กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกสำหรับห้องนี้เลยค่ะ ถ้ามีอะไรผิดตกบกพร่องก็แจ้งเตือนได้นะคะ
เราเป็นคนที่ถุงใต้ตาเยอะมากและเป็นตั้งแต่เกิด เป็นกรรมพันธุ์ ยิ่งช่วงจะเริ่มเป็นหวัดยิ่งพองๆเป็นตากบเลย
แล้วหลังๆเนี่ยมันขึ้นมาเป็นถุงซ้อนถุงเลย ถุงสองชั้นไม่ใช่ตาสองชั้น กรี๊ดดดดดด
บางวันดีหน่อยก็ตุ่ยรวมกันลูกเดียว 555555555
มีความคิดจะตัดตั้งแต่ยังเด็กมากๆอ่ะ เพราะไม่ชอบ แต่ใจไม่กล้าพอ กลัวมีด กลัวเข็ม
มีการหาข้อมูลแบบปีต่อปี จำได้ว่ามีปีหรือสองปีก่อนตั้งใจจะทำหาข้อมูลไว้ตอนปลายปีที่ยันฮี ทำแค่ 9,500 แต่พอต้นๆปี ไปสอบถามเปลี่ยนมาเป็น 15,000 ตอนนั้นก็เลยเบรคเรื่องการทำเพราะค่าใช้จ่ายที่ขึ้นมาเกือบเท่าตัว เราก็หาข้อมูลใหม่และเริ่มเก็บตัง ตอนนี้พร้อมเปย์แล้วคร่า เลยหาข้อมูลเยอะๆหน่อยเพราะมันคือการเอามีดกรีดหน้าดีๆนี่เอง
จะเล่าให้ฟังก่อนว่าเราได้ข้อมูลอะไรและสรุปว่าจะทำที่ไหนบ้าง
1. เลอร์ลักซ์ ตอนนั้นพี่ข้างบ้านไปอัพหน้ามา และให้เขาสอบถามราคามาให้ ราคาก็โอเค มี 2 เรทค่ะ คุณหมอทั่วไปและคุณหมอมือทอง จำราคาไม่ได้แล้วจริงๆอยากทำที่นี่ค่ะ แต่เแม่ทักว่ามันต้องเดินทางหลายที ทั้งวันที่เข้าไปคุยกับหมอ วันผ่า วันตัดไหม ค่ารถไปกลับต้องมีครั้งละ 500 อัพ เลยไม่เอาค่ะ เซฟค่ารถ
2. คลินิกหมอชื่อดัง ที่ผ่าตัดดาราดังๆ อันนี้แถวบ้านเลยค่ะ แต่พอถามราคาไปไกลลิบโลกมาก 70,000 แถมไลน์คุยกับผู้ช่วยหมอให้เราถ่ายรูปส่งไปบอกว่าอยากตัดถุงใต้ตา ดันแนะนำให้เราไปกรีดตาสองชั้น แล้วจะมีโปรโมชั่นให้เบ็ดเสร็จจะประมาณ 100,000 เอิ่ม!! คือไม่ได้อยากทำสองชั้นค่ะอยากเอาใต้ตาออกอย่างเดียว แต่แค่ใต้ตาพอทราบราคาก็บัยส์
3. คลินิกอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ แต่เป็นคลินิกที่เปิดในห้างมีหลายสาขา ให้ส่งรูปไปดูนางบอกไม่ต้องตัด ใช้วิธีฉีดฟิลเลอร์เข้าไปให้คลุมไอ้ที่บวมๆ แต่ทัศนคติของเราคือไม่โอเคกับการฉีดสารอะไรเข้าร่าง อาจเพราะเราไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อนเลยค่อยข้างกลัว ราคาพอๆทำถุงใต้ตาทั่วๆไป แต่อาจจะต้องฉีดบ่อยๆเพราะไม่ใช่การรักษาแบบถาวร แต่น่าสนคือพนง.บอกว่าไม่ต้องเสี่ยงตาปลิ้นจากการผ่าตัด อันนี่ก็กลัว อันนู่นก็น่ากลัว โว๊ะ
4. เราไปทำเลสิคที่รพ.ปิยะเวทและทราบจากรพ.ว่ามีโปรโมชั่นศัลยกรรมที่ศูนย์ TRIA เลยเข้าไปพบกับคุณหมอ ท่านเป็นอาจารย์หมอ ดำรงค์ตำแหน่งนายกฯสมาคมศัลยกรรมแห่งประเทศไทย ถามอ.เรื่องการฉีดฟิลเลอร์ อ.บอกว่า ตาหนูมันพองนะ หนูจะไปฉีดเพิ่มทำไมเดี๋ยวก็ได้พองเป็นตากบหรอก 5555555 คำๆเดียวตัวเลือกข้อ 3 ปลิวไปเลย ค่าใช้จ่ายกับอ.หมอที่ 35,000 พอจ่ายไหวอยู่ รูดบัตรได้ แต่ถ้าหมอท่านอื่นที่ราคาเท่ายันฮี 15,000
