มรดกโลกจาก UNESCO ภูเขาโล้นโล้น ไม่มีต้นไม้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดใด แต่มีสีสันแต่งแต้มเหมือนสายรุ้งจนเต็มพื้นที่ เราอาจจะเคยเห็นภาพภูเขาแบบนี้บ่อยๆที่เปรู แต่จริงๆแล้วธรรมชาติแบบที่เราอยากไปเห็นกับตามันมีอยู่ใกล้ๆเรานี่เอง
" RAINBOW MOUNTAIN ( Zhangye colorful Danxia Scenic spot ) ที่จีนนี่เองค่ะ
Rainbow Mountain เป็นแลนด์สเคปที่แปลกตาสำหรับเรามาก ปกติจะชอบภูเขาสีเขียว ภูเขาสีเหลืองแดงของใบไม้เปลี่ยนสี แต่ที่นี่คือภูเขาโล้นแห้งแล้ง อากาศแห้งมาก ไม่มีต้นไม้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดใดบนภูเขารอบตัว มีแต่สีสันแต่งแต้มเขาโล้นโล้นจนเต็ม ถึงจะขาดต้นไม้แต่ก็มีสีสันมาเติมเต็ม
อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติ
เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2010 และถูกตั้งให้เป็นอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติเมื่อปี 2011 เรารู้จักภูเขาสีรุ้งครั้งแรกคือเปรู แต่เมื่อสองสามปีที่แล้วมาเจอภาพภูเขาสีรุ้งภาพนึง ตามหาต้นตอจนพบว่าเฮ้ย ใกล้บ้านเราแท้แท้จีนนี่เอง ก่อนจะไปไกลถึงเปรู ขอไปเยือนเวอร์ชันใกล้บ้านเราก่อนแล้วกัน
( รีวิวฉบับนี้เดินทางเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม – 2 กันยายน 2018 )
ทำไมภูเขาจึงมีสีเหมือนสายรุ้ง ?
จากการศึกษาด้านธรณีวิทยา เชื่อว่าภูเขาสายรุ้ง เกิดจากการทับถมกันหลังการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกครั้งใหญ่ แผ่นเปลือกโลกส่วนที่เป็นของภูเขาหิมาลัยเคลื่อนตัวเข้าหากันนานเข้าจนเกิดเป็นสันภูเขาจำนวนมาก แล้วต่อมาลมและฝนก็กัดเซาะสันเขาเหล่านั้นให้มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งแต่ละชั้นที่ทับถมมีอายุไม่เท่ากัน ทำให้มีสีสันที่แตกต่างกัน โดยสีพื้นฐานของภูเขาหินคือสีแดง และต่อมาเมื่อผ่านการกัดเซาะของธรรมชาตินับล้านปี ทำให้ชั้นสีหินที่แตกต่างยิ่งโดดเด่นชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ของจริงเป็นสีรุ้งจริงไหม ?
สีที่เห็นแต่ละช่วงแตกต่างกัน ตามฤดูกาล อากาศ เวลา แสง และสภาพอากาศโดยรวม เราจะเทียบสีให้เห็นชัดๆตามนี้ค่ะ ซึ่งกล้องไม่สามารถเก็บภาพได้จริงเท่าตาเห็น ทั้งนี้ทั้งนั้นสีที่เห็นก็จะขึ้นอยู่กับอากาศและดวงชะตาของแต่ละคนอีกทีค่ะ เหมือนไปเที่ยวฟูจิแต่ไม่เห็นฟูจิโผล่ออกมาทักทาย ก็เหมือนกับไปที่นี่แต่เห็นสีออกมาได้ชัดเพราะอากาศไม่ดีนั่นแหละค่ะ
** ภาพในอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเป็นสีปลอมค่ะ สีสดเกินจริงไปมาก ส่วนภาพในรีวิวจะเป็นภาพที่เราปรับสีขึ้นมา สีจะเข้มกว่าปกตินิดนึงค่ะ
เที่ยวช่วงไหนดี ?
