รีวิว “มือลั่นทริป” ฉายเดี่ยวเที่ยวปูซาน by ชะนีอินดี้

รีวิว “มือลั่นทริป” ฉายเดี่ยวเที่ยวปูซาน by ชะนีอินดี้

ปล. ทริปนี้เริ่มต้นด้วยความอยากและความมือลั่นล้วนๆ

บอกก่อนว่าความเป็นมาของการชอบประเทศเกาหลี เกิดจากการเป็นติ่ง ทั้งสายซีรี่ย์และไอดอล ไปทัวร์มาแล้ว 3 ครั้ง (โซล 2, ปูซาน 1) และจากการที่ไปมาทั้ง 3 ครั้ง ทำให้เราหลงรักปูซานเข้าอย่างจัง ปูซานเมืองท่าของเกาหลี อารมณ์ก็จะประมาณภูเก็ต พังงา กระบี่ บ้านเรา แต่คนจะไม่พลุกพล่านเท่านะคะ (อันนี้คือความรู้สึกส่วนตัว) ดังนั้น ความอยากไปเองจึงบังเกิด ประกอบกับการติดตามเพจ “Yaitoodmuk Pre-order Korea” มาเป็นปี (FC ยาย่า ผู้น่ารัก 😘) ที่นำเสนอเรื่องราวน่ารักเล็กๆน้อยๆจากการเป็นสะใภ้ปูซานให้เราได้ติดตามเรื่อยๆ ทำให้ในที่สุดทริปลุยเดี่ยวเที่ยวปูซานครั้งนี้เกิดขึ้น

เริ่มต้นด้วยการสอดส่องตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นตามแอพ ตามเวปเอเจนซี่ต่างๆ จนในที่สุดก็เจอสิ่งที่เราต้องการจาก app : Expedia โดยเราได้ตั๋วสายการบิน JinAir ไป-กลับ พร้อมกับที่พักแบบห้องรวม (เฉพาะผู้หญิง) 3 คืน มาในราคา 11100 บาท (ขอปัดเป็นเลขกลมๆ เพื่อความสะดวกในการลงข้อมูลละกันนะคะ) ทริปนี้เราจองล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน หลังจากที่ทำการจองตั๋วและที่พักเรียบร้อย ขั้นต่อไปเริ่มหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในปูซาน และเริ่มทำแพลนการท่องเที่ยว

ตัวอย่างแพลนที่เราทำไว้แบบมั่วเองค่ะ

Day 1
Go to Busan
Day 2
Jagalchi Market                              
BIFF Square
Busan Tower (Yongdusan Park)               
Haeundae Beach
Day 3
Geumjeongsanseong Fortress         
Beomeosa Temple                              
Pusan National University's Street of Youth
Seomyeon 1 Beonga (Seomyeon First Street)
Day 4
Haedong Yonggungsa Temple
Busan Gamcheon Culture Village
Taejongdae Seaside Park
Busan Air Cruise & Songdo Skywalk
Gwangbok-dong Cultural & Fashion Street
Day 5
Gwangalli Beach
Shinsegae Centum City
Check-Out & Go to BKK

ขอข้ามรายละเอียดปลีกย่อยก่อนเดินทางไปเลยละกันนะ กระโดดมาที่วันเดินทางกันเลยค่ะ

เวลา take off ของเราคือ 23.30 ดังนั้น เราจะต้องถึงสุวรรณภูมิก่อนเวลาบินอย่างน้อยประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ เราไปถึงก่อนเวลาเช็คอินเล็กน้อย ขั้นแรกก็ต้องไปรับเครื่อง pocket wifi ที่เช่าไว้กันก่อนค่ะ (รายละเอียดเพิ่มเติมขอไว้สรุปตอนท้ายค่ะ) จากนั้นตรงไปเข้าแถวเพื่อรอเช็คอินค่ะ ชั้น 4 เค้าเตอร์ P ค่ะ เท่าที่ดูจากแถว 80-90% เป็นเกาหลีค่ะ คนไทยเท่าที่เห็นมีไม่ถึง 10 คน เมื่อเช็คอิน โหลดสัมภาระเรียบร้อยเราก็เข้าไปด้านใน ส่วนของ duty free กันดีกว่าค่ะ เดินเรื่อยเปื่อย ดูนู่นนี่นั่นไปเรื่อย พอเมื่อยเราก็ไปหาที่แถวๆเกทเพื่อนั่งพักระหว่างรอขึ้นเครื่องค่ะ