5 เลเซอร์ที่สยามสวอน ตอนนั้นจำไม่ได้คิดว่าราวๆ 25,000 หรือ 28,000 เขาว่าไร้แผลผ่าเสร็จเดินเล่นสยามต่อได้
6. ยันฮี ในราคา 15,000
เราเลือกข้อ 4 ค่ะ ดูจากคุณวุฒิคุณหมอ และสถานที่สวยมากๆเลยค่ะ TRIA นัด หมอเรียบร้อย พอจะถึงวันผ่าติดงาน ทั้งงานแต่ง งานบวช งานที่ต้องออกไปเจอผู้คนสรุปไม่ได้ผ่า โทรยกเลิกคุณหมอ แล้วก็ไม่ว่างเลย เงินที่เก็บจะทำตอนนั้นก็หมด 555555
จนเวลาล่วงเลยมาปีนี้เราจึงตัดสินใจทำ ปรากฎว่าโทรไปจองคิวคุณหมอที่ TRIA จนท.แจ้งว่าอ.หมอไม่ได้เข้าที่รพ.นี้แล้ว อ่าว!! ถ้าจะทำคือมีหมอท่านอื่นราคาโปร 19,900 โปรอัพราคาขึ้นมาซะด้วย 55555555 เลยบอกว่าขอหาข้อมูลเพิ่มก่อนนะคะ ออกตามหาอ.หมอ ทราบว่าท่านมาอยู่ที่คลินิก PAI ค่ะ ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษจะผ่ากับท่านก็ได้แต่ 35000++ ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่เท่าไหร่เลยอดไปตามระเบียบ
กลับมาซบอกที่ยันฮี (ทำตั้งแต่ตอนนั้นก็จบๆไปแล้ว) จริงๆมีแอบเอียงไปทางเลเซอร์ที่สยามสวอน เจ้านี้ปีนี้อัพราคามาที่ 30,000 ค่ะ แต่พอส่งรูปไปให้หมอประเมินอาการปรากฎว่าเกินเยียวยาที่จะทำด้วยเลเซอร์ 55555555 เพราะเนื้อเยอะค่ะถ้าจะเอาออกจะเกิดรอยเหี่ยวย่น หน้าตรงจะโอเคถ้าถ้ายิ้มจะมีริ้วขึ้น (แล้วจะทำไปทำไม) มีวิธีเดียวคือต้องกรีดผ่าจากภายนอก ราคา 35,000 บาท
เช็คราคายันฮีละยังอยู่เรทเดิม จ่ายบัตรเครดิตผ่อน 0% 6เดือนได้ คุยกับจนท.ผ่าน Live Chat คือเราก็ไม่รู้หรอกว่าหมอท่านไหนเก่งเรื่องไหน ก็เอาชื่อคุณหมอจากรีวิวเคยมีสมาชิกลงไว้ หวยมาออกที่คุณหมอกิตติชัย เราหาฤกษ์สะดวกคือวันที่ 8 เพราะได้หยุด 9-10 โดยไม้ต้องลาเพิ่ม แต่จนท.แจ้งว่าคุณหมอลาวันที่ 8 พอดี จึงแนะนำว่าวันที่ 1 คุณหมอมีคิวตรวจว่างลองเข้ามาคุยเคสก่อนมั้ยคะ แล้วค่อยทำนัด เราก็โอเค คิดว่าอาจจะทำต้นปีหน้าเลยละกัน เพราะปีนี้วันลาหมดแล้ว
ไปเจอคุณหมอวันที่ 1 คุณหมอคุยทั่วๆไป เราถามว่าของเรามันถุงเยอะเป็นเคสพิสดารกว่าชาวบ้านมั้ย (แค่นี้แหละที่ห่วง) คุณหมอบอกว่า ไม่ ของคุณถือว่ายังไม่เยอะนะ และถามว่าจะผ่าวันไหนดี เราสะดวกแต่วันเสาร์เลยบอกว่าจริงๆตั้งใจมาผ่าวันที่ 8 แต่หมอลาค่ะ ผู้ช่วยหมอก็เอาตารางงานคุณหมอมาให้ดู บอกว่าหลังวันที่ 8 เคสเยอะมากๆคุณหมอจะไม่ว่างนะคะ แล้วคุณหมอก็บอกว่า "ผ่าวันนี้เลยละกัน"
ผ่ามพ๊าม OMG!!
