วันที่/เวลา
28 พ.ย. 2561 17:09:00
หัวข้อข่าว
รายงานแนวทางและความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไข กรณีที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" ของบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)
หลักทรัพย์
AQ
แหล่งข่าว
AQ
รายละเอียดแบบเต็ม
คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม
ที่ ตล. 042/2561
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561
เรื่อง รายงานแนวทางและความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไข กรณีที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C"ของบริษัท เอคิว
เอสเตท จำกัด (มหาชน)
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) ในการที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" จากการที่บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาสที่ 3/2561
สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 โดยจัดประชุมเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพ อาคาร B ห้องประชุม ชั้น 2 เลขที่ 31 ซอยศูนย์วิจัย 7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ขอรายงานสรุปผลการประชุม ดังนี้
สาเหตุจากที่บริษัทฯมีผลขาดทุนจำนวนมากเนื่องจากการตั้งสำรองภาระหนี้สินจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องชดให้ให้ธนาคารกรุงไทยมีอยู่จำนวน 3,056.41 ล้านบาทเกิดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้บริษัทร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายจำนวน 10,004.47 ล้านบาท บริษัทฯ จ่ายชำระไปแล้วจำนวน 1,635.74 ล้านบาท คงเหลือภาระหนี้สินที่ต้องชดใช้จำนวน 8,368.73 ล้านบาท
แนวทางแก้ไข การขายทอดตลาดที่ดินหลักประกัน จำนวน 4,300 ไร่ ซึ่งราคาของที่ดินที่ขายทอดตลาดคณะกรรมการกำหนดราคาขายอยู่ที่ ราคา 8,914.07 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าจำนวนเงินที่บริษัทต้องชดใช้ โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 เป็นนัดแรกในการขายทอดตลาด มีผู้ประมูลที่ดินหลักประกันได้ในราคา 8,914.07 ล้านบาทโดยผู้ประมูลได้วางเงินมัดตามระเบียบที่สำนักงานบังคับคดีจำนวน 448.50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือผู้ประมูลได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินออกไปเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562
ดังนั้นสำรองภาระหนี้สินที่ตั้งไว้จะถูกโอนล้างผลขาดทุนสะสมจึงทำให้ผลขาดทุนคงเหลือ 3,339.06 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 6,668.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนของทุนที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วหักส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นมีจำนวนสุทธิ 9,902.35 ล้านบาท ได้อัตราส่วนร้อยละ 67.35 เกินกว่า 50 % ตามเกณฑ์ ดังนั้นบริษัทฯสามารถที่จะแก้ไขเครื่องหมาย C ได้
คณะกรรมการเห็นควรให้รอผลที่ธนาคารกรุงไทยได้รับชำระเงินจากการประมูลขายที่ดิน 4,300 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2562 และบริษัทฯ
จะรายงานความคืบหน้าให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรับทราบผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสุทัศน์ จันกิ่งทอง) (นางสาวรัญชนา รัชตะนาวิน)
กรรมการ กรรมการ
______________________________________________________________________
ข่าวข้างบนน่าจะมีได้เสียใน aq ขอสรุปตามเนื่อผ้าข่าวดังนี้
จากงบ 3/2561 สิ้นสุด 30/9/2561
(๑) สิ้นสุด 30/9/2561 มีขาดทุนสะสม -6,395.47 ล้านบาท จะลดลงเหลือ -3,339.06 ล้านบาท แสดงว่าบริษัทได้ตั้งสำรองภาระชำหนี้ไว้
= -3,339.06 - (-6,395.47) = 3,056.41 ล้านบาท หรือ กำไรต่อหุ้น "3,056.41/85,324.84 = 0.0358 บาท" ในไตรมาส 1/2562
(๒) สิ้นสุด 30/9/2561 มีส่วนผู้ถือหุ้น 3,612.48 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็น "3,612.48 + 3,056.41 = 6,668.89 ล้านบาท" ดั่งได้แจง ตลท ข้างบน
(๓) มาตรการ "c" โดน Cash พันปี
หลังส่งงบ 1/2562 aq รับรู้กำไรจากขำระหนี้กรุ่งไทย 3,056.41 ล้านบาท จะทำให้ "ส่วนผู้ถือหุ้น > 50% ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว" ดั่งแสดงในรูบ จะทำให้ aq ออกจากคุก Cash พันปี
ข่าวดีๆสองเด้งอย่างนี้น่าจะมีผลต่อราคาในกระดานเมื่อเป็นรูปธรรมน่าจะภายในไตรมาส 1/2562 ที่บริษัทได้แจ้ง นลท ผ่าน ตลท ข้างบน
ด้วยความปรารถนาดี
AQ : ภาวะตลาดพิกลพิการ มาเก็งกำไรจากการชำระหนี้กรุงไทยหมด 1/2562 กันดีมั้ย
