดีๆ หน่อยก็เผื่อพื้นที่ข้างๆ ให้เพื่อนๆ มากางเต๊นท์ด้วยนะครับ
ที่พักมีห้องน้ำข้างศาลา แต่เหมือนจะไม่มีน้ำให้ใช้ เท่ากับว่าคงต้องพาตัวเองหาที่ลับตาแล้วทำธุระข้างทางตามระเบียบ
บ่าย 2 ผมไม่รอช้าขึ้นมาที่ยอดเจดีย์เพื่อมาเก็บภาพ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที พกน้ำหรือสิ่งจำเป็นมาด้วย มีบางช่วงที่เป็นทางแคบๆ และเป็นทางลงหุบเขา
ข้างบนวิวข้างบนเป็นมุมมอง 360 องศา มีเจดีย์ประดิษฐานอยู่ และมีหญ้าขึ้นบ้างประปราย ผมถือว่าการขึ้นมายอดเขาในช่วงเวลาบ่าย 2 นี้เป็นการสำรวจพื้นที่คร่าวๆ ก่อนที่จะขึ้นมาเก็บภาพจริงๆ ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ตอนนี้ขอตัวกลับแคมป์ก่อนครับ เพราะฟ้าเริ่มปิดเพราะหมอกลง อุณภูมิตอนเย็นวัดได้ 20 องศา และในเวลาเช้ามืดวัดได้ต่ำสุด 19 องศา ถือว่าอากาศเย็นสบาย ไม่หนาวจัด แล้วหลังจากนั้นกิจวัตรในตอนเย็นก็เป็นการกินข้าวที่ทำกินแบบง่ายๆ และพูดคุยกันเรียกเสียงหัวเราะ
ผมตื่นอีกทีเวลาตี 4 เพื่อขึ้นยอดไปเก็บภาพพร้อมกับพี่อีกคน สภาพอากาศน้ำค้างน้อย ลมไม่แรงมาก ท้องฟ้ามีเมฆบ้างประปราย และที่สำคัญมีหมา 2 ตัวที่ขึ้นมาจากหมู่บ้านติดตามขึ้นเขามาด้วยครับ
เมื่อใกล้เช้าหมอกก็ฟูฟ่องเต็มไปแทบทุกที่ บางส่วนก็รอดช่องเขาผ่านแคมป์ที่เราอยู่ ถือว่าที่นี่แม้จะไม่สูงมากนัก แต่ได้บรรยากาศของการดูทะเลหมอกแบบใกล้ชิดไม่แพ้ที่อื่นๆ
ป่าทุกที่มีความยากลำบากในการเข้าถึง แต่มันก็เป็นเหมือนการคัดกรองจากธรรมชาติให้ทุกอย่างยังมีความสมดุล
ขอบคุณที่ติดตาม
ตากล้องสายเที่ยว
https://www.facebook.com/taklongtraveler/
https://www.youtube.com/taklongtraveler