ตั้งใจจะมาผ่าอยู่แล้วแต่ไม่ได้เตรียมใจจว่าต้องขึ้นเขียงวันนี้
ถ้าคุณผ่าคุณคิวที่ 8 นะ ประมาณ 3 ทุ่ม ท่ามกลางความมึนงง แต่ก็กลัวว่าถ้าเลื่อนไปอีกก็ไม่ได้ทำสักทีเลยตัดสินใจ เอาก็เอาวะ
พอตกลงคุณหมอก็ให้เราไปทำเรื่องจ่ายตังเลย เพราะกลัวเราชิ่ง เก็บเงินไว้เป็นตัวประกันก่อน หุหุ
จ่ายตังเสร็จก็ 5 โมงกว่า เหลือเวลาเยอะๆ เราเลยเรียกรถไปห้างเดินเล่นเพื่อฆ่าเวลา พอถึงเวลาก็กลับไปรพ.ใหม่ เรียกเข้าห้องผ่าเกือบห้าทุ่ม
ผ่าตัดนี้กินข้าวได้นะคะ
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่สำหรับคนที่กินวิตามิน อาหารเสริม โดยเฉพาะพวกกลุ่มน้ำมัน วิตามิน E อีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันปลาอะไรพวกนี้ควรงดก่อนทำ 14 วัน (บางที่ก็แจ้ง 7 วัน) เพราะมีส่วนทำให้เลือดเหลวแข็งตัวช้า วันผ่าตัดควรใส่เสื้อที่เป็นกระดุมผ่าหน้าค่ะ
สระผมไปให้เรียบร้อยเพราะไหมห้ามโดนน้ำ 3 วัน
2 ทุ่มกว่าๆกลับไปที่รพ.ค่ะ พยาบาลให้เราไปเปลี่ยนเป็นชุดรอผ่าแล้วนั่งรอ เห็นคนไข้รอคิวผ่ารวมเราด้วยก็ 4 คน เรามาเป็นคนสุดท้าย คิดว่าถ้าผ่าเคสละชั่วโมง สงสัยเราได้เข้าห้องผ่าเที่ยงคืนแน่ๆ หืม!! สักพักคนไข้คนแรกก็ถูกเรียกชื่อเข้าไปทำสวยก่อนใคร เราก็นั่งชิวเล่นมือถือไปเพราะยังมีเวลาทำใจเกือบ 4 ชัวโมง แต่แล้วเรานั่งพิณาเห็นคนไข้ที่เหลืออีก 2 คนเป็นคิวที่หมอเรียกตรวจหลังเราทั้งคู่เลยนี่หว่า เห้ย ความคิดพอหยุดลงปั๊บ คุณพยาบาลก็มาเรียกเราเข้าห้องผ่า จริงๆล่วยง่า 5555555555
เอ้าขึ้นเขียงจ้า
คุณพยาบาลให้เราขึ้เตียง วัดความดัน มัดแขน แต่ยังไม่ให้ยาอะไรทั้งสิ้น เลยแกล้งแซวว่า อย่าลืมให้ยาชาหนูนะคะ 555555555
คืออ่านมาว่าผ่าตัดแบบนี้เขาจะให้ยาคลายกังวลแบบอ่อนๆมากินก่อนแต่เราไม่ได้นะ นอนรอเกือบๆยี่สิบนาทีได้ หมอยังผ่าเคสก่อนหน้าไม่เสร็จคุณพยาบาลกลับมาพร้อมบอกว่า ได้เวลาหลับแล้วนะคะ เดี๋ยวใกล้ถึงคิวละจะฉีดยานอนหลับให้ค่ะ อ่าวไม่ใช่ยากินเรอะ!! กลัวเข็มอ่ะ จะผ่าอยู่แล้วมากลัวกะอีแค่เข็ม ไม่ทันตั้งตัวก็โดนจึ้กไป 1 เข็ม แล้วเราก็มุ่งสู้ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ก่อนเข้าห้องผ่าคุยกับพี่คนนึงเขาเคยตัดถุงใต้ตามาแล้ว เขาบอกว่าตอนนั้นรู้สึกตัวตอนยังไม่เสร็จรู้สึกไม่ชอบ อยากแบบตื่นมาแล้วเสร็จแล้ว สาธุขอให้เป็นอย่าตื่นมาตอนกำลังทำเลย
แต่ปรากฎว่าอิชั้นรู้ตัวก่อนหมอจะมาอีกคร่า แง๊ว ประโยคแรกที่พูดกะหมอคือ "หมอคะ หนูยังไม่หลับเลยยยยยยย" 55555555 หมอบอก"ไม่เป็นไร๊" แล้วก็ผ่าเลย
