จบไปแล้วกับศึกแดงเดือดยกแรกในฤดูกาลนี้ (ไม่นับพรีซีซั่น)
บอกตามตรง ตั้งแต่เชียร์ลิ้วพูมา แดงเดือดนี้เป็นแดงเดือดที่ไม่ค่อยชินสำหรับผมเลย
ตั้งแต่เริ่มเชียร์หงส์ในช่วง 20 ปีนี้มานะ ยอมรับเลยว่า ค่อนข้างที่จะ”หลอน”ทุกครั้ง ที่จะเจอศึกแดงเดือด
ครั้งแรกที่มีอารมณ์ร่วมและอินจัดกับมันคือนัดชิง FA ที่เจอกันและเจอทีเด็ดคันโตน่า
ต่อๆมา หงส์มักจะเป็นฝ่ายเพี่ยงพล้ำและมีดราม่ามากกว่าในศึกแดงเดือดเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในฟอร์มไหน อย่างที่บอกมันเลยทำให้ผมค่อนข้างที่จะ”หวาดผวา”กับทุกครั้งที่มีศึกแดงเดือด
แต่อารมณ์นัดนี้มันไม่ใช่อะ ถึงจะปลดล๊อคชนะแมนยูได้ในรอบหลายปีก็จริง รูปเกมส์/สกอร์ เข้าทางลิเวอร์ก็จริง แต่ตรงๆเลย
แดงเดือดปีนี้ เป็นแดงเดือดที่”ชิล”ที่สุดตั้งแต่เคยดูมาเลย
ไม่ใช่ว่าชนะสบายแล้วมาพูดนะ ขอตัดประเด็นเรื่องแพ้/ชนะ ไปก่อน
มันไม่มีอารมณ์ร่วมใส่กันยับเหมือนศึกแดงเดือดทุกครั้งที่ผ่านมาแล้ว มันเหมือนแค่เกมส์นัดนึงที่ วัดกันที่แท๊คติค มากกว่าที่จะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เกมส์ฟุตบอลเกมส์นึงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เหมือนอดีต
ขออนุญาต พูดถึงทีมแมนยูนิดนึง
ต้องมาดูและยอมรับว่าคนที่มีส่วนทำให้เป็นแบบนี้คนนึง คือ ผจก.ทีม แมนยู ที่ชื่อ”มูรินโญ่” จริงๆ
ผมไม่มีอคติหรืออะไรที่เป็นพิเศษกับมู นะ ในฐานะแฟนมาดริดมูคือคนที่มีฝีมือที่ผลักดันให้ทีมสำเร็จพ้นร่มเงาบาร์ซ่า และมูก็คือคนทำลายมาดริดช่วงเวลานึงจริงๆ
วันนี้ นัดนี้ผมเห็นภาพนี้ชัดเจนกับแมนยูเลย
เข้าใจอารมณ์กองเชียร์ผี ที่รอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลย และไม่เข้าใจบอร์ดแมนยูว่าคิดอะไรทำไมไม่ปลด
ผมยอมรับว่า ผมอิจฉาสโมสรแมนยูในช่วงที่ผ่านมานะ เพราะระบบการจัดการที่ดี ทำให้มีศักยภาพเต็มที่ในทุกด้าน
แต่ผมกลับงงตรงนี้มานานทั้งๆที่ทีมก็มีศักยภาพเต็มที่ แต่ทำไมหลังจากป๋าวางมือแล้ว กุนซือทุกคนที่รับไม้ต่อ ถึงมีโอกาสในการทำงานจนจบฤดูกาลทั้งๆที่ฟอร์มก็ย่ำแย่
มันควรปลดฟ้าผ่าและให้ทีมเดินหน้าต่อมั้ย ทั้งยุค มอยส์/ฟาลกัล/มาชัดเจนสุดก็มูรินโญ่เนี่ยแหละ
หงส์ผมเคยเจอยุคมืดกว่านี้ตอน ฮ๊อดสันจ์นะ ทุกอย่างเลวร้ายกว่านี้มาก ทั้งตัวผู้เล่น ไม่มีเงิน ฟอร์มการเล่น แต่สุดท้ายก็ยังกล้าปลด
