กว่าจะมีงานแต่งงานของเราในวันนี้ ^_^

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่นสวัสดีเพื่อนๆก่อนนะคะ
(กระทู้แรกมันก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ แต่อยากมาแชร์เรื่องราวในวันแรกจนถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้เพื่อนๆกันค่ะ
เผื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังวางแผนจะแต่งงานจร้า)

เพื่อนๆเป็นเหมือนเราไหมคะ ?
จะแต่งงานแต่ไม่รู้จะเร่ิ่มยังไง ต้องใช้ค่าใช้จ่ายประมาณไหน แล้วเราจะประหยัดได้อย่างไร เราจะเริ่มจากอะไรดี ^_^
เราก็เหมือนกับเพื่อนๆเลยค่ะ มันงงไปหมด แต่ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วนะ
เลยอยากมาเก็บเรื่องราวของตัวเองเป็นความทรงจำดีๆ และแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆกันคร้าาาา อมยิ้ม01

พูดวกไปวนมา ก่อนจะเข้าเรื่องขอเล่าประวัตสักนิดนะคะ ก่อนที่จะมาถึงวันที่เราได้แต่งงานกัน (อย่าพึ่งด่า หรือรำคาญเด้อจร้า)
เริ่มแรกเลย เรากับแฟนคบกันตั้งแต่ปี 2012 เราสองคน เรียนอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ พอเมื่อประมาณปี 2014 เราเรียนจบแล้ว
และต้องมาทำงานที่ "กรุงเทพ" เราทั้งสองคนเลยต้องไกลกัน และนั่นแหละค่ะด้วยความที่เราไกล กันเลยทำให้เราทั้งสองคนมีปัญหากัน
จนเป็นจุดเปลี่ยนและเป็นสิ่งที่แฟนเราต้องเลือกแล้วว่า เราทั้งสองคนจะเลิกกัน แล้วแฟนเราอยู่ที่เชียงใหม่ต่อโดยที่ต่างคนต่างเริ่มต้นชีวิตใหม่
หรือคบกันต่อแล้วแฟนเราต้องย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพด้วยกัน และแล้วแฟนเราก็เลือกที่จะมาอยู่กับเราที่กรุงเทพค่ะ เย้ อมยิ้ม16
แต่ก่อนที่เราจะมาอยู่ด้วยกันนั้นแฟนเราก็ได้นำพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ฝั่งเค้ามาสู่ขอเราและทำพิธีเสียผี ซึ่งเป็นประเพณีทางเหนือ "พิธีเสียผี"
คือการบอกกล่าวบรรพบุรุษให้รับรู้ว่าเราจะมาอยู่ด้วยกัน เพื่อไม่ให้พ่อแม่ของเราทั้งสองคนต้องมาเจ็บป่วย
จากนั้นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้มาอยู่ด้วยกันและถามคำถามกับแฟนเราว่าจะมาขอเราแต่งงานเมื่อไหร่
แฟนเราก็ได้ัให้สัญญาว่าอีก 4 ปี จะกลับมาแต่งคับ อมยิ้ม36 จากนั้นเราทั้งสองคนมาก็มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ ช่วยกันเก็บเงินเพื่อจะกลับไปแต่งงานกันที่บ้าน (เราทั้งสองคนตั้งใจว่าทุกๆอย่างในการจัดงานแต่งงานของเราครั้งนี้ต้องเป็นเงินของเราทั้งสองคนทั้งหมด เพราะที่บ้านเราทั้งสองก็ไม่ได้เป็นคนมีฐานะเราเลยตั้งใจจะช่วยกันหาเอง ) และนั่นแหละค่ะเราก็ช่วยกันทำงาน เก็บเงิน ใช้จ่ายประหยัด
เก็บมาเรื่อยๆๆๆๆ พอมาถึงปลายปี 2017 เย็นวันหนึ่งแฟนเราก็มาคุยกับเราว่า "น้อง...เราจะต้องแต่งงานกันแล้วนะ ตอนนี้จะครบ 4 ปีแล้ว"
อย่าถามถึงความรู้สึกเราเลย เราดีใจมากและดีใจที่สุดที่เค้าไม่ลืมสัญญา