อาไร๊!!สยองสุดๆอ่ะแต่ก็ชานะ รู้สึกแต่ว่ามีอะไรเย็นๆไหลโจ๊กๆ มาอาบหน้าแล้วพยาบาลก็คอยซับให้ รู้สึกว่าเนื้อเราโดนกรีด อี๊ แต่ไม่เจ็บเลยเสียวๆจักกะจี๊เฉยๆแต่เรารู้สึกว่าตาบนโดนกรีดอ่ะ หมอๆทำผิดป่าวคะ มันรู้สึกยังงั้นจริงๆ ได้ยินเสียงกรรไกรตัดเนื้อเราดัง ฉับฉับแล้วก็ตอนเย็บเหมือนเนื้อถูกดึงเข้าไปติดกัน แปบเดียว เสร็จละหนึ่งข้าง ถามหมอเสร็จข้างนึงแล้วหรอคะ ใช่ครับ คนไข้อย่าชวนหมอคุยนะจะทำอีกข้างละ หมอคงอยากใส่ยานอนหลับให้มันหลับๆไป คุยเก่งจัง ข้างที่สองรู้สึกเจ็บอีก 2 ฝีเข็ม เหมือนยาชาอ่อนลงตอนเย็บรู้สึกเจ็บจึ้กๆ 2 ที แต่ไม่เจ็บมาก เสร็จจ้า บอกกับคุณพยาบาลว่าไม่เจ็บเลยค่ะ รู้งี้ทำตั้งนานแล้ว ตอไปจะมาทำอะไรต่อดีน้า 5555555555
คุณบุรุษพยาบาลนำรถเข็นมารับไปห้องพิเศษที่ชั้น 10 แทนเพราะที่แผนกศัลฯปิดแล้ว ตอนกลางวันเห็นเคสที่ออกจากห้องผ่าเราสงสัยมากแค่ผ่าตาทำไมต้องนั่งรถเข็น คิดว่ากลัวกระเทือนแผลไรงี้ เปล่าไม่ใช่ เมายานอนหลับจ้า ขาปัดขาเป๋ เบ็ดเสร็จเวลาหัตถการคุณหมอแค่ 40 นาทีเท่านั้น จากนั้นรพ.เปิดห้องพิเศษให้พักฟื้น 1 ชั่วโมง
สำหรับยาที่ได้กลับมาคือมี ยาปฏิชีวนะที่ต้องกินให้หมด วันละเม็ดหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน ยาลดบวม เช้า กลางวัน เย็น และพาราเมื่อมีอาการ ชุดน้ำเกลือเช็ดแผล และเจลประคบ และยาป้ายกับก้านสำลีสำหรับทาแผลเช้าเย็น
ส่องกระจกทีแรกหลังผ่าแทบร้องกรี๊ดดดดดด ต๊กใจนึกว่าหมอแล็บแพนด้าคือช้ำดำช้ำม่วงมาก 555555555 แต่อาการชำจะดีขึ้นถ้าหมั่นประคบเย็นหลังผ่ามา 24 ชั่วโมงแรก เราประคบเย็นทุกๆ 2-3 ชั่วโมงเลย รอยช้ำม่วงใต้ตาเริ่มเล็กลงเหลือเป็นช้ำเลือดใต้แผล และวันที่3 มันกลายเป็นสีเหลือง ส่วนเรื่องแผล รอยเย็บเนียนมาก มองไม่เห็นไหมเลยค่ะ วิทยาการมันคงทันสมัยจากตอนที่เราไปดูรีวิว ไม่ปวดแผลแต่มีเจ็บแค่ตอนขยิบตาแรงๆที่ปลายทางตาจะเจ็บเปรี๊ยะๆ คันหัวตาและหางตา ห้ามโดนน้ำ 3 วัน เราใช้ Cetaphil ทำความสะอาดหน้า ใช้มาตั้งแต่ตอนทำเลสิคค่ะสามารถทาบางๆแล้วเช็ดออกโดยไม่ต้องล้างน้ำได้ และไม่มีสบู่ไม่มีน้ำหอมเลยไม่แสบถ้าจะเผลอมีไปโดนแผลบ้าง ครบ 7 วันหมอนัดตัดไหม เจ็บจิ๊กๆเหมือนมดกัดทั้งรัง ล้อเล่นค่ะ นิดเดียวๆ ดูรูปกันดีกว่า
ผ่าเสร็จสดๆ ออกมาจากห้องผ่าด้วยสภาพนี้
หมอแล็บแพนด้า
พอประคบเย็นรอยช้ำก็เริ่มหาย ประคบไปเลยค่ะ ประคบเยอะๆ
หมอแล็บหายไปแล้ว กลายเป็นแดงๆจ้ำเลือดอยู่ข้างเดียว
ที่ฉ่ำๆเยิ้มๆนั่นคือยาป้ายค่ะ ปัญหาคือถ้าเราป้ายก่อนนอนมันจะเหนอะหนะที่ขนตาแล้วทำให้ตาปิดได้ ใช้น้ำเกลือเช็ดๆออก อย่าถ่างตาเดี๋ยวแผลปริ
เริ่มยุบลงมาบ้างแล้ว แต่พอเปิดทำงานเราไม่ได้พกเจลเย็นไปประคบที่ทำงาน
สภาพอีกวันคือเหลืองจ้า ใบไม้เปลี่ยนสี เหอๆ เป็นอย่างงรี้เหมือนกันช่วง 2-3 ก่อนตัดไหม
ส่วนรูปนี้คือวันที่หมอนัดไปตัดไหมค่ะ เหลืองน้อยลง เจ็บปลายหางตาน้อยลง แต่ไม่ตุ่ยแล้วเย้ๆๆ
