"เที่ยวครบ งบประหยัด"
สวัสดีครับผมเป็นอีกคนที่ชอบอ่านกระทู้ใน pantip เกี่ยวกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร หรือที่พักต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และรู้สึกว่าอยากจะเขียนกระทู้บอกเล่าประสบการณ์ที่ได้สัมผัสและแนะนำกับคนอื่นบ้าง จนกระทั่งผมได้เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ และการไปเที่ยวครั้งนี้ก็ไม่ได้เที่ยวแบบสนุกสนานอย่างเดียว แต่ยังมีความประทับใจในสถานที่ การเดินทาง มาบอกต่อกับทุกคนที่สนใจอยากไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเดินทางอย่างไร สถานที่ท่องเที่ยวใดบ้างที่ไปแล้วคุ้มค่ากับการเดินทาง และที่สำคัญต้องใช้งบประมาณแค่ไหน วันนี้เราจะได้มารู้กันครับ
เริ่มจากการเดินทางไปตัวเมืองเชียง
25/11/18 ผมเดินทางโดยรถทัวร์ (ของบริษัทสายสีม่วง) จาก บขส.นครสวรรค์ ถึง บขส. เชียงใหม่ (อาเขต) ในราคา 690 บาท/คน (ไป-กลับ) ใช้เวลา 8 ชั่วโมง (22:30-06:30 น.) ที่เดินทางกลางคืนเพื่อประหยัดเวลาไปถึงจะได้เที่ยวได้เลยแบบเต็มวันครับ
Day 1 (26 พ.ย. 61)
- พอถึง บขส. สิ่งแรกเราต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ก่อนครับ ใครมาเที่ยวเชียงใหม่โดยไม่มีรถส่วนตัวแนะนำเช่ารถเที่ยวเองดีกว่าครับ มีให้เช่าทั้งรถยนต์รถมอไซค์ ส่วนใครจะเช่ารถนั้นแนะนำร้าน Bikky ไม่ต้องใช้เงินมัดจำใช้แค่บัตรประชาชนในการเช่ารถ ร้านจะเปิดตั้งแต่ 06.00-21.00 น. ถ้าใครลงรถที่ บขส. ให้ใช้บริการที่สาขาอาเขตได้เลยครับซึ่งจะอยุ่ห่างจากร้านไม่กี่ร้อยเมตรเดินได้สบาย ๆ โดยเดินมาด้านหน้า บขส. ให้สังเกตซ้ายมือจะเห็นเซเว่นและเดินตรงไปเลยก็เจอแล้วตึกสีเหลือง หรือไม่ก็ถามคนแถวนั้นก็รู้จักครับ ผมเช่ารถ 2 วันราคา 600 บาท (สำหรับราคาจะขึ้นอยู่กับ cc ของรถครับ ถ้าจะใช้ขี่ขึ้นดอยก็แนะนำ 125 ขึ้นไปครับ)
- จากนั้นก็หาปั๊มน้ำมันแล้วเติมให้เต็มถังเพราะกลัวหมดบนดอย 55 แล้วเดินทางเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่ล็อบบี้โรงแรมก่อนเพราะโรงแรมนี้เช็คอินได้ตอน 09.00 น. (สำหรับโรงแรมผมแนะนำให้จองไว้ก่อนก็จะดีครับ หากมาช่วงหน้าหนาวหรือวันหยุดคนจะเยอะพอควร ฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้ครับ) ผมพักที่
โรงแรมกรีนพาเลซ อยู่นิมมานซอย 13 (สาเหตุที่เลือกพักที่นี้เพราะราคาไม่แพง ที่สำคัญย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของกิน เช่น ร้านกาแฟโน๊ตอุดม ข้าวซอยดัง ๆ อยู่ที่นิมมานหมดเลยครับ ถ้าคนชอบกินรับรองไม่ผิดหวัง) ที่พักราคา 500 บาท/คืน (ผมพักแค่คืนเดียวครับ)
- เวลา 08:10 น. ฤกษ์งามยามดีไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนครับที่
