"เจเอสแอล"แจงอยู่ที่เดิมอึดอัด หอบกิ๊กดู๋ซบ"พีพีทีวี"
https://www.dailynews.co.th/entertainment/681053
"เจแอสเอล" แจงเหตุพารายการ "กิ๊กดู๋ฯ" โบกมือลาช่อง 7 ซบช่องพีพีทีวี อยู่ไม่ได้ธุรกิจย่ำแย่ ช่องเดิมนโยบายไม่สอดคล้อง ต้องขายโฆษณาแข่ง แต่อีกช่องใช้วิธีจ้างผลิต บอกอยู่อย่างอึดอัด 2 ปี เสียหาย 20 ล้าน!
กลายเป็นเรื่องร้อนในวงการโทรทัศน์ หลังจากที่มีข่าวว่า เจ เอส แอล โกบอล มีเดีย โบกมือลาช่อง 7 นำรายการยอดนิยมอย่าง กิ๊กดู๋ สงครามเพลง ลงจอทางช่องพีพีทีวี แทน นอกจากนี้รายการยังหลุดผังทางช่อง 7 จนหลายคนมองว่ามีปัญหาภายในอะไรเกิดขึ้น หรือสาเหตุที่แท้จริงอะไรกันแน่ ล่าสุด "จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี" ผู้บริหาร เจ เอส แอล โกบอล มีเดีย จำกัด ได้ออกมาแถลงถึงเรื่องราวต่างๆ
โดยเผยว่า เจ เอส แอล อยู่กับทางช่อง 7 เช่าเวลามาคิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ถือว่าต่างคนต่างได้ 32 ปีที่ผ่านมา พยายามทำทุกรายการให้ได้รับความนิยม เรื่องธุรกิจไม่เคยบิดพลิ้ว อยู่ในวงการโทรทัศน์ไม่สบายเหมือนเมื่อก่อน สถานีก็รับทราบ ทางบริษัทได้ทำหนังสือถึงช่องฉบับแรกเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2559 ขอลดค่าเวลา ความเดือดร้อนของผู้จัดเริ่มมี จากนั้น 27 ต.ค. 2560 ขอคืนเวลา บริษัทอยู่กับสถานีอันดับ 1 ของประเทศ ค่าโฆษณาแพงที่สุด แต่ทำไมต้องคืนเวลา สถานีต้องตระหนักแล้วว่า ผู้จัดเดือดร้อนจริงๆ แล้วเราขอลดค่าเวลาไปด้วยจากนั้น 21 ก.พ. 61 ขอลดค่าเวลา ยกเลิกแบงค์การันตี และให้พิจารณาเรื่องการจ้างผลิตรายการ และไม่ให้ช่องขายโฆษณาแข่งกับผู้จัด มีทั้งหมด 5 บริษัท ที่ยื่นเรื่องนี้ ให้เห็นเลยเวลาสัญญาณนี้เดือดร้อนจริงๆ แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือผ่อนผันเรื่องการเซนเซอร์โฆษณา ส่วนเรื่องอื่น ไม่มีการตอบรับใด
"เริ่มต้นคือบริษัทของคุณดู๋(สัญญา) ทีนี่หมอชิต ไม่ใช่หยุดรายการ คือปิดบริษัทเลย เพราะไม่สามารถต่อสู้เรื่องค่าใช้จ่ายได้มากมาย ทางที่ดีคือปิดบริษัท ต่อมาบริษัทคุณกิ๊ก ก็ปิดบริษัทไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง จ่ายเงินชดเชยใหเด็กๆ ตัวใครตัวมัน เมื่อมาถึงบริษัท เจเอสแอล พิจารณาดูว่า ถ้าเราดำเนินการต่อไป ต้องปิดบริษัท เช่นเดียวกัน ถามว่าเราปฏิบัติการตามกฎกติกามั้ย เราปฏิบัติตามกฎสถานีกำหนดไว้ ว่าถ้าสัญญานั้นหมด และเราจะยุติการเช่าเวลา ต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 เดือน สัญญาของเรากำลังจะหมดในปลายเดือน ธ.ค. ถามว่าทำไมต้องเป็นพีพีทีวี เจเอสแอลพยายามหาทางดิ้นรนที่เราจะพ้นภาวะวิกฤตตรงนี้ คุยกันแบบไม่ได้จริงจัง ทุกคนก็อยากได้รายการเจเอสแอลทั้งสิ้น แต่รูปแบบธุรกิจ คือเราทำผลิตรายการโดยเขาไม่คิดค่าเวลา เป็นพาร์ทเนอร์ ไทม์แชร์ริ่ง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะขายแข่งกับสถานีอยู่ดี"