จบการรีวิวแล้วค่ะ เพื่อนๆคนไหนอยากทำบ้างให้รีบตัดสินใจค่ะเพราะราคาขึ้นทุกปี และก็ศึกษาข้อมูลให้ดีนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แชร์ประสบการณ์ไปตัดถุงใต้ตามาแล้วค่ะ
เราเป็นคนที่ถุงใต้ตาเยอะมากและเป็นตั้งแต่เกิด เป็นกรรมพันธุ์ ยิ่งช่วงจะเริ่มเป็นหวัดยิ่งพองๆเป็นตากบเลย
แล้วหลังๆเนี่ยมันขึ้นมาเป็นถุงซ้อนถุงเลย ถุงสองชั้นไม่ใช่ตาสองชั้น กรี๊ดดดดดด
บางวันดีหน่อยก็ตุ่ยรวมกันลูกเดียว 555555555
มีความคิดจะตัดตั้งแต่ยังเด็กมากๆอ่ะ เพราะไม่ชอบ แต่ใจไม่กล้าพอ กลัวมีด กลัวเข็ม
มีการหาข้อมูลแบบปีต่อปี จำได้ว่ามีปีหรือสองปีก่อนตั้งใจจะทำหาข้อมูลไว้ตอนปลายปีที่ยันฮี ทำแค่ 9,500 แต่พอต้นๆปี ไปสอบถามเปลี่ยนมาเป็น 15,000 ตอนนั้นก็เลยเบรคเรื่องการทำเพราะค่าใช้จ่ายที่ขึ้นมาเกือบเท่าตัว เราก็หาข้อมูลใหม่และเริ่มเก็บตัง ตอนนี้พร้อมเปย์แล้วคร่า เลยหาข้อมูลเยอะๆหน่อยเพราะมันคือการเอามีดกรีดหน้าดีๆนี่เอง
จะเล่าให้ฟังก่อนว่าเราได้ข้อมูลอะไรและสรุปว่าจะทำที่ไหนบ้าง
1. เลอร์ลักซ์ ตอนนั้นพี่ข้างบ้านไปอัพหน้ามา และให้เขาสอบถามราคามาให้ ราคาก็โอเค มี 2 เรทค่ะ คุณหมอทั่วไปและคุณหมอมือทอง จำราคาไม่ได้แล้วจริงๆอยากทำที่นี่ค่ะ แต่เแม่ทักว่ามันต้องเดินทางหลายที ทั้งวันที่เข้าไปคุยกับหมอ วันผ่า วันตัดไหม ค่ารถไปกลับต้องมีครั้งละ 500 อัพ เลยไม่เอาค่ะ เซฟค่ารถ
2. คลินิกหมอชื่อดัง ที่ผ่าตัดดาราดังๆ อันนี้แถวบ้านเลยค่ะ แต่พอถามราคาไปไกลลิบโลกมาก 70,000 แถมไลน์คุยกับผู้ช่วยหมอให้เราถ่ายรูปส่งไปบอกว่าอยากตัดถุงใต้ตา ดันแนะนำให้เราไปกรีดตาสองชั้น แล้วจะมีโปรโมชั่นให้เบ็ดเสร็จจะประมาณ 100,000 เอิ่ม!! คือไม่ได้อยากทำสองชั้นค่ะอยากเอาใต้ตาออกอย่างเดียว แต่แค่ใต้ตาพอทราบราคาก็บัยส์
3. คลินิกอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ แต่เป็นคลินิกที่เปิดในห้างมีหลายสาขา ให้ส่งรูปไปดูนางบอกไม่ต้องตัด ใช้วิธีฉีดฟิลเลอร์เข้าไปให้คลุมไอ้ที่บวมๆ แต่ทัศนคติของเราคือไม่โอเคกับการฉีดสารอะไรเข้าร่าง อาจเพราะเราไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อนเลยค่อยข้างกลัว ราคาพอๆทำถุงใต้ตาทั่วๆไป แต่อาจจะต้องฉีดบ่อยๆเพราะไม่ใช่การรักษาแบบถาวร แต่น่าสนคือพนง.บอกว่าไม่ต้องเสี่ยงตาปลิ้นจากการผ่าตัด อันนี่ก็กลัว อันนู่นก็น่ากลัว โว๊ะ
4. เราไปทำเลสิคที่รพ.ปิยะเวทและทราบจากรพ.ว่ามีโปรโมชั่นศัลยกรรมที่ศูนย์ TRIA เลยเข้าไปพบกับคุณหมอ ท่านเป็นอาจารย์หมอ ดำรงค์ตำแหน่งนายกฯสมาคมศัลยกรรมแห่งประเทศไทย ถามอ.เรื่องการฉีดฟิลเลอร์ อ.บอกว่า ตาหนูมันพองนะ หนูจะไปฉีดเพิ่มทำไมเดี๋ยวก็ได้พองเป็นตากบหรอก 5555555 คำๆเดียวตัวเลือกข้อ 3 ปลิวไปเลย ค่าใช้จ่ายกับอ.หมอที่ 35,000 พอจ่ายไหวอยู่ รูดบัตรได้ แต่ถ้าหมอท่านอื่นที่ราคาเท่ายันฮี 15,000
