ตอนที่เริ่มถ่ายทำเรื่องนี้ จขกท. คิดว่ามันคงไม่ต่างจากโบตั๋นกลีบสุดท้าย
ผู้ผลิตก็คือทีวีซีนเมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น
จุดร่วมคือ เป็นแนวละครที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวจีนในสังคม
ด้วยรูปแบบการนำเสนอก็คือดูชีวิตที่เป็นไปโดยใช้ตัวละครหลักเล่าเรื่อง
ในโบตั๋นกลีบสุดท้ายคือ อาจู ส่วนชาติเสือพันธ์ุมังกรคือ อาโฮ่ว และอาจู
ที่เหมือนคนนำทางให้คนดูไปเจอเรื่องราวต่าง ๆ
แต่ละเรื่องเรื่องมีนักแสดงที่ทุกคนรู้จักมาร่วมแสดงและมีความเหมาะสมตามท้องเรื่อง
และต้องแข่งขันกับหลายเรื่องที่ออกอากาศในช่วงเวลาออกอากาศ
แต่ทั้งสองเรื่องมีความดีและงาม ยังคงความสนุกตามท้องเรื่อง
ชาติเสือพันธุ์มังกร อาจเปิดตัวอย่างไม่ร้อนแรงตามชื่อเรื่อง
ที่เลือกดำเนินเรื่องแบบตัวละครหลากหลายที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ
แต่พอเข้าเริ่มกลางเรื่อง เมื่อตัวละครมากันครบการผูกเรื่องและเชื่อมโยงเรื่องราว
ไปที่ทรงวาดเป็นตัวเดินเรื่องอย่างเต็มตัวพร้อมกับกลวิธีที่หลากหลาย
การสร้างตัวละครลับ การเชือดตัวละครทิ้งวันละคน หักเหลี่ยมเฉือนคมสมชื่อเรื่อง
พาไปสู่จุดสุดท้ายใน 3 ตอนสุดท้ายของสุดสัปดาห์
ด้วยช่วงเวลาออกอากาศที่ติดกันทำให้เนื้อเรื่องเร็วทันอารมณ์คนดู
ภายในเวลาออกอากาศที่ 12 ตอนที่ถือว่า พอดีกับเรื่องราวไม่มากและน้อยไป
และตั้งแต่ตอนที่ 8 ละครได้ปรับความเข้มข้นมากขึ้นเมื่อตัวละครที่ตัดลงไป
ตามเส้นเรื่องที่มันต้องมีคนตายเกิดขึ้นในเรื่อง แต่เรื่องนี้อาจมีมากจนคุณคาดไม่ถึง 555+
การเริ่มตัดตัวละครแต่ละตัวล้วนมีความสำคัญแต่ละตอน และจะยิ่งใกล้ตัวพระเอกมากขึ้น
เพื่อทำให้เนื้อเรื่องมีเรื่องราว และดำเนินต่อไปอย่างมีเหตุมีผล
ในเรื่องราวที่เข้มข้นแต่ยังคงแฝงความดีงามตามวิถีชีวิตของคนในชุมชุน
แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง การแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์แต่แฝง
ด้วยเรื่องครอบครัว มิตรภาพ ในแง่มุมตัวละครทุกตัวที่มุมไม่น่าทำตามแต่มีมุมที่น่ายกย่อง
และเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตอย่างทีวีซีนทำออกมาได้สนุกตามเรื่องราว
ผกก. ที่สามารถควบคุมงามใหญ่ที่พอดีตัว จึงสามรถให้ความสำคัญของฉากหลังและตัวละครได้ดี
บทกับการดำเนินเรื่องที่เล่าเรื่องและเริ่มเล่นตัวละครับคนดูมากขึ้นเรื่อย ๆ
นักแสดงที่รับบททั้งตัวเดินเรื่องที่มีความสามารถพอ และนักแสดงสมทบที่ทำให้เรื่องโดดเด่นขึ้น
คงต้องลุ้นสามตอนสุดท้าย เรื่องราวจะเป็นแบบไหนแต่คิดว่าน่าจะเป็นที่พอใจกับคนที่ได้ดู
