ผู้ป่วย SLE (พุ่มพวง) อยากเที่ยว..........น่ า น สิ น ะ..........1-5/12/2561

สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกเลยครับ ^^ ถูกผิดขออภัยด้วยจร้า


เริ่มจาก เมื่อสองปีก่อน ผมป่วยหนัก เป็น SLE (พุ่มพวง)
นอน รพ. อยู่เป็นเดือน ก่อนจะน๊อคเรียกได้ว่าเกือบสิ้นใจเลยก็ว่าได้
เพราะกว่าจะถึงมือหมอ เลือดในตัวผมก็เป็นลิ้มๆหมดแว้ว 555+ แต่รอดนะ 555+

เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ เนื่องจากป่วยครั้งนั้น ก็เลยอยากจะทำอะไรที่อยากจะทำ
ก็คิดได้ว่า อยากขี่รถเที่ยว ตจว. อยากไป จ.น่านมากที่สุด เพราะอ่านจากรีวิวหลายๆที่

ก็เลยตัดสินใจ วางแผนไว้ต้นปีว่า จะไปน่าน วันที่ 1-5/12/2561 (มีเวลาเตรียมตัวเกือบปี 555+ )

หลังจากนั้นเวลาว่างๆก็จะนั่งหาข้อมูล ว่าจะนอนไหน ไปยังไง สถานที่ที่ไหนสวย ก็โน๊ตแล้วก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ
พร้อมกับซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ ผมไม่ได้ซื้อทีเดียวนะครับ ทะยอยซื้อเพราะเป็นมนุษย์เงินเดือน ต้องแบ่งไปจ่ายอย่างอื่นบ้าง

สรุปของหลักๆที่ต้องเตรียมไป ก็มี
1. เต๊นท์ เน้นแบบที่กันน้ำ ไม่ต้องกางฟลายชีท เพราะเที่ยวคนเดียว ไม่สะดวกกาง
2. Gps จำเป็นเพราะไม่รู้เส้นทาง เลือกใช้ Garmin เพราะสะดวกกว่าใช้มือถือ ไม่ต้องง้อสัญญาณโทรศัพท์
3. เงิน
4. กล้องถ่ายรูป ครั้งนี้เลือกใช้ gopro ตัวเดียว เพราะไม่อยากแบก และไม่ได้ต้องการไฟล์ใหญ่ไปไหน แค่เอามือถือถ่ายรูปอัพลงเฟสเก็บบรรยากาศก็น่าจะพอ
5. ของใช้ ส่วนตัว เสื้อผ้า
6. ขาดไม่ได้ รถมอเตอร์ไซค์​ คู่ใจ

ตามแผนที่วางไว้คือ
เช้าวันที่ 1 / 12 /2561 คือต้องมาทำงาน แล้วออกเดือนทางเวลา 17.00 คือเวลาเลิกงาน
ไปถึงดอยเสมอดาว เช้าวันที่ 2 แล้วก็กางเต๊นท์พักผ่อน ที่นั้น
เช้าวันที่ 3 ดูทะเลหมอก แล้วออกเดินทางไปนอนที่ดอยภูคา พักที่นั้น
เช้าวันที่ 4 ลงมานอนที่ อช.ขุนสถาน เช้าวันที่ 5 ดูทะเลหมอก แล้วเดินทางกลับ นนท์​

ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่าครับ ^^
เช้าวันที่ 1 / 12 /2561 ผมก็มาทำงานปรกติ แต่ของได้เตรียมพร้อมกับแพ็คใส่รถไว้เรียนร้อยตั้งแต่เมื่อคืน
พอเลิกงาน 5 โมงเย็นก็เริ่มเดินทาง โดยใช้ gps ในการนำทาง เพราะทริปนี้ ผมไม่รู้เ้นทางอะไรเลยครับ 555+

ก่อนเดินทางก็แวะเติมน้ำมัน เช็คลมยาง เช็คน้ำมันเครื่อง ปรกติทุกอย่าง แล้วออกเดินทาง ยิงยางๆไปบนถนน 340 ไปทาง สุพรรณ์ ชัยนาท นครสวรรค์ ประมาณนั้น กว่าจะล้อหมุนออกจาก บางบัวทอง ก็เกือบๆ 6 โมงเย็น

เข้าสุพรรณก็เกือบ 6 โมงครึ่ง เริ่มมืด เพราะเส้นนี้ ไฟไม่ได้มืดตลอดทาง

เข้าชัยนาท ประมาณ ทุ่มครึ่ง

ผมใช้ความเร็วประมาณ​ 100 km/ซม มาถึงแยก อุทัยธานี ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า 555+ ประมาณ​สองทุ่ม
แล้วก็แวะหาอะไรกินแถวๆนั้น ตัดสินใจหาอะไรร้อนๆกิน เบาๆท้อง ไม่หนักท้องมากเดี๋ยวง่วง 555+
มาจบที่ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนื้อสดลูกชิ้น ตรงแยก พยุหะคีรี