"ดอยสุเทพ" เส้นทางไปสะดวกครับ ทางไม่ถึงกับชันมากขับได้สบาย ๆ ถนนกว้าง ช่วงที่ไปยังไม่หนาวมากครับประมาณ 18ํ องศา แต่พอขี่มอไซค์ก็แอบนิ้วชาอยู่ ที่นี่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นต่างชาติครับโดยเฉพาะทัวร์จีน มาเช้า ๆ คนไม่เยอะดีครับ ผมไปไหว้พระเดินชมวิวบนพระธาตุก่อน แล้วถึงมาหาไรทานเพราะไปถึงร้านอาหารยังไม่ค่อยเปิด
- เวลา 09:15 น. และแล้วก็มาถึงเวลาอาหารเช้า เช้านี้ผมทานข้าวซอยที่
ร้านกันตัง ราคาชามละ 50 บาท รสชาติก็พอทานได้ครับ
- หลังจากทานเสร็จแล้ว เราก็เดินทางกันต่อไปที่
"พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์" เป็นตำหนักที่จัดแสดงพรรณไม้ต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงามให้เราเดินชม พร้อมถ่ายรูปแบบเพลิน ๆ ที่นี่มีค่าเข้าแค่คนละ 20 บาทเองครับ
- มาต่อกันที่
"ดอยปุย" สำหรับดอยปุยเส้นทางที่มาค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เพราะบางช่วงเป็นดินลูกรังครับ แต่พอเข้ามาถึงหมู่บ้านแล้วบรรยากาศดีมาก ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวม้งเล็ก ๆ ครับ ที่นี่มีเสื้อผ้า และของฝากราคาก็ถือว่าถูกกว่าที่อื่น ๆ ใครที่หาซื้อของฝากแนะนำให้ซื้อจากที่นี่เลยครับ
และที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ
สวนดอกไม้ ที่ปลูกไว้อย่างสวยงาม มีค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาทครับ
- บ่าย ๆ เริ่มหิวเลยหาอะไรทานบนดอยปุยที่ร้าน
"ข้าวซอยลุงสุรินทร์" ร้านนี้ที่เดินผ่านก็ได้กลิ่นเนื้อหอมเตะจมูกมาก แถมที่หลังร้านมีวิวสวย ๆ ให้ชมอีกด้วย มื้อนี้เรากินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รสชาติดีเลยแหละ ราคาชามละ 60 บาท
- มาถึงที่สุดท้ายของวันนี้คือ...
"แกรนด์แคนยอน" เดินทางจากตัวเมืองมาที่ หางดงกันครับ ระยะประมาณ 20 กม. สำหรับคนที่จะมาที่นี่แนะนำว่ามาแล้วต้องเล่นน้ำครับ ถึงจะคุ้มเพราะค่าเข้าราคา 100 บาท/คน (ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติที่นิยมมาเล่นน้ำครับ) ก่อนเล่นน้ำก็ถ่ายรูปสวย ๆ กับวิวคันดินที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปอวดเพื่อน ๆ กันครับ
- จบการเดินทางสำหรับวันแรกด้วยการกินหมูจุ่ม (เนื่องจากมื้อที่ผ่านมากินแต่เมนูเส้น
) ที่ "อร่อย จุ่มแซ่บ บุพเฟ่ต์หมูจุ่ม 99" จะบอกว่าหมูจุ่มย่านนี้ไม่ค่อยมีนะครับ แต่ร้านนี้ถือว่าโอเคเลย ร้านอยู่ถนนศิริมังคลาจารย์ (ติดโรงแรมวิคตอเรีย นิมมาน) ห่างจากโรงแรมไม่ไกลครับ
Day 2 (27 พ.ย. 61)
- ที่แรกของวันนี้เราเดินทางไปที่อำเภอแม่ริม ที่"ม่อนแจ่ม"อยู่ห่างจากตัวเมือง 30 กว่ากิโลขับรถไปได้สบาย ๆ ม่อนแจ่ม คือ ส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหนองหอย โครงการหลวงหนองหอยนั้นเป็นโครงการปลูกพืชเมืองหนาว ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยว
วันนี้อากาศเย็นกว่าวันแรก ตั้งใจจะไปทานอาหารพื้นเมืองและนั่งกินในกระท่อมจุดเชคอินยอดฮิตของม่อนแจ่ม แต่ตอนที่ไปช่วงนั้นไฟพึ่งไหม้ร้านอาหาร แอบเฟลนิด ๆ นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้ และมีไร่สตรอว์เบอรี่ให้ถ่ายรูปค่าเข้า 10 บ. หรือใครอยากเก็บแบบสด ๆ ก็มีเหมือนกัน สำหรับใครที่อยากเล่นสนุกก็มีรถไม้ของชาวม้งให้เช่าเล่นเป็นรอบ ๆ สำหรับของฝากที่เป็นเสื้อผ้าราคาค่อนข้างแพงกว่าที่อื่น ๆ โดยรวแล้วก็แจ่มสมชื่อนะสำหรับคนชอบบรรยากาศสบาย ๆ ถ่ายรูปชิว ๆ ก็แนะนำให้ไปแต่เช้าเพราะสาย ๆ อากาศจะร้อน สำหรับคนขี่มอเตอร์ไซค์มาตอนเช้านั้นแนะนำให้ใส่เสื้อหนา ๆ เพราะทางขึ้นดอยมันจะหนาวมาก วันที่ไปอุณหภูมิบนดอย 16 องศา ขนาดใส่เสือกันหนาวสองตัวกว่าจะถึงชาไปทั้งตัวเลยทีเดียว และที่สำคัญทางขึ้นดอยนั้นค่อนข้างชันกว่าทางไปดอยสุเทพ-ดอยปุย ต้องคนขับรถแข็ง ๆ จะปลอดภัยกว่าแต่ก็ขับไม่ยากครับ
- ก่อนจะไปเที่ยวที่ต่อไปท้องก็เริ่มหิวเลยลงจากม่อนแจ่มมาทานอาหาร บรรยากาศดีริมน้ำตก ที่ร้าน
"น้ำเหนือนั่งเล่น" ที่นี่ราคาอาจแพง แต่เมื่อเทียบกับบรรยากาศแล้วถือว่าคุ้มมากกกก.. เมนูที่สั่ง แกงอ่อมไก่ หมูมะนาว ผัดยอดผัก นอกจากร้านนี้แล้วระหว่างทางนั้นมีร้านอื่น ๆ อีกมากมายสุดแล้วแต่จะเลือกสรร ..
ขอแนะนำบ้านม่อนม่วน เป็นบ้านพักมีร้านอาหาร กาแฟ ขนม เป็นสถานที่ถ่ายทำละครธรณีนี่นี้ใครครอง เค้ารีวิวกันว่ากาแฟหลักร้อยวิวหลักล้าน ซึ่งอยู่ห่างจากม่อนแจ่มเพียง 1 km เสียดายไม่ได้ไปเพราะเวลาไม่พอใครไปแล้วรีวิวให้ฟังบ้างนะ
-
อิ่มแล้วเที่ยวต่อได้!!! จากร้านขี่ย้อนขึ้นมาไม่กี่นาทีก็ถึง
"สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" ที่นี่สามารถนำรถเข้ามาได้ เพราะมีพื้นที่กว้าง การจะไปชมพืชพรรณต่าง ๆ จะจัดไว้ก็จะต้องขี่รถไป หากไม่สะดวกที่สวนก็มีรถรางให้บริการ ราคาเข้าชมคนละ 40 บาท หากนำรถเข้าก็เสียเพิ่ม (รถมอไซด์ 30 บาท) จุดแรกที่เข้าไปคือ "ทางเดินเหนือเรือนยอดไม้" เป็นสะพานสูงที่สร้างอยู่ท่ามกลางต้นไม้ มองเห็นวิวสวยงาม
จุดที่สอง คือ "กลุ่มอาคารเรือนกระจก" จุดนี้เขาจะจัดพรรณไม้เป็นกลุ่ม ๆ ที่ชอบมากคือพืชทนแล้ง มีกระบองเพชรหลากหลายพรรณ เอาใจคนรักกระบองเพชรสุด ๆ เลยยย
สำหรับที่สวนนี้ถือว่าคุ้มมากที่จะไป เพราะมีพรรณไม้หลายหลายชนิดที่หาดูได้ยาก ใครที่ชอบธรรมชาติ ชอบต้นไม้ แนะนำให้มาเลยครับรับรองไม่ผิดหวัง
- ที่สุดท้ายก่อนกลับคือ "น้ำตกแม่สา" ทีแรกคิดอยู่ว่ามาช่วงนี้จะมีน้ำหรือเปล่า แต่พอเขามาที่อุทยาน ถึงกับว้าวว.. น้ำตกสวยมากกก.. น้ำตกแม่สามี 10 ชั้น แต่ละชั้นจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแล เราสามารถเล่นน้ำได้ทุกชั้นเลยครับ มีค่าเข้าคนละ 20 บาท รถมอไซด์ 20 บาท
- จากนั้นขี่รถกลับโรงแรมไปเอาที่ฝากไว้ (ผมเก็บของแล้ว check out ไว้แต่เช้าก่อนไปม่อนแจ่ม เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา ขี่รถไป บขส. และคืนรถมอไซด์ ตอน 17:00 เพราะต้องรีบไปซื้อตั๋ว (แนะนำให้โทรจองที่นั่งไว้ก่อนกลับล่วงหน้าวัน สองวันนะครับ ถ้าไปซื้อตอนจะขึ้นรถจะไม่มีที่นั่ง) ระหว่างรอก็หาอะไรทานไปก่อน