ชาติเสือพันธุ์มังกร สนุกและดีเหมือนโบตั๋นกลับสุดท้าย
ผู้ผลิตก็คือทีวีซีนเมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น
จุดร่วมคือ เป็นแนวละครที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวจีนในสังคม
ด้วยรูปแบบการนำเสนอก็คือดูชีวิตที่เป็นไปโดยใช้ตัวละครหลักเล่าเรื่อง
ในโบตั๋นกลีบสุดท้ายคือ อาจู ส่วนชาติเสือพันธ์ุมังกรคือ อาโฮ่ว และอาจู
ที่เหมือนคนนำทางให้คนดูไปเจอเรื่องราวต่าง ๆ
แต่ละเรื่องเรื่องมีนักแสดงที่ทุกคนรู้จักมาร่วมแสดงและมีความเหมาะสมตามท้องเรื่อง
และต้องแข่งขันกับหลายเรื่องที่ออกอากาศในช่วงเวลาออกอากาศ
แต่ทั้งสองเรื่องมีความดีและงาม ยังคงความสนุกตามท้องเรื่อง
ชาติเสือพันธุ์มังกร อาจเปิดตัวอย่างไม่ร้อนแรงตามชื่อเรื่อง
ที่เลือกดำเนินเรื่องแบบตัวละครหลากหลายที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ
แต่พอเข้าเริ่มกลางเรื่อง เมื่อตัวละครมากันครบการผูกเรื่องและเชื่อมโยงเรื่องราว
ไปที่ทรงวาดเป็นตัวเดินเรื่องอย่างเต็มตัวพร้อมกับกลวิธีที่หลากหลาย
การสร้างตัวละครลับ การเชือดตัวละครทิ้งวันละคน หักเหลี่ยมเฉือนคมสมชื่อเรื่อง
พาไปสู่จุดสุดท้ายใน 3 ตอนสุดท้ายของสุดสัปดาห์
ด้วยช่วงเวลาออกอากาศที่ติดกันทำให้เนื้อเรื่องเร็วทันอารมณ์คนดู
ภายในเวลาออกอากาศที่ 12 ตอนที่ถือว่า พอดีกับเรื่องราวไม่มากและน้อยไป
และตั้งแต่ตอนที่ 8 ละครได้ปรับความเข้มข้นมากขึ้นเมื่อตัวละครที่ตัดลงไป
ตามเส้นเรื่องที่มันต้องมีคนตายเกิดขึ้นในเรื่อง แต่เรื่องนี้อาจมีมากจนคุณคาดไม่ถึง 555+
การเริ่มตัดตัวละครแต่ละตัวล้วนมีความสำคัญแต่ละตอน และจะยิ่งใกล้ตัวพระเอกมากขึ้น
เพื่อทำให้เนื้อเรื่องมีเรื่องราว และดำเนินต่อไปอย่างมีเหตุมีผล
ในเรื่องราวที่เข้มข้นแต่ยังคงแฝงความดีงามตามวิถีชีวิตของคนในชุมชุน
แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง การแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์แต่แฝง
ด้วยเรื่องครอบครัว มิตรภาพ ในแง่มุมตัวละครทุกตัวที่มุมไม่น่าทำตามแต่มีมุมที่น่ายกย่อง
และเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตอย่างทีวีซีนทำออกมาได้สนุกตามเรื่องราว
ผกก. ที่สามารถควบคุมงามใหญ่ที่พอดีตัว จึงสามรถให้ความสำคัญของฉากหลังและตัวละครได้ดี
บทกับการดำเนินเรื่องที่เล่าเรื่องและเริ่มเล่นตัวละครับคนดูมากขึ้นเรื่อย ๆ
นักแสดงที่รับบททั้งตัวเดินเรื่องที่มีความสามารถพอ และนักแสดงสมทบที่ทำให้เรื่องโดดเด่นขึ้น
คงต้องลุ้นสามตอนสุดท้าย เรื่องราวจะเป็นแบบไหนแต่คิดว่าน่าจะเป็นที่พอใจกับคนที่ได้ดู