แต่งงกับแมนยู ที่มีศักยภาพในด้านอื่นพร้อมทุกอย่าง ทำไมถึงกล้าปล่อยให้ทำทีมชิลได้แบบนี้ ต่อให้ปลดกุนซือคนนี้อาจจะต้องใช้เงิน 40M+ ก็เหอะ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินและผลงานมันฟ้องแบบเห็นได้ชัด
กลับมาที่ในสนามนิดนึง รายละเอียดรูปเกมส์คงมีในกระทู้อื่นไปหมดละ
-เพิ่งเคยเห็นกุนซือแมนยูจัดแผนการเล่นแบบนี้ ครั้งแรกในชีวิต
-เพิ่งเคยเห็นกุนซือแมนยูปล่อยให้รูปเกมส์แพ้แบบหลุดลุ่ยโดยที่แทบไม่ทำอะไรเลย
-จัดการกับตัวผู้เล่นได้ไม่ดีพอ นัดแบบนี้กลับจัดการกับอคติระหว่างตัวเองกับนักเตะไม่ได้ นักเตะแมนยูเล่นแบบเนือยแทบทุกคน ป๊อกนั่งแบบอารมณ์เฉยเมยมาก
หรือผมอาจจะชินกับยุคที่นักเตะแมนยูวิ่งลืมตายถวายชีวิตในเกมส์แดงเดือด ใส่อารมณ์ร่วมกับเกมส์สุดๆ แพ้ได้แต่มันต้องมีชั้นเชิงกว่านี้ สู้แบบยิบตาสู้แบบหมดหน้าตักที่มี
มูทำให้ แดงเดือด กลายเป็นนัดธรรมดานัดนึงจริงๆ
สงสาร เด ที่ไม่รู้จะโวยยังไง รูปเกมส์รอโดนเป็นเป้าให้เขาซ้อม
สงสารเนฟ คงวิเคราะห์เกมส์แบบแทบกลืนเลือด
เห็นสีหน้าป๋า แทบอยากให้ป๋าอายุอ่อนลงซัก 20 ปี
มูเคยเป็นสีสรรค์ของวงการฟุตบอล แต่ตอนนี้ผมว่าไม่ใช่ละ
บทสรุปแดงเดือดยกแรกสำหรับผม
บอกตามตรง ตั้งแต่เชียร์ลิ้วพูมา แดงเดือดนี้เป็นแดงเดือดที่ไม่ค่อยชินสำหรับผมเลย
ตั้งแต่เริ่มเชียร์หงส์ในช่วง 20 ปีนี้มานะ ยอมรับเลยว่า ค่อนข้างที่จะ”หลอน”ทุกครั้ง ที่จะเจอศึกแดงเดือด
ครั้งแรกที่มีอารมณ์ร่วมและอินจัดกับมันคือนัดชิง FA ที่เจอกันและเจอทีเด็ดคันโตน่า
ต่อๆมา หงส์มักจะเป็นฝ่ายเพี่ยงพล้ำและมีดราม่ามากกว่าในศึกแดงเดือดเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในฟอร์มไหน อย่างที่บอกมันเลยทำให้ผมค่อนข้างที่จะ”หวาดผวา”กับทุกครั้งที่มีศึกแดงเดือด
แต่อารมณ์นัดนี้มันไม่ใช่อะ ถึงจะปลดล๊อคชนะแมนยูได้ในรอบหลายปีก็จริง รูปเกมส์/สกอร์ เข้าทางลิเวอร์ก็จริง แต่ตรงๆเลย
แดงเดือดปีนี้ เป็นแดงเดือดที่”ชิล”ที่สุดตั้งแต่เคยดูมาเลย
ไม่ใช่ว่าชนะสบายแล้วมาพูดนะ ขอตัดประเด็นเรื่องแพ้/ชนะ ไปก่อน
มันไม่มีอารมณ์ร่วมใส่กันยับเหมือนศึกแดงเดือดทุกครั้งที่ผ่านมาแล้ว มันเหมือนแค่เกมส์นัดนึงที่ วัดกันที่แท๊คติค มากกว่าที่จะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เกมส์ฟุตบอลเกมส์นึงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เหมือนอดีต