จากนั้นเรื่องราวการเตรียมงานแต่งงานของเราก็เริ่มขึ้น
1. เราสองคนโทรไปหาพ่อแม่เจ้าสาว เพื่อให้พ่อกับแม่ช่วยไปหาฤกษ์วันแต่งงานของเราทั้งสองคนให้
    พ่อกับแม่ก็ตื่นเต้นมากกกกก เอาชื่อ วันเดือนปีเกิด ไปหาฤกษ์ และก็ได้มาละจร้า "17-11-18" เค้าบอกว่าเป็นวันที่ดีที่สุดแล้ว
    และก็เป็นวันเสาร์ ดีงาม!!! วันหยุดดด เพราะเราอยากให้คนที่เรารักมาเยอะๆ เข้าทางเลย ดีใจจจ
2. เนื่องจากเราแพลนจะแต่งงานปลายปีอยู่แล้ว และตอนนี้ก็เป็นปลายเดือนมกราคม 2018  
    เราสองคนก็อยากเริ่มต้นสิ่งดีๆของชีวิตเราอีกเรื่องคือ พากันไปจดทะเบียนสมรส ในวันที่ 14-02-18 (วันแห่งความรัก) ณ สถานีบางรัก
    (แต่ก่อนที่เราจะไปเราทั้งสองคนได้ขออนุญาติพ่อแม่พี่น้องของครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้วนะคะ ทุกคนตกลงงง)
    *** แต่เราก็ยังคิดว่าเรายังไม่ได้แต่งงานกันอยู่ดีนะคะ เพราะเรารอวันแต่งงานของเราทั้งสองคนมาถึงก่อน ทุกอย่างถึงจะสมบูรณ์ ***
3. เราสองคนเริ่มเตรียมเรื่องแหวนแต่งงาน เพราะความใฝ่ฝันของเรา (เจ้าสาว) คืออยากมีแหวนเพชรสักวง
    ไม่ต้องใหญ่ ใส่ได้ทุกวัน ออกแบบเองได้ ด้วยงบที่ไม่สูง แลดูเรื่องมากมากกก อิอิ
    แต่เราก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะแหวนมันคงราคาสูงเกินไปสำหรับเรา (ได้แต่คิดแล้วก็ฝัน)
    จากนั้นเราก็เอาความฝันของเราไปพูดให้แฟนฟัง แฟนเราก็บอกว่าไปหาพี่ชายนางกัน พี่ชายนางมีร้านเพชร ป๊าดดดด
    สวรรค์ของข้าเจ้าแล้วววว จากนั้นเราทั้งสองก็พากันไปหาพี่ชายของแฟน ดูๆแล้วมันคงแพงหน้าดู ใจแป่วอีกแล้ว คงไม่ได้อีกละ
    แต่แล้วพี่ชายของแฟนเราก็ถามว่าอยากได้แบบไหน มีงบเท่าไหร่ เราทั้งสองก็แจ้งงบที่เราสองคนหาได้
    ซึ่งไม่มีทางที่จะไปหาซื้อที่ไหนได้ ปรากฏว่า!!! พี่ชายแฟนเราทำแหวนให้เป็นของขวัญสำหรับงานแต่งงานของเราทั้งสองคน
    แล้วเราก็จ่ายเงินแค่จำนวนเงินที่เราบอกไว้ก็พอ พระเจ้า!!! ดีใจจจจ ลงตัว @ A.tiara Fine Art Jewelry
4. สถานที่ เรากับแฟนได้ตกลงกันว่าเอาที่ทุกๆคนเดินทางได้สะดวก ถ้าไม่มีค่าใช้จ่ายก็จะดีมาก
    บ้านพี่สาวของเจ้าสาวเองอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่พอดี เราเลยคุยกับพี่สาวเราแล้วขอบ้านพี่สาวเป็นสถานที่จัดงานน
5. พอได้สถานที่จัดงานแล้ว เราก็คิดถึงเรื่องการจัดการสถานที่ เพราะเราทั้งสองอยู่กรุงเทพ ควรจะมีคนมาจัดการให้เรา
   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฉากพิธี ซุ้มถ่ายรูป ฉากเวที ของที่เจ้าบ่าวจะใช้ในขบวนขันหมาก ตั่งพิธี แล้วก็อื่นๆอีกหลายอย่าง
    แล้วจะทำยังไงดี เราสองคนเลยหาออแกไนซ์ในการมาช่วยเตรียมเรื่องเหล่านี้ แล้วเราจะไปหาที่ราคาถูกๆแล้วได้ทุกอย่างแบบนี้จากไหน
    เดชะบุญอีกแล้ว แฟนเรามีเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย ทำงานเสริมเกี่ยวกับรับเป็นออแกไนซ์จัดงานพอดี เลยติดต่อเพื่อนแล้วเพื่อนก็จัดงานให้หมด
    ด้วยงบราคาหลัก 1x,xxx แต่งานราคาหลักแสน ขอบคุณมากๆนะคะ @Panuphong Intayod
5.1 ฉากพิธี
5.2 ฉากถ่ายรูป
5.3 ฉากเวที
5.4 โต๊ะลงทะเบียน
5.5 ตั่งพิธี

