กระพริบตาที่ปารีส

ชื่อกระทู้ตามนี้เพราะแว้บไปแว้บมาด้วยความรวดเร็วประหนึ่งนินจาจริงๆ ค่ะ ก่อนจะกระพริบตา คือ ขยี้ตาก่อน เพราะเห็นโปรแกรมทัวร์ราคาโดนใจ ตอบโจทย์วันหยุดวันลาอันน้อยนิดของเรา (และการต้องขาดเรียนของลูกสาว) ได้อย่างดี เวลาน้อย งบไม่เยอะ เราสะดวกแค่นี้..แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็เป็นความทรงจำที่ดี มีแค่กล้องจากโทรศัพท์มือถือ ก็เพียงพอที่จะบันทึกภาพมาให้ดูกันได้ยาวๆ ค่ะ

ส่วนตัว เคยบินไปยุโรปแบบต้องแวะต่อเครื่อง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บินสายการบินแห่งชาติจากสุวรรณภูมิ ตรงดิ่งสู่มหานครปารีสกันเลย miniheartระยะทางหน้าจอบอกว่า 9457 กิโลเมตรหรือประมาณนี้แหละ เครื่องแบบ A380 ลำใหญ่ตกใจ บร๊ะเจ้าโจ๊กผู้โดยสารไม่เต็มลำหาที่ว่างนอนเหยียดตามอัธยาศัย ถึงไม่นอนเหยียดก็นั่งหลับได้ไม่เลวร้ายค่ะ


ระยะเวลาในการบินจากสุวรรณภูมิถึงสนามบิน Charles de Gaule ปารีส 12 ชั่วโมง 30 นาที กัปตันพูดภาษาฝรั่งเศสด้วยแน่ะ อุต๊ะ บริการอาหาร 2 มื้อ อิ่มหน่ำอยู่ค่ะ หนุ่มแว่น
อันนี้มื้อก่อนนอน

ตื่นมาก็บริการอาหารเช้า


ถึงปารีสมุ่งหน้า เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวแน็ต ณ พระราชวังแวร์ซายส์ ซึ่งสวยสดงดงามตามท้องเรื่องค่ะ คุณไกด์มีพูดถึงละครบุพเพสันนิวาส การเจริญสัมพันธไมตรีสมัยสมเด็จพระนารายณ์ และห้องกระจกด้วยค่ะ เมื่อได้มาเห็นสถานที่จริงนั้น บอกเลยว่าอลังการมาก ถ่ายออกมาได้เท่านี้นะคะ เพราะผู้คนคราคร่ำ


ห้องกระจกในตำนาน




จากนั้นก็ต้องไปเยือนจุดเด่นของปารีสกัน ให้รู้ว่ามาถึงที่นี่แล้วจริง และไม่สามารถหาดูได้ที่ไหนในโลก ในการนี้ ก็ได้ภาพที่ระทึกออกมาไว้ดูเป็นความทรงจำนะคะ ความรู้ประวัติศาสตร์และที่มาที่ไปทั้งหลายนั้น หาอ่านได้จากตำราเรียนมากมายพร้อมภาพประกอบ แต่การได้มายืนตรงหน้าสถาปัตยกรรมแบบนี้ เชื่อว่า น่าจะตะลึงกันบ้างละค่ะ

เริ่มที่ La Tour Eiffel ได้แค่นี้ก็ดีใจ

ประตูชัย L'arc de triomphe ธงชาติฝรั่งเศสผืนใหญ่ตรงกลางด้านในโค้งประตูนั้นเป็นของการชุมนุมที่ยังไม่จบ แต่พวกเขาก็พักให้เราได้ไปถ่ายรูปก่อนหนุ่มแว่น


เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้ามีเมฆมาก เรายังได้มาพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และ วิหาร Sacre-Coeur ที่ Montmatre

สีสวยสดงดงามตามสภาพปลายฝนต้นหนาวที่แท้ทรู อากาศไม่อำนวย แต่ทำอะไรสายแชะอย่างเราไม่ได้นะคะสาวแว่น


แล้วเราก็ยังมีวันเวลาอิสระในการเดินเล่นแถวใจกลางปารีสอันเป็นแหล่งช้อปปิ้ง และได้นั่งรถไฟใต้ดินไปดิสนีย์แลนด์ปารีสด้วยค่ะ เอาจริงๆ คือได้ศึกษาเส้นทางไปบ้างจากชาวฝรั่งเศสที่ออฟฟิศว่า ดิสนีย์แลนด์ปารีสอยู่ชานเมืองปารีส และต้องนั่งรถไฟใต้ดินสาย RER ..แผนที่ดูไม่รู้เรื่องอย่ากระนั้นเลย เขาแนะนำให้ไปเคาน์เตอร์ขายตั๋วบอกเจ้าหน้าที่เลยค่ะว่าจะไปสถานี Marne La Valley Chessy ท่องให้ขึ้นใจ เดี๋ยวเขาจัดให้ เราก็แค่เดินลงไป หาชานชลาเส้นที่มันมีสถานีนั้น ง่ายตามนั้นเหมือนกันค่ะ โชคดีว่าเราไปเดินเล่นอยู่แถวห้าง Printemps แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นป้าย RER นี่พอดี เลยลองถามพี่ รปภ ห้างดู แกก็บอกว่าขึ้นได้ ไปโลด..

เหมือนรถไฟใต้ดินบ้านเขาจะเจาะทะลุทะลวงทุกหย่อมหญ้าแถวนั้นนะคะ ไปตรงไหนก็มี ดูแผนที่เหมือนสถานีมันไกลกัน แต่เดินจริงๆ ไม่ไกลเลยและขึ้นไม่ยาก เนื่องจากเราไปวันธรรมดา คนไม่แน่นอีกต่างหาก สบายๆ เลยค่ะ

ตั๋วรถไฟทำจากกระดาษอาร์ตมันแลดูเช้ย เชย แต่ก็ใช้เสียบเข้าออกได้มานับร้อยปีเชียวค่ะ


รถไม่ได้วิ่งแต่ใต้ดิน (ซึ่งลึกมาก) แต่โผล่ขึ้นมาวิ่งบนดินบ้าง ลอดอุโมงค์บ้าง ด้วยความเร็วที่เร็วอยู่ค่ะ จอดทุกสถานี สถานีละ 2 นาที แล้วก็มีป้ายบอกว่าสถานีต่อไปคือสถานีอะไร ไม่ต้องพูดภาษาฝรั่งเศสได้ก็ไม่หลงค่ะ


ภายในตู้รถไฟ มีสองชั้นด้วยแน่ะ


ปลายทางที่ดิสนีย์แลนด์ปารีส ตามสัญลักษณ์หูท่านบิ๊กบอสมิกกี้ค่ะ ชื่อสถานี Marne La Valley Chessy 

ออกมาดิสนีย์แลนด์ปารีสก็ตั้งตระหง่านรออยู่เลย ไว้จะมาเล่า 1 วันที่ไปกระพริบตาที่ดิสนีย์แลนด์ปารีสนะเจ้าคะ



ป.ล1 ทางบริษัททัวร์ดูแลเรื่องวีซ่าให้ เราก็ยื่นเอกสารและไปแสดงตัวตามปกติ ปรากฎว่าสถานฑูตอนุมัติวีซ่าให้เรา 1 ปี และให้ลุกสาว 3 เดือนนะคะ คือเยอะกว่าที่คิด แล้วการไปกับทัวร์ครั้งนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเลยสักนิดค่ะ ได้พักโรงแรมดิสนีย์อีกต่างห่างแน่ะ คือของถูก ของดี มันยังมีอยู่จริงนะคะ อมยิ้ม16

ป.ล2 กระพริบตาอีกครั้ง กลับมาที่โต๊ะทำงาน เอกสารเต็มโต๊ะค่ะ เราไม่ได้ฝันไปนะ เรามีรูปถ่ายเป็นหลักฐานนานาเดินทาง

https://ppantip.com/topic/38354144
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่