กินเสร็จก็ออกเดินทางต่อ จากจุดเริ่มต้นที่บางบัวทอง มาถึงปั้มน้ำมัน ก็แวะเติมน้ำมันจุดแรก หลังจากยิงยางๆมา 200 กิโล นิดๆ

เวลาประมาณ 21.00 ก็ใกล้ถึง นครสวรรค์ ก็ยัใช้ความเร็วเท่าเดิม กลางคืนมองถนนลำบากไปเรื่อยๆ ^^

ก๋วยเตี๋ยวเริ่มออกฤทธิ์ 555+ ง่วงสิครับ รออะไร เเวะหากาแฟกินในทั้งแถว เส้นทางสายเอเชียพิษณุโลก-นครสวรรค์

กินเสร็จก็เดินทางต่อ ถึงจุดนี้ ก็ 5 ทุ่ม 50 นาที ตอนแลกที่คิดไว้ว่าจะนอนพักแถวนี้ แล้วค่อยออกเช้าแต่กินกาแฟมาแล้ว เลยอยากขี่ต่อให้ถึง ก้เลยตัดสินใจไปต่อครับ

วิธีแก้ง่วง ก็แค่เวะจอดถ่ายรูป หายง่วงจริงๆนะ ลองดู เวะป้ายแรก ที่บ้านป่าแดง พิษณุโลก

แก้ง่วงอีกที ก็ป้ายทางเข้า จ.อุตรดิตถ์  ถึงตรงนี้เวลา 01.05 น.

เส้น จ.อุตรดิตถ์ เข้ามาเปลี่ยวใช้ได้เลย เกือบ 40 โล ขี่ไปก็คิดไป กังวลไปเรื่อย กลัวรถสายพานขาด โน้นนี่นั้น เพราะไม่มีไฟข้างทางเลย จะเจอไฟก็ถึงแยก หรือไม่ก็โรงเรียน นอกนันมึดตึบ ถ้าให้มาคนเดียวอีกจะไม่มีขี่กลางคืนอีกเด็ดขาด 555+

พักรถที่ปตท.น้ำปาด อุตรดิตถ์ น้ำมันไม่เติมเพราะปั้มปิด มีรถรอเิมน้ำมันหลายคัยเลย เวลาตี 2 ครึ่งทางค่อนข้างเปลี่ยว จุดนี้ จอดพักนานหน่อย เพราะหิว 555+ ดีที่มี 7-11 รออะไรล่ะ หาอะไรซดโล่งสิครับ

Gps พามาทางข้ามแพ 555+ บันลัยครับ 555+ ต้องตั้งค่าใหม่ ผมก็ลืมให้เลี้ยงเส้นทางข้ามแพ เพราะไม่คิดว่าเส้นไปน่านมีแพด้วย 555+ จากจุดนี้ ก็อีกประมาณ 63 กิโล ถึงดอยเสมอดาวครับ จากตรงนี้ บอกเลย ทางนึกว่ามาขี่ในเขา อากินะ 555+

ถึงดอยเสมอดาวประมาณ 05.50 น. น้ำมันหมด ต้องลงอีกฝั่งมาเติมน้ำมันก่อน ลงมาเติมประมาณ 13 กิโล อันนี้เป็นข้อดีของ Gps เลยครับ เพราะสามารถกดหาปั้มน้ำมันได้ เลือกปั้มได้ Pt หรือ ปตท. หรือจะเอาปั้มหลอดมัก็บอก ทำให้ไม่ต้องไปหวังน้ำบ่อหน้า 555+

ค่าเข้าอุทยาน 20 บาท ค่ารถเข้า 20 บาท รวม 40 บาทที่ ดอยเสมอดาว

ชมทะเลหมอกที่ดอยเสมอดาว สวยสมคำล้ำลือ หายเหนื่อย แถมตาสว่างเลย

พาแฟนมาด้วยนะครับ อิอิ

เนื่องจาก เรามาทันทะเลหมอกที่ดอยเสมอดาว เปลี่ยนแผน นอนที่ดอยภูคา น่าจะดีกว่า เพราะที่นี่คนเยอะมากๆ อยากหาที่นอนแบบเงียบๆ คนน้อยๆ เลยตัดสินใจขี่รถไปอีกประมาณ 130 โล เพื่อขึ้นไปกาง้ต๊นท์นอนที่ ดอยภูคา

ขี่ลงมาเรื่อยๆก็เริ่มหิว อย่างว่าแหละ จะ 9 โมงเช้าแล้ว หาข้าวเช้ากินก่อน สรุปจบที่ ซุปกระดูก ลืมอิ่ม บ้านกิตตินันท์ แถวๆ อ.นาน้อย จุดนี้ซัด เตี๊ยวไป 1 / ซุปกระดูก 1 / ลูกชิ้นล๊วก 1 บอกเลย อิ่มตาจะหลับ 555+