- 18:00 น. ออกจาก บขส. เชียงใหม่ ถึง บขส. นว. เวลา 02:00 น. จบแล้วกับทริปของเราครับ
รวมค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง
ค่ารถทัวร์ 1380 บาท (ไป-กลับ)
ค่าเช่ารถมอไซด์ 2 วัน 600 บาท
ค่าน้ำมันรถ 140 บาท
ค่าโรงแรม 1 คืน 500 บาท
ค่าเข้าที่เที่ยวรวม 450 บาท
ค่าอาหาร 836 บาท
รวม 3906 บาท เราไป 2 คน เหลือคนละ 1953 บาท
จะมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้ คือ "ของฝาก" เราถือว่าเป็นการช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนเลยไม่คิดรวม
**แนะนำนะครับในการเดินทางนั้น ดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ดอยปุย ใช้เส้นทางเดียวกันแต่ละที่ห่างกันไม่กี่กิโล ซึ่งดอยปุยจะเดินทางยากสุดทางไม่ค่อยดี ส่วนม่อนแจ่มทางอันตรายกว่ามากแต่ทางดี ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ครับ
*ส่วนร้านค้าของฝากนั้น ดอยสุเทพ-ดอยปุย มีเยอะมาก แต่ละร้านราคาแตกต่างกันไปครับอย่ารีบร้อนซื้อครับ55
*ที่เที่ยวอื่น ๆ สำหรับใครวางแผนไปหลายวัน ดอยอ่างขาง แม่กำปอง ดอยอินทนนท์
สำหรับใครที่กำลังจะมาเที่ยวเชียงใหม่ ผู้เขียนหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับท่านในการตัดสินใจไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
[CR] รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน "เที่ยวครบ งบประหยัด"
สวัสดีครับผมเป็นอีกคนที่ชอบอ่านกระทู้ใน pantip เกี่ยวกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร หรือที่พักต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และรู้สึกว่าอยากจะเขียนกระทู้บอกเล่าประสบการณ์ที่ได้สัมผัสและแนะนำกับคนอื่นบ้าง จนกระทั่งผมได้เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ และการไปเที่ยวครั้งนี้ก็ไม่ได้เที่ยวแบบสนุกสนานอย่างเดียว แต่ยังมีความประทับใจในสถานที่ การเดินทาง มาบอกต่อกับทุกคนที่สนใจอยากไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเดินทางอย่างไร สถานที่ท่องเที่ยวใดบ้างที่ไปแล้วคุ้มค่ากับการเดินทาง และที่สำคัญต้องใช้งบประมาณแค่ไหน วันนี้เราจะได้มารู้กันครับ
เริ่มจากการเดินทางไปตัวเมืองเชียง
25/11/18 ผมเดินทางโดยรถทัวร์ (ของบริษัทสายสีม่วง) จาก บขส.นครสวรรค์ ถึง บขส. เชียงใหม่ (อาเขต) ในราคา 690 บาท/คน (ไป-กลับ) ใช้เวลา 8 ชั่วโมง (22:30-06:30 น.) ที่เดินทางกลางคืนเพื่อประหยัดเวลาไปถึงจะได้เที่ยวได้เลยแบบเต็มวันครับ
