รีวิว สัมภาษณ์วีซ่า B1/B2 USA

วันนี้เพิ่งไปสัมภาษณ์วีซ่ามาค่ะ เลยอยากจะมารีวิวเพื่อเป็นประสบการณ์ดีๆแก่เพื่อนๆกันค่ะ

ขั้นตอนแรกเลยก่อนจะไปสัมภาษณ์วีซ่าได้คือต้องกรอกประวัติเบื้องต้นตัวเองก่อนนะคะ แล้วก็จ่ายเงิน 5,440 บาท หลังจากนั้นถึงจะทำการนัดวันสัมภาษณ์และรอบมี่จะสัมภาษณ์วีซ่าได้

ถ้าไปกับเพื่อน หรือญาิตพี่น้องหลายๆคนสามารถเลือกทำการสัมภาษณ์วีซ่าแบบกลุ่มได้นะคะ แต่พอถึงตรงที่สัมภษณ์ถึงจะเรียกพร้อมกันทั้งหลุ่มแต่ก้สัมภาษณ์รายบุคคลเช่นกันค่ะ

ของเราเราเลือกเวลาสัมภาษณ์ 8.45 เราไปถึงประมาณ 8.20 ก็ฝากอุปกรสื่อสาร apple watch หูฟัง ที่ด้านหน้าแล้วเข้ามานั่งรอด้านใน พอถึงรอบเวลาของเรา พนักงานจะเรียกให้เอาหนังสือเดินทางไปติดเลข EMS

** อย่าลืมจดเลขอีเอมเอสที่ได้ก่อนเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าวีซ่าผ่านคุณจะไม่มีสิทธิได้เอาหนังสือเดินทางคุณกลับมาจดเลขอีเอมเอสแล้ว**


หลังจากจดเลขเสร็จก็เข้าไปข้างในจะเจอด่านตรวจแรก ซึ่งเป็นคนไทยค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่าด่านนี้ก็มีผลบ้างแล้วค่ะ เพราะว่าเขาถามเราแทบจะเหมือนจับพิรุท นี่คือคำถามที่เขาถามค่ะ
พนง: ไปเมกาไปทำอะไรคะ?
เรา: ไปเที่ยวค่ะ
พนง: เคยไปเมกามาก่อนรึเปล่าคะ?
เรา: เคยค่ะ สองรอบ
พนง: ไปทำอะไรคะ
เรา: ไปเป็นแลกเปลี่ยน เจวันค่ะ work and travel program ทั้งสองปีเลยค่ะ
พนง: ครั้งนี้ไปเที่ยวไปกับใครคะ? ทัวร์รึเปล่า?
เรา: ไปคนเดียวค่ะ ไม่ได้ไปกับทัวร์พอดีมีเพื่อนเป็นคนเมกา
พนง: อย่างนี้ต้องลางานยาวเลยสิคะ (เราใส่ไปตอนกรอกข้อมูลว่าไป 16 วัน)
เรา: ก็ประมาณ 16 วันอะคะ พอดีที่ทำงานมีวันลาพักร้อนให้ 10 วันต่อปี บวกกับวันหยุด หน้า กลาง หลัง ก็จะเป็น 16 วันพอดี
พนง: ดูรูปตรงด้านนี้เลยค่ะ เดี๋ยววางนิ้วแสกนตามรูปเลยนะคะ

จบไปค่ะด่านแรก แต่ในใจคือแบบ เขาดูถามเหมือนจับจุดแต่ตรงนี้แล้วว่าจะพูดตรงกับที่ใส่มาไหม

จุดที่สองก็เป็นจุดง่ายๆค่ะ เท่าที่จำได้เหมือนจะแค่ทักทายแล้วให้วางนิ้ว

แล้วก็ต่อแถวรอๆๆๆๆ เป็นชม. เพราะว่าวันนี้มีเจ้าหน้าที่แค่สองคน ช่อง 6 กับ 9 ช่อง 6 จะเป็นคนหนุ่มๆใส่แว่นดูว่าน่าจะใจดีหน่อยๆ แต่ก้หน้าโหดพอควร ช่อง 9 เป็นออกแนวคุณลุงคนเอเชีย น่าจะออกจีนๆหน่อย แต่ดูดุๆมากๆ เราภาวนาให้อย่างน้อยได้คนเบอร์ 6 จะได้สั่นน้อยลง ในระหว่างที่เรารอก็มีคนไม่ผ่านเต็มไปหมดเลยค่ะ จนเราคิดว่าหรือเรามาผิดวันวะ หรือวันนี้จะไม่มีคนผ่านเลย แตาก้มีค่ะ ถ้าพูดอังกฤษได้ดี เราว่าส่วนใหญ่ก้ผ่าน ส่วนใหญ่ถ้าพูดไทยมาเลย หรือขอพูดไทย หรือแม้แต่ฟังเค้าพูดถามคำถามยังตอบไม่ได้ เค้าจะไม่ค่อยให้ผ่าน แล้วก้ที่เราเห็นไม่ผ่านอีกคือครอบครัวที่มีญาติเป็นคนไทย แล้วเปิดร้านอาหารหรือทำงานอยู่ที่นั่น เราไม่ได้หมายความว่าให้โกหกนะคะ แต่ว่า ในส่วนของเรา เราว่ามันสังเกตุได้ไม่ยากถ้ามีญาติทำร้านอาหารหรือไรมันแบบ ประมาณ 80% อยากไปทำงานอยู่แล้ว อะไรแบบนั้นรึเปล่า เลยยิ่งไม่ให้ผ่าน

มาถึงคิวเราแล้วค่ะ เราใช้ว่า 6 แทนตัวคนที่สัมภาษณ์เราแล้วกันนะคะ
6: hello how r u doing today
Me: i’m doing good i guess
6: so where u gonna go in US this time
Me: Mainly in LA i wanna go to Disney california and Universal studio
6: for how long
Me: 16 days i have 10 leave days plus two off before 2 off in the middle and two off after leave days so it equal to 16 days (พูดไปสั่นไป สติจะหายหมดละ)
6: are you going alone?
Me: yeah but actually i will be there with one of my friend but she don’t have visa yet and also i have my local friends there that i’ll meet.
6: who’s johnny? Your boyfriend? (ชื่อเพื่อนเราที่เมกาที่เราใส่ไปตรงช่องที่เขาถามว่ารู้จักใครในเมกาไหม)
Me: no, he is my local friend there. I have known him from my last year work and travel program. He works at ______ he is not my boyfriend.
6: so u work in the bank now right? Can i see your employment letter? (เราทำงานแลกเปลี่ยนเวินของแบงค์นึงอยู่ในสนามบินค่ะ)
6: your salary is like 25,000 a month? (อันนี้เราคิดว่าเค้ากำลังดูว่าเรากรอกตามความจริงไหม เพราะว่าเรากรอกไปว่าเงินเดือนเราประมาณ 38,000 แต่มันรวมหลายอย่างมาก ทั้งค่าสนามบิน ค่าเดินทาง ค่าโอที)
Me: no i actually get more than that each month because there is other thing too like shift allowance, meal allowance and i work as a shift and one shift is 12 hours so i have OT everydays *พร้อมยื่นสลิบเงินเดือนชี้ๆให้ดู*
6: *คีย์โน่นนี่นิ่งไปสักพัก* ok your visa is approved

โอ้ยยยยยยยยย ดีใจมาก นึกว่าจะไม่ผ่านแล้ว เพราะอ่านมาคือเหมือนถ้าเขาขอดูจะไม่ผ่าน

เราอยากบอกเพื่อนๆว่า มันเป็นอะไรที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายอะคะ เท่าที่เราสังเกตมาคนที่จะโดนจับผิดเยอะหน่อยหรือมีโอกาสผ่านยากหน่อยคือ

1. พูดอังกฤษไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง
2. ตอบได้ แต่ตอบแบบรู่เลยว่าท่องไดอาล๊อกมา ถามอะไรนอกเหนือจากมี่ท่องมาก้ตอบไม่ได้แล้ว
3. เงินเดือนน้อยมาก แต่ว่าเขียนไว้ว่าจะออกเงินพาตัวเองเที่ยวทั้งทริป อันนี้คืออยากให้มองความเป็นจริงการใช้ชีวิตในกรุงเทพ สำหรับเราเราว่ามันไม่ได้ง่ายหับการมีดงอนเดือน 20,000 ไม่บวกอะไรเลย แล้วต้องจ่ายค่ากินอยู่ทุกวัน เดือนนึงแทบไม่เหลือไรแล้ว จะเอาตรงไหนมาเก็บ เพื่อเป็นเงินไปเที่ยวที่โน่น เขาน่าจะมองตรงนี้ มีคนไม่ผ่านเพราะดูที่เงินเดือนปล้วน่าจะเอาตัวเองไปที่โน่นไม่ได้เหมือนกันคะ
4. ทำธุรกิจส่วนตัว อันนี้ก้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ก้ดูว่าต้องมีหลักฐานแน่นหนามากพอตัว กับการยืนยันได้กับเขาว่าจะไม่ได้ไปโดด ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าอะไรคือจุดที่เค้าไว้ดู

ก็ประมาณนี้แหละค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการทำวีซ่านะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  วีซ่า คนไทยในอเมริกา Work & Travel เรียนภาษาที่ต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่