"ทางพีพีทีวีเสนอเรา 3 ข้อคือ 1. เช่าเวลาเขา 2. ทำไทม์แชร์ริ่ง 3. เรารับผลิตให้เค้าไป เค้าหาโฆษณาเอง ซึ่งข้อสามตอบโจทย์เราได้ ไม่ต้องขายแข่ง ทำเรตติ้งให้ดีที่สุด พีพีทีวี เป้าหมายคือให้เรตติ้งให้เขาขึ้นมา TOP10 เขาเข้าใจธุรกิจดีหมดทุกอย่าง จริงๆแล้ว พีพีทีวีไม่ได้มีการเซ็นสัญญาผูกมัดกับเจเแอสเอลเลย คนอื่นๆ ก็คงจะลักษณะเดียวกัน เรามีสิทธิผลิตรายการที่อื่นได้ เป็นความใจกว้างที่สุดแล้ว เราทราบก่อนล่วงหน้ามานาน คงไม่ผลิตรายการเอาไว้ รายการที่เราผลิตไม่ได้ออนแอร์เลย แต่ว่าเราเองเพิ่งตกลงกันได้เมื่อ 11 พ.ย. เมื่อตกลงได้ทันที เราคงไปแน่แล้ว เราต้องแจ้งกับสังกัดเดิมของเรา คือช่อง 7 ซึ่งในกติกาคือแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 เดือน เราพยายามเข้าไปแจ้ง แต่ก็ได้รับนัดวันที่ 20 พ.ย. ถือจดหมายไปด้วยตนเอง ไปมาลาไหว้ ก็ต้องไปด้วยตนเอง ยื่นหนังสือ ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาอะไร"
"เจเอสแอล"แจงอยู่ที่เดิมอึดอัด หอบกิ๊กดู๋ซบ"พีพีทีวี"
https://www.dailynews.co.th/entertainment/681053
"เจแอสเอล" แจงเหตุพารายการ "กิ๊กดู๋ฯ" โบกมือลาช่อง 7 ซบช่องพีพีทีวี อยู่ไม่ได้ธุรกิจย่ำแย่ ช่องเดิมนโยบายไม่สอดคล้อง ต้องขายโฆษณาแข่ง แต่อีกช่องใช้วิธีจ้างผลิต บอกอยู่อย่างอึดอัด 2 ปี เสียหาย 20 ล้าน!
กลายเป็นเรื่องร้อนในวงการโทรทัศน์ หลังจากที่มีข่าวว่า เจ เอส แอล โกบอล มีเดีย โบกมือลาช่อง 7 นำรายการยอดนิยมอย่าง กิ๊กดู๋ สงครามเพลง ลงจอทางช่องพีพีทีวี แทน นอกจากนี้รายการยังหลุดผังทางช่อง 7 จนหลายคนมองว่ามีปัญหาภายในอะไรเกิดขึ้น หรือสาเหตุที่แท้จริงอะไรกันแน่ ล่าสุด "จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี" ผู้บริหาร เจ เอส แอล โกบอล มีเดีย จำกัด ได้ออกมาแถลงถึงเรื่องราวต่างๆ
โดยเผยว่า เจ เอส แอล อยู่กับทางช่อง 7 เช่าเวลามาคิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ถือว่าต่างคนต่างได้ 32 ปีที่ผ่านมา พยายามทำทุกรายการให้ได้รับความนิยม เรื่องธุรกิจไม่เคยบิดพลิ้ว อยู่ในวงการโทรทัศน์ไม่สบายเหมือนเมื่อก่อน สถานีก็รับทราบ ทางบริษัทได้ทำหนังสือถึงช่องฉบับแรกเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2559 ขอลดค่าเวลา ความเดือดร้อนของผู้จัดเริ่มมี จากนั้น 27 ต.