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน คือช่วงเวลาที่ภูเขาสายรุ้งสวยที่สุด ควรจะเข้าชมเฉพาะเช้าตรู่และช่วงเย็นเท่านั้น ถึงจะสามารถเห็นสีที่ชัดเจนได้ เพราะสภาพพื้นที่ทั้งหมดเป็นดินที่แห้งๆ ในชั้นบรรยากาศเลยจะมีฝุ่นปนอยู่มาก สภาพแสง สภาพอากาศ เลยทำให้เราเห็นสีแตกต่างกัน ช่วงที่เห็นชัดที่สุดคือช่วงเวลาหลังฝนตกเพราะ น้ำฝนชะล้างฝุ่นในอากาศออก และน้ำทำให้สีเห็นชัดมากขึ้น
เวลาเปิดให้บริการ :เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ตั้งแต่ 6.00 – 19.00 น. ทุกวัน ( ไปให้เช้าที่สุด แล้วให้พกอาหารไปกินด้วย เราไปตั้งแต่อุทธยานเปิด เป็นนักท่องเที่ยวชุดแรกที่เข้าไป ไม่คิดว่าจะอยู่นานมากเลยไม่ได้พกอะไรไปทาน แต่ความจริงนั้น 5.45 – 11.45 และหิวมาก น่าจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ข้างในยาวนานที่สุดในวันนั้น )
อุทธยานที่นี่กว้างมาก มีการบริหารจัดการอย่างดี ทางเดินทำด้วยไม้ มีบริการรับส่งแต่ละจุดด้วยรถบัสปรับอากาศ Rainbow Mountain เป็นแลนด์สเคปที่แปลกตาสำหรับเรามาก ปกติจะชอบภูเขาสีเขียว ภูเขาสีเหลืองแดงของใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่เป็นภูเขาหลายสีที่ไม่มีต้นไม้เลยสักต้น ดูแห้งแล้งแต่ทว่าอากาศกลับหนาว ช่วงกล้องวันแดดแรงมากเตรียมหมวกไปใส่ด้วยค่ะ
จุดชมวิวภายในอุทธยาน มีจุดหลักๆอยู่ 4 จุด ให้นั่งบัสเลยไปจุดที่ 3 ก่อนเลยจะเป็นจุดที่เรียกว่า Rainbow Mountain เห็นสีได้ชัดเจนที่สุดแล้วค่อยนั่งบัสวนไปจุดอื่นๆ ถ้างงว่าจุดที่ 3 คือตรงไหน ให้สังเกตบอลลูนไว้ จุดที่มีบอลลูนให้ขึ้นนั่นแหละคือจุด Rainbow Mountain รถบัสจะวิ่งวนรอบอุทธยานทั้งวัน จะวนกลับมากี่รอบก็ได้
การเดินทางไปภูเขาสายรุ้ง
การเดินทางไปที่นี่ยากหน่อย แต่ไม่ยากมาก เนื่องจากยังไม่ได้เป็นเส้นทางที่คนไทยรู้จักมากนัก เลยยังไม่มีเส้นทางตรงจากกรุงเทพแต่ก็ไม่ได้ยากจนไปไม่ได้ แค่จะหาข้อมูลยากหน่อยเท่านั้นเอง สรุปวิธีการเดินทางมาให้ตามนี้ค่ะ
Step 1 กรุงเทพ – จางเย่
RAINBOW MOUNTAIN ( Zhangye colorful Danxia Scenic spot ) ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู เมืองจางเย่ ของจีน ยังไม่มีสายการบินบินตรงจากไทยไปเมืองจางเย่ วิธีการเดินทางทำได้หลายวิธี
1) บินลงเมือง Lanzhou เป็นเมืองที่มีบินตรงจากไทยใกล้เมืองจางเย่ที่สุด ( วิธีนี้ประหยัดเวลาเดินทางแต่ค่าตั๋วเครื่องบินค่อนข้างสูง )
2) บินลงซีอาน แล้วต่อรถไฟ หรือ บินภายในไประเทศเดินทางไปเมืองจางเย่ เราเลือกวิธีนี้เพราะ อยากเที่ยวซีอานด้วย จะได้เก็บสองมรดกโลก ทั้งสุสานจิ๋นซี และ ภูเขาสีรุ้ง !! และค่าตั๋วไปซีอานของแอร์เอเชียถูกมาก โปรโมชั่นมาบ่อยบ่อย จองล่วงหน้าดีสุด
