พี่เป้ สีน้ำ กับบทบาทการขยายแนวร่วมรักษาแผ่นดินและสายน้ำ ที่ โรงเรียนธรรมชาติ บ้านริมน้ำ อ.บางเลน จ.นครปฐม

พี่เป้ สีน้ำ Pe Watercolor
กับบทบาทการขยายแนวร่วมรักษาแผ่นดินและสายน้ำ
ที่ โรงเรียนธรรมชาติ บ้านริมน้ำ อ.บางเลน จ.นครปฐม

เพลงฝากรัก
ศิลปิน เป้ สีน้ำ

สายน้ำน้ำไหลร่องโรย สายลมลมโชยโบยลิ่ว
สายฝนฝนหล่นล้มปลิว ปลิวกระจายเปียกกายเปียกใจ

สายน้ำน้ำไหลแห้งโหย สายลมลมโชยอ่อนแรง
สายฝนฝนแล้งลมแล้ง ฝนแห้ง แห้งกายยังเปียกใจ

ฝากสายน้ำไหลถึงเธอ ฝากลมบอกเธอฉันเหงา
ฝากฝนให้หล่น หล่นเบาๆ ฝากรักแนบเนาข้างกายและใจ

สายน้ำสายลมคือรัก ด้วยรักฝากไปพร้อมฝน
ฝากไว้เคียงข้างใจคน ฝากรักฉ่ำล้นชื่นใจ

หลายคนอาจเคยซาบซึ้งถึงความละมุนละไม ในความอบอุ่น ความรัก และความปรารถนาดีที่ถ่ายทอดผ่านกวี ดนตรีและศิลปะจากบทเพลงนี้

และเพลง "ฝากรัก" ก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย ให้ได้ส่งต่อความรัก ความอบอุ่น ความปรารถนาดี

แรงบันดาลใจให้กับอีกหลายคนได้ลงมือทำเพื่อผู้อื่นบนผืนแผ่นดินไทย แม้แต่กับตัวพี่เป้เอง

ใครเลยจะรู้ว่าในวัยเด็ก พี่เป้ สีน้ำ ได้ผูกพันและรับแรงบันดาลใจจากสายน้ำ

"ช่วงวัยประถมกำลังจะขึ้นมัธยม ผมมีเพื่อนซี้ เพื่อนรักกันตอนที่เรียน ป.7 จะย้ายโรงเรียนก็เลยไปที่บ้านเพื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำ เราก็ไปเจอโรงสี ก็เกิดแรงบันดาลใจว่าอยากจะสร้างโรงเรียน อยากเอาโรงสีที่ตั้งอยู่ริมน้ำมาสร้างเป็นโรงเรียน

บ้านผมเป็นครู พ่อผมป็นครู พี่ชาย ครอบครัวทั้งหมดเป็นครู
ผมมีจิตวิญญาณความเป็นครู มีวิธีสอนในแบบของเราที่จะนำไปสู่ความเข้าใจ

เป็นที่มาของโรงเรียนธรรมชาติฯ แล้วพอเราตกผลึกไปเรื่อยๆ ความเป็นจริงมันมีอยู่ในธรรมชาติ ผมสอนให้ผ่านการมองเห็น ดวงตาเป็นประตูบานใหญ่ ผมเลยเลือกประตูบานนี้เป็นแนวทางที่จะพาไปสู่สิ่งต่างๆ อย่างเช่น สอนเด็กให้มองเห็นว่าเรามองเห็นโลกในระดับกี่องศา แนวตั้ง แนวนอน แนวเฉียง แนวเอน เราใช้ดวงตาในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้หมด"

ความรักความผูกพันต่อผืนดินและสายน้ำ ไม่ใช่เพียงความรู้สึกแต่ถ่ายทอดออกเป็นสำนึกและการกระทำที่เป็นคุณ คือ "หลักชีวิต" ของพี่เป้ สีน้ำ

"หลักในการรักผืนแผ่นดิน กตัญญูกตเวที คือคนมันต้องสำนึกในคุณของแผ่นดินนะ มันถึงจะมีชีวิตที่มีความสุขแล้วรุ่งเรืองได้

