เมื่อวันที่ 29/10/61 เวลา 17.00 น. เราได้ไปยกรถยนต์ซึ่งเป็นชื่อของเราเองมา เนื่องจากจะโดนไฟแนนซ์ฟ้องร้องขึ้นศาลจึงจะไปเอากลับมาไว้ที่บ้านเผื่อไฟแนนซ์จะมาเอา เพราะนาย ก.คนที่เรามอบรถให้ไปส่งต่อค้างค่างวดกับไฟแนนซ์(ทำสัญญาซื้อขายกับนาย ก.ไว้เป็นหลักฐาน) วันที่ไปเอารถมาเมียนาย ก.เป็นคนอยู่บ้านตอนแรกเมียนาย ก.จะไม่ยอมให้เราเอามาบอกจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ 1,000 บาทแต่ณ.เวลานั้นเราก็กลัวว่าถ้ารับเงินมาแล้วปล่อยไปเค้าอาจจะพารถไปที่อื่นเราอาจจะหารถมาคืนไฟแนนซ์ไม่ได้จึงตกลงกับเมียนาย ก.ว่าจะขอยกรถไปก่อนโดยให้เวลานาย ก. 1 อาทิตย์เพื่อเอาเงินไปเคลียร์กับไฟแนนซ์เพราะเมียนาย ก.บอกว่าวันที่ 31/10/61 นี้นาย ก. ก็กู้เงิน ธกส.ได้แล้ว จะนำเงินที่กู้ได้ไปปิดงวดรถให้หมดเราจึงยกรถมาโดยมีของใช้และเอกสารของนาย ก.และเมียอยู่ในรถ เพราะเมียนาย ก. ไม่ได้พูดอะไรเราเองก็คิดว่านาย ก.ต้องมาเอารถกลับไปแน่นอน

ต่อมาเมื่อครบกำหนดที่ตกลงไว้ 1 อาทิตย์ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากนาย ก. แลภรรยาเลยไฟแนนซ์ก็เร่งเรามาเพราะเงินที่ค้างไฟแนนซ์อยู่หลายหมื่นบาทเมื่อวันที่ 6/11/61 เราจึงได้ขายรถคันดังกล่าวให้กับเต็นท์มือสองและให้เต็นท์ปิดงวดกับไฟแนนซ์ให้ ปรากฎว่าอยู่ดีๆเมื่อวันที่ 12/11/61 มีหมายคดีมโนสาเร่ข้อหาบุกรุกและลักทรัพย์มาที่บ้านหาว่าเราขโมยรถยนต์โดยอ้างว่าเราได้ขายต่อให้นาย ก.แล้ว และลักทรัพย์สินที่อยู่ในรถโดยระบุให้เราไปพบศาลวันที่ 24/12/61 เท่านั้นยังไม่พอเมื่อวันที่ 19/11/61 ยังมีตำรวจมาส่งหมายเรียกตัวเราไปพบวันที่ 30/11/61 อีกข้อหาบุกรุก
**คำถามคือ เราจะต้องจัดการอย่างไรต่อไป....ถ้าจะจ้างทนายไปสู้คดีต้องใช้เงินมากมั้ยเพราะเราไม่ค่อยมีเงินเป็นแค่พนักงานรายเดือนธรรมดา**