ถ้าใครอยากชาร์จแบตโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เค้ามีจุดให้เสียบชาร์จได้นะคะ และแล้ว 23.30 ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้วค่ะ แอบตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะนี่คือการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว โดยไม่มีทัวร์ค่ะ 55555

ได้ที่นั่งเรียบร้อย บอกเลยว่าพร้อมนอนมากค่ะจุดนี้ (เราได้ที่นั่งริมหน้าต่างทั้งขาไปและกลับค่ะ สามารถเลือกได้ว่าจะนั่งริมหน้าต่าง หรือริมทางเดิน ตอนเช็คอินนะคะ)

หลับๆตื่นๆ วนไปไม่รู้กี่รอบ มีอาหารแจกให้ด้วยนะคะก่อนเครื่องแลนดิ้ง ในที่สุดก็แลนดิ้งแล้วค่ะ เวลาที่ปูซานก็ประมาณ 6-7 โมงเช้าค่ะ ต้องนั่งบัสเพื่อไปผ่าน ตม.กันก่อนนะคะ ด้วยความที่เป็นเมืองเล็กๆ สนามบินกิมแฮก็จะไม่ใหญ่เท่าไหร่ คนต่อแถวเยอะมากกกกกกกกกก กว่าจะถึงคิวก็ชั่วโมงนึงได้มั้งคะ เอกสารเตรียมไว้ให้พร้อมค่ะ ยื่นพาสปอร์ต สแกนนิ้วมือ ถ่ายรูป พร้อมข้อความยินดีต้อนรับ ผ่านฉลุยคร๊าาาาา ไม่ถามคำถามสุขภาพสักคำ 😂😂😂 ไปรับกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันดีกว่า

เริ่มต้นด้วยการหาป้ายรถลีโมบัส หรือเรียกแบบทางการก็ airport limousine bus ค่ะ จากสนามบินกิมแฮ เราจะไปลงกันที่นัมโพดงค่ะ นั่งยาวไปสุดสายค่ะ เมื่อเจอป้ายรถ พร้อมรถที่จอดรอเราอยู่แล้ว เราก็เอากระเป๋าเดินทางมารวมๆไว้ค่ะ คุณลุงคนขับจะทำการจัดเก็บกระเป็าไว้ใต้ท้องรถให้เราเอง เมื่อผู้โดยสารครบ คุณลุงก็จะทำหน้าที่เก็บเงินค่าโดยสารค่ะ สำหรับบัสนี้ค่าโดยสารจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้นนะคะ คนละ 6000 วอนค่ะ จ่ายเสร็จก็เลือกที่นั่งตามอัธยาศัยค่ะ ที่นั่งแต่ละที่กว้างขวาง นั่งสบายค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมงค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)



พอลงรถเราก็เดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตรค่ะ ก็จะถึงที่พักที่เราจองไว้ สำหรับทริปนี้ เราพักที่ 24 guesthouse jagalchi แบบห้องรวมเฉพาะผู้หญิงค่ะ จัดการฝากกระเป๋าพร้อมหยิบอุปกรณ์จำเป็นอีกนิดหน่อย พร้อมแล้ว ไปเที่ยวกันเลยค่ะ (ที่พักให้เช็คอินได้ตั้งแต่เวลาประมาณบ่าย 2 นะคะ)

ก่อนอื่นเราต้องซื้ออุปกรณ์จำเป็นในการท่องเที่ยวในปูซานก่อนนะคะ Cash Bee ค่ะ
ซึ่งจริงๆมันก็เหมือน T-money แหละค่ะ ใช้จ่ายค่าโดยสาร รถไฟ รถบัส แท็กซี่ รวมไปถึงซื้อของในร้านสะดวกซื้อค่ะ แต่ว่าก่อนจะใช้งานเนี่ย เราต้องเติมเงินเข้าไปในบัตรด้วยนะคะ เราก็ซื้อจากร้านสะดวกซื้อแถวที่พักนั่นแหละค่ะ ที่แรกที่เราจะไปแวะนั้นก็เดินมาประมาณ 200-300 เมตรก็เจอตลาดปลาค่ะ ชื่อว่า Jagalchi fish market อาหารทะเลสดๆ หาซื้อหาทานได้จากที่นี่เลยค่ะ



เราก็มัวแต่ตื่นเต้น ว่าวันแรกจะไปไหนกันดี จะตามแพลนที่วางไว้มั้ย ก็เลยไม่ได้ทานที่ตลาดปลาค่ะ เดินเรื่อยเปื่อยก็จะไปเจอกับ BIFF Square

มันคือถนนที่เคยใช้เป็นที่จัดงาน Busan International Film Festival งานเทศกาลภาพยนต์ปูซาน ซึ่งถนนเส้นนี้ก็จะมีการประทับรอยมือของดาราดังๆไว้หลายคนจ้า และ 2 ข้างทางของถนนก็จะมีร้านค้าต่างๆมากมายให้เราได้ช้อปปิ้งกันตามสบายนะคะ ติดๆกับ BIFF ก็คือย่านช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองปูซานค่ะ นั่นคือ Nampo-dong นั่นเอง
ที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยร้านชุดกีฬายี่ห้อต่างๆ เครื่องสำอาง รองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋า ฯลฯ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างค่ะ นอกจากนั้นก็จะอยู่ติดกับห้าง Lotte Mart เพียงแค่ข้ามถนนไปก็ถึง หรือเราจะลงไปช้อปต่อกันที่ underground ก็ได้เหมือนกัน เพราะทางเข้าห้างมีที่ชั้นใต้ดินด้วย ดี๊ดีย์ใช่มั้ยล่ะคะ อ่อ ยังมีอีกที่นะคะที่อยู่ในย่านนี้ นั่นคือ ปูซานทาวเวอร์  ค่ะ

เรียกได้ว่าอยู่แค่ย่านเดียวก็เที่ยวได้ทั้งวันเลยค่ะ เดินไปเดินมาดูนาฬิกาอีกมีก็บ่ายกว่าแล้ว มัวแต่ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจกับผู้คนและสถานที่ ลืมไปเลยว่ายังไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยจ้า เดินไปตามซอกซอย ซอยเล็กซอยน้อยในย่างนัมโพ มีร้านเยอะแยะเลย แต่ประเด็นคือ เรามาคนเดียว อาหารแต่ละร้านมีแต่ชามใหญ่โตทั้งนั้นเลย จนสุดท้ายเลือกอาหารจานเดียวแบบง่ายๆละกัน เป็นข้าวหน้าเนื้อค่ะ ทานกับกิมจิ ก็อร่อยดีนะคะ
เมื่อท้องอิ่ม ก็ได้เวลาช้อปต่อแล้วค่ะ มีออเดอร์รองเท้าผ้าใบมาด้วย เราก็ลุยเลยค่ะ เดินมาครึ่งค่อนวันแล้ว เคยเจอรีวิว (จำไม่ได้ว่าเจอที่ไหนง่า) ร้าน kakao shop ที่ปูซานจะมีร้านกาแฟน่ารักๆอยู่ด้วยค่ะ ไปนั่งพักกันดีกว่า



ร้านนี้ชื่อ a peach cafe ค่ะ ตัวร้านสีชมพูฟรุ้งฟริ้งทั้งร้านเลยค่ะ จะนั่งเฉยๆก็ยังไงอยู่ สั่งเครื่องดื่มกันค่ะ เลยได้ช็อคโก้มิ้นท์เฟรปเป้ มา 1 แก้วถ้วนค่ะ รสชาติอร่อยใช้ได้เลย ช็อคโกแล็ตหวานๆ แต่ก็ไม่หวานจัด ปั่นละเอียด กับกลิ่นมิ้นท์หอมๆ เข้ากันสุดๆ ฟินเลยค่ะ พักจนหายเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาไปเช็คอินเข้าที่พักกันแล้วจ้า เราพักที่ 24 guesthouse jagalchi ค่ะ หาไม่อยาก ติดถนนใหญ่ หน้าตึกเป็นสถานี Subway เลยค่ะ ดีงามสุดๆ เราเลือกห้องแบบห้องรวมเฉพาะผู้หญิง ห้องน้ำรวมค่ะ อ๊ะๆๆๆ อย่าเพิ่งตกใจกับคำว่าห้องน้ำรวมนะคะ คือเรานอนห้องรวมแบบ 4 เตียงค่ะ แล้วห้องน้ำเนี่ย ก็ใช้เฉพาะ 4 เตียงในห้องคร๊า ดีงามมั้ยล่ะ ห้องสะอาด เตียงนอนสบาย รับรองไม่อึดอัดค่ะ



จัดของ เก็บกกระเป๋าและของที่ช้อปปิ้งเรียบร้อยแล้ว ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่ะ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจบวันนะคะ ยังค่ะ เมื่อนั่งพักจนหายเหนื่อย ฟ้าเริ่มมืดเราก็ออกเที่ยวกันต่อเลยคร๊า 5555
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่