เดินทางต่อ 10.50 น. เหมือนเดิม ง่วง ก็แวะถ่ายรูป 555+ จุดนี้ อ.สัติสุข จ.น่าน

ขี่มาเรื่อยๆ ก็จะง่วงบ่อยหน่อยเพราะกินไปเยอะเกิน 555+ แวะถ่ายรูปสิครับ อีก 10 โลก็ถึงแว้ววว

12.20 น. ถึงดอยภูคาเรียบร้อย หาที่กางเต๊นท์ กางเสร็จจะได้อาบน้ำ ค่าเข้า อช.ดอยภูคา 60 บาท รวมรถ ค่ากางเต๊นท์ 30 กับ เช่าเบาะนอน 20 (ผมไม่ได้พกไปเพราะของมันเยอะ อาสัยเช่าเอา )

งานเข้า จอดรถหมดแรง ล้ม 555+ สวิชสตาทมือเสีย ต้องโทรหาพี่ชายที่ดอนเมือง ให้ช่วยแก้ สรุป ต่อสายตรง สวิชกำเบลคตอนสตาท ว่าแต่ รถรุ่นนี้ ล้มทีไร มีปัญหานี้ตลอด เห็นมา สองคัยแหละ ไม่คิดว่าจะพังง่ายขนาดนี้ หุๆ

ได้ที่กางเต๊นท์เรียบร้อยครับ ทั้งลาน กางอยู่เต๊นท์เดียว 555+ ได้ที่สงบสมใจเราล่ะทีนี้ จะกรนให้ลั่นป่าเลย อิอิ ดูชุดก็รู้ว่าหนาวมั้ย 555+

อาบน้ำ ที่นี่มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะ สุดไปเลย ห้องน้ำสะอาดมากๆ มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาด เช้า บ่าย เลย ห้องน้ำปูกระเบื้องทั้งหมด ห้องน้ำ ชาย หญิง แยกกันคนล่ะหลังเลยครับ ห้องน้ำผมให้ 10 เต็ม 10 สุดยอดมากๆ

ห้องน้ำ ผญ. อยู่อีกฝั่งนึ่ง

ลงไปซื้ออะไรกินหน่อย สรุปได้ มาม่าคัพ มา 1 ถ้วย น้ำ 1 ขวด แล้วก็โจ๊กคัพ ไว้กินเช้า วันนี้เอาแค่นี้ พอ กินเบาๆ พรุ่งนี้เดินทางค่อยว่ากัน อิอิ มาคนเดียวนิ กินง่าย นอนง่าย อิอิ

จะ 6 โมงเย็นแหละ สรุป ยังไม่ได้นอน 555+ คนเริ่มทะยอยเข้ามา สองสามเต๊นท์ อิอิ แล้วไปช่วยพี่เค้ากางเต๊นท์ พอดีเห็นมากันสามคน พ่อแม่ลูก เห็นกางไม่ได้สักที เลยเข้าไปช่วยพี่เค้ากาง เค้าเลยมาเรียกที่เต๊นท์ ให้ลูกชายเค้าเอาส้มมาให้ ปล.ผมไม่กินส้มนะ แต่รับไว้เป็นน้ำใจ เดี๋ยวเอาไปให้เด็กๆข้างล่าง

ไม่นอนก็ถ่ายรูปเล่นสิครับ 555+ ดีเลยเอาขาตั้งกล้องมา 555+

18.30 น. ก็ยังไม่นอนครับ แต่ฟ้ามืดแล้ว มืดไวมากๆ สงสัยจะเข้าหน้าหนาว แต่ผมร้อนนะ 555+ ปล. ไม่กล้านอนเพราะกลัวกรนเสียงดัง 555+ แต่ตาแดงแล้วนะ 555+

เมื่อคืนนอน สบายมากๆ หัวค่ำอากาศดี ไม่ใส่เสื้อแขนยาวนอนเลยครับ ประมาณ 22 องศา พอดึกๆ อยู่ไม่ได้ครับ 555+ ประมาณ 16-17 องศา หาเสื้อกันหนาวมาใส่ จริงๆก็ไม่ได้เอาไปหรอกมีฮูดตัวเดียวใส่ขี่รถ เอามาใส่นอน ตื่นมาก ตี 5 50 นาที ราะตั้งนาฬิกาปลุก 55+ (คิดในใจ ตรูจะตั้งทำเพื่อ 555+)

อช.ดอยภูคา ถ้าจะชมวิว ต้องขี่รถไปอีกประมาณ 8 โล ที่จุดชมวิว 1715 แต่ผมไม่ได้ไปครับ เพราะตรงที่กางเต๊นท์ มันเงียบสงบ วิวก็พอได้อยู่ เลยอยากนอนเก็บบรรยากาศเอาไว้ เก็บแรงไว้เดินทางต่อครับ

06.30 น. เริ่มหิว อากาศกำลังดี เย็นสบายๆ ต้มน้ำกินโจ๊กคัพที่ซื้อไว้เมื่อวาน 555+ บอกเลย โคตรฟิน ซดโ่ล่งอีกแว้ววว

เดี๋ยวมาต่อครับ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่