ขออนุญาต พูดถึงทีมแมนยูนิดนึง
ต้องมาดูและยอมรับว่าคนที่มีส่วนทำให้เป็นแบบนี้คนนึง คือ ผจก.ทีม แมนยู ที่ชื่อ”มูรินโญ่” จริงๆ
ผมไม่มีอคติหรืออะไรที่เป็นพิเศษกับมู นะ ในฐานะแฟนมาดริดมูคือคนที่มีฝีมือที่ผลักดันให้ทีมสำเร็จพ้นร่มเงาบาร์ซ่า และมูก็คือคนทำลายมาดริดช่วงเวลานึงจริงๆ
วันนี้ นัดนี้ผมเห็นภาพนี้ชัดเจนกับแมนยูเลย
เข้าใจอารมณ์กองเชียร์ผี ที่รอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลย และไม่เข้าใจบอร์ดแมนยูว่าคิดอะไรทำไมไม่ปลด
ผมยอมรับว่า ผมอิจฉาสโมสรแมนยูในช่วงที่ผ่านมานะ เพราะระบบการจัดการที่ดี ทำให้มีศักยภาพเต็มที่ในทุกด้าน
แต่ผมกลับงงตรงนี้มานานทั้งๆที่ทีมก็มีศักยภาพเต็มที่ แต่ทำไมหลังจากป๋าวางมือแล้ว กุนซือทุกคนที่รับไม้ต่อ ถึงมีโอกาสในการทำงานจนจบฤดูกาลทั้งๆที่ฟอร์มก็ย่ำแย่
มันควรปลดฟ้าผ่าและให้ทีมเดินหน้าต่อมั้ย ทั้งยุค มอยส์/ฟาลกัล/มาชัดเจนสุดก็มูรินโญ่เนี่ยแหละ
หงส์ผมเคยเจอยุคมืดกว่านี้ตอน ฮ๊อดสันจ์นะ ทุกอย่างเลวร้ายกว่านี้มาก ทั้งตัวผู้เล่น ไม่มีเงิน ฟอร์มการเล่น แต่สุดท้ายก็ยังกล้าปลด
แต่งงกับแมนยู ที่มีศักยภาพในด้านอื่นพร้อมทุกอย่าง ทำไมถึงกล้าปล่อยให้ทำทีมชิลได้แบบนี้ ต่อให้ปลดกุนซือคนนี้อาจจะต้องใช้เงิน 40M+ ก็เหอะ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินและผลงานมันฟ้องแบบเห็นได้ชัด
กลับมาที่ในสนามนิดนึง รายละเอียดรูปเกมส์คงมีในกระทู้อื่นไปหมดละ
-เพิ่งเคยเห็นกุนซือแมนยูจัดแผนการเล่นแบบนี้ ครั้งแรกในชีวิต
-เพิ่งเคยเห็นกุนซือแมนยูปล่อยให้รูปเกมส์แพ้แบบหลุดลุ่ยโดยที่แทบไม่ทำอะไรเลย
-จัดการกับตัวผู้เล่นได้ไม่ดีพอ นัดแบบนี้กลับจัดการกับอคติระหว่างตัวเองกับนักเตะไม่ได้ นักเตะแมนยูเล่นแบบเนือยแทบทุกคน ป๊อกนั่งแบบอารมณ์เฉยเมยมาก
หรือผมอาจจะชินกับยุคที่นักเตะแมนยูวิ่งลืมตายถวายชีวิตในเกมส์แดงเดือด ใส่อารมณ์ร่วมกับเกมส์สุดๆ แพ้ได้แต่มันต้องมีชั้นเชิงกว่านี้ สู้แบบยิบตาสู้แบบหมดหน้าตักที่มี
มูทำให้ แดงเดือด กลายเป็นนัดธรรมดานัดนึงจริงๆ
สงสาร เด ที่ไม่รู้จะโวยยังไง รูปเกมส์รอโดนเป็นเป้าให้เขาซ้อม
สงสารเนฟ คงวิเคราะห์เกมส์แบบแทบกลืนเลือด
เห็นสีหน้าป๋า แทบอยากให้ป๋าอายุอ่อนลงซัก 20 ปี
มูเคยเป็นสีสรรค์ของวงการฟุตบอล แต่ตอนนี้ผมว่าไม่ใช่ละ