28 พ.ย. 2561 17:09:00
หัวข้อข่าว
รายงานแนวทางและความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไข กรณีที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" ของบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)
หลักทรัพย์
AQ
แหล่งข่าว
AQ
รายละเอียดแบบเต็ม
คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายละเอียดข่าวรูปแบบเต็ม
ที่ ตล. 042/2561
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561
เรื่อง รายงานแนวทางและความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไข กรณีที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C"ของบริษัท เอคิว
เอสเตท จำกัด (มหาชน)
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) ในการที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" จากการที่บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาสที่ 3/2561
สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 โดยจัดประชุมเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพ อาคาร B ห้องประชุม ชั้น 2 เลขที่ 31 ซอยศูนย์วิจัย 7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ขอรายงานสรุปผลการประชุม ดังนี้
สาเหตุจากที่บริษัทฯมีผลขาดทุนจำนวนมากเนื่องจากการตั้งสำรองภาระหนี้สินจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องชดให้ให้ธนาคารกรุงไทยมีอยู่จำนวน 3,056.41 ล้านบาทเกิดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้บริษัทร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายจำนวน 10,004.47 ล้านบาท บริษัทฯ จ่ายชำระไปแล้วจำนวน 1,635.74 ล้านบาท คงเหลือภาระหนี้สินที่ต้องชดใช้จำนวน 8,368.73 ล้านบาท
แนวทางแก้ไข การขายทอดตลาดที่ดินหลักประกัน จำนวน 4,300 ไร่ ซึ่งราคาของที่ดินที่ขายทอดตลาดคณะกรรมการกำหนดราคาขายอยู่ที่ ราคา 8,914.07 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าจำนวนเงินที่บริษัทต้องชดใช้ โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 เป็นนัดแรกในการขายทอดตลาด มีผู้ประมูลที่ดินหลักประกันได้ในราคา 8,914.07 ล้านบาทโดยผู้ประมูลได้วางเงินมัดตามระเบียบที่สำนักงานบังคับคดีจำนวน 448.50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือผู้ประมูลได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินออกไปเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562
ดังนั้นสำรองภาระหนี้สินที่ตั้งไว้จะถูกโอนล้างผลขาดทุนสะสมจึงทำให้ผลขาดทุนคงเหลือ 3,339.06 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 6,668.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนของทุนที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วหักส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นมีจำนวนสุทธิ 9,902.35 ล้านบาท ได้อัตราส่วนร้อยละ 67.35 เกินกว่า 50 % ตามเกณฑ์ ดังนั้นบริษัทฯสามารถที่จะแก้ไขเครื่องหมาย C ได้
คณะกรรมการเห็นควรให้รอผลที่ธนาคารกรุงไทยได้รับชำระเงินจากการประมูลขายที่ดิน 4,300 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2562 และบริษัทฯ
จะรายงานความคืบหน้าให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรับทราบผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสุทัศน์ จันกิ่งทอง) (นางสาวรัญชนา รัชตะนาวิน)
กรรมการ กรรมการ
______________________________________________________________________
ข่าวข้างบนน่าจะมีได้เสียใน aq ขอสรุปตามเนื่อผ้าข่าวดังนี้
จากงบ 3/2561 สิ้นสุด 30/9/2561
(๑) สิ้นสุด 30/9/2561 มีขาดทุนสะสม -6,395.47 ล้านบาท จะลดลงเหลือ -3,339.06 ล้านบาท แสดงว่าบริษัทได้ตั้งสำรองภาระชำหนี้ไว้
= -3,339.06 - (-6,395.47) = 3,056.41 ล้านบาท หรือ กำไรต่อหุ้น "3,056.41/85,324.84 = 0.0358 บาท" ในไตรมาส 1/2562
(๒) สิ้นสุด 30/9/2561 มีส่วนผู้ถือหุ้น 3,612.48 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็น "3,612.48 + 3,056.41 = 6,668.89 ล้านบาท" ดั่งได้แจง ตลท ข้างบน
(๓) มาตรการ "c" โดน Cash พันปี
หลังส่งงบ 1/2562 aq รับรู้กำไรจากขำระหนี้กรุ่งไทย 3,056.41 ล้านบาท จะทำให้ "ส่วนผู้ถือหุ้น > 50% ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว" ดั่งแสดงในรูบ จะทำให้ aq ออกจากคุก Cash พันปี
ข่าวดีๆสองเด้งอย่างนี้น่าจะมีผลต่อราคาในกระดานเมื่อเป็นรูปธรรมน่าจะภายในไตรมาส 1/2562 ที่บริษัทได้แจ้ง นลท ผ่าน ตลท ข้างบน
ด้วยความปรารถนาดี