5 เลเซอร์ที่สยามสวอน ตอนนั้นจำไม่ได้คิดว่าราวๆ 25,000 หรือ 28,000 เขาว่าไร้แผลผ่าเสร็จเดินเล่นสยามต่อได้
6. ยันฮี ในราคา 15,000
เราเลือกข้อ 4 ค่ะ ดูจากคุณวุฒิคุณหมอ และสถานที่สวยมากๆเลยค่ะ TRIA นัด หมอเรียบร้อย พอจะถึงวันผ่าติดงาน ทั้งงานแต่ง งานบวช งานที่ต้องออกไปเจอผู้คนสรุปไม่ได้ผ่า โทรยกเลิกคุณหมอ แล้วก็ไม่ว่างเลย เงินที่เก็บจะทำตอนนั้นก็หมด 555555
จนเวลาล่วงเลยมาปีนี้เราจึงตัดสินใจทำ ปรากฎว่าโทรไปจองคิวคุณหมอที่ TRIA จนท.แจ้งว่าอ.หมอไม่ได้เข้าที่รพ.นี้แล้ว อ่าว!! ถ้าจะทำคือมีหมอท่านอื่นราคาโปร 19,900 โปรอัพราคาขึ้นมาซะด้วย 55555555 เลยบอกว่าขอหาข้อมูลเพิ่มก่อนนะคะ ออกตามหาอ.หมอ ทราบว่าท่านมาอยู่ที่คลินิก PAI ค่ะ ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษจะผ่ากับท่านก็ได้แต่ 35000++ ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่เท่าไหร่เลยอดไปตามระเบียบ
กลับมาซบอกที่ยันฮี (ทำตั้งแต่ตอนนั้นก็จบๆไปแล้ว) จริงๆมีแอบเอียงไปทางเลเซอร์ที่สยามสวอน เจ้านี้ปีนี้อัพราคามาที่ 30,000 ค่ะ แต่พอส่งรูปไปให้หมอประเมินอาการปรากฎว่าเกินเยียวยาที่จะทำด้วยเลเซอร์ 55555555 เพราะเนื้อเยอะค่ะถ้าจะเอาออกจะเกิดรอยเหี่ยวย่น หน้าตรงจะโอเคถ้าถ้ายิ้มจะมีริ้วขึ้น (แล้วจะทำไปทำไม) มีวิธีเดียวคือต้องกรีดผ่าจากภายนอก ราคา 35,000 บาท
เช็คราคายันฮีละยังอยู่เรทเดิม จ่ายบัตรเครดิตผ่อน 0% 6เดือนได้ คุยกับจนท.ผ่าน Live Chat คือเราก็ไม่รู้หรอกว่าหมอท่านไหนเก่งเรื่องไหน ก็เอาชื่อคุณหมอจากรีวิวเคยมีสมาชิกลงไว้ หวยมาออกที่คุณหมอกิตติชัย เราหาฤกษ์สะดวกคือวันที่ 8 เพราะได้หยุด 9-10 โดยไม้ต้องลาเพิ่ม แต่จนท.แจ้งว่าคุณหมอลาวันที่ 8 พอดี จึงแนะนำว่าวันที่ 1 คุณหมอมีคิวตรวจว่างลองเข้ามาคุยเคสก่อนมั้ยคะ แล้วค่อยทำนัด เราก็โอเค คิดว่าอาจจะทำต้นปีหน้าเลยละกัน เพราะปีนี้วันลาหมดแล้ว
ไปเจอคุณหมอวันที่ 1 คุณหมอคุยทั่วๆไป เราถามว่าของเรามันถุงเยอะเป็นเคสพิสดารกว่าชาวบ้านมั้ย (แค่นี้แหละที่ห่วง) คุณหมอบอกว่า ไม่ ของคุณถือว่ายังไม่เยอะนะ และถามว่าจะผ่าวันไหนดี เราสะดวกแต่วันเสาร์เลยบอกว่าจริงๆตั้งใจมาผ่าวันที่ 8 แต่หมอลาค่ะ ผู้ช่วยหมอก็เอาตารางงานคุณหมอมาให้ดู บอกว่าหลังวันที่ 8 เคสเยอะมากๆคุณหมอจะไม่ว่างนะคะ แล้วคุณหมอก็บอกว่า "ผ่าวันนี้เลยละกัน"
ผ่ามพ๊าม OMG!! ตั้งใจจะมาผ่าอยู่แล้วแต่ไม่ได้เตรียมใจจว่าต้องขึ้นเขียงวันนี้
ถ้าคุณผ่าคุณคิวที่ 8 นะ ประมาณ 3 ทุ่ม ท่ามกลางความมึนงง แต่ก็กลัวว่าถ้าเลื่อนไปอีกก็ไม่ได้ทำสักทีเลยตัดสินใจ เอาก็เอาวะ
