สวัสดีครับ วันนี้ผมจะขอเล่าประสบการณ์ที่ได้ไปใช้บริการของทางคลีนิคนิรนาม เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ยังลังเลใจ
และมีความกังวลใจเกี่ยวกับไวรัส H.I.V

...คือตอนประมาณเดือนที่แล้วผมมีความเครียดเกี่ยวกับการมีเชื้อ HIV เนื่องจากผมมีพสพ.แล้วไม่ได้ป้องกัน
ผมก็เลยเริ่มหาข้อมูลจากทาง Internet จากกระทู้หลายๆกระทู้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อโรคตัวนี้ แล้วผมเกิดไปเจอกระทู้นึงขึ้นที่มีการ Bully ต่างๆนาๆ
บอกเห้ย เป็นแน่ๆเลย , ทำไมไม่รู้จักป้องกัน ต่างๆนาๆครับมันเลยทำให้ผมเกิดความเครียดขึ้น ผมเลยโทรไปหาสายด่วนปรึกษาโรคคเอดส์ 1663
เค้าเลยแนะนำว่าให้ผมไปที่ 2 ที่คือ 1. คลีนิคนิรนาม และ 2. คือที่โรงพยาบาลตากสิน ผมเลือกที่คลีนิคนิรนามครับ
เมื่อผมไปที่คลีนิคนิรนาม

ตอนแรกผมรู้สึกกลัวครับ กลัวไปหมด พอเข้าไปเจ้าหน้าที่เรียกผมกดบัตรคิวครับ
แล้วก็ให้ไปกรอกประวัติคนไข้ออนไลน์เพื่อเป็นข้อมูลในการรักษา
ขอบอกก่อนว่าข้อมูลที่กรอกไปเค้าจะปิดเป็นความลับครับ ไม่มีการเปิดเผย

และเมื่อผมกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยผมก็ไปนั่งรอคิวครับ แล้วทำบัตรผู้ป่วยใหม่ เสียค่าบัตรทั้งหมด 20 บาท