5.6 ขันหมาก

6. กองทัพต้องเดินด้วยท้อง มาเรื่องอาหารกันจร้า ต้องบอกว่าอาหารอร่อย สะอาด ราคารวมโต๊ะเก้าอี้ ผ้าคลุมทุกอย่าง
   10 คนต่อโต๊ะ ราคาโต๊ะละ 1,500 บาท อาหาร 8 อย่างประกอบด้วย
   1. ออร์เดริฟ ชุดใหญ่, 2. ขาหมูตุ๋นเห็ดหอมน้ำแดง, 3. ปลาทับทิมนิ่งมะนาว, 4. ต้มยำรวมทะเลน้ำข้น
   5. ยำรวมซีฟู๊ด, 6. ผัดผักรวมกุ้งสด, 7. ข้าวเปล่า, 8. ผลไม้รวม
   อีกอย่างเราอยากให้งานออกมาดีและกันแดดได้ระดับหนึ่ง เราให้ทางร้านนำเต็นท์ร้มากางให้ หลังละ 1,200 บาท

ึ7. เราเริ่มแพลนเรื่องการถ่ายรูป "Pre Wedding" แล้วโชคก็ช่วยอีกแล้วว แฟนเราทำงานเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ และที่บังเอิญยิ่งกว่านั้น
    หัวหน้าของแฟนเราเป็นช่างภาพ รับถ่ายภาพเกี่ยวกับพวกงานแต่ง งานถ่าย pre พวกนี้พอดี เข้าทางแล้วว
    เราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับแก แล้วแกก็ตกลงไปถ่ายให้ (เรื่องราคาหรอคะ จุ๊ๆ) ^_^
    จากนั้นเราก็ได้คุยถึง concept ว่าเราอยากถ่ายแบบไหน แล้วเค้าก็ช่วยสานฝันไวเด็กของเราอีกแล้ว ไปจร้า
    ไปถ่ายในสวนสนุกกันจร้า "Dream World" ชุดที่ใส่ถ่ายหัวหน้าแฟนก็หาให้ ไม่เสียเงินเช่า
    ช่างแต่งหน้าทำผม ก็หัวหน้าแฟนเราช่วยหาให้ไม่เสียเงิน ดีไปอีกกก ต้องขอบคุณพี่ชายคนนี้จริงๆนะคะ @Pae Pramote จากใจ
8. พอเราไปถ่ายรูป pre มาแล้ว เมื่อเราได้รูปจากช่างภาพ เราก็ดีใจมากๆๆ สวยจัง แล้ววันหนึ่งเราเล่น Facebook อยู่เหมือนทุกๆวัน
    เราก็เปิดไปเจอเรื่องราวของรุ่นพี่ที่เรารู้จักสมัยเรียนมหาลัย เค้าแชร์รูปการเล่นโยคะ แต่เอ้ทำไมเค้าหุ่นดีจัง สวยขึ้นมาก
    เราก็ส่องเค้าทุกๆวัน เลยตัดสินใจทักไปหาแล้วถามว่าทำไมพี่สวยขึ้นจัง น้องจะแต่งงานยังอ้วนอยู่เลย เครียดดด น้องจะทำไงดี
    จากนั้นรุ่นพี่ของเราก็บอกว่าอยากผอมจริงรึป่าว งั้นทักไปหาคนนี้ๆๆ @Benn Chatsuda Thammasarn เราก็ไม่รีรอที่จะทัก รีบเลยจร้าจู่โจม
    ทักไปหาเค้าแล้วบอกว่าเราอยากผอมก่อนเราแต่งงาน อีก 2 เดือน ช่วยเราได้มั้ย ได้โปรดดด เค้าตอบกลับมาอย่างน่ารักว่า ได้จร้า