พอตกลงคุณหมอก็ให้เราไปทำเรื่องจ่ายตังเลย เพราะกลัวเราชิ่ง เก็บเงินไว้เป็นตัวประกันก่อน หุหุ
จ่ายตังเสร็จก็ 5 โมงกว่า เหลือเวลาเยอะๆ เราเลยเรียกรถไปห้างเดินเล่นเพื่อฆ่าเวลา พอถึงเวลาก็กลับไปรพ.ใหม่ เรียกเข้าห้องผ่าเกือบห้าทุ่ม
ผ่าตัดนี้กินข้าวได้นะคะ
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่สำหรับคนที่กินวิตามิน อาหารเสริม โดยเฉพาะพวกกลุ่มน้ำมัน วิตามิน E อีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันปลาอะไรพวกนี้ควรงดก่อนทำ 14 วัน (บางที่ก็แจ้ง 7 วัน) เพราะมีส่วนทำให้เลือดเหลวแข็งตัวช้า วันผ่าตัดควรใส่เสื้อที่เป็นกระดุมผ่าหน้าค่ะ
สระผมไปให้เรียบร้อยเพราะไหมห้ามโดนน้ำ 3 วัน
2 ทุ่มกว่าๆกลับไปที่รพ.ค่ะ พยาบาลให้เราไปเปลี่ยนเป็นชุดรอผ่าแล้วนั่งรอ เห็นคนไข้รอคิวผ่ารวมเราด้วยก็ 4 คน เรามาเป็นคนสุดท้าย คิดว่าถ้าผ่าเคสละชั่วโมง สงสัยเราได้เข้าห้องผ่าเที่ยงคืนแน่ๆ หืม!! สักพักคนไข้คนแรกก็ถูกเรียกชื่อเข้าไปทำสวยก่อนใคร เราก็นั่งชิวเล่นมือถือไปเพราะยังมีเวลาทำใจเกือบ 4 ชัวโมง แต่แล้วเรานั่งพิณาเห็นคนไข้ที่เหลืออีก 2 คนเป็นคิวที่หมอเรียกตรวจหลังเราทั้งคู่เลยนี่หว่า เห้ย ความคิดพอหยุดลงปั๊บ คุณพยาบาลก็มาเรียกเราเข้าห้องผ่า จริงๆล่วยง่า 5555555555
เอ้าขึ้นเขียงจ้า
คุณพยาบาลให้เราขึ้เตียง วัดความดัน มัดแขน แต่ยังไม่ให้ยาอะไรทั้งสิ้น เลยแกล้งแซวว่า อย่าลืมให้ยาชาหนูนะคะ 555555555
คืออ่านมาว่าผ่าตัดแบบนี้เขาจะให้ยาคลายกังวลแบบอ่อนๆมากินก่อนแต่เราไม่ได้นะ นอนรอเกือบๆยี่สิบนาทีได้ หมอยังผ่าเคสก่อนหน้าไม่เสร็จคุณพยาบาลกลับมาพร้อมบอกว่า ได้เวลาหลับแล้วนะคะ เดี๋ยวใกล้ถึงคิวละจะฉีดยานอนหลับให้ค่ะ อ่าวไม่ใช่ยากินเรอะ!! กลัวเข็มอ่ะ จะผ่าอยู่แล้วมากลัวกะอีแค่เข็ม ไม่ทันตั้งตัวก็โดนจึ้กไป 1 เข็ม แล้วเราก็มุ่งสู้ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ก่อนเข้าห้องผ่าคุยกับพี่คนนึงเขาเคยตัดถุงใต้ตามาแล้ว เขาบอกว่าตอนนั้นรู้สึกตัวตอนยังไม่เสร็จรู้สึกไม่ชอบ อยากแบบตื่นมาแล้วเสร็จแล้ว สาธุขอให้เป็นอย่าตื่นมาตอนกำลังทำเลย
แต่ปรากฎว่าอิชั้นรู้ตัวก่อนหมอจะมาอีกคร่า แง๊ว ประโยคแรกที่พูดกะหมอคือ "หมอคะ หนูยังไม่หลับเลยยยยยยย" 55555555 หมอบอก"ไม่เป็นไร๊" แล้วก็ผ่าเลย