Step 2 ซีอาน – จางเย่
1) บินภายในประเทศ มีหลายสายการบินให้บริการ ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท/เที่ยว ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเดินทางและดวงชะตาอีกที จองผ่าน online booking ทั่วไปได้เลยค่ะ
2) รถไฟ เราใช้การจองล่วงหน้าผ่าน
https://th.trip.com สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วันก่อนเดินทาง เราชะล่าใจไปไม่รีบจอง รถไฟเวลาที่อยากได้เต็ม แผนเลยเพี้ยนๆไปหน่อย เพราะฉะนั้นเปิดให้จองแล้วควรจองไว้ก่อนเลยค่ะ มีค่าบริการการจองออนไลน์เพิ่มมาจากราคาตั๋วปกติแต่ยืนยันว่าได้ตั๋วแน่นอน ไม่ต้องลุ้นตั๋วหน้างาน และไม่ต้องใช้เอเจนซี่ในการจอง รถไฟมีหลักๆ 2 แบบ คือรถไฟความเร็วสูงและรถไฟนอน ราคาไม่ต่างกันมากนัก แต่รถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเดินทาง ~7 ชั่วโมง ส่วนรถไฟนอนใช้เวลาเดินทางไป ~17 ชั่วโมง !! ชอบแบบไหน เวลาตอนไหนลงตัวก็ตามอัธยาศัยนะจ้ะ
หมายเหตุ : สถานีรถไฟความเร็วสูงของ Xi’an จะอยู่นอกเมือง ชื่อสถานี Xi’an North ห่างจากสถานีหลักใช้เวลาเดินทาง ~ 1 ชั่วโมง
Step 3 จางเย่ – ภูเขาสีรุ้ง
– แท็กซี่ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด โดยสามารถเรียกใช้บริการแท็กซี่ได้ทั้งจากสนามบิน สถานีรถไฟ หรือบริเวณอื่นๆในเมือง มีค่าใช้จ่าย 200 -250 หยวนต่อการเดินทางหนึ่งเที่ยว
– รถโดยสารสาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งตะวันตก (张掖汽车站) โดยขึ้นรถสายปลายทางเขตซู่หนาน และลงที่ป้ายหมู่บ้านหนานไถ (南台村) ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาสายรุ้งตันเสีย ประตูทางเข้าที่ 1 เพียง 1.3 กิโลเมตร
พักที่ไหนดี ?
เราแนะนำให้ไปพักที่ KaoShan Tent จะได้เข้าชมภูเขาสีรุ้งได้ทั้งตอนเช้า และตอนเย็น ที่พักอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า ~ 500 เมตร สามารถเดินจากที่พักไปประตูเข้าได้เลย
KaoShan Tent เป็นที่พักสไตล์เตนท์ หรือ york ของชาวทิเบต เราชอบที่พักที่นี่มาก ที่พักไม่มีแอร์ แต่ไม่เป็นปัญหา อากาศกลางคืนหนาวแต่ข้างในอุ่น เป็นคืนที่หลับสบายมากหลังจากนั่งรถไฟมาอย่างยาวนาน ห้องน้ำรวม สะอาด มีหลายห้อง แยกห้องน้ำชาย หญิง เครื่องทำน้ำอุ่นที่อุ่นจริง ( เวลาไปเมืองชนบทหนาวๆเรามักจะเจอเครื่องทำน้ำอุ่นที่อุ่นแต่ชื่อ ) บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว
กลางวันเราก็ว่าสวยแล้ว แต่กลางคืนสวยนี่เซอร์ไพรมาก ความเก๋าของจีนคือการเนรมิตอะไรก็ได้ที่อยากทำ light up สีรุ้งสาดเข้าไปในภูเขารอบรอบที่พัก พร้อมเพลงบรรเลงแบบจีน เหมือนเราเข้ามาชมโชว์อย่างโดยแค่นั่งอยู่ที่โรงแรมเท่านั้น
ถ้าจองใน Booking.com แล้วเต็มลองอีเมลไปเช็คได้ค่ะ เพราะว่าบางทีเค้าเปิดห้องไม่หมดค่ะ
e-mail : zhongyimice@163.com / mobile or wechat : 13919308668
ทริปนี้เราไปมา 3 เมือง ซีอาน - จางเย่ - ชิงไห่ กับ Amazing China ทริปอันซีนที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก
นอกจากภูเขาสายรุ้ง แล้วยังมีสถานที่อีกหลายอันที่ดีงาม ทั้งการขี่จามรี กินเนื้อแพะ แวะสวิตเซอร์แลนด์แดนมังกร
อ่านรีวิวรูทนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ >>
https://goanywhere.co/2018/10/21/amazing-china-rainbow-mountain/
เมืองจีนยังมีที่เที่ยวอีกเยอะมากมาก ไม่ต้องกลัวว่าจีนจะสกปรก จริงๆจีนน่ะพัฒนาล้ำยุค
เกินกว่าที่เราคิดไปมากเลยค่ะ ไปจีนมา 3 ครั้ง การันตีได้เลยว่าเที่ยวจีนเท่าไหร่ก็ไม่พอ สวยเกินความคาดหมายทุกครั้ง
ภูเขาสายรุ้งที่นี่ก็เช่นกัน กางแผนที่จีนดู แล้วจิ้มพิกัดเที่ยวจีนสักที่ แล้วจีนของพวกเธอจะไม่มีวันเหมือนเดิม !!
เที่ยวให้สนุกนะคะ
————————————————————
Goanywhere with me
FB :
https://www.facebook.com/goanywhere.co/
website :
www.goanywhere.co
IG :
https://www.instagram.com/goanywhere.co/
[CR] ภูเขาสายรุ้งภาพวาดจากธรรมชาติ สีสันมรดกโลก | UNSEEN CHINA
มรดกโลกจาก UNESCO ภูเขาโล้นโล้น ไม่มีต้นไม้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดใด แต่มีสีสันแต่งแต้มเหมือนสายรุ้งจนเต็มพื้นที่ เราอาจจะเคยเห็นภาพภูเขาแบบนี้บ่อยๆที่เปรู แต่จริงๆแล้วธรรมชาติแบบที่เราอยากไปเห็นกับตามันมีอยู่ใกล้ๆเรานี่เอง " RAINBOW MOUNTAIN ( Zhangye colorful Danxia Scenic spot ) ที่จีนนี่เองค่ะ
Rainbow Mountain เป็นแลนด์สเคปที่แปลกตาสำหรับเรามาก ปกติจะชอบภูเขาสีเขียว ภูเขาสีเหลืองแดงของใบไม้เปลี่ยนสี แต่ที่นี่คือภูเขาโล้นแห้งแล้ง อากาศแห้งมาก ไม่มีต้นไม้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดใดบนภูเขารอบตัว มีแต่สีสันแต่งแต้มเขาโล้นโล้นจนเต็ม ถึงจะขาดต้นไม้แต่ก็มีสีสันมาเติมเต็ม
อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติ เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2010 และถูกตั้งให้เป็นอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติเมื่อปี 2011 เรารู้จักภูเขาสีรุ้งครั้งแรกคือเปรู แต่เมื่อสองสามปีที่แล้วมาเจอภาพภูเขาสีรุ้งภาพนึง ตามหาต้นตอจนพบว่าเฮ้ย ใกล้บ้านเราแท้แท้จีนนี่เอง ก่อนจะไปไกลถึงเปรู ขอไปเยือนเวอร์ชันใกล้บ้านเราก่อนแล้วกัน ( รีวิวฉบับนี้เดินทางเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม – 2 กันยายน 2018 )
ทำไมภูเขาจึงมีสีเหมือนสายรุ้ง ?
จากการศึกษาด้านธรณีวิทยา เชื่อว่าภูเขาสายรุ้ง เกิดจากการทับถมกันหลังการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกครั้งใหญ่ แผ่นเปลือกโลกส่วนที่เป็นของภูเขาหิมาลัยเคลื่อนตัวเข้าหากันนานเข้าจนเกิดเป็นสันภูเขาจำนวนมาก แล้วต่อมาลมและฝนก็กัดเซาะสันเขาเหล่านั้นให้มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งแต่ละชั้นที่ทับถมมีอายุไม่เท่ากัน ทำให้มีสีสันที่แตกต่างกัน โดยสีพื้นฐานของภูเขาหินคือสีแดง และต่อมาเมื่อผ่านการกัดเซาะของธรรมชาตินับล้านปี ทำให้ชั้นสีหินที่แตกต่างยิ่งโดดเด่นชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ของจริงเป็นสีรุ้งจริงไหม ?
สีที่เห็นแต่ละช่วงแตกต่างกัน ตามฤดูกาล อากาศ เวลา แสง และสภาพอากาศโดยรวม เราจะเทียบสีให้เห็นชัดๆตามนี้ค่ะ ซึ่งกล้องไม่สามารถเก็บภาพได้จริงเท่าตาเห็น ทั้งนี้ทั้งนั้นสีที่เห็นก็จะขึ้นอยู่กับอากาศและดวงชะตาของแต่ละคนอีกทีค่ะ เหมือนไปเที่ยวฟูจิแต่ไม่เห็นฟูจิโผล่ออกมาทักทาย ก็เหมือนกับไปที่นี่แต่เห็นสีออกมาได้ชัดเพราะอากาศไม่ดีนั่นแหละค่ะ
** ภาพในอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเป็นสีปลอมค่ะ สีสดเกินจริงไปมาก ส่วนภาพในรีวิวจะเป็นภาพที่เราปรับสีขึ้นมา สีจะเข้มกว่าปกตินิดนึงค่ะ
เที่ยวช่วงไหนดี ?
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน คือช่วงเวลาที่ภูเขาสายรุ้งสวยที่สุด ควรจะเข้าชมเฉพาะเช้าตรู่และช่วงเย็นเท่านั้น ถึงจะสามารถเห็นสีที่ชัดเจนได้ เพราะสภาพพื้นที่ทั้งหมดเป็นดินที่แห้งๆ ในชั้นบรรยากาศเลยจะมีฝุ่นปนอยู่มาก สภาพแสง สภาพอากาศ เลยทำให้เราเห็นสีแตกต่างกัน ช่วงที่เห็นชัดที่สุดคือช่วงเวลาหลังฝนตกเพราะ น้ำฝนชะล้างฝุ่นในอากาศออก และน้ำทำให้สีเห็นชัดมากขึ้น
เวลาเปิดให้บริการ :เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ตั้งแต่ 6.00 – 19.00 น. ทุกวัน ( ไปให้เช้าที่สุด แล้วให้พกอาหารไปกินด้วย เราไปตั้งแต่อุทธยานเปิด เป็นนักท่องเที่ยวชุดแรกที่เข้าไป ไม่คิดว่าจะอยู่นานมากเลยไม่ได้พกอะไรไปทาน แต่ความจริงนั้น 5.45 – 11.45 และหิวมาก น่าจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ข้างในยาวนานที่สุดในวันนั้น )
อุทธยานที่นี่กว้างมาก มีการบริหารจัดการอย่างดี ทางเดินทำด้วยไม้ มีบริการรับส่งแต่ละจุดด้วยรถบัสปรับอากาศ Rainbow Mountain เป็นแลนด์สเคปที่แปลกตาสำหรับเรามาก ปกติจะชอบภูเขาสีเขียว ภูเขาสีเหลืองแดงของใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่เป็นภูเขาหลายสีที่ไม่มีต้นไม้เลยสักต้น ดูแห้งแล้งแต่ทว่าอากาศกลับหนาว ช่วงกล้องวันแดดแรงมากเตรียมหมวกไปใส่ด้วยค่ะ
จุดชมวิวภายในอุทธยาน มีจุดหลักๆอยู่ 4 จุด ให้นั่งบัสเลยไปจุดที่ 3 ก่อนเลยจะเป็นจุดที่เรียกว่า Rainbow Mountain เห็นสีได้ชัดเจนที่สุดแล้วค่อยนั่งบัสวนไปจุดอื่นๆ ถ้างงว่าจุดที่ 3 คือตรงไหน ให้สังเกตบอลลูนไว้ จุดที่มีบอลลูนให้ขึ้นนั่นแหละคือจุด Rainbow Mountain รถบัสจะวิ่งวนรอบอุทธยานทั้งวัน จะวนกลับมากี่รอบก็ได้
การเดินทางไปภูเขาสายรุ้ง
การเดินทางไปที่นี่ยากหน่อย แต่ไม่ยากมาก เนื่องจากยังไม่ได้เป็นเส้นทางที่คนไทยรู้จักมากนัก เลยยังไม่มีเส้นทางตรงจากกรุงเทพแต่ก็ไม่ได้ยากจนไปไม่ได้ แค่จะหาข้อมูลยากหน่อยเท่านั้นเอง สรุปวิธีการเดินทางมาให้ตามนี้ค่ะ
Step 1 กรุงเทพ – จางเย่
RAINBOW MOUNTAIN ( Zhangye colorful Danxia Scenic spot ) ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู เมืองจางเย่ ของจีน ยังไม่มีสายการบินบินตรงจากไทยไปเมืองจางเย่ วิธีการเดินทางทำได้หลายวิธี
1) บินลงเมือง Lanzhou เป็นเมืองที่มีบินตรงจากไทยใกล้เมืองจางเย่ที่สุด ( วิธีนี้ประหยัดเวลาเดินทางแต่ค่าตั๋วเครื่องบินค่อนข้างสูง )
2) บินลงซีอาน แล้วต่อรถไฟ หรือ บินภายในไประเทศเดินทางไปเมืองจางเย่ เราเลือกวิธีนี้เพราะ อยากเที่ยวซีอานด้วย จะได้เก็บสองมรดกโลก ทั้งสุสานจิ๋นซี และ ภูเขาสีรุ้ง !! และค่าตั๋วไปซีอานของแอร์เอเชียถูกมาก โปรโมชั่นมาบ่อยบ่อย จองล่วงหน้าดีสุด
Step 2 ซีอาน – จางเย่
1) บินภายในประเทศ มีหลายสายการบินให้บริการ ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท/เที่ยว ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเดินทางและดวงชะตาอีกที จองผ่าน online booking ทั่วไปได้เลยค่ะ
2) รถไฟ เราใช้การจองล่วงหน้าผ่าน https://th.trip.com สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วันก่อนเดินทาง เราชะล่าใจไปไม่รีบจอง รถไฟเวลาที่อยากได้เต็ม แผนเลยเพี้ยนๆไปหน่อย เพราะฉะนั้นเปิดให้จองแล้วควรจองไว้ก่อนเลยค่ะ มีค่าบริการการจองออนไลน์เพิ่มมาจากราคาตั๋วปกติแต่ยืนยันว่าได้ตั๋วแน่นอน ไม่ต้องลุ้นตั๋วหน้างาน และไม่ต้องใช้เอเจนซี่ในการจอง รถไฟมีหลักๆ 2 แบบ คือรถไฟความเร็วสูงและรถไฟนอน ราคาไม่ต่างกันมากนัก แต่รถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเดินทาง ~7 ชั่วโมง ส่วนรถไฟนอนใช้เวลาเดินทางไป ~17 ชั่วโมง !! ชอบแบบไหน เวลาตอนไหนลงตัวก็ตามอัธยาศัยนะจ้ะ
หมายเหตุ : สถานีรถไฟความเร็วสูงของ Xi’an จะอยู่นอกเมือง ชื่อสถานี Xi’an North ห่างจากสถานีหลักใช้เวลาเดินทาง ~ 1 ชั่วโมง
Step 3 จางเย่ – ภูเขาสีรุ้ง
– แท็กซี่ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด โดยสามารถเรียกใช้บริการแท็กซี่ได้ทั้งจากสนามบิน สถานีรถไฟ หรือบริเวณอื่นๆในเมือง มีค่าใช้จ่าย 200 -250 หยวนต่อการเดินทางหนึ่งเที่ยว
– รถโดยสารสาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งตะวันตก (张掖汽车站) โดยขึ้นรถสายปลายทางเขตซู่หนาน และลงที่ป้ายหมู่บ้านหนานไถ (南台村) ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาสายรุ้งตันเสีย ประตูทางเข้าที่ 1 เพียง 1.3 กิโลเมตร
พักที่ไหนดี ?
เราแนะนำให้ไปพักที่ KaoShan Tent จะได้เข้าชมภูเขาสีรุ้งได้ทั้งตอนเช้า และตอนเย็น ที่พักอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า ~ 500 เมตร สามารถเดินจากที่พักไปประตูเข้าได้เลย
KaoShan Tent เป็นที่พักสไตล์เตนท์ หรือ york ของชาวทิเบต เราชอบที่พักที่นี่มาก ที่พักไม่มีแอร์ แต่ไม่เป็นปัญหา อากาศกลางคืนหนาวแต่ข้างในอุ่น เป็นคืนที่หลับสบายมากหลังจากนั่งรถไฟมาอย่างยาวนาน ห้องน้ำรวม สะอาด มีหลายห้อง แยกห้องน้ำชาย หญิง เครื่องทำน้ำอุ่นที่อุ่นจริง ( เวลาไปเมืองชนบทหนาวๆเรามักจะเจอเครื่องทำน้ำอุ่นที่อุ่นแต่ชื่อ ) บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว
กลางวันเราก็ว่าสวยแล้ว แต่กลางคืนสวยนี่เซอร์ไพรมาก ความเก๋าของจีนคือการเนรมิตอะไรก็ได้ที่อยากทำ light up สีรุ้งสาดเข้าไปในภูเขารอบรอบที่พัก พร้อมเพลงบรรเลงแบบจีน เหมือนเราเข้ามาชมโชว์อย่างโดยแค่นั่งอยู่ที่โรงแรมเท่านั้น
ถ้าจองใน Booking.com แล้วเต็มลองอีเมลไปเช็คได้ค่ะ เพราะว่าบางทีเค้าเปิดห้องไม่หมดค่ะ
e-mail : zhongyimice@163.com / mobile or wechat : 13919308668
ทริปนี้เราไปมา 3 เมือง ซีอาน - จางเย่ - ชิงไห่ กับ Amazing China ทริปอันซีนที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก
นอกจากภูเขาสายรุ้ง แล้วยังมีสถานที่อีกหลายอันที่ดีงาม ทั้งการขี่จามรี กินเนื้อแพะ แวะสวิตเซอร์แลนด์แดนมังกร
อ่านรีวิวรูทนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ >> https://goanywhere.co/2018/10/21/amazing-china-rainbow-mountain/
เมืองจีนยังมีที่เที่ยวอีกเยอะมากมาก ไม่ต้องกลัวว่าจีนจะสกปรก จริงๆจีนน่ะพัฒนาล้ำยุค
เกินกว่าที่เราคิดไปมากเลยค่ะ ไปจีนมา 3 ครั้ง การันตีได้เลยว่าเที่ยวจีนเท่าไหร่ก็ไม่พอ สวยเกินความคาดหมายทุกครั้ง
ภูเขาสายรุ้งที่นี่ก็เช่นกัน กางแผนที่จีนดู แล้วจิ้มพิกัดเที่ยวจีนสักที่ แล้วจีนของพวกเธอจะไม่มีวันเหมือนเดิม !!
เที่ยวให้สนุกนะคะ
————————————————————
Goanywhere with me
FB : https://www.facebook.com/goanywhere.co/
website : www.goanywhere.co
IG : https://www.instagram.com/goanywhere.co/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้