และเมื่อถึงคิวผม ตอนกรอกประวัติมันจะมีให้เลือกว่ามาทำอะไร
จะปรึกษาหมอก่อนหรือจะเจาะเลือดก่อนแล้วค่อยปรึกษา ผมเลือกปรึกษาก่อนครับ
พอเข้าไปถึงห้องปรึกษาหมอและเขาถามประวัติผม ผมก็เล่าไปทั้งหมดครับ และผมก็นำความรู้ที่ได้จากใน net ไปปรึกษาด้วย
หมอก็ให้ความรู้แก่ผมครับ จริงๆแล้วเชื้อไวรัส HIV ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิดและกังวลอยู่ครับ
เชื้อไวรัสตัวนี้เป็นเหมือนเชื้อโรคธรรมดาตัวนึงที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันของคนบกพร่อง
และเมื่อไปมีความเสี่ยงหรือสัมผัสเชื้อ hiv ให้นับไปเลยครับ 72 ชั่วโมง
หลังจากมีความเสี่ยง หรือ 3 วัน ในระยะเวลานี้เราสามารถไปขอรับยา PEP ได้ที่คลีนิคนิรนามครับ
ยา PEP คืออะไร?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้PEP ย่อมาจาก post exposure prophylaxis เป็นยาที่ต้องรับประทานให้เร็วที่สุดหลังสัมผัสเชื้อ HIV เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยจะต้องเริ่มรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน หลังจากสัมผัสเชื้อ ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี
เชื้อไวรัส HIV เวลาเข้าไปสู่ร่างกายมันจะมีระยะในการฟักตัวครับ คุณสามารถกินยาต้าน PEP ได้เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อครับ
จริงๆเชื้อ HIV ถ้าเข้าไปสู่ร่างกายคนไม่ได้หมายความว่าจะเป็น HIV กันทุกคนนะครับมันมีหลายกรณีมากๆคือ
1.ถ้าคุณไปสัมผัสเชื้อในปริมาณที่น้อยแล้ว ภูมิคุ้มกันของคุณดีพอและคุณได้รับเชื้อในปริมาณที่น้อยร่างกายสามารถกำจัดเชื้อไวรัสเหล่านี้ได้เองครับ
2.ถ้าคู่นอนของคุณมีเชื้อ HIV และทานยาต้านของทานโรงพยาบาลหรือคลีนิคอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเราไปสัมผัสสารคัดหลั่งของเค้าก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะติดไปด้วยนะครับเพราะยาต้านมันจะไปกดเชื้อไวรัสไว้และจะทำให้ไวรัสมันไม่ออกมาสู่ข้างนอกครับ
รูปนี้คือรูปของศูนย์วิจัย Search นะครับ
และวิธีของการตรวจหาไวรัส HIV มีดังนี้ครับ
1.การตรวจ NAT สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงอย่างน้อย 7 วันครับ เป็นการตรวจเพื่อหาเชื้อไวรัสจากพันธุกรรมครับเพราะเชื้อไวรัสเหล่านี้
ระยะแรกมันจะอยู่ในตัวของพันธุกรรมครับ การตรวจด้วยวิธีนี้ที่คลีนิคนิรนามเป็นวิธีที่เกิดจากการวิจัยของทางคลีนิคนิรนามครับ
มีความชัวร์เท่าๆกับการตรวจ Anti-HIV โดยเค้าจะเจาะเลือดในวันที่คุณไปตรวจแล้วผลจะออกภายใน 3 วันหลังจากนั้น
(วิธีนี้จะตรวจให้กับคนที่มีผล Anti-HIV เป็นลบเท่านั้น )
และภายใน3 วันหลังจากนั้นถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมาก็หมายความว่าคุณ " อาจจะ " ไม่มีเชื้อ HIV อยู่ในพันธุกรรม และเมื่อครบ 3 วันคุณสามารถโทร
ไปเพื่อฟังผลได้ครับ แต่ถ้าสมมุติทาง LAB เค้าโทรไปแจ้งผลก็หมายความว่าคุณก็ต้องไปตรวจยืนยืนที่ 1 เดือนครับ
คือการตรวจ NAT เนี่ยที่ผมเข้าใจถ้าสมมุติมันมีอะไรบางอย่างที่ไปตอบสนองกับตัวสารเคมีของทาง LAB มันอาจจะมีการตอบสนองครับ
ก็นั่นแหละครับเค้าจะเรียกเราไปตรวจซ้ำใน 1 เดือนหลังจากที่มีความเสี่ยง จริงๆระยะเวลาของการตรวจ Anti อยู่ที่ 28 วันครับจะชัวร์ประมาณ 95%
2.การตรวจวิธี AntiHIV เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสในเลือดครับ สามารถรู้ผลได้หลังจากการเจาะเลือดประมาณ 1 ชั่วโมงครับสามารถรอรับผลได้เลย
และในระหว่างนี้ต้องไม่มีความเสี่ยงเพิ่มนะครับ เนื่องจากตัวเชื้อไวรัสเมื่อเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่เพิ่มขึ้น เยอะขึ้นจากที่คุณจะไม่เป็น HIV
อาจจะพาคุณไปสู่ผู้ป่วยติดเชื้อได้ครับ เพราะฉะนั้นมีอะไรกันใส่ถุงยางดีที่สุดครับ จะได้ไม่ต้องกังวล
และหลังจากที่ผมไปตรวจหลังมีความเสี่ยง 7 วันด้วยวิธี AntiHIV และ NAT ผล anti ผมเป็น negative ครับ (-)
และผมก็รอ 3 วัน ผลคือไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมาเลยครับ ผมเลยโทรไปเพื่อฟังผลอีกรอบ ปรากฎว่าก็ยังเป็น negative อยู่เช่นเคย
ก็หมายความว่าผมสบายใจไปได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ครับ ยังไงผมก็ต้องระวังอยู่ดี
ผมเลยรอ 28 วันถึง 1 เดือน ผมก็ไปตรวจซ้ำอีกรอบครับเพื่อปิดเคส
คนเราสามารถตรวจฟรีได้ 2 ครั้ง/ปี นะครับใช้สิทธิจากบัตรประชาชน ( ข้อมูลจะเป็นความลับทั้งหมด )
และเมื่อผมไปตรวจใน 1 เดือนหลังจากเสี่ยงผลออกมาผมเป็น negative (-) เช่นเคยครับผมเลยสบายใจได้แล้วว่า
ผมไม่มีเชื้อ HIV ครับ เจ้าหน้าที่เค้าก็แจ้งผมว่าเดี๋ยวต้องรอผล NAT ในอีก 3 วันผมเลยามว่าแล้วผมมีโอกาสไหมที่จะมีเชื้อ HIV
เค้าบอกยากมากแล้วครับ เพราะผมเองไม่ได้กินยา PEP หรือยาต้านไวรัสถ้าในระยะเวลานี้ถ้าไม่ได้กินยาต้าน ควรจะตรวจเจอเรียบร้อยแล้วครับ
พอออกมาพร้อมซองขาวและใบแจ้งผมรู้สึกว่าผมสบายใจมากแล้วครับ และถ้าสำหรับบางคนที่ยังกังวลอยู่สามารถไปตรวจได้หลังเสี่ยงจากนั้นอีก 3 เดือน
และการตรวจในระยะเวลา 3 เดือนมีความชัวร์ถึง 99.99% แต่จริงๆแล้ว 1 เดือนก็ถือว่าชัวร์มากๆแล้วครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่าถ้ามีความกังวลให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดครับ อย่าหาความรู้ความเข้าใจผ่านทาง internet เลย
บางคนคิดว่าข้อมูลในเน็ตจะเชื่อถือได้
ตอบ : ใช่ครับเชื่อถือได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมด มันมีหลายคน หลายความคิดออกมาแสดงความคิดเห็น
บางคนก็รู้จริง บางคนก็รู้ไม่จริง อ่านไปก็เครียดเปล่าๆครับ ปรึกษาผู้รู้ดีที่สุด


สุดท้ายนี้ผมอยากบอกว่า ไปตรวจเถอะครับ ไปปรึกษาหมอเฉพาะด้านว่าควรจะต้องทำอย่างไร จะได้มีความรู้ที่ถูกต้องครับ
สู้ๆครับเชื้อ HIV ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิดกัน
ขอบคุณครับ ♥