อาไร๊!!สยองสุดๆอ่ะแต่ก็ชานะ รู้สึกแต่ว่ามีอะไรเย็นๆไหลโจ๊กๆ มาอาบหน้าแล้วพยาบาลก็คอยซับให้ รู้สึกว่าเนื้อเราโดนกรีด อี๊ แต่ไม่เจ็บเลยเสียวๆจักกะจี๊เฉยๆแต่เรารู้สึกว่าตาบนโดนกรีดอ่ะ หมอๆทำผิดป่าวคะ มันรู้สึกยังงั้นจริงๆ ได้ยินเสียงกรรไกรตัดเนื้อเราดัง ฉับฉับแล้วก็ตอนเย็บเหมือนเนื้อถูกดึงเข้าไปติดกัน แปบเดียว เสร็จละหนึ่งข้าง ถามหมอเสร็จข้างนึงแล้วหรอคะ ใช่ครับ คนไข้อย่าชวนหมอคุยนะจะทำอีกข้างละ หมอคงอยากใส่ยานอนหลับให้มันหลับๆไป คุยเก่งจัง ข้างที่สองรู้สึกเจ็บอีก 2 ฝีเข็ม เหมือนยาชาอ่อนลงตอนเย็บรู้สึกเจ็บจึ้กๆ 2 ที แต่ไม่เจ็บมาก เสร็จจ้า บอกกับคุณพยาบาลว่าไม่เจ็บเลยค่ะ รู้งี้ทำตั้งนานแล้ว ตอไปจะมาทำอะไรต่อดีน้า 5555555555
คุณบุรุษพยาบาลนำรถเข็นมารับไปห้องพิเศษที่ชั้น 10 แทนเพราะที่แผนกศัลฯปิดแล้ว ตอนกลางวันเห็นเคสที่ออกจากห้องผ่าเราสงสัยมากแค่ผ่าตาทำไมต้องนั่งรถเข็น คิดว่ากลัวกระเทือนแผลไรงี้ เปล่าไม่ใช่ เมายานอนหลับจ้า ขาปัดขาเป๋ เบ็ดเสร็จเวลาหัตถการคุณหมอแค่ 40 นาทีเท่านั้น จากนั้นรพ.เปิดห้องพิเศษให้พักฟื้น 1 ชั่วโมง
สำหรับยาที่ได้กลับมาคือมี ยาปฏิชีวนะที่ต้องกินให้หมด วันละเม็ดหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน ยาลดบวม เช้า กลางวัน เย็น และพาราเมื่อมีอาการ ชุดน้ำเกลือเช็ดแผล และเจลประคบ และยาป้ายกับก้านสำลีสำหรับทาแผลเช้าเย็น
ส่องกระจกทีแรกหลังผ่าแทบร้องกรี๊ดดดดดด ต๊กใจนึกว่าหมอแล็บแพนด้าคือช้ำดำช้ำม่วงมาก 555555555 แต่อาการชำจะดีขึ้นถ้าหมั่นประคบเย็นหลังผ่ามา 24 ชั่วโมงแรก เราประคบเย็นทุกๆ 2-3 ชั่วโมงเลย รอยช้ำม่วงใต้ตาเริ่มเล็กลงเหลือเป็นช้ำเลือดใต้แผล และวันที่3 มันกลายเป็นสีเหลือง ส่วนเรื่องแผล รอยเย็บเนียนมาก มองไม่เห็นไหมเลยค่ะ วิทยาการมันคงทันสมัยจากตอนที่เราไปดูรีวิว ไม่ปวดแผลแต่มีเจ็บแค่ตอนขยิบตาแรงๆที่ปลายทางตาจะเจ็บเปรี๊ยะๆ คันหัวตาและหางตา ห้ามโดนน้ำ 3 วัน เราใช้ Cetaphil ทำความสะอาดหน้า ใช้มาตั้งแต่ตอนทำเลสิคค่ะสามารถทาบางๆแล้วเช็ดออกโดยไม่ต้องล้างน้ำได้ และไม่มีสบู่ไม่มีน้ำหอมเลยไม่แสบถ้าจะเผลอมีไปโดนแผลบ้าง ครบ 7 วันหมอนัดตัดไหม เจ็บจิ๊กๆเหมือนมดกัดทั้งรัง ล้อเล่นค่ะ นิดเดียวๆ ดูรูปกันดีกว่า
ผ่าเสร็จสดๆ ออกมาจากห้องผ่าด้วยสภาพนี้
หมอแล็บแพนด้า
พอประคบเย็นรอยช้ำก็เริ่มหาย ประคบไปเลยค่ะ ประคบเยอะๆ
หมอแล็บหายไปแล้ว กลายเป็นแดงๆจ้ำเลือดอยู่ข้างเดียว
ที่ฉ่ำๆเยิ้มๆนั่นคือยาป้ายค่ะ ปัญหาคือถ้าเราป้ายก่อนนอนมันจะเหนอะหนะที่ขนตาแล้วทำให้ตาปิดได้ ใช้น้ำเกลือเช็ดๆออก อย่าถ่างตาเดี๋ยวแผลปริ
เริ่มยุบลงมาบ้างแล้ว แต่พอเปิดทำงานเราไม่ได้พกเจลเย็นไปประคบที่ทำงาน
สภาพอีกวันคือเหลืองจ้า ใบไม้เปลี่ยนสี เหอๆ เป็นอย่างงรี้เหมือนกันช่วง 2-3 ก่อนตัดไหม
ส่วนรูปนี้คือวันที่หมอนัดไปตัดไหมค่ะ เหลืองน้อยลง เจ็บปลายหางตาน้อยลง แต่ไม่ตุ่ยแล้วเย้ๆๆ
จบการรีวิวแล้วค่ะ เพื่อนๆคนไหนอยากทำบ้างให้รีบตัดสินใจค่ะเพราะราคาขึ้นทุกปี และก็ศึกษาข้อมูลให้ดีนะคะ
ขอบคุณค่ะ