ค. 2560 ขอคืนเวลา บริษัทอยู่กับสถานีอันดับ 1 ของประเทศ ค่าโฆษณาแพงที่สุด แต่ทำไมต้องคืนเวลา สถานีต้องตระหนักแล้วว่า ผู้จัดเดือดร้อนจริงๆ แล้วเราขอลดค่าเวลาไปด้วยจากนั้น 21 ก.พ. 61 ขอลดค่าเวลา ยกเลิกแบงค์การันตี และให้พิจารณาเรื่องการจ้างผลิตรายการ และไม่ให้ช่องขายโฆษณาแข่งกับผู้จัด มีทั้งหมด 5 บริษัท ที่ยื่นเรื่องนี้ ให้เห็นเลยเวลาสัญญาณนี้เดือดร้อนจริงๆ แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือผ่อนผันเรื่องการเซนเซอร์โฆษณา ส่วนเรื่องอื่น ไม่มีการตอบรับใด
"เริ่มต้นคือบริษัทของคุณดู๋(สัญญา) ทีนี่หมอชิต ไม่ใช่หยุดรายการ คือปิดบริษัทเลย เพราะไม่สามารถต่อสู้เรื่องค่าใช้จ่ายได้มากมาย ทางที่ดีคือปิดบริษัท ต่อมาบริษัทคุณกิ๊ก ก็ปิดบริษัทไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง จ่ายเงินชดเชยใหเด็กๆ ตัวใครตัวมัน เมื่อมาถึงบริษัท เจเอสแอล พิจารณาดูว่า ถ้าเราดำเนินการต่อไป ต้องปิดบริษัท เช่นเดียวกัน ถามว่าเราปฏิบัติการตามกฎกติกามั้ย เราปฏิบัติตามกฎสถานีกำหนดไว้ ว่าถ้าสัญญานั้นหมด และเราจะยุติการเช่าเวลา ต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 เดือน สัญญาของเรากำลังจะหมดในปลายเดือน ธ.ค. ถามว่าทำไมต้องเป็นพีพีทีวี เจเอสแอลพยายามหาทางดิ้นรนที่เราจะพ้นภาวะวิกฤตตรงนี้ คุยกันแบบไม่ได้จริงจัง ทุกคนก็อยากได้รายการเจเอสแอลทั้งสิ้น แต่รูปแบบธุรกิจ คือเราทำผลิตรายการโดยเขาไม่คิดค่าเวลา เป็นพาร์ทเนอร์ ไทม์แชร์ริ่ง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะขายแข่งกับสถานีอยู่ดี"
"ทางพีพีทีวีเสนอเรา 3 ข้อคือ 1. เช่าเวลาเขา 2. ทำไทม์แชร์ริ่ง 3. เรารับผลิตให้เค้าไป เค้าหาโฆษณาเอง ซึ่งข้อสามตอบโจทย์เราได้ ไม่ต้องขายแข่ง ทำเรตติ้งให้ดีที่สุด พีพีทีวี เป้าหมายคือให้เรตติ้งให้เขาขึ้นมา TOP10 เขาเข้าใจธุรกิจดีหมดทุกอย่าง จริงๆแล้ว พีพีทีวีไม่ได้มีการเซ็นสัญญาผูกมัดกับเจเแอสเอลเลย คนอื่นๆ ก็คงจะลักษณะเดียวกัน เรามีสิทธิผลิตรายการที่อื่นได้ เป็นความใจกว้างที่สุดแล้ว เราทราบก่อนล่วงหน้ามานาน คงไม่ผลิตรายการเอาไว้ รายการที่เราผลิตไม่ได้ออนแอร์เลย แต่ว่าเราเองเพิ่งตกลงกันได้เมื่อ 11 พ.ย. เมื่อตกลงได้ทันที เราคงไปแน่แล้ว เราต้องแจ้งกับสังกัดเดิมของเรา คือช่อง 7 ซึ่งในกติกาคือแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 เดือน เราพยายามเข้าไปแจ้ง แต่ก็ได้รับนัดวันที่ 20 พ.ย. ถือจดหมายไปด้วยตนเอง ไปมาลาไหว้ ก็ต้องไปด้วยตนเอง ยื่นหนังสือ ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาอะไร"