ที่มา
http://www.komchadluek.net/news/foreign/355119
เอาภาพและข้อมูลมาไม่หมดนะ อ่านต่อในเว็บครับ
ชาวมาเลย์ราว 5 หมื่นคน ออกมาร่วมชุมนุมที่จตุรัสเมอร์เดกา ( เอกราช ) ในกรุงกัวลาเปอร์ในวันนี้ โดยเดิม นัดหมายเป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านการให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (International Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination - ICERD) แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ตัดสินใจไม่ลงนามเมื่อเดือนที่แล้ว การชุมนุมจึงเปลี่ยนเป็นการเฉลิมฉลอง และเพื่อแสดงพลังปกป้องสถานะของชาวมาเลย์และศาสนาอิสลามในสังคมมาเลเซีย
ถนนทุกสายที่มุ่งสู่จตุรัสกลางเมืองปิดการจราจรก่อนเริ่มชุมนุม คลื่นมหาชนในชุดขาวจากทุกสารทิศ ตะโกนสรรเสริญพระเจ้า และชาวมาเลย์จงเจริญ
ปัจจุบัน ในองค์การที่ประชุมอิสลาม 57 ประเทศ เหลือแค่มาเลเซียกับบรูไนเท่านั้นที่ยังไม่ให้สัตยาบันอนุสัญญาที่มุ่งขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติให้หมดไป
เชื้อชาติและศาสนาเป็นประเด็นอ่อนไหวในมาเลเซีย โดยเฉพาะในยุคนี้ ชาวมุสลิมมาเลย์ ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ รู้สึกไม่มั่นคง กับการอยู่ภายใต้รัฐบาลสายปฏิรูป ที่มีผู้แทนของชนส่วนน้อยมากกว่าเดิม และล่าสุดก็เกรงว่า อนุสัญญาฉบับนี้จะลิดรอนอภิสิทธิที่เคยมีเคยได้ภายใต้นโยบายให้สิทธิพิเศษแก่ภูมิบุตร หรือชนมาเลย์
อาริฟ ฮาชิม ผู้ประท้วงวัย 26 ปี กล่าวว่า “ผมหวังว่าชนกลุ่มอื่นจะไม่ท้าทายสิทธิของชาวมาเลย์ และในฐานะที่ผมเป็นมุสลิม ผมต้องการให้อิสลามคือความสำคัญอันดับหนึ่งในมาเลเซีย”
ชาวมาเลย์ ซึ่งมีสัดส่วน 60% ของประชากร 32 ล้านคน ได้รับความเกื้อหนุนจากทางการเป็นพิเศษมาเป็นเวลาหลายสิบปี รวมถึงด้านการเงิน ในยุคสร้างชาติ แต่นักวิจารณ์ระบุว่าถึงเวลาที่ระบบนี้ต้องปฏิรูป
ทางการนำนโยบายให้สิทธิพิเศษชาวมาเลย์มาใช้ หลังจากเกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวมาเลย์กับชนเชื้อสายจีนในปี 2512 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คน
สงสัยว่า นโยบายนี้ ผมว่าคงอยู่ต่อไปอีกนานเท่านาน ไม่ทราบว่าคนเชื้อสายอื่น ศาสนาอื่นทนกันอยู่ได้อย่างไรนะครับ ใครพอรู้จักหรือเคยไปเล่าสู่กันฟังหน่อย ผมว่าถ้าคนพุทธหรือคริสต์เป็นคนส่วนใหญ่ที่นั่น จะมีนโยบายแบบนี้ได้มั้ยนะ
ครึ่งแสนชุมชนแสดงพลังปกป้องอภิสิทธิ์มุสลิมมาเลย์
เอาภาพและข้อมูลมาไม่หมดนะ อ่านต่อในเว็บครับ
ชาวมาเลย์ราว 5 หมื่นคน ออกมาร่วมชุมนุมที่จตุรัสเมอร์เดกา ( เอกราช ) ในกรุงกัวลาเปอร์ในวันนี้ โดยเดิม นัดหมายเป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านการให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (International Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination - ICERD) แต่หลังจากนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ตัดสินใจไม่ลงนามเมื่อเดือนที่แล้ว การชุมนุมจึงเปลี่ยนเป็นการเฉลิมฉลอง และเพื่อแสดงพลังปกป้องสถานะของชาวมาเลย์และศาสนาอิสลามในสังคมมาเลเซีย
ถนนทุกสายที่มุ่งสู่จตุรัสกลางเมืองปิดการจราจรก่อนเริ่มชุมนุม คลื่นมหาชนในชุดขาวจากทุกสารทิศ ตะโกนสรรเสริญพระเจ้า และชาวมาเลย์จงเจริญ
ปัจจุบัน ในองค์การที่ประชุมอิสลาม 57 ประเทศ เหลือแค่มาเลเซียกับบรูไนเท่านั้นที่ยังไม่ให้สัตยาบันอนุสัญญาที่มุ่งขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติให้หมดไป
เชื้อชาติและศาสนาเป็นประเด็นอ่อนไหวในมาเลเซีย โดยเฉพาะในยุคนี้ ชาวมุสลิมมาเลย์ ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ รู้สึกไม่มั่นคง กับการอยู่ภายใต้รัฐบาลสายปฏิรูป ที่มีผู้แทนของชนส่วนน้อยมากกว่าเดิม และล่าสุดก็เกรงว่า อนุสัญญาฉบับนี้จะลิดรอนอภิสิทธิที่เคยมีเคยได้ภายใต้นโยบายให้สิทธิพิเศษแก่ภูมิบุตร หรือชนมาเลย์
อาริฟ ฮาชิม ผู้ประท้วงวัย 26 ปี กล่าวว่า “ผมหวังว่าชนกลุ่มอื่นจะไม่ท้าทายสิทธิของชาวมาเลย์ และในฐานะที่ผมเป็นมุสลิม ผมต้องการให้อิสลามคือความสำคัญอันดับหนึ่งในมาเลเซีย”
ชาวมาเลย์ ซึ่งมีสัดส่วน 60% ของประชากร 32 ล้านคน ได้รับความเกื้อหนุนจากทางการเป็นพิเศษมาเป็นเวลาหลายสิบปี รวมถึงด้านการเงิน ในยุคสร้างชาติ แต่นักวิจารณ์ระบุว่าถึงเวลาที่ระบบนี้ต้องปฏิรูป
ทางการนำนโยบายให้สิทธิพิเศษชาวมาเลย์มาใช้ หลังจากเกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวมาเลย์กับชนเชื้อสายจีนในปี 2512 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คน
สงสัยว่า นโยบายนี้ ผมว่าคงอยู่ต่อไปอีกนานเท่านาน ไม่ทราบว่าคนเชื้อสายอื่น ศาสนาอื่นทนกันอยู่ได้อย่างไรนะครับ ใครพอรู้จักหรือเคยไปเล่าสู่กันฟังหน่อย ผมว่าถ้าคนพุทธหรือคริสต์เป็นคนส่วนใหญ่ที่นั่น จะมีนโยบายแบบนี้ได้มั้ยนะ