ผมคิดอย่างนั้น ผมก็เลยปลูกฝังเด็กๆ
เรามีพระเจ้าอยู่หัวที่ประเสริฐที่สุดในโลก เรามีแผ่นดินที่สวยงาม

ผมก็เลยทำโครงการต้นกล้าศิลปะรักสิ่งแวดล้อมแล้วทำโรงเรียนธรรมชาติบ้านริมน้ำ เพื่อปลูกฝังเด็กๆ อย่างเงียบๆ"

เงียบๆ แต่ค่อยๆ ออกดอกออกผล ดินดี น้ำดี บรรยากาศดี

"เมื่อดินดีแล้วเนี่ย พอฝนมาเดี๋ยวก็งอกงาม พืชพันธุ์ที่ปลูกไม่ต้องไปกังวล เด็กที่มาเรียนผมกล้าบอกได้ว่าพอโตขึ้น รักธรรมชาติทุกคน และผมเน้นตัวกตเวที มีความกตัญญูกตเวที

ประกายแห่งความกตัญญูรู้คุณมันสร้างได้จากตัวกระบวนการ จากธรรมชาติ จากการวาดรูป เราสื่อความหมายให้เด็กเข้าใจตรงนั้น"

พี่เป้ สีน้ำ ทำโรงเรียนธรรมชาติบ้านริมน้ำ มาได้ 14 ปีแล้ว ... แล้วก่อนหน้านั้นเขาหายไปไหน ไปทำอะไร

"ผมล่องเรือไปตามแม่น้ำต่างๆ เกือบจะไปทุกสายแล้ว

ผมเข้าป่าตั้งแต่ปี 2538

ผมไปตามแรงบันดาลใจ ผมอาจจะมีธรรมชาติที่ไม่กลัว ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่บ้านเลี้ยงปล่อย ไม่กลัวอะไร หมายความว่า อยู่ป่าคนเดียวได้ก็เรียกว่าไม่กลัว ชาวบ้านงงอ่ะ ผมอยู่ของผมคนเดียว เหมือนธุดงค์ กลางคืนเราก็เดินจงกรม ทำสมาธิ

เหมือนว่าออกปฎิบัติ แน่นอนถ้าเราไม่ปฎิบัติเราจะอยู่ไม่ได้ ไม่มีวิธีอื่นที่จะคุมสตินายได้เป้ นอกจากการเดินจงกรมและนั่งสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ อ่านหนังสือที่มันมีคุณค่ากับปัญญาบ้าง

ก็อยู่ในป่าและก็วาดรูปต่อเนื่องมาจนถึงปี 2560 ต่อเนื่องหมายความไม่เลิก แต่ไมได้อยู่ตลอด ผมก็เข้าไปปีหนึ่งก็สักเดือนสองเดือน หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน สี่เดือน"

ชีวิตของพี่เป้ สีน้ำ นอกจากดนตรี นอกจากวาดรูป นอกจากการเป็นครูแล้ว การเข้าป่า การล่องเรือไปตามลำน้ำ คือหนทางหนึ่งที่ผสมผสานกันมากลายเป็นเป้ สีน้ำ เป็นหนทางของชีวิตที่กำลังทำอะไรบางอย่าง สิ่งที่บอกว่าต้องทำตลอดชีวิต

เพลงหรือการวาดรูปของเป้ สีน้ำ ก็ไม่ใช่แค่การวาดรูป แล้วออกมาเป็นภาพตามแต่ที่ตาคนจะมองเห็น แต่มีเนื้อหา มีเบื้องหลัง มีความตลอดชีวิตของเป้ สีน้ำอยู่ในงานทุกชิ้น

ตอนนี้พี่เป้ทำโรงเรียนธรรมชาติบ้านริมน้ำ ขับเคลื่อน ปลูกเมล็ดพันธุ์ในใจของเด็กๆ ให้เติบโตมาบนฐานของการรักแผ่นดิน กตัญญูต่อแผ่นดิน

"ผมเป็นนักศิลปะที่มีแรงบันดาลใจต่อความงาม และไม่อยากให้ความงามนั้นถูกทำลาย ผมก็มีเพื่อนที่เป็นคนที่มีใจอยากทำงานเพื่อสังคม ก็เลยเริ่ม "โครงการต้นกล้าศิลปะ" จะสิบปีแล้วที่มีเพื่อนหลายคน จนตกผลึกลงตัว เนื้อหาที่เราแฝงเข้าไปคือให้เด็กกตัญญูกตเวทีกับผืนแผ่นดิน รักแผ่นดิน