- พอถึง บขส. สิ่งแรกเราต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ก่อนครับ ใครมาเที่ยวเชียงใหม่โดยไม่มีรถส่วนตัวแนะนำเช่ารถเที่ยวเองดีกว่าครับ มีให้เช่าทั้งรถยนต์รถมอไซค์ ส่วนใครจะเช่ารถนั้นแนะนำร้าน Bikky ไม่ต้องใช้เงินมัดจำใช้แค่บัตรประชาชนในการเช่ารถ ร้านจะเปิดตั้งแต่ 06.00-21.00 น. ถ้าใครลงรถที่ บขส. ให้ใช้บริการที่สาขาอาเขตได้เลยครับซึ่งจะอยุ่ห่างจากร้านไม่กี่ร้อยเมตรเดินได้สบาย ๆ โดยเดินมาด้านหน้า บขส. ให้สังเกตซ้ายมือจะเห็นเซเว่นและเดินตรงไปเลยก็เจอแล้วตึกสีเหลือง หรือไม่ก็ถามคนแถวนั้นก็รู้จักครับ ผมเช่ารถ 2 วันราคา 600 บาท (สำหรับราคาจะขึ้นอยู่กับ cc ของรถครับ ถ้าจะใช้ขี่ขึ้นดอยก็แนะนำ 125 ขึ้นไปครับ)- จากนั้นก็หาปั๊มน้ำมันแล้วเติมให้เต็มถังเพราะกลัวหมดบนดอย 55 แล้วเดินทางเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่ล็อบบี้โรงแรมก่อนเพราะโรงแรมนี้เช็คอินได้ตอน 09.00 น. (สำหรับโรงแรมผมแนะนำให้จองไว้ก่อนก็จะดีครับ หากมาช่วงหน้าหนาวหรือวันหยุดคนจะเยอะพอควร ฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้ครับ) ผมพักที่โรงแรมกรีนพาเลซ อยู่นิมมานซอย 13 (สาเหตุที่เลือกพักที่นี้เพราะราคาไม่แพง ที่สำคัญย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของกิน เช่น ร้านกาแฟโน๊ตอุดม ข้าวซอยดัง ๆ อยู่ที่นิมมานหมดเลยครับ ถ้าคนชอบกินรับรองไม่ผิดหวัง) ที่พักราคา 500 บาท/คืน (ผมพักแค่คืนเดียวครับ)- เวลา 08:10 น. ฤกษ์งามยามดีไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนครับที่ "ดอยสุเทพ" เส้นทางไปสะดวกครับ ทางไม่ถึงกับชันมากขับได้สบาย ๆ ถนนกว้าง ช่วงที่ไปยังไม่หนาวมากครับประมาณ 18ํ องศา แต่พอขี่มอไซค์ก็แอบนิ้วชาอยู่ ที่นี่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นต่างชาติครับโดยเฉพาะทัวร์จีน มาเช้า ๆ คนไม่เยอะดีครับ ผมไปไหว้พระเดินชมวิวบนพระธาตุก่อน แล้วถึงมาหาไรทานเพราะไปถึงร้านอาหารยังไม่ค่อยเปิด- เวลา 09:15 น. และแล้วก็มาถึงเวลาอาหารเช้า เช้านี้ผมทานข้าวซอยที่ร้านกันตัง ราคาชามละ 50 บาท รสชาติก็พอทานได้ครับ- หลังจากทานเสร็จแล้ว เราก็เดินทางกันต่อไปที่ "พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์" เป็นตำหนักที่จัดแสดงพรรณไม้ต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงามให้เราเดินชม พร้อมถ่ายรูปแบบเพลิน ๆ ที่นี่มีค่าเข้าแค่คนละ 20 บาทเองครับ- มาต่อกันที่ "ดอยปุย" สำหรับดอยปุยเส้นทางที่มาค่อนข้างลำบากนิดหน่อย เพราะบางช่วงเป็นดินลูกรังครับ แต่พอเข้ามาถึงหมู่บ้านแล้วบรรยากาศดีมาก ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวม้งเล็ก ๆ ครับ ที่นี่มีเสื้อผ้า และของฝากราคาก็ถือว่าถูกกว่าที่อื่น ๆ ใครที่หาซื้อของฝากแนะนำให้ซื้อจากที่นี่เลยครับ
และที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ สวนดอกไม้ ที่ปลูกไว้อย่างสวยงาม มีค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาทครับ
- บ่าย ๆ เริ่มหิวเลยหาอะไรทานบนดอยปุยที่ร้าน "ข้าวซอยลุงสุรินทร์" ร้านนี้ที่เดินผ่านก็ได้กลิ่นเนื้อหอมเตะจมูกมาก แถมที่หลังร้านมีวิวสวย ๆ ให้ชมอีกด้วย มื้อนี้เรากินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รสชาติดีเลยแหละ ราคาชามละ 60 บาท- มาถึงที่สุดท้ายของวันนี้คือ..."แกรนด์แคนยอน" เดินทางจากตัวเมืองมาที่ หางดงกันครับ ระยะประมาณ 20 กม. สำหรับคนที่จะมาที่นี่แนะนำว่ามาแล้วต้องเล่นน้ำครับ ถึงจะคุ้มเพราะค่าเข้าราคา 100 บาท/คน (ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติที่นิยมมาเล่นน้ำครับ) ก่อนเล่นน้ำก็ถ่ายรูปสวย ๆ กับวิวคันดินที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปอวดเพื่อน ๆ กันครับ- จบการเดินทางสำหรับวันแรกด้วยการกินหมูจุ่ม (เนื่องจากมื้อที่ผ่านมากินแต่เมนูเส้น ) ที่ "อร่อย จุ่มแซ่บ บุพเฟ่ต์หมูจุ่ม 99" จะบอกว่าหมูจุ่มย่านนี้ไม่ค่อยมีนะครับ แต่ร้านนี้ถือว่าโอเคเลย ร้านอยู่ถนนศิริมังคลาจารย์ (ติดโรงแรมวิคตอเรีย นิมมาน) ห่างจากโรงแรมไม่ไกลครับ
- ก่อนจะไปเที่ยวที่ต่อไปท้องก็เริ่มหิวเลยลงจากม่อนแจ่มมาทานอาหาร บรรยากาศดีริมน้ำตก ที่ร้าน "น้ำเหนือนั่งเล่น" ที่นี่ราคาอาจแพง แต่เมื่อเทียบกับบรรยากาศแล้วถือว่าคุ้มมากกกก.. เมนูที่สั่ง แกงอ่อมไก่ หมูมะนาว ผัดยอดผัก นอกจากร้านนี้แล้วระหว่างทางนั้นมีร้านอื่น ๆ อีกมากมายสุดแล้วแต่จะเลือกสรร ..
-
- ที่สุดท้ายก่อนกลับคือ "น้ำตกแม่สา" ทีแรกคิดอยู่ว่ามาช่วงนี้จะมีน้ำหรือเปล่า แต่พอเขามาที่อุทยาน ถึงกับว้าวว.. น้ำตกสวยมากกก.. น้ำตกแม่สามี 10 ชั้น แต่ละชั้นจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแล เราสามารถเล่นน้ำได้ทุกชั้นเลยครับ มีค่าเข้าคนละ 20 บาท รถมอไซด์ 20 บาท- จากนั้นขี่รถกลับโรงแรมไปเอาที่ฝากไว้ (ผมเก็บของแล้ว check out ไว้แต่เช้าก่อนไปม่อนแจ่ม เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา ขี่รถไป บขส. และคืนรถมอไซด์ ตอน 17:00 เพราะต้องรีบไปซื้อตั๋ว (แนะนำให้โทรจองที่นั่งไว้ก่อนกลับล่วงหน้าวัน สองวันนะครับ ถ้าไปซื้อตอนจะขึ้นรถจะไม่มีที่นั่ง) ระหว่างรอก็หาอะไรทานไปก่อน
- 18:00 น. ออกจาก บขส. เชียงใหม่ ถึง บขส. นว. เวลา 02:00 น. จบแล้วกับทริปของเราครับ
รวมค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง
ค่ารถทัวร์ 1380 บาท (ไป-กลับ)
ค่าเช่ารถมอไซด์ 2 วัน 600 บาท
ค่าน้ำมันรถ 140 บาท
ค่าโรงแรม 1 คืน 500 บาท
ค่าเข้าที่เที่ยวรวม 450 บาท
ค่าอาหาร 836 บาท
รวม 3906 บาท เราไป 2 คน เหลือคนละ 1953 บาท
จะมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้ คือ "ของฝาก" เราถือว่าเป็นการช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนเลยไม่คิดรวม
*ส่วนร้านค้าของฝากนั้น ดอยสุเทพ-ดอยปุย มีเยอะมาก แต่ละร้านราคาแตกต่างกันไปครับอย่ารีบร้อนซื้อครับ55
*ที่เที่ยวอื่น ๆ สำหรับใครวางแผนไปหลายวัน ดอยอ่างขาง แม่กำปอง ดอยอินทนนท์
สำหรับใครที่กำลังจะมาเที่ยวเชียงใหม่ ผู้เขียนหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับท่านในการตัดสินใจไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้