    เราดีใจมาก ซึ่งตอนนั้นคิดว่าลองอีกสักตั้งละกัน มาดูผลลัพธ์ที่ได้กันค่ะ
*** จากนั้นเริ่มมีกิเลสเกิดขึ้นมาอีกแล้ว ตอนถ่ายพรีรอบแรกเราก็ว่าเราสวยละนะ แต่เราไม่ผอมเลยอยากถ่ายใหม่อีก ***
9. เมื่อหุ่นของเราทั้งสองกลับมาปังอีกครั้ง เราทั้งสองคนก็อยากมีรูป "Pre Wedding" ใหม่อีกครั้ง (เวอร์ชั่นผอม) อิอิ
    แต่จะไปถ่ายเหมือนรอบแรกเราก็คิดว่าตอนนั้นรูปก็สวยอยู่แล้ว จึงตกลงเปลี่ยนเป็นไปถ่ายใน Studio ละกัน
    จากนั้นเราก็ตามหาร้านที่รับถ่าย แนวที่ชอบ ราคาที่ใช่ ก็เจอร้านนี้เลยจร้า @Yes i can พี่ๆน่ารัก บริการดีมากกกก
    (ราคาตอนนั้นโปรโมชั่น 6900 บาท ให้รูปทั้งหมด)
10. การ์ดแต่งงาน เราอยากออกแบบเอง เราเลยตามหาร้านแล้วพบว่า ร้านนี้เราสามารถออกแบบเองได้
     สวยงามมาก น่ารัก ราคาเบา ได้รับงานตรงเวลา รวมๆแล้วคือเลิศ เราสั่งทำทุกอย่างจากร้านนี้ทั้งหมดเลย
     (บางอย่างทางร้านเค้ามีให้ทำผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วย)  คร่าวๆที่เราสั่งทำก็จะมี การ์ดแต่งงาน, ของชำร่วย,
     Photobook, กล่องใส่ซอง, รูป 4x6 และสมุดเซ็นต์อวยพร
     ขอบคุณทางร้านมากๆนะคะ @manitawedding (www.manitawedding.com) และ https://www.lalapixthailand.com/





11. ชุดแต่งงาน ชุดแต่งงานของเราทั้งสองคนได้จากร้าน "เช่าชุดไทย เช่าชุดรำไทย www.noppakraw.com"
     เป็นชุดไทยโบราณ งามมาก ราคาไม่แพงค่ะ
  

12. ช่างแต่งหน้า ทำผม เราทั้งสองคนจะสวยจะหล่อไม่ได้เลยถ้าไม่มีช่างแต่งหน้าคนนี้ ขอบคุณมากๆนะคะ @ตั้ม ภัทรพล

13. ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว สวยงาม สะอาด ราคาถูกมาก ชุดละ 200 บาทเท่านั้น ร้านนี้เลยค่ะ





14. ช่างภาพวันงาน @Pae Pramote

และสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ ครอบครัว ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้คอยอยู่เบื้องหลังในทุกๆเหตุการ์ณ ขอบคุณจากใจ
ขอบคุณจริงๆค่ะ รักทุกๆคนมากๆค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่