แผ่นดินคือชาติ เราจะรักผ่านอะไร กระบวนการอะไรทำให้เด็กรักแผ่นดินขึ้นมาได้ ก็ต้องเห็นความงามเป็นตัวคุณค่า เห็นต้นยางใหญ่ เห็นจามจุรี 80 ปี ใครปลูกไว้ ยังโตตระหง่าน เกิดความหวงแหน แล้วแบบ เฮ้ย ... มาตัดได้ยังไง คือเห็นการทำลายธรรมชาติเป็นสิ่งเลวทราม เป็นของคนที่ไร้รสนิยม

ผมก็เอาเวลามาปลูกฝังเด็ก เราอาจจะตายไปก่อนพวกเขาอยู่แล้ว แล้วก็หวังว่าเราก็ต้องฝากรหัสไว้ให้เขาไปแกะความหมายต่อ

เราจะอยู่โดยไม่มีความหวังได้อย่างไร มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ทำไม ถึงแม้ว่าโลกมันจะเลวร้ายยังไงเราก็ต้องอยู่อย่างมีความหวัง ทุกอย่างมันพัฒนาได้

สิ่งที่ทำต้องทำตลอดชีวิต เราไม่เลิกทำมันไม่มีเหตุให้เลิก เรามีแรงบันดาลใจอยู่เต็มเปี่ยม ผมเป็นคนทำอะไรแล้วไม่เลิก ผมไม่ใช่ฝันไม่รู้จบ ผมก็ฝันแค่นี้

หนทางหนึ่งที่เราทำได้คือต้องร่วมกันรักษา เราอยากให้เป็นเช่นนั้น เป็นการบอกทั้งประชาชนทั้งประเทศให้ได้ตื่นตระหนกกับสิ่งที่สูญเสียไปอย่างมหาศาลและตระหนักที่จะรักษาไว้"

กับโรงเรียนธรรมชาติ บ้านริมน้ำ

"เราทำมาเพื่อที่จะเป็นทางออก เป็นทางเลือก ที่เขาชอบว่าทางเลือกๆ เราก็เป็นทางเลือก แต่เป็นทางเลือกเก่าแก่ เป็นทางออกโบราณ อยู่กับศิลปะ อยู่กับธรรมชาติ ก็ใครที่เห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันเยียวยาจิตใจได้ พัฒนาศักยภาพของเด็กได้ เราก็ภูมิใจแต่เราก็ไม่ใช่พยายามที่จะต้องบอกว่าคุณมานะ คุณมาเถอะ เราก็ไม่ถึงขนาด ให้เขาแสวงหาเอง เราต้องบอกว่าเรามีอะไร เราก็บอกว่าเรามีแค่นี้นะ เราก็ไม่ได้มีมากกว่าอะไรที่เขาต้องการ นั่นแหละก็สร้างกลุ่มกันไปเรื่อยๆ ก็เป็นกลุ่มบอกต่อซะมากกว่า

ชีวิต มันไม่มีอะไรผิดทางหรอกถ้ายังไม่หยุด เราก็ต้องเดินต่อมันก็ถึงจุดหมายของมันเอง มันก็อาจจะอ้อมหน่อย ก็ยังดีที่เราไม่หยุด

มันประสบความสำเร็จตรงเราไม่เลิก"

#นี่คือตัวอย่างที่ดีของการปฏิรูปสังคม (GreatReform)
#ร่วมปฏิรูปสังคมสักหนึ่งรายการ
#บ้านเมืองดีขึ้นได้ด้วยการแชร์ของคุณ

#GreatReform #GreatReformS026
#MiniReform #เยาวชน #แม่น้ำลำคลอง
#MicroReform #โรงเรียนธรรมชาติบ้านริมน้ำ #โครงการต้นกล้าศิลปะ #โครงการต้นกล้าศิลปะตอนเรือสัญจร

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก facebook : เป้ สีน้ำ, Pe Watercolor
https://www.facebook.com/GreatReform/posts/1990